|
ใต้ฟ้าอิระวดี การท่องไปในเมืองพม่า โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
ใต้ฟ้าอิระวดี ตอนที่ ๑๙ (ตอนจบ)
หลับราวกับโดนวางยาสลบ รวดเดียวยันตีห้า สรงน้ำเสร็จได้เวลาฉันเช้าพอดี ร่างกายนี่มันไม่ใช่ของเราจริง ๆ พอรู้ว่าได้พัก กำลังใจมันคลายตัวลงเท่านั้น ทำท่าจะเป็นจะตายขึ้นมาทันที เฮ้อ..น่าเบื่อมันซะจริง..
เห็นรถจอดอยู่ก็รู้ว่าวินจี(เสือก)มาทวงค่าเช่ารถ(แทนโซยุนท์)แล้วแน่ ๆ..! วินจีมาแต่เช้ามืด อ้ายเป-รต นี่กลัวอาตมาจะหนีมันกระมัง..? จัดการเคลียร์เรื่องค่ารถค่าราลงตัวแล้ว เหลือเงิน ๒,๐๐๐ จั๊ต ให้เป็นรางวัลพิเศษแก่โซยุนท์ ถ้าไม่ได้แกขับแบบมอบกายถวายชีวิตจนรถพัง เจ็ดวันคงจะไปได้ไม่เท่าไรนัก...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-08-2010 เมื่อ 01:50 |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
กราบลาท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะ ท่านปรารภว่า อยากฝากโยมอุปัฎฐากไปไหว้พระแก้วมรกตด้วย อาตมาไม่มีเวลารออีกแล้ว จึงกราบเรียนท่านว่า ให้โยมเดินทางไปที่วัดตองไวแล้วส่งข่าวไปถึง อาตมาจะข้ามมารับไปเอง...
ท่านนาวินรับฝากของถึงคนนั้นคนนี้เต็มไปหมด การฝากฝังไหว้วานกันเป็นสิ่งที่ดี แสดงออกถึงน้ำใจของทั้งสองฝ่าย ทางพม่าเขายังฝากกันเป็นปกติ ถ้าเป็นทางบ้านเราคงสูญโญแค่กลางทาง เล่นฝากซะจนคนไม่ชอบแบกหามอย่างอาตมา กลายเป็นไอ้บ้าหอบฟางไปเลย... ไอ้หนุ่มนี่หัวเราะเยาะที่อาตมายิ่งรีบก็ยิ่งช้าหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ท่านอาจารย์ใหญ่ยังอาลัยอาวรณ์ไม่เลิก จากหอฉันตามมาส่งหน้าโบสถ์ จากหน้าโบสถ์ตามมาส่งที่รั้ววัด จากรั้ววัดจะตามมาในตลาดอีก อาตมาต้องตัดบทว่า ถ้ามีเวลาว่างเดือนมีนาคมนี้ผมจะข้ามมาอีกที นั่นแหละท่านจึงยอมหยุดมองตาละห้อย... ยิ่งรีบยิ่งช้าซิน่า...อาตมากลัวว่าถ้าไม่ทันรถเที่ยวแรก มันอาจจะต้องค้างคืนกลางทาง แต่ก็ทำความเร็วไม่ได้ เพราะโยมเจอท่านนาวินมักจะหยุดถาม คุยกันคนละ ๒ นาที อาตมาก็แทบบ้าแล้ว ทั้งพระทั้งฆราวาสเป็นเหมือนกันหมด...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-07-2010 เมื่อ 15:26 |
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
|||
|
|||
หลุดมาถึงกลางตลาดมุด่ง ท่านนาวินเห็นรถหกล้อจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ก็ดิ่งเข้าไปหา บอกว่าเป็นบ้านของลุงตองยี ซึ่งเป็นลุงของทิดจิตร ถ้าเขาจะไปด่านพระเจดีย์สามองค์จะได้ฝากอาตมาไปด้วย ท่าจะได้ค้างกลางทางจริง ๆ กระมังเรา..? กัดฟันหอบของตามเขาไป...
ไปด่านพระเจดีย์สามองค์แค่นี้ทำไมยุ่งยากนักวะ..? ทิดนัยพี่ชาย(ลูกลุง)ของทิดจิตรจะไปด่านพระเจดีย์สามองค์จริง ๆ แต่เขายังต้องรอคนจากบ้านสองแคว(ชองนาคัวะ)ก่อน แล้ววันนี้มันจะได้ไปไหมนี่..? เห็นท่านนาวินศรัทธาแรงกล้า อยากจะให้อาตมาไปกับเขาให้ได้ เลยไม่อยากจะขัดใจ...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2010 เมื่อ 14:31 |
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
|||
|
|||
รอจนหลับไปตื่นใหญ่ มีหนุ่มลาวคนหนึ่งชื่อ อ่องโม มาเรียก บอกว่าพี่ชายของทิดจิตรไปไม่ได้แล้ว เพราะคนที่รอยังไม่มา ให้อาตมาไปกับรถของเขา ดูนาฬิกาเห็นเวลาปาเข้าไปเก้าโมงกว่า เสียเวลาไปเปล่า ๆ สามชั่วโมง..!
ตกลงลาขาดตัดกุดกันแค่นี้ อาตมาจะบินเดี่ยวกลับเมืองไทยเอง นัดเจอกันวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ วันยกฉัตรพระเจดีย์วัดท่าขนุน ท่านนาวิน ท่านพร เจ้าโต แยกกลับไปหนองบัว หอบข้าวของพะรุงพะรังพอ ๆ กับอาตมาเลย... วัดสวยกลางทุ่งเมืองมุด่ง ไม่มีโอกาสแวะเข้าไปไหว้พระ นายวิน ซิ่งรถซึ่งเก่าพอ ๆ กับทุกคันที่พบมา พาอาตมาไปฉันเพลที่ตันบวยเซียท ทั้งที่ยังไม่สิบโมงดี ถ้าไม่ฉันตอนนี้ก็ไม่ต้องฉัน เนื่องจากกลางทางไม่มีร้านอาหาร แล้วแวะแจ้งคิวรถกับขออนุญาตออกไปด่านพระเจดีย์สามองค์... เจ้าหน้าที่ทหารขอบัตรทุกคนไปลงรายละเอียด และเรียกตัวคนที่สงสัยลงไปสอบถามด้วยตนเองอีกต่างหาก ทำไมมันหลงลืมอาตมาไปได้ชนิดเด็ดขาดก็ไม่รู้..? ได้แต่กราบขอบพระคุณหลวงปู่อยู่ในใจ ท่านช่วยได้ขนาดนี้ ถึงไหนถึงกันซิน่า..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-07-2010 เมื่อ 14:30 |
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
|||
|
|||
ออกพ้นตัวเมือง ข้ามทางรถไฟจนถึงบ้านแวกะลิ ก็ลงทางฝุ่น ควบกันไปชนิดฝุ่นตลบยาวเป็นกิโล ถูกทหารเรียกหยุดเพื่อจ่ายเงินเป็นระยะไป บางด่านก็พูดกันง่าย บางด่านก็พูดไม่รู้เรื่อง ไอ้พวกลูกทหารมันกร่างจริง ๆ ยอมจ่ายแล้วยังโยกโย้ขอเพิ่มอยู่เรื่อย...
สามแยกบ้านแวกะลิ พวกเรามาทางซ้าย พ้นจากนี้ไปก็เป็นทางฝุ่น ผ่านด่านเยตะกุน เต็งเง ตองซุน อะนังกวีน ไปแบบทุลักทุเล ด่านกะเหรี่ยงพูดกันง่ายเพราะเขาต้องรีบไป แต่ด่านพม่ามาดมันเยอะ ซักถามจนนายวินหัวเสีย ขับไปด่าพ่อล่อแม่มันไปตลอดทาง ซ้ำถูกรถอื่นแซงหน้าพาฝุ่นมาเพิ่มให้ด้วย..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2010 เมื่อ 02:47 |
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
|||
|
|||
เจอทหารพม่าทั้งกองร้อยออกลาดตระเวน เรียกให้หยุดถามว่า "เห็นทหารกะเหรี่ยงบ้างหรือไม่..?" รถทุกคันพร้อมใจกันบอกว่าไม่เห็น ไม่มีใครอยากเอามือไปซุกหีบ ถ้าทหารกะเหรี่ยงรู้เข้าก็หมดทางทำกิน บางทีจะสิ้นชีวิตเอาง่าย ๆ..!
ผ่านบ้านร้างอาปะลงไปก็เจอทีเด็ด ทหารกะเหรี่ยงกักด่าน รถติดยาวร่วม ๒๐ คัน เรียกทุกคนลงไปอบรมว่า จะต้องพูดอย่างไรเวลาทหารพม่าถาม และที่แน่ ๆ คือจ่ายมาซะดี ๆ คันละ ๗,๐๐๐ จั๊ต เล่นเอาซีดไปตาม ๆ กัน..! เลยจากนี้ไปหน่อยเดียวก็เจอทหารป่า(กะเหรี่ยงคริสต์)กักด่านเก็บค่าผ่านทาง อาตมานั่งอยู่กับรถ ขณะที่ทั้งพระและฆราวาสเขาลงไปกันหมด มีทหารนายหนึ่งสงสัยเดินมาถาม อาตมาตอบเป็นภาษาไทยว่า พูดก็ไม่ได้ ฟังก็ไม่ออก แล้วเอ็งจะให้ข้าลงไปทำส้น..อะไรวะ..? คาดว่าจะเป็นคำตอบที่ถูกใจมาก เพราะมันหัวเราะชอบใจใหญ่..! อ่องโมเดินเหงื่อแตกพลั่กเข้ามา ทำท่าจะขาดใจตายซะให้ได้ ที่เห็นอาตมาพูดกับทหารกะเหรี่ยง มันกลัวทหารจับข้อหาพาพระต่างด้าวเข้าเมือง อาตมาแกล้งทำเป็นไม่เห็น เอาผลไม้กวนที่ซื้อจากพระบรมธาตุอินทร์แขวนกล่องใหญ่มอบให้พวกทหาร เขาชอบใจกันมาก เพราะอยู่ป่าไม่เจอของหวานมาเป็นปี ๆ แล้ว รุมกินชนิดหัวเกยกันเลย..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-07-2010 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
|||
|
|||
เห็นอาตมาคุยกับทหารถูกคอทั้งที่พูดคนละภาษากัน พอเขาสอบถามถึงข้าวสาร ๑๕ กระสอบบนรถ อ่องโมหัวไวบอกว่าเป็นของอาตมา ทหารเขาโบกมือให้ออกรถไปก่อนคันอื่นได้เลย สบายไปอีกหน ไม่อย่างนั้นถูกเอาลงเป็นเสบียงพวกมันไม่น้อยกว่าครึ่งแน่นอน...
ผ่านด่านมอญมาขึ้นเขาสูงลิบลิ่ว ลงมาถึงชองโส่ง ลุยน้ำลุยห้วยผ่านบ้านจอปุลุ บ้านจงกุย บ้านยูวาติ๊ด เจอด่านสุดท้ายก็ผ่านตลอด มาแจ้งคิวที่ขนส่ง แล้วอ่องโมไปส่งอาตมาที่วัดตองไว จ่ายค่ารถไป ๓,๐๐๐ จั๊ต ถ้ากะเหรี่ยงมันไม่เก็บมาก ผมจะให้อาจารย์ขึ้นฟรีด้วยซ้ำไป..! ข้ามเขาสูงก่อนลงสู่ชองโส่ง ต้องจอดรถพักเครื่องก่อน ทุกคนแปลกใจที่เห็นอาตมากลับมาเร็ว ลูกแมวได้รับจดหมายจากทางบ้าน นั่งอ่านไปยิ้มไป อาตมาขอตัวไปโทรศัพท์เพื่อเรียกทิดจิตรมารับ ปรากฏว่าทั้งโทรศัพท์บ้าน ทั้งโทรศัพท์มือถือ เรียกเท่าไรก็ไม่มีใครรับ... ฝีมือหลวงปู่หรือครับ..? เออ..! กลับมาสรงน้ำ ซักผ้า บอกกับลูกแมวว่าพรุ่งนี้จะกลับเมืองไทยแล้ว ไม่สามารถที่จะพาไปด้วยได้เพราะไปรถเมล์ ด่านเมืองไทยตรวจเข้มงวดมาก ยายหนูทำหน้าสลด อาตมาต้องเบนเรื่องด้วยการทบทวนความรู้ภาษาไทยให้ จนสามทุ่มจึงเข้านอน... ๒๕ มกราคม ๒๕๔๑ พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ ๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏๏ บันทึกเพิ่มเติม ๑. จนป่านนี้อาตมายังไม่มีเวลาไปเมืองลับแลเลย..! ๒. อาตมาช่วยสร้างวัดหนองบัวจนเสร็จสมบูรณ์ หมดเงินไป ๘ ล้านเศษ (เงินไทย) ถ้าคิดเป็นเงินพม่าวันนี้ ประมาณ ๒๘๐ ล้านจั๊ต..! ๓. ท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะไปเยี่ยมอาตมาถึงเกาะพระฤๅษี ท่านชอบใจสถานที่มาก บอกว่าถ้าเป็นท่าน จะยึดเป็นที่ตายเลย..! ๔. พระนอน ๕๐๐ ศอก ของวัดป่าวินเส่ง ภายนอกองค์พระสร้างเสร็จแล้ว ใหญ่โตสวยงามมาก ภายในกำลังก่อสร้างห้องพุทธประวัติอยู่ ๕. ครูบาญาณ (U Yarna) ท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะ (U Dhamma Tena) ท่านอาจารย์ปัญญาสามิ (U Panyar Tami) โซยุนท์ (Soe Nyunt) กับอ่องโม (Aung Moe) ยังมีบทบาทอีกในตอนต่อไป ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2010 เมื่อ 02:56 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|