กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-09-2023, 18:08
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,535
ได้ให้อนุโมทนา: 216,769
ได้รับอนุโมทนา 743,968 ครั้ง ใน 36,250 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-09-2023, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,267 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องเดินทางไปยังวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) บ้านวัดราษฎร์ หมู่ที่ ๒ ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่เช้า เพื่อทำการตรวจประเมินหมู่บ้านวัดราษฎร์ เพื่อยกขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ ไปถึงก็ต้องทึ่งกับความอลังการของการจัดสถานที่

ในเรื่องของบุญของกุศล โดยเฉพาะในเรื่องของความรักใคร่สามัคคีนั้น ต้องยกให้กับพี่น้องชาวมอญ เนื่องเพราะว่าหมู่บ้านวัดราษฎร์นี้เป็นพี่น้องชาวมอญเกือบทั้งสิ้น แค่นางรำที่ยกมาต้อนรับคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ก็มีถึง ๑๕๐ คน ทำเอาประธานกรรมการของเราตีหน้าบอกไม่ถูก เนื่องเพราะว่าถ้าแจกรางวัลเป็นรายตัว ก็มีหวังได้ล่มจมกันแน่..! ท้ายที่สุดก็ทราบว่าของเขามีชมรม จึงได้มอบเงิน ๕,๐๐๐ บาทให้ทางชมรมเอาไว้สนับสนุนงานต่าง ๆ

กระผม/อาตมภาพที่ไม่ได้ไปฉันเช้ากับใคร เมื่อกราบทักทายบรรดาพระเถรานุเถระแล้ว ก็เดินดูนิทรรศการต่าง ๆ ของเขา โดยเฉพาะการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแม ซึ่งการกวนกระยาสารทและการกวนกาละแมในสมัยก่อนนั้น เป็นเวลาที่หนุ่มสาวจะสามารถพบปะกันได้โดยที่พ่อแม่ไม่หวงห้าม หนุ่ม ๆ มักจะไปช่วยบ้านที่มีลูกสาววัยกำดัดในการกวนกาละแม เนื่องเพราะว่าต้องกวนให้ข้าวเหนียวและกะทิเข้าเป็นเนื้อเดียวกันก่อนที่จะเติมน้ำตาล กว่าที่กะทิจะงวดให้เติมน้ำตาลได้ อย่างน้อย ๆ ก็ใช้เวลา ๗ - ๘ ชั่วโมง..!

ดังนั้น..สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ จึงมีผู้ใหญ่บางบ้านกล่าวว่า "มาขอลูกสาวบ้านข้า ไม่เรียกร้องสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก เอากาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกมาให้ข้าก็พอ" ซึ่งถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเห็นว่ากาละแมแต่ละถาด ซึ่งหนาประมาณ ๑ นิ้ว กว้างสัก ๑๒ นิ้ว ยาวสัก ๒๐ นิ้วนั้น ต้องใช้ทั้งกะทิ ทั้งข้าวเหนียว ทั้งน้ำตาลจำนวนมากขนาดไหน ก็คงพอจะนึกออกว่า กาละแมกว้างวา ยาววา หนาศอกนั้น ต้องใช้ทรัพยากรขนาดไหนถึงจะกวนขึ้นมาได้ ไม่ใช่เฉพาะมีวัสดุเท่านั้น ยังต้องมีบารมีขนาดคนทั้งตำบลมาช่วยกันทำด้วย ไม่เช่นนั้นไม่มีทางสำเร็จอย่างเด็ดขาด..!

ก็พอ ๆ กับที่บางคนบอกว่า "มาขอลูกสาวข้า ไม่ต้องการสินสอดทองหมั้นอะไรหรอก แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาให้ข้าสักตัวก็พอแล้ว ข้าจะยกลูกสาวให้เลย" ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนโบราณช่างสังเกตขนาดนั้น เนื่องเพราะว่าแมวที่มีสามสีนั้น ไม่ทราบเหมือนกันว่าดีเอ็นเอ หรือโครโมโซมไปลงตัวอีท่าไหน จึงมีแต่ตัวเมียทั้งสิ้น..!

กระผม/อาตมภาพเองสังเกตมามากต่อมากด้วยกันแล้ว แต่หลังจากที่อายุ ๕๐ กว่า ๖๐ ปีมา ก็มีคนบอกว่า มีแมวสามสีตัวผู้อยู่ตัวหนึ่ง แต่ว่าเป็นหมัน ก็คือไม่สามารถที่จะสืบพันธุ์ได้ แปลว่าไอ้เจ้านี่แหกคอก ประมาณ ๑ ในหลายล้าน เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า โครโมโซมหรือว่าดีเอ็นเอของแมวสามสีนั้น มักจะไปตกเป็นตัวเมียเสียทั้งหมด

ดังนั้น..หนุ่มบ้านไหนที่จะไปขอสาว ได้ยินว่าที่พ่อตาบอกว่า แค่เอาแมวสามสีตัวผู้มาแลกก็จะยกลูกสาวให้ อย่าได้ดีอกดีใจเป็นอันขาด ท่านแสวงหาทั้งชีวิตก็อาจจะหาแมวสามสีตัวผู้ไม่ได้ พูดง่าย ๆ ว่า ว่าที่พ่อตาปฏิเสธไม่ยกลูกสาวให้นั่นแหละ เพียงแต่ไม่ได้บอกตรง ๆ เท่านั้นเอง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2023 เมื่อ 01:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-09-2023, 00:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,267 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อดูนิทรรศการเสร็จสรรพเรียบร้อยทุกอย่าง ก็ขึ้นไปสู่ศาลาของวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) ซึ่งเป็นวัดธรรมยุต ตัวเจ้าอาวาสคือท่านเจ้าคุณศักดา (พระรามัญมุนี) ถือว่าเป็นบุคคลที่คุ้นเคยกัน เนื่องเพราะว่าความเป็นมอญนั้น รักใคร่เหนียวแน่นในชาติพันธุ์ของตนเองมาก มอญทางด้านไทรโยค ทองผาภูมิจัดงาน ก็ยังนิมนต์มอญทางด้านสมุทรสงคราม สมุทรสาครไปร่วมงานด้วย จึงทำให้กระผม/อาตมภาพกับท่านเจ้าคุณศักดาคุ้นเคยกัน เมื่อได้ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ก็ยังรื้อฟื้นความหลังครั้งล่าสุด ซึ่งได้พบกันที่วัดอู่ล่อง อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

เมื่อได้เวลา ทางด้านพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม รองประธานอำนวยการโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ด้วยหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา (หมู่บ้านรักษาศีล ๕) ก็เป็นประธานในพิธีเปิด

เมื่อเห็นความพร้อมเพียงของข้าราชการจังหวัดสมุทรสาครแล้ว กระผม/อาตมภาพยังชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่านี่เป็นวัดที่ ๑๒ ซึ่งทางคณะกรรมการโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ หนกลางได้ไปตรวจประเมินในปีนี้ แต่เป็นที่แรกที่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอมากันครบถ้วน โดยเฉพาะนายอำเภอมาครบถ้วนทั้ง ๓ อำเภอ ไม่ใช่มาเฉพาะอำเภอบ้านแพ้วที่เป็นเจ้าภาพเท่านั้น

นอกจากนั้น บรรดาหัวหน้าหน่วยราชการสำคัญ ๆ อย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร ก็มากันครบถ้วนสมบูรณ์ จึงทำให้การประเมินในครั้งนี้ สามารถที่จะให้คะแนนได้ง่ายมาก โดยเฉพาะในหมวดที่ ๓ เรื่องของการปฏิบัติธรรม วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) นอกจากจัดปฏิบัติธรรมของตัวเองแล้ว ยังมีการร่วมปฏิบัติธรรมกับบรรดาวัดอื่น และขณะเดียวกันก็มีสำนักปฏิบัติธรรมที่เป็นของเอกชนมาร่วมด้วย

เมื่อถึงเวลา พวกเราสอบถามอะไรก็ได้รับคำตอบที่ชัดเจนไปเสียทุกอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาศีล ๕ มีการให้ศีลแบบภาษามอญ ซึ่งกระผม/อาตมภาพยังปรารภกับหลวงพ่อพระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗ เจ้าอาวาสวัดโชติทายการาม รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรีว่า ทั้ง ๆ ที่เป็นมอญเหมือนกัน แต่สำเนียงไม่เหมือนกัน อย่างมอญทางทองผาภูมิ ถึงเวลาก็จะออกเสียงว่า "พุทธ็อง สะระณ็อง กิดสาม่อย" แต่มอญทางด้านสมุทรสาครออกเสียงว่า "พุทธ็อง สะระณ็อง กิดสาเม่ย" ซึ่งทำให้รู้สึกว่ามีความต่างกันอยู่เหมือนกัน

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าท่านช่างสังเกตก็จะสามารถที่จะเห็น หรือว่ามีประสบการณ์จนนำไปบอกกล่าวกับคนอื่นได้ โดยเฉพาะการเขียนศีล ๕ นั้น แทนที่จะเขียนเป็นอักษรมอญ กลับเขียนเป็นภาษาพม่า ซึ่งกระผม/อาตมภาพอ่านได้ทั้งหมด ตั้งแต่สมัยไปประเทศพม่าใหม่ ๆ ก็ยังปรารภกับครูบาน้อย (พระนาวิน สจฺจญาโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองบัว ประเทศพม่าว่า "ทำไมผมถึงอ่านภาษาพม่าออกก็ไม่รู้ ?" ว่าแล้วก็ลองอ่านให้ฟัง แม้ว่าจะแปลออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็อ่านได้จริง ๆ

ครูบาน้อยก็ยอมรับ เมื่อกระผม/อาตมภาพสังเกตต่อไป ถึงได้เห็นว่า ความจริงแล้วอักษรพม่าก็คืออักษรขอม แต่ว่าตัดหางออกเท่านั้นเอง ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงสามารถที่จะคลำทางได้ แล้วก็อ่านออกไม่ยากนัก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2023 เมื่อ 01:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-09-2023, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,575
ได้ให้อนุโมทนา: 151,708
ได้รับอนุโมทนา 4,411,267 ครั้ง ใน 34,165 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่มาตลกตรงที่ว่า วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) นอกจากเป็นวัดธรรมยุตแล้ว ยังเป็นวัดมอญ แต่ตัวหนังสือที่เขียนอยู่กลับเป็นตัวหนังสือพม่า ซึ่งความจริงแล้วมอญมีหนังสือเฉพาะของตน ซึ่งกระผม/อาตมภาพอ่านไม่ออก เนื่องเพราะว่าเคยอ่านแล้ว อ่านไม่ได้ ปรารภกับครูบาน้อยแล้ว ครูบาน้อยบอกว่าตนเองก็อ่านไม่ออกเช่นกัน เพราะว่านี่เป็นอักษรมอญ แล้วก็ยังมีอักษรกะเหรี่ยงที่กระผม/อาตมภาพอ่านไม่ออกอีกเช่นกัน แต่ว่าฟังได้มากอยู่

ดังนั้น..ในส่วนนี้เมื่อพวกเราทำการประเมินเสร็จสรรพเรียบร้อย ทางด้านเจ้าภาพก็ถวายของที่ระลึกให้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็คือกระยาสารทและกาละแมที่กวนมาสด ๆ ร้อน ๆ จัดใส่กล่องมาให้เดี๋ยวนั้นเลย โดยเฉพาะในส่วนของผักสดจากสวน ซึ่งดูจากการบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เรียบร้อยสะอาดมาก และมีตัวหนังสือญี่ปุ่นแล้ว คาดว่าส่งขายที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

ดังนั้น..ในเรื่องของสัมมาชีพ ซึ่งตรงกันข้ามกับข้ออทินนาทาน ทางด้านวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (ธ) หรือว่าหมู่บ้านวัดราษฎร์ จึงมีอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

เมื่อประเมินเสร็จสรรพ กระผม/อาตมภาพลงไปเดินดูนิทรรศการต่าง ๆ โดยเฉพาะปล่อยพันธุ์ปลา ๕๐,๐๐๐ ตัว กระผม/อาตมภาพรับผิดชอบ ๑ ถุง ไม่ทราบเหมือนกันว่ากี่พันตัว แต่ว่ามีหลายตัวที่ร้อนจนกระทั่งเสียชีวิตไปก่อน เมื่อปล่อยปลาเสร็จสรรพเรียบร้อย มีการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน หลังจากนั้นก็เป็นการถวายภัตตาหารเพล พวกกระผม/อาตมภาพนั่งฉันไป ก็วิจารณ์กันไปว่า กับข้าวอร่อยขนาดนี้ มีหวังกรรมการตรวจหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ กว่าที่จะตรวจเสร็จ ๒๓ จังหวัดก็คงน้ำหนักขึ้นไปตาม ๆ กัน..!

หลังจากนั้นแล้วพระเดชพระคุณพระมงคลพัฒนาภรณ์ หรือหลวงพ่อเจ้าคุณดิเรก เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครรูปปัจจุบัน ก็ชวนคณะกรรมการทุกท่านลงเรือเพื่อที่จะไปดูยังสถานที่ต่าง ๆ ที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพก็เหมือนเดิม เนื่องเพราะว่าตนเองประเมินในด้านการปฏิบัติธรรม จึงไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการไปดูงานใด ๆ ทั้งสิ้น

และวันนี้กรรมการที่เดินทางไกล อย่างเช่นหลวงพ่อเจ้าคุณทินน์ (พระโสภณพัฒนคุณ) เจ้าอาวาสวัดพุน้อย เศรษฐีเรือทอง เจ้าคณะอำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ก็คงไปพักค้างคืนกันที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) แต่กระผม/อาตมภาพสละสิทธิ์ เนื่องเพราะว่าวัดอุทยานก็ไม่ได้อยู่ไกลนัก จึงขออนุญาตคณะกรรมการเดินทางกลับก่อน

เมื่อมาถึงก็ปรากฏว่าไข้จับอีกแล้ว น่าจะเกิดจากการฉันของดีสมุทรสาคร ก็คือมะพร้าวน้ำหอมที่ทำส่งนอกเข้าไป รู้อยู่ว่าฉันเข้าไปแล้วจะต้องเจ็บไข้ได้ป่วยแน่นอน เพราะว่าน้ำมะพร้าวนั้นเป็นธาตุเย็นจัด ฉันเข้าไปเมื่อไรมาลาเรียมีหวังกำเริบแน่..! แต่ที่จำเป็นต้องฉันก็เพราะว่า เจ้าภาพนั่งมองตาปริบ ๆ อยู่ เมื่อเป็นเช่นนั้น กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่ยอมรับกฎของกรรม ฉันให้ดูเพื่อให้เจ้าภาพชื่นใจ แล้วเรากลับมาที่พักเมื่อไร ก็มาฉันยากันต่อไปก็แล้วกัน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-09-2023 เมื่อ 23:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว