กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-06-2021, 20:49
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,955 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-06-2021, 23:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้เป็นวันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ ผมมีภารกิจอยู่นอกวัดมา ๒ วัน วันแรกก็คือวันเกิดตัวเอง หมอดูหลายตำรากล่าวว่า "วันเกิดเราทำอะไร จะเป็นแผนผังคร่าว ๆ ในชีวิตไปทั้งปี" คราวนี้วันเกิดซึ่งเป็นวันที่ผมไม่ได้ให้ความสำคัญมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปีนี้ผมไปรดน้ำศพหลวงพ่อถมยา ที่เรียกอย่างนี้ เพราะว่าสนิทสนมคุ้นเคยกันมานานเกิน ๓๐ ปี ตั้งแต่สมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชรัตนโสภณ (จันทร์ จนฺทสิริ) วัดสังเวชวิศยาราม ที่เป็นเพื่อนนักเทศน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นขาประจำไปงานวัดท่าซุง ผมก็ทำหน้าที่ต้อนรับ หลวงพ่อถมยาท่านก็ติดตามไปด้วย

จะว่าไปแล้ว สมณศักดิ์ของท่านก็คือ พระธรรมสิทธิเวที อดีตเลขานุการศูนย์ควบคุมพระภิกษุสามเณรเดินทางไปต่างประเทศ พูดง่าย ๆ ก็คือ พระเณรรูปใดจะไปต่างประเทศ เอกสารต้องผ่านมือท่านทุกรูป ถ้ายังงง ๆ อยู่ ท่านคือเจ้าของฐานานุกรม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ ที่มอบให้กับหลวงพ่อสมปอง บ้านสบายใจ

หลวงพ่อถมยาเป็นพระเถระที่ให้ความเลื่อมใสหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นอย่างสูง เมื่อสิ้นหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเป็นหลักรูปหนึ่งที่ลูกศิษย์สายวัดท่าซุงพึ่งพาอาศัยได้ ก็มามรณภาพด้วยอายุ ๙๐ ปี มีกำหนดถวายน้ำสรงศพในวันเกิดของผมพอดี ก็เลยต้องรีบไป คือไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าหากว่าในฐานะของพระสังฆาธิการระดับสูง ก็ต้องบอกว่า หลวงพ่อท่านเป็นที่รู้จักทั่วทั้งสังฆมณฑล ถ้าหากว่าในความสนิทสนมกันเป็นส่วนตัว ท่านก็เหมือนกับพ่อคนหนึ่ง ดังนั้น..ถ้าเขาบอกว่าวันเกิดเป็นแผนผังชีวิตคร่าว ๆ ของปีนั้น ปีนี้ผมอาจจะต้องเจองานศพทั้งปี..!

ส่วนงานเมื่อวานนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (อมฺพรมหาเถร) วางฎีกานิมนต์ให้ผมเป็น ๑ ใน ๒๘ รูปที่ไปปลุกเสกพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของพระองค์ แล้วก็วัตถุมงคลที่จะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ฉลองพระชนมายุ ๙๖ พรรษาของท่าน ปีนี้สมเด็จพระสังฆราชของเราเจริญพระชนมายุ ๙๔ พรรษา มีญาติโยมถวายที่ดินไว้ที่คลอง ๙ จังหวัดปทุมธานี พระองค์ท่านอยากจะสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2021 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-06-2021, 23:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้ในเรื่องของการรบกวนปัจจัยญาติโยมจำนวนมาก ๆ ไม่ใช่วิสัยของพระอย่างพวกเราอยู่แล้ว พระองค์ท่านจึงใช้วิธีออกวัตถุมงคล แล้วก็นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศที่พระองค์ท่านมั่นใจ ไปทำการปลุกเสก ก็ปรากฏว่ามีแปลกอยู่ ๔ รูป ก็คือตุ๊พ่อสิงห์ วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวง ถ้ำนารายณ์ ตัวผม แล้วก็พระครูปลัดสมนึก วัดท่าซุง ที่บอกว่าแปลก ก็คือแปลกแยกจากรูปอื่น ๆ

เนื่องจากว่าท่านอื่น ๆ เป็นพระธรรมยุต วัดราชบพิธฯ เป็นวัดธรรมยุต สมเด็จพระสังฆราชก็สังกัดนิกายธรรมยุต ต้องบอกว่า ด้วยคุณความดีที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงสั่งสอนอบรมมา ทำให้พระองค์ท่านมีความเชื่อมั่นในลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง โดยเฉพาะท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน) เลขานุการในพระองค์เชื่อมั่นสุด ๆ โดยเฉพาะจัดให้ท่านอื่น ไม่ว่าจะอยู่ในโบสถ์ก็ดี ในระเบียงเจดีย์ก็ตาม แต่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง ๔ รูป ท่านให้ประจำอยู่ภายในองค์เจดีย์ ๔ ทิศ..เหมาไปเลย

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์บอกว่า "วัตถุมงคลอยู่ในโบสถ์ อยู่ในเจดีย์ และอยู่ข้างห้องพักที่หลวงพ่อทั้งหลายนั่งพักผ่อนก่อนเข้าพิธี รบกวนเสกให้ทั่วถึงนะครับ" และโดยเฉพาะ กำชับกับผมว่า "๑,๐๐๐,๐๐๐ องค์ ต้องขายหมดนะครับ..!" ไม่แพงครับ องค์ละ ๑๙๙ บาท..!

ผมเองในเมื่อพระผู้ใหญ่ท่านให้ความเมตตากำชับมา โดยเฉพาะขอให้เสกอย่างน้อย ๑ ชั่วโมง ผมเองก็เข้ากรรมฐานตั้งเวลา คือกำหนดใจไว้ที่ ๑ ชั่วโมง แล้วก็ขึ้นไปกราบพระ ขอให้พระท่านสงเคราะห์ เห็นสมเด็จพระพุทธกัสสปท่านเสด็จมา สั่งว่า "ภาวนาพระคาถาเงินล้านไปก่อนเลย ๑๐๘ จบ..!" ถ้าหากว่าภาวนาออกเสียง จำนวน ๑๐๘ จบนี่น่าจะถึง ๒ ชั่วโมง..! แต่ภาวนาในใจจะเร็วกว่านั้น

ผมก็ว่าไปเรื่อย ต่อด้วยพระคาถานั้น ต่อด้วยพระคาถานี้ตามที่รับสั่ง และท้ายที่สุดครูบาอาจารย์ตามสายกรรมฐานท่านก็มา ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดระฆังโฆสิตาราม หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หรือว่าหลวงพ่อวัดท่าซุง พอท่านบอกว่าได้เวลาแล้ว ผมก็คลายสมาธิออกมา ทิดเฟิร์สที่นั่งอยู่ข้าง ๆ บอกว่า "เป๊ะเว่อร์ ๖๐ นาทีไม่มีเกินแม้แต่วินาทีเดียว..!" แล้วก็กระซิบว่า "ท่านอื่นออกก่อนนานแล้วครับ มีหลวงพ่อเท่านั้นที่ทำได้ตามเวลา"

ผมบอกว่า เรื่องของการทรงฌาน ถ้าในสมัยที่อยู่กับหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นเรื่อง "ขนม" ของพวกผม เพียงแต่ใครจะขยันซักซ้อมมากน้อยกว่ากันเท่านั้น โดยเฉพาะผมเอง ถ้าอะไรไม่มีความคล่องตัว ผมจะไม่ปล่อยให้ผ่านไป ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นการทรงฌานตามลำดับ ทรงฌานตั้งเวลา ทรงฌานสลับฌาน เข้าหรือออกฌาน ต้องได้อย่างใจทุกประการ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-06-2021 เมื่อ 17:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-06-2021, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จพิธี กราบลาพระท่านแล้ว ผมเพิ่งจะเห็นว่าเป็นเวลาทุุ่มกว่า เพราะว่าตอนที่อยู่ในสมาธินั้นสว่างเจิดจ้ามาก โดยเฉพาะก่อนวันเกิด ๑ วัน ผมจับภาพพระเป็นปกตินะครับ ตั้งแต่ปฏิบัติธรรมแบบจริง ๆ จัง ๆ มาตอนอายุ ๑๖ ปีนี้ ๖๒ เต็ม ย่างขึ้น ๖๓ ปี

ตอนแรกถ้าหากว่าไม่อาศัยบารมีพระพุทธเจ้า วงสมาธิของผมจะมืดมาก คำว่ามืดมากนั้น จริง ๆ ก็คือรู้เห็นได้ แต่เหมือนอย่างกับเวลากลางคืนแล้วเราตั้งใจมองอะไร อย่างเก่งก็เห็นเป็นเงาตะคุ่ม ๆ จากอายุ ๑๖ ปี ซักซ้อมแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น จนคนรอบข้างว่า "บ้า" มาจนกระทั่งรับสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยฯ หลายปี ก็น่าจะเกิน ๑๐ ปี

มีอยู่วันหนึ่งผมกำหนดใจออกไปแล้วผมก็แปลกใจ เพราะว่าผมสามารถแยกใบอ่อนกับใบแก่ของต้นไม้ได้ ก่อนหน้านั้นแค่รู้ว่านี่คือต้นไม้ ในเมื่อสามารถแยกใบอ่อนกับใบแก่ของต้นไม้ได้ ความละเอียดของจิตมีมากขึ้น เวลาเจอพรหม เทวดา หรือพระท่าน ก็สามารถที่จะเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น เวลาสอนพวกท่านทั้งหลายเจริญกรรมฐาน ผมถึงได้ย้ำหนักย้ำหนาว่า ฝึกใหม่ ๆ อย่าเพิ่งเอารายละเอียด พวกคุณต้องเห็นว่า ผมเองซักซ้อมแบบหัวไม่วาง หางไม่เว้น ทำจนทุกคนรอบข้างว่าบ้า ยังใช้เวลาหลายสิบปี กว่าที่จะแยกออกว่าใบไม้อ่อนกับแก่ต่างกันอย่างไร

แต่มาปีที่อายุ ๖๒ ปีเต็ม วันนั้นเลย เพราะว่าถ้าเป็นวันที่ ๒๑ เมื่อไรก็เริ่มขึ้น ๖๓ ปี จากที่ผมเห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปฐมไม่เคยชัดเจนมาก่อน เพราะว่าพระองค์ท่านเหมือนอย่างกับเป็นกลุ่มพลังงานในรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่สว่างเจิดจ้า เหมือนเรามองพระอาทิตย์ยามเที่ยง เอารายละเอียดไม่ได้

วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๖๒ ผมสามารถแยกรายละเอียดได้ อายุ ๑๖ จน ๖๒
ทำแบบไม่เคยทิ้งเลยแม้แต่วันเดียว ถึงแยกรายละเอียดได้ แล้วประกอบไปทรงฌานตั้งเวลา ๑ ชั่วโมงเต็ม ๆ ตอนพิธีปลุกเสก ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ประมาณ ๓๐ ชั่วโมง ผมยังไม่ได้นอนเลย..! ใจสว่างโพลง ตื่นอยู่ตลอดเวลา ถ้าเหนื่อยมากก็ใช้วิธีเอนหลัง ภาวนาสัก ๒๐ นาที ๓๐ นาที แล้วก็ทำงานต่อ

เรื่องนี้ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายทำถึงตรงจุดนี้ อย่าไปคิดว่าเราไม่ได้หลับ ถ้าร่างกายเอนลงไปนอนแล้ว ได้พักผ่อนแล้ว สภาพจิตของเรา ถ้าทำถึงจริง ๆ จะตื่นหรือหลับ จิตของเราจะตื่นรู้เท่ากัน อย่างที่เคยบอกไปหลายครั้งว่า แม้แต่เรากรน ยังรู้ว่าเรากรน แสดงว่าร่างกายหลับ แต่ใจของเราตื่น

ในเมื่อเคยชินกับสภาพเช่นนี้ ผมก็เลยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพียงแต่ว่าเรียนถวายท่านทั้งหลายและบอกกล่าวให้แก่ญาติโยมว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าเราตั้งใจทำจริง ๆ ความก้าวหน้าจะมีไปเป็นลำดับ ๆ ไม่ต้องมองอะไรมาก แค่มองไปว่า ก่อนหน้านี้ เรารักษาศีลได้ครบถ้วนหรือไม่ แล้วปัจจุบันนี้เป็นอย่างไร ? แค่นั้น เราก็จะเห็นความก้าวหน้าแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2021 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-06-2021, 23:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฉะนั้น..ในส่วนนี้ที่บอกกล่าว เพื่อเป็นกำลังใจแก่ท่านทั้งหลายที่อาจจะเห็นว่า เราทำอะไรไม่มีความก้าวหน้าเลย..ไม่ใช่ บางวาระ บางเวลา ต้องรอกำลังของเราเพียงพอ เหมือนอย่างกับน้ำโดนเขื่อนกั้นอยู่ ต้องค่อย ๆ สะสมตัวเองจนปริมาณเพียงพอ ถึงจะล้นไหลข้ามไปอีกฝั่งหนึ่งได้ ต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่า เราปฏิบัติความดีทุกอย่างเพื่อเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว แล้วก็ลุยไปเลย ไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องอื่น..!

ถ้าใครมีเวลามาก เป็นนักบวช เป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี ก็ว่าไปเต็มที่ได้เลย เพราะว่าสมัยที่ฝึกปฏิบัติหนัก ๆ คืนหนึ่งผมนอนอย่างเก่งก็แค่ ๒ ชั่วโมง แต่ถ้าหากว่าเป็นฆราวาส เราต้องตั้งเวลา อย่างเช่นว่า อาจจะเป็นเช้าครึ่งชั่วโมง กลางวันครึ่งชั่วโมง เย็นครึ่งชั่วโมง หรือว่าเช้าชั่วโมง เย็นชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลาทำหน้าที่การงานที่เรารับผิดชอบ

เรื่องของการปฏิบัติธรรมต้องโลกไม่ช้ำ ธรรมไม่เสีย แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วที่ปรากฏก็คือ โลกช้ำมาก ต้องตัดสินใจให้ขาด เพราะว่ากิเลสคอยร้อยรัดเราอยู่ ถ้าไม่ตัดสินใจตูมเดียวจนโลกช้ำ ก็มักจะไปไม่รอด จึงเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา แล้วก็แจ้งแก่ญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ที่นี่และที่อยู่ทางบ้าน ทั้งในประเทศหรือต่างประเทศก็ดี เอาไว้คร่าว ๆ แต่เพียงเท่านี้

และส่วนที่อยากจะเตือนทุกท่านก็คือ ถ้าเป็นไปได้เร่งขวนขวายฉีดวัคซีนต้านเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ ระลอก ๓ ของบ้านเรา นอกจากจะไม่จบง่าย ๆ แล้ว มีทีท่าว่าจะพุ่งสูงจนกระทั่งอาจจะต้องล็อกดาวน์กันอีกแล้ว..! ขอเจริญพร


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๓ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-06-2021 เมื่อ 03:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว