กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-08-2021, 14:42
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,529
ได้ให้อนุโมทนา: 215,924
ได้รับอนุโมทนา 736,963 ครั้ง ใน 35,904 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default พิธีเปิดการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔

พิธีเปิดการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๔
โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร
วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-08-2021, 00:50
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ขอโอกาสพระเถรานุเถระทุกรูปที่อายุกาลพรรษามากกว่า และขอแสดงความนับถือพระนิสิตฝ่ายบรรพชิตทุกรูป ขอเจริญพรครูบาอาจารย์ ตลอดจนกระทั่งนิสิตฝ่ายคฤหัสถ์ทุกท่าน

กระผม/อาตมาภาพ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ วันนี้รับหน้าที่มาทำพิธีเปิดการปฏิบัติธรรมในวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๙ พรรษาแล้ว

ท่านทั้งหลายครับ การที่เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรมแล้วน้อมนำมาปฏิบัติ โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่เป็นพระเถระ บวชถวายอก (ถวายชีวิต) เข้ามาในพระพุทธศาสนา (
พุทฺธสาสเน อุรํ ทตฺวา) ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติธรรมเคยรู้สึกไหมครับว่า ทำไมเราทำอะไรไม่ก้าวหน้าเลย ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-08-2021, 00:52
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชีหรือฆราวาส ก็เพราะว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติข้ามขั้นตอนครับ แล้วเราก็มักจะข้ามขั้นตอนกันด้วยความเข้าใจผิดว่านั่นใช่แล้ว เราปฏิบัติข้ามขั้นตอนเพราะอะไรครับ ? เพราะว่าหนทางของการปฏิบัติธรรมของเราที่ถูกต้องที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ ก็คือมรรคมีองค์ ๘ ย่อลงมาเหลือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่เรียกว่าไตรสิกขา ท่านทั้งหลายกระโดดไปปฏิบัติสมาธิ โดยมองข้ามศีลไม่ได้นะครับ เพราะว่าศีลขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเราในเบื้องต้น เพื่อให้คู่ควรต่อสมาธิครับ ในเมื่อศีลขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเรา เราระมัดระวังศีลเป็นปกติ การที่เราตั้งสติ ระมัดระวัง รักษาศีลให้สมบูรณ์บริบูรณ์อยู่เสมอ เป็นเหตุให้สมาธิเกิดขึ้นครับ

ในส่วนนี้ ถ้าหากว่าท่านที่บวชในรุ่นเก่า ๆ จะได้ยินพระอุปัชฌาย์อาจารย์ท่านบอกอนุศาสน์ ๘ และปิดท้ายว่า สีละปะริภาวิโต สะมาธิ มะหัปผะโล โหติ มะหานิสังโส เราต้องรักษาศีลให้สมบูรณ์บริบูรณ์ จักเป็นอานิสงส์ก่อให้เกิดสมาธิขึ้น ดังนั้น..ถ้าเราปฏิบัติมาปีแล้วปีเล่าแต่ไม่ได้ผล ให้สำรวจดูว่าอันดับแรก เราปฏิบัติข้ามขั้นตอนหรือเปล่า ? ประการที่สองก็คือ ท่านทั้งหลายทำได้ต่อเนื่องจริงจังหรือไม่ครับ ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-08-2021, 00:59
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

เรื่องของการปฏิบัติสมาธิภาวนา เป็นการทวนกระแสโลก เหมือนกับเราว่ายทวนน้ำครับ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติธรรมแล้ว โอ๊ย..วันนี้สมาธิดีเหลือเกิน แต่พอถึงเวลาแล้ว ท่านทั้งหลายพอลุกจากตรงนั้นก็ทิ้งไปเลย ถ้าหากว่าเป็นคนที่ว่ายทวนน้ำอยู่ เราเลิกว่ายน้ำเลย..ก็ไหลตามน้ำไปสิครับ..!

เมื่อท่านทั้งหลายไหลตามน้ำไป พอถึงเวลาเราปฏิบัติสมาธิใหม่ ก็เท่ากับเราว่ายทวนน้ำขึ้นมา เมื่อว่ายทวนน้ำขึ้นมา จนถึงระดับที่เราต้องการแล้ว เราก็ปล่อยอีก ก็ไหลตามน้ำไปอีก ท่านทั้งหลายจะเป็นคนขยันแต่ไม่มีผลงานเลยครับ เพราะว่าในแต่ละวันของเรา เราทำแล้วเราก็ทิ้ง ทำแล้วก็ทิ้ง ไม่มีการประคับประคอง รักษาอารมณ์ปฏิบัติของเราเอาไว้ ก็เลยทำให้ไม่เกิดผล นาน ๆ ไป เราเหนื่อยเราจะท้อครับ แล้วก็หมดกำลังใจ

ดังนั้น..ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ท่านทั้งหลายต้องจดจ่อ ต่อเนื่อง ตามกันทุกลมหายใจเข้าออกครับ ถ้าไม่ได้ถึงขนาดนั้น ก็ควรที่จะรักษากำลังใจของเรา ให้อยู่ในด้านดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-08-2021, 01:03
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

อันดับต่อไปก็คือ เราเองยอมทุ่มเทชีวิตจิตใจของเราให้กับการปฏิบัติธรรมไหมครับ ? ชนิดที่ตายเป็นตาย แลกกันด้วยชีวิต เคยได้ยินพระสายวัดป่าพูดไหมครับ ? "ธรรมะอยู่ฟากตาย" ถ้าไม่เอาชีวิตเข้าแลก โอกาสที่เราจะเข้าถึงความดียากมากครับ

แต่คราวนี้ ท่านทั้งหลายยังต้องมีหน้าที่ซึ่งตนเองต้องปฏิบัติ ยังมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ไม่มีเวลาที่จะมานั่งรักษาอารมณ์ภาวนาทั้งวัน ท่านต้องใส่สติเข้าไปในทุกงานของท่านครับ ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ ยืน เดิน นั่ง นอน ดื่ม กิน คิด พูด ทำ ในนวจริยา ถ้าท่านใส่สติเข้าไป นั่นคือกรรมฐานครับ แล้วสติที่จดจ่ออยู่ตรงหน้า งานการของท่านก็จะดีขึ้นด้วย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าบอกว่าเป็นทฤษฎีก็ใช่ แต่ผมเองก็ทำจนกระทั่งเกิดผลมาแล้ว หลังจากที่หกล้มหกลุกครั้งแล้วครั้งเล่า

ท่านทั้งหลายที่ตั้งใจปฏิบัติธรรม ทุกคนจะต้องพบกับคำว่า 'จิตตก' 'สมาธิตก' 'กรรมฐานแตก' เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่า "เราขาดสติ" ครับ ทันทีที่เราขาดสติ ไม่ได้ระมัดระวัง ก็จะทำให้กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามายึดครองใจของเราแทน ถ้าเป็นลักษณะอย่างนั้นเราจะตีคืนได้ยากมาก เพราะกิเลสย่อมรู้ว่าถ้าเสียท่าให้กับเรา เขาก็จะได้อาณาจักรนี้ไปยาก เขาก็ต้องยึดครองไว้สุดชีวิต

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 18-08-2021, 01:09
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ช่วงจังหวะที่ดีที่สุดในการปฏิบัติธรรมก็คือ "เช้ามืด" ครับ เราเองได้พักผ่อนมาทั้งคืน สภาพจิตเริ่มสงบราบเรียบแล้ว เมื่อสภาพจิตของเราเริ่มสงบราบเรียบลง อย่างที่โบราณเขาบอกว่า "กลางคืนเป็นควัน กลางวันเป็นเปลว" สิ่งที่เคยเผาไหม้เราอยู่ เริ่มดับลงแล้ว เราก็รีบดึงกำลังใจของเราเข้ามาหากรรมฐาน

ในเรื่องของความดีความชั่ว หรือว่าระหว่างกิเลสกับความดี เหมือนกับเก้าอี้ตัวเดียวครับ ถ้าใครชิงนั่งก่อน อีกฝ่ายหนึ่งจะนั่งไม่ได้ ดังนั้น..ในช่วงเช้ามืด ถ้าเราชิงเอาความดีเข้าไปก่อน ความชั่วก็เข้ามาในใจของเราไม่ได้ ท่านทั้งหลายก็จะอยู่สุขอยู่เย็นไปทั้งวัน ถ้ารักษาประคับประคองอารมณ์เป็น ก็อาจจะอยู่สุขอยู่เป็นต่อไปได้หลายวัน


ผมเคยรักษาอารมณ์ต่อเนื่องได้เป็นเดือน ๆ ทั้งหลับทั้งตื่น ทั้งยืนทั้งนั่ง อารมณ์ใจต่อเนื่อง รู้ตัวอยู่ตลอดเวลา หลับก็รู้ว่าหลับครับ ขนาดกรนยังได้ยินเสียงตัวเองกรน พอจะตื่น ยังต้องบอกตัวเองว่าจะตื่นแล้ว ต้องสั่งให้ร่างกายนี้ตื่นครับ

ถ้าท่านทั้งหลายสามารถทำถึงตรงจุดนี้ได้ ก็จะทำให้กำลังในการต่อสู้กับกิเลสของท่านมีมากขึ้น แต่เผลอเมื่อไรก็หลุดอีกครับ เพราะว่ากิเลสนั้นมายามาก หลอกซ้ายล่อขวาไปเรื่อย เราเผลอเมื่อไรก็โดนเขาตีหงายท้องอีก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 18-08-2021, 01:12
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

เดี๋ยวอีกสักพักหนึ่ง ต่อจากการปฏิบัติธรรมของเรา ท่านอาจารย์ภานุวัฒน์ จนฺทวฑฺฒโน เลขานุการศูนย์วิปัสสนาธุระ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น ท่านจะมาบอกกล่าวเรื่องราวเหล่านี้่ ให้ท่านทั้งหลายได้ฟัง แล้วถ้าหากว่ามีอะไรจะซักถาม ก็สามารถที่จะซักถามการปฏิบัติกับท่านได้

ผมเองแค่มาเตือนพวกเราว่า โอกาสที่เราได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรม ได้น้อมนำมาปฏิบัติ เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกินครับ เพราะว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากสุด ๆ ส่วนใหญ่แล้วลงต่ำไปหมด แล้วท่านทั้งหลายที่ได้บวชเข้ามาในพระพุทธศาสนา ยิ่งเป็นเรื่องที่ยากเข้าไปใหญ่ ไม่ว่าท่านจะบวชเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์ใดก็ตาม เมื่อเข้ามาแล้ว เราต้องเล่นให้สมบทบาทครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 18-08-2021, 01:16
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

บทบาทของพระภิกษุสามเณรของเราก็คือ ต้องศึกษาทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ คราวนี้สิ่งที่ท่านเข้ามาเรียนนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคันถธุระ คำว่า "คันถะ" แปลว่า "คัมภีร์" ก็คือ "พระไตรปิฎก"

แต่ว่าในส่วนของ "วิปัสสนาธุระ" นั้น เป็นส่วนที่สำคัญยิ่งกว่า เพียงแต่ว่าโดนแยกออกไปในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระองค์ท่านแต่งตำรานักธรรมบาลีขึ้นมา แล้วก็แยกเอาวิปัสสนาออก ตั้งแต่นั้นมาในเรื่องของวิปัสสนาธุระก็ตกต่ำลง

เหตุที่ตกต่ำลงมีหลายประการด้วยกัน ประการแรกก็คือบุคคลที่เจริญในทางนักธรรมบาลี มักจะได้รับ
ตำแหน่งหน้าที่ต่าง ๆ ในการปกครองคณะสงฆ์ ก็เลยทำให้คนไปสนใจแต่ในเรื่องของการเรียนนักธรรมบาลี โดยทิ้งการปฏิบัติธรรมไปครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 18-08-2021, 01:19
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายสังเกต เอาแค่จังหวัดกาญจนบุรีของเราครับ หลวงปู่เปลี่ยน พระวิสุทธิรังษี (เปลี่ยน อินฺทสโร) วัดใต้ อดีตสังฆปาโมกข์ ก็คือเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เราจะเห็นว่าท่านเป็นพระสายกรรมฐานเต็มตัว เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ใคร ๆ ก็ต้องยอมรับ

มาถึงยุคหลวงปู่ดี พระเทพมงคลรังษี วัดเหนือ (วัดเทวสังฆาราม) นั่นก็สุดยอดนักปฏิบัติธรรมครับ มาทางสายวิปัสสนาธุระ แล้วผู้บังคับบัญชาเห็นความรู้ความสามารถ ก็มอบหน้าที่ให้

ดังนั้น..ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคันถธุระ หรือว่าวิปัสสนาธุระ ความจริงแล้วสำคัญทั้งคู่ วิปัสสนาธุระสำคัญที่สุด สำคัญตรงไหนครับ ? คันถธุระช่วยท่านได้แค่ชาตินี้ครับ เหตุที่ช่วยท่านได้แค่ชาตินี้เพราะว่า พอท่านมีนักธรรมห้อยท้าย มีบาลีห้อยท้าย มีปริญญาบัตรห้อยท้าย ผู้บังคับบัญชาเห็นว่าท่านตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ก็มอบหมายตำแหน่งหน้าที่การงานให้ท่าน จริง ๆ แล้วผมว่าเป็นภาระใหญ่นะครับ เพราะว่าตำแหน่งมาพร้อมกับหน้าที่..เหนื่อยมากยิ่งขึ้น โอกาสที่เราจะประพฤติปฏิบัติธรรมก็มีน้อยลง ถ้าบางท่านกำลังใจตกต่ำ ถึงกับสึกหาลาเพศไปเลยก็มี..!

แต่ถ้าหากว่าในเรื่องของวิปัสสนาธุระ เราสามารถทำแล้วเกิดผล ช่วยเราได้ทั้งชาตินี้และชาติต่อ ๆ ไป แล้วยังช่วยให้เข้าถึงประโยชน์สูงสุด คือ ถ้าทำดี ทำถูก สามารถล่วงพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 18-08-2021, 01:25
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติแล้วปฏิบัติเล่า ไม่สามารถที่จะมีความก้าวหน้าในการปฏิบัติได้ ส่วนหนึ่งผมอยากจะบอกว่า "ยังไม่เข็ด" ครับ คือ ท่านหกล้มหกลุก เดี๋ยวก็จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก แต่ทำไมไม่เข็ดเสียทีละครับ ? โดนบ่อย ๆ ก็ต้องรู้จักจำสิครับ

ถ้าไม่รู้จักจำเดี๋ยวก็เข้ากับนิยามที่เขาบอก "เจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควาย" ถ้าหากว่าท่านรู้จักจำ ท่านก็ต้องระมัดระวังว่าเราพลาดตรงนี้ ต่อไปจุดนี้เราจะต้องไม่พลาดอีก เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเราเจ็บแล้วจำ ก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ในลักษณะของมุญจิตุกัมมยตาญาณ อยากจะหาทางหลีกหนีไปให้พ้น เกิดนิพพิทาญาณ เบื่อหน่ายเหลือเกิน..พอกันที..!

คราวนี้..ถ้าหากว่าเรายังไม่เข็ด เราก็ยังไม่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติอย่างแท้จริง ท่านก็ต้องทนทุกข์ทรมานกับอาการจิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตกต่อไปครับ..!


พอถึงเวลา..จากที่เป็นเทวดาเป็นนางฟ้าอยู่ จิตมีความสุข มีความสบายเหลือเกิน อยู่ ๆ ก็หล่นพลั่กลงมา แย่กว่าหมาขี้เรื้อนอีก..! แต่ถ้าท่านรู้จักเข็ด จะรู้จักระมัดระวังประคับประคองรักษาอารมณ์ในการปฏิบัติเอาไว้ ในส่วนนี้จะช่วยได้มากอย่างยิ่งเลยครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 18-08-2021, 01:28
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

พอถึงเวลาเราปฏิบัติธรรมแล้ว สมาธิหรือกำลังใจสูงแค่ไหน สุขสบายแค่ไหน ลุกขึ้นแล้วอย่าทิ้งครับ ตั้งสติประคับประคองเอาไว้ด้วย เมื่อตั้งสติประคับประคองเอาไว้ ท่านทั้งหลายก็จะรักษาเอาไว้ได้ แรก ๆ ไม่มีความชำนาญก็ ๓ นาที ๕ นาที แล้วก็พัง เราก็เริ่มต้นใหม่ครับ ล้มแล้วลุก ล้มแล้วลุก อย่างนี้ไปเรื่อย จนกระทั่งท่านสามารถรักษาได้ ๑๐ นาที ๑๕ นาที ๒๐ นาที ๓๐ นาที ๑ ชั่วโมง ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง

ยิ่งรักษากำลังใจได้นานเท่าไร ความสุขในสมาธิจะยิ่งมากเท่านั้น แล้วท่านจะทราบว่า กำลังใจที่สงบ ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง นั้น ปัญญาเกิดดีจริง ๆ ครับ พอปัญญาเกิด คราวนี้ เราจะเห็นช่องทางว่า เราจะประคับประคองอย่างไร ถึงจะรักษากำลังใจของเรา ให้ปราศจากกิเลสไปได้นานเพียงพอ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 18-08-2021, 01:30
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ถ้าใช้กำลังใจอย่างเดียวล้วน ๆ ท่านก็จะบรรลุมรรคผลในลักษณะของเจโตวิมุติ คือใช้กำลังใจข่มกิเลสจนกิเลสแห้งตายไปเอง แบบเอาหินทับหญ้าไว้

แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใช้ปัญญาเข้าไปร่วมพินิจพิจารณา จนเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ถอนความอยากทั้งปวงออกไปได้ ท่านจะบรรลุแบบปัญญาวิมุติ ก็คือใช้ปัญญามองเห็นความเป็นจริง ปล่อยวาง..แล้วก็หลุดพ้น


แต่คราวนี้สิ่งที่ท่านทั้งหลายปฏิบัติอยู่นั้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ผมเป็นห่วงมากในปัจจุบัน ก็คือเราปฏิบัติกันในสายพองยุบครับ ซึ่งผมอยากจะบอกว่า ครูบาอาจารย์ในปัจจุบันนี้สอนผิดเป็นส่วนใหญ่..! เหตุที่บอกว่าสอนผิดเป็นส่วนใหญ่ ก็เพราะว่าถึงเวลาปัญญาเกิด เราจะต้องพินิจพิจารณาหาหนทาง ทำอย่างไรที่เราจะหลุดพ้นจากตรงนี้ แต่ท่านทั้งหลายได้รับการสอนว่า "ให้ภาวนาว่าคิดหนอ..คิดหนอ..คิดหนอ..คิดหนอ" ก็ไปตัดตรงนั้นจนหมด สมาธิที่ท่านกำลังดำเนินไปด้วยดี กำลังก้าวขึ้นสู่อัปปนาสมาธิขั้นสูงขึ้นไป ก็ไปโดนกระชากกลับลงมา ที่อย่างเก่งก็ขณิกสมาธิ หรืออุปจารสมาธิ ไม่เพียงพอต่อการใช้งานครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 18-08-2021, 01:33
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ผมอยากจะบอกว่า เรามาสายพองยุบแบบนี้ กลายเป็น "ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา" ปฏิบัติก็ลำบาก บรรลุก็ยาก ใครเจอเข้ามา ร้องโอดโอยทุกรายครับ..!

แต่ในเมื่อค่านิยมปัจจุบันต้องการสายนี้ เราก็ทำตามสายนี้ครับ แต่เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลาแล้ว ถ้าหากว่าท่านทำไปถึงระดับหนึ่ง เราจะเห็นช่องทางที่พอเหมาะพอสม เราก็เล็ดลอดไปตามทางของเราเลยครับ ตอนต้นเดินตามเขาไปก่อน

ผมยืนยันครับ..ครูบาอาจารย์สายพองยุบหลายท่านที่ผมรู้จัก จากที่บอกว่าวิปัสสนา วิปัสสนาอย่างเดียว รู้เท่าทันปัจจุบันอย่างเดียว ตอนหลังมาเปลี่ยนหมดครับ แต่ท่านเปลี่ยนแบบไม่บอกเรา เพราะกลัวว่าท่านปฏิบัตินอกลู่นอกทาง แต่ไม่ใช่ครับ ท่านปฏิบัติถูก แต่เพียงแต่ว่าท่านไม่กล้าบอก

เนื่องจากว่าครูบาอาจารย์ดำเนินมาตามแนวนั้น ก็ต้องไปตามแนวนั้น แต่ท่านแอบ ๆ ทำตามแนวที่ท่านเห็นประโยชน์แล้ว ผมขอยืนยันครับ หลายต่อหลายท่านกลับมาหาสมาธิภาวนา ทรงฌาน ทรงสมาบัติกันหมด หลายท่านผมรู้จักคุ้นเคยดีด้วย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 18-08-2021, 01:36
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าในเรื่องของสายพองยุบนั้น เหมือนกับให้เราถอดเกราะ ทิ้งอาวุธ แล้วขึ้นไปชกกับไมค์ ไทสัน ด้วยมือเปล่า ตายกับตายอย่างเดียวครับ..! เขาให้เราใช้แค่ขณิกสมาธิ หรืออุปจารสมาธิ ซึ่งผมบอกว่าไม่พอกินครับ ไม่พอใช้งาน สู้กิเลสไม่ได้ครับ

ครูบาอาจารย์ท่านก็อธิบายว่า 'เราค่อย ๆ สะสมไปทีละเล็กทีละน้อย เหมือนเก็บงาทีละเมล็ด นานไปก็มีมากพอที่จะคั้นเอาน้ำมันมาใช้งานได้'

'ใช่ครับ..แต่ผมทำสมาธิแล้วผมมีงาเป็นเกวียน ทำไมผมต้องไปเก็บทีละเมล็ดละครับ ?'

ท่านก็อธิบายว่า 'ในเรื่องของอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา เราต้องทำให้เสมอกันถึงจะเกิดผล'

'ใช่เป๊ะเลยครับ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ทำไมท่านต้องให้ผมลดในเรื่องของศรัทธา วิริยะ สติ ปัญญาลงไปเหลือแค่ระดับเดียวกับอุปจารสมาธิที่ไม่พอใช้งานละครับ ? ทำไมเราไม่ยกเอาศรัทธา วิริยะ สติ ปัญญาให้ขึ้นมาเท่ากับกำลังสมาธิของเรา ก็เสมอกันอยู่แล้ว และใช้งานได้ทันทีไม่ใช่หรือครับ ?'

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 18-08-2021, 01:39
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ตรงจุดนี้..ถ้าท่านทั้งหลายปฏิบัติไปแล้วเกิดปัญหา สามารถสอบถามผมเป็นการส่วนตัวได้ครับ เพราะว่าเวลาผมอยากจะรู้อะไรผมจะทำจริง ๆ กรรมฐานทุกสายในประเทศไทย ผมทำมาหมดแล้ว ผมสามารถบอกได้ว่าแต่ละสายมีจุดเด่นตรงไหนบ้าง

แล้วขณะเดียวกัน..เท่าที่ปฏิบัติมา สายพองยุบนี้มีจุดด้อยมากที่สุดครับ หลงตัวเองได้ง่ายที่สุดเลย เพราะว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติไป ครูบาอาจารย์จะบอกว่า 'เอ้า! ท่านผ่านญาณ ๑๖ แล้ว' พอผ่านญาณ ๑๖ นี่เขาฟันธงว่าเป็นพระโสดาบันแล้วนะครับ..!

แต่ตอนที่ท่านไปส่งอารมณ์ พอเฉียดนามรูปปริจเฉทญาณแค่สะเก็ดเดียว ท่านก็จะบอกว่าเราได้ญาณนั้นแล้ว..ใช่หรือครับ..??!

สมมติว่าญาณนั้นเป็นรถเบนซ์ราคาสามล้านห้าแสนบาท เราเฉียดเข้าแค่ ๕ บาท อาจารย์ก็บอกว่าเราได้ญาณนั้นแล้ว เราก็ไปหลงตัวเองว่ากูได้แล้ว ตรงจุดนี้ น่ากลัวมากนะครับ เพราะผมถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิไปเลย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 18-08-2021, 01:41
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในส่วนของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยของเรา นิยมการปฏิบัติสายพองยุบ เราก็ปฏิบัติตามไปครับ แต่ว่าปฏิบัติไป..ปฏิบัติไป พอถึงระดับหนึ่งเราจะเห็นเองครับว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ใช้ได้จริงหรือใช้ไม่ได้จริง ?

เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อปฏิบัติไปแล้ว กลับมากำลังใจตกเป็นหมาขี้เรื้อนเหมือนเดิมทุกราย..! มีแต่ครูบาอาจารย์ไม่กี่ท่าน ที่ท่านแอบปฏิบัติไปตามสายของวิสุทธิมรรค โดยที่ไม่บอกเรา แล้วท่านก็รักษาอารมณ์ใจของท่านได้ เวลาผมเจอหน้า ผมแอบถามท่านว่า "ใช่ไหม ?" ท่านก็ยอมรับตรง ๆ ว่า 'ใช่' ครับ

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ท่านทั้งหลายปฏิบัติในเบื้องต้น ตามเขาไปได้ทุกก้าวครับ แต่ถ้าหากว่าเบื้องปลายเมื่อไร ก็จะเกิดทุกข์เกิดโทษอย่างที่เห็นมา กลายเป็น 'ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา' อย่างที่เขายกตัวอย่างว่า "ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ปฏิบัติธรรมตั้งแต่เริ่มบวชตอนอายุ ๒๐ หกสิบปีผ่านไป ท่านอายุ ๘๐ ก็บรรลุมรรคผล" แล้วถ้าเราอายุไม่ถึง ๘๐ จะได้อะไรไหมครับ ?

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 18-08-2021, 01:44
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 73,848 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ตรงส่วนนี้ขอฝากไว้เป็นข้อคิดก่อนที่ท่านทั้งหลายจะปฏิบัติธรรมถวายพระราชกุศล ซึ่งความจริงแล้วผมไม่อยากจะพูดอย่างนี้ เพราะว่าสิ่งที่ผมพูดจะทำให้ท่านเสียหายหมดเลย เสียตรงที่ว่าท่านจะไปนั่งฟุ้งซ่านตอนปฏิบัตินี่แหละครับ

แต่ในเมื่อมาในฐานะของประธานในพิธีเปิด ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบอกกล่าวในบางสิ่ง ที่กระผม/อาตมภาพอยากจะใช้คำว่า "ชัดเจนกว่าท่านทั้งหลายอยู่บ้าง
" ให้ท่านได้ฟังและเข้าใจเอาไว้ แล้วหลังจากนี้ถ้าหากว่าปฏิบัติไปแล้ว เกิดปัญหาอะไร ถ้าไปไม่เป็นจริง ๆ ก็เสาะหาผมได้ครับ ยินดีที่จะช่วยเหลือ

ตอนนี้ก็จะเลยระยะเวลาแล้ว ขอถือโอกาสเปิดโครงการปฏิบัติกรรมฐานเนื่องในวันแม่แห่งชาติ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุ ๘๙ พรรษา ณ ที่นี้

ขอเปิดการปฏิบัติธรรมตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปครับ ขอสวัสดีและเจริญพรแก่ญาติโยมทุกท่านด้วยครับ


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
โอวาทในพิธีเปิดการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติวันแม่แห่งชาติ
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-08-2021 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 19 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว