|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#201
|
||||
|
||||
ถาม : น้องชายเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก จะให้ทำบุญอย่างไรให้เขาได้คะ ?
ตอบ : มีอะไรทำได้ทั้งนั้นแหละ เพราะว่าเรื่องนี้เป็นกรรมเก่าจากชาติก่อน ๆ แก้ไขชาตินี้ไม่ทันหรอก มีอย่างเดียวก็คือ ชาตินี้ให้เขาทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องของยานพาหนะ จะเป็นรถราช้างม้าวัวควายอะไรก็ได้ ชาติหน้าเขาจะได้หายจากอาการอย่างนี้ ของเก่าทำมาชาตินี้รับ ของใหม่ทำชาตินี้ชาติต่อไปรับ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:37 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#202
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “มีสิ่งหนึ่งที่น่าดีใจคือ ตลาดค้าสัตว์ป่าที่อู่ฮั่น รัฐบาลจีนพยายามอย่างไรก็ปิดไม่ได้ พอโรคนี้ระบาดขึ้นมาก็ปิดได้เต็มที่เลย ประมาณว่าต่อไปเอ็งไม่ต้องเปิดอีกแล้ว
ครั้งแรกที่ได้ยินว่าไวรัสกำเริบมาจากตลาดสัตว์ป่า อาตมาก็ไปดู พวกที่ล้มหายตายจากที่นั่นเขาแห่กันมาเป็นล้านเลย..! บอกว่าแล้วจะมาฟ้องข้าทำไม ? มีประโยชน์อะไร ? ข้าทำอะไรไม่ได้ อยากฟ้องก็ไปฟ้องพระยายมสิวะ ...(หัวเราะ)... ต้องบอกว่าทั้งมีเท้า ทั้งไม่มีเท้า ทั้งมีปีก ทั้งไม่มีปีก ทั้งในน้ำ ทั้งบนบก มากันหมด แสดงว่าคนเรานี่กินสารพัดจริง ๆ งูเงี้ยวเขี้ยวขอบางตัวใหญ่เป็นเสาเรือนยังอุตส่าห์เอามากินอีก..! สัตว์ป่าเวลาเขาอยู่กับธรรมชาติเป็นเวลาที่เขามีความสุขที่สุด แล้วโดนมนุษย์เอามากักขังก็หมดสภาพ ถ้ายิ่งโดนเอามาขังเพื่อกินก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:38 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#203
|
||||
|
||||
“ไปดูสัตว์ในสวนสัตว์ พวกเก้ง พวกกวาง สีสันดูซีด ๆ มอ ๆ อย่างไรไม่รู้ แต่เวลาที่ไปธุดงค์นี่ เก้งบางตัวเดินมา สีส้มแปร๊ดเลย แสดงว่าเวลาอยู่ในธรรมชาติ เขามีความสุข สภาพร่างกายก็เลยแสดงออกเต็มที่ เวลาอยู่ในกรงก็สีทึม ๆ เทา ๆ ดูไม่ได้เลย
พวกนี้ส่วนใหญ่ขี้สงสัย เห็นพระมาก็เดินเมียงมองตามดูไปเรื่อย บางทีเดิน ๆ ไปก็เจอวัวป่าทั้งฝูง เจ้าพวกนี้ถ้าเราไม่สังเกตจะคิดว่าเป็นวัวบ้าน ต่างกันอยู่ตรงรูปร่างจะกำยำล่ำสันทะมัดทะแมงกว่า แล้วขาจะมีถุงเท้าขาว ๆ ก้นก็มีวงขาว ๆ พอเห็นพระก็หยุดกันหมด อาตมาก็ยื่นมือให้ เจ้าตัวจ่าฝูงก็เดินมาดม เสร็จแล้วก็หันไปร้องบอกพวก พวกเขาก็เดินมาดมทีละตัว ๆ พอดมครบทั้งฝูงก็ไป ดูแล้วน่ารักดี ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:39 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#204
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ธนาคารชาติบอกว่า เมื่อรับเงินเก่าคืนมาก็จะกักไว้ ๑๔ วัน แล้วค่อยปล่อยออกไปหมุนเวียนในตลาดใหม่ ไม่ใช่แต่คนนะ แม้แต่ธนบัตรก็ยังโดนกักบริเวณเลย..! เขาบอกว่าเชื้อโรคติดบนธนบัตรเก่าได้
มีข้อแนะนำว่าผู้หญิงมีความทนต่อเชื้อโรคมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้น..ได้เงินมาก็ให้รีบฝากเมียเอาไว้..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:40 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#205
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “มาที่นี่ราคาเดียวกันหมด คุณหญิงคุณนาย นายพลนายพัน เจ้าอาวาสวัดท่าขนุนท่านเห็นเหมือนกันหมด ญาติโยมเขาก็เริ่มทำใจได้กันเยอะแล้ว ก่อนเข้าวัดก็ถอดยศถอดตำแหน่งกองเอาไว้ที่หน้าวัดก่อน มาตัวเปล่าดีที่สุด”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:40 |
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#206
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “สมมตินะ..สมมติว่าเราไม่มีหู จะใส่หน้ากากอย่างไร ? ...(หัวเราะ)... ก็คือถ้าอาตมาเป็นบริษัทผลิตหน้ากาก ต้องคิดเผื่อว่าคนไม่มีหูเขาต้องใส่ได้ แทนที่จะทำเป็นที่คล้องหู ก็ควรจะทำเป็นสายรัดข้ามหัวไปเลยไหม แบบหน้ากากออกซิเจนบนเครื่องบิน ถ้าหากว่าคิดข้ามช็อตแบบนั้นจะแก้ไขได้ทุกปัญหา ไม่มีหูก็ใส่ได้ แต่ถ้าไม่มีจมูกก็ไม่ต้องใส่..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:41 |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#207
|
||||
|
||||
พระอาจารย์รับของที่กำลังตกขณะให้พร “โปรดอย่าขี้ตกใจ จะทำให้แก้ไขสถานการณ์ไม่ได้ ให้พรไปมือก็จับได้ ...(หัวเราะ)... คือมีอะไรแบบนี้บ่อย ๆ ทำอะไรได้เดี๋ยวญาติโยมรู้หมด..!
สำคัญที่สุดคือสภาพจิตที่มั่นคงไม่หวั่นไหว ถ้าหากว่าสภาพจิตมั่นคงไม่หวั่นไหว รัก โลภ โกรธ หลง ก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ หมานี่รู้มากกว่าคน ที่นี่ตวาดแว้ดคนหัวหด ส่วนที่วัดตวาดแว้ดหมาเลียแผล็บ ไม่สนใจเลย ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2020 เมื่อ 10:42 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#208
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “การไปธุดงค์สิ่งหนึ่งที่ได้ก็คือ การเอาตัวรอดในป่า ไม่ได้พูดถึงหลักธรรมที่จะได้นะ
คำว่า การเอาตัวรอดในป่า คือ บางทีเดินไปสิบกว่าวันไม่มีบ้านคน แล้วจะทำอย่างไร ? หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยฉันใบเปราะป่า พวกเราไม่รู้จักต้นเปราะ...อดตายอีก ...(หัวเราะ)... ใบสักเท่าฝ่ามือนี่แหละ มีลอน ๆ ของเส้นใบอยู่หน่อยหนึ่ง ส่วนใหญ่ใบจะมีลาย ๆ ไปดึงใบกลางที่ยังม้วน ๆ ขึ้นมาแล้วก็ฉัน ที่ตลกกว่านั้นก็คือ เวลาไปกับกะเหรี่ยงเขาสอนให้กิน ใบไม้อย่างนี้กินได้ แบบนี้กินไม่ได้ ก็ไปเจออย่างหนึ่งกินได้ ใบโตประมาณฝ่ามือเหมือนกัน ต้นก็ขึ้นติดกับดินนี่แหละ ก็เก็บ ๆ ๆ ได้มาถังเบ้อเริ่มเลย เป็นถังเลยนะ ขนาดถังพลาสติกสังฆทาน ปรากฏว่าพอลวกน้ำร้อนแล้วเหลือหยิบมือเดียว หดหายหมดเลย ...(หัวเราะ)... คิดว่าเก็บไปทำไมเป็นถัง ? ที่ไหนได้เหลือไม่ถึงครึ่งชาม..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:42 |
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#209
|
||||
|
||||
“ยังดีว่าเวลาธุดงค์แล้วมีฆราวาสผู้ชายไป เพราะว่าศีลพระบางทีก็ห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามพรากของเขียวก็เด็ดใบไม้ใบหญ้าไม่ได้ บางทีก็ชวนกันกินของยากอย่างยอดหวาย โอ้โฮ..กว่าจะดึงลงมาได้สักยอดหนึ่ง บางทีก็ดวงเฮงมากเลย มีเจ้าของคอยหวง กำลังดึง ๆ อยู่ ต่อบ้าง แตนบ้าง ไล่ต่อยหัวหูปูดหมด คราวนี้บางทีไม่มีต่อ ไม่มีแตน พอฟันยอดเข้า มดที่ทำรังอยู่ก็แห่กันออกมา
ยอดหวายนี่เขาเรียกว่าอาหารชั้นสูง อยู่สูงลิบเลย..! ก็ลักษณะเดียวกันแหละ ปอกไปปอกมา อุตส่าห์ฟันเสียจนป่าจะถล่มทลายคิดว่าได้เยอะ พอถึงเวลาส่วนที่กินได้เหลืออยู่ประมาณหัวแม่มือ ช่างมีมานะกันจริง ๆ..! เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าอยู่บ้านแล้วใครบ่นว่าจะกินแกงยอดหวายนี่อาตมาจะ "โบก" ให้..! รู้หรือเปล่าว่าทำยากแค่ไหน ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:43 |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#210
|
||||
|
||||
“ของที่กินง่ายที่สุดก็คือพวกเต่ารั้ง เต่ารั้งเป็นต้นปาล์มชนิดหนึ่ง ถึงเวลาก็ฟันยอดมาแล้วลอกเอาข้างใน พอหั่นเป็นชิ้น ๆ แล้วเหมือนอย่างกับหน่อไม้ กรอบสดทีเดียว จัดการต้มน้ำ เทลงหม้อ พอรอให้สุกก็แกะเครื่องปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเทลงไป ถ้าได้รสน้ำพริกเผาหรือต้มยำก็ยิ่งดี เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม เพราะว่าไม่มีให้แลก ทนกินไปเถอะ..!
บางทีพระท่านออกมาพูดกันข้างนอก ได้ยินแล้วอยากจะถีบให้สักที ท่านบอกว่า “อาจารย์พาไปธุดงค์เที่ยวนี้ พาไปกินแกงเต่าเสียหลายวัน” คนก็มองตาเขียวปั๊ด พระไปเอาเต่ามาแกงหรืออย่างไร..!? กว่าจะเฉลยว่าเป็นต้นเต่ารั้ง ...(หัวเราะ)... แล้วเวลาเดินป่านั้น ส่วนที่ง่ายที่สุดก็คือไปตามลำห้วยลำธาร นอกจากไม่รกมากแล้ว ยังหากินอะไรง่าย แต่คราวนี้ก็อย่างว่าแหละ พระจะไปล่าสัตว์อะไรได้ ต่อให้เห็นอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่มองตาปริบ ๆ บางทีไปเจอกระทิงตัวใหญ่พอ ๆ กับช้างเลย ได้แต่นั่งภาวนาให้กระทิงเป็นลมตาย พวกเราจะได้มีเนื้อกระทิงกินบ้าง..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:45 |
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#211
|
||||
|
||||
“บางช่วงพอเดินป่าติด ๆ กันเป็นอาทิตย์ ๆ บางทีก็เป็นเดือน ร่างกายขาดสารอาหารมากก็หิวไส้แขวนเลย มองลงไปในลำธาร โอ้โฮ...อะไรจะอุดมสมบูรณ์ปานนั้น พวกปลาเวียนตัวยาวประมาณแขนเรา แล้วแหม...แต่ละตัวรูปร่างอย่างกับตอร์ปิโด ทุกตัวจะหันทวนน้ำหมด มีอะไรหล่นใส่น้ำนี่พุ่งใส่กันเป็นร้อยเลย แย่งอาหารชิ้นเดียวกัน แล้วทำอย่างไร..ก็ได้แต่มอง เพราะว่ารอว่าเมื่อไรปลาจะเป็นลมตาย จะได้เอามากิน..!
ในเมื่อล่าสัตว์ไม่ได้ เหลืออย่างเดียวก็คือพวกผักพวกหญ้า หลายอย่างอาตมาไม่รู้มาก่อนเลยว่ากินได้ พืชผักบางอย่างต้องเผาไฟก่อน ประมาณสะเดาฟาดไฟอะไรอย่างนั้น เผาไฟแล้วจะอร่อย บางอย่างก็ต้องลวกต้องต้มก่อน บางอย่างก็กินสดได้เลย กว่าจะรู้ว่าอะไรกินได้ อะไรกินไม่ได้ก็หกล้มหกลุกมาเสียหลายป่า เพราะฉะนั้น..ปัจจุบันนี้เวลาเดินป่าแล้วชี้ว่าโน่นกินได้ นี่กินได้ ก็ไม่ต้องแปลกใจนะ เพราะว่าสมัยก่อนกินมาแล้วทั้งนั้น..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:47 |
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#212
|
||||
|
||||
“อย่างลูกส้านนี่น่ากินมาก กลิ่นหอม บางทีชาวบ้านเรียกว่าขนุนป่า ตอนแรกก็สงสัย ขนุนบ้านเอ็งสิหน้าตาอย่างนี้..! แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรเลยนอกจากกลีบ เป็นกลีบหนา ๆ แล้วก็ห่อรวมกันเข้าไป จนดูเหมือนผลไม้ลูกหนึ่ง ...(หัวเราะ)...
แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่สุดคือเถาวัลย์น้ำ เพราะว่าถ้าเราฟันส่วนยอดจะตายเลย คือไม่น่าเชื่อว่าเถาวัลย์จะเก็บน้ำได้เยอะขนาดนั้น ถึงเวลาฟันด้านโคนขาด ไปฟันด้านปลาย น้ำไหลจ๊อกลงมาเลย ถ้าฟันมาสักช่วงแขนหนึ่งนี่ได้น้ำเป็นแก้วใหญ่ ๆ เลย ต้นไม้สมุนไพรบางอย่างต้มน้ำกินเข้าไปแล้วตาค้าง นอนไม่หลับ ดีดยิ่งกว่ากาแฟอีก พวกโลดทะนง โคคลาน กำลังกระทิง อะไรพวกนั้น โลดทะนงนี่หัวอยู่ใต้ดิน ต้องเรียกว่ารากนะ พวกกำลังกระทิงหรือโคคลานนี่ฟันเอาเฉพาะเปลือกก็ได้ บางที่น้ำไม่สะอาด เขาก็เอาเปลือกไม้บางอย่าง ชื่อภาษาไทยอาตมาไม่รู้จัก รู้จักแต่ชื่อกะเหรี่ยง เพราะว่าคนนำทางเป็นกะเหรี่ยง ถึงเวลาใส่ลงไปต้มด้วย น้ำจะเป็นสีเหลือง ๆ หน่อย เขาบอกว่าฆ่าเชื้อโรคได้”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:48 |
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#213
|
||||
|
||||
“เพราะฉะนั้น..บางทีเข้าป่าไปธุดงค์ ไม่ต้องไปหวังเรื่องบรรลุธรรมอะไร เอาแค่การเอาตัวรอดในป่าก็เป็นเรื่องที่ศึกษากันแทบจะไม่รู้จบอยู่แล้ว
บางทีเห็นคนนำทางเขาเก็บรองเท้าแตะเก่า ๆ ไปครึ่งข้าง เอ็งจะเอาไปทำอะไรวะ ? ถึงเวลาหน้าฝนแล้วฝนตก เขาเอามีดปาดรองเท้าเก่า ๆ มาเป็นแผ่นบาง ๆ ไว้จุดไฟ โอ้โฮ..ติดดีอย่าบอกใครเลย ก่อไฟได้ด้วยพื้นรองเท้าแผ่นนิดเดียว สรุปก็คือรองเท้าที่เราโยนทิ้งแล้ว พวกที่หมาแทะนั่นแหละ ใช้ยังชีพในป่าได้..!”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:49 |
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#214
|
||||
|
||||
ถาม : สมเด็จองค์ปฐมนั่งอยู่บนราหู ...(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : คือวันก่อนไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดศีรษะทอง อัญเชิญสมเด็จองค์ปฐมท่านมา แล้วท่านก็พูดแบบล้อเล่นนั่นแหละ “ไม่มีที่นั่ง เอาตรงนี้ละวะ” แล้วท่านก็ประทับบนเศียรพระราหูไปเลย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:50 |
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#215
|
||||
|
||||
ถาม : ผมต้องดูแลแม่ แล้วถ้าเกิดแม่ติดเชื้อโคโรนาจากผม ผมจะโดนโทษไหมครับ ?
ตอบ : ต้องแสดงความรักด้วยการกอดแม่ทุกวัน..! ถาม : ถ้าแม่เกิดติดเชื้อขึ้นมา เราจะมีกรรมไหมครับ ? ตอบ : กรรมอะไร ? ถาม : กลัวครับ เหมือนเราติดเชื้อ แม่เป็นอัมพาตอยู่แล้ว ? ตอบ : จะมีกรรมก็ต่อเมื่อเราเจตนาจะแพร่เชื้อให้แม่ ในเมื่อเราไม่ได้เจตนาแพร่เชื้อให้แม่ ถึงเวลาเชื้อดันตะกายตามเราเข้าบ้านไปเองจะไปโทษใครได้ ? ก็ต้องโทษกรรมเก่าของแม่ อย่าทำตัวเป็นลูกผู้ชายขนานแท้รับผิดชอบไปทุกเรื่อง แบบนี้เขาเรียกว่ารับผิดชอบแบบโง่ ๆ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:51 |
สมาชิก 132 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#216
|
||||
|
||||
ถาม : พอดีที่คลองไผ่ เขาจะมาประเมินภาษีใหม่ ทางอบต.เขาบอกว่าจากการที่เราให้เขาเช่าไว้นั้น ไม่ตรงประเด็นที่จะเป็นการครอบครองที่ จะคุยกับเขาอย่างไรหรือว่าต้องขอเจ้าที่ด้วยคะ ?
ตอบ : ต้องถามเขาสิว่าต้องทำอย่างไร ? จะได้แก้ไขทันเวลาหรือเปล่า ? ถ้าแก้ไขทันเวลาก็แก้ไป หมดท่าจริง ๆ แล้วค่อยไปใช้ไสยศาสตร์...(หัวเราะ)... อะไรที่ใช้ความสามารถของคนทั่ว ๆ ไปได้ ให้รีบทำไว้ก่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:52 |
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#217
|
||||
|
||||
ถาม : มีตอนหนึ่งที่เหมือนร่างกายไม่ปกติมาก ๆ แล้วรู้สึกว่าตายแน่ ๆ ก็จับพระนิพพานคิดว่าไม่เอาแล้ว ไปดีกว่า แต่องค์ภาวนาก็ยังอยู่ แล้วรู้เลยว่าตอนนั้นเหมือนกับคาถาเงินล้านไม่เอาเลย ที่ขึ้นมากลายเป็นพุทโธกับโสตัตตะภิญญา ก็รู้ว่าไม่เอาแล้วจะเกาะพระ แต่ก็งงว่ายิ่งบีบคั้นก็ยิ่งกลายเป็นเหลือแต่โสตัตตะภิญญา พุทโธก็ไม่เอาเหมือนกัน พอรอดมาได้ก็มางง ๆ ว่า จะตายอยู่แล้วทำไมไม่เกาะพุทโธ แต่ภาพพระก็อยู่ พระนิพพานก็อยู่ หรือว่าองค์ภาวนาไม่ใช่สาระ ?
ตอบ : องค์ภาวนานอกจากไม่ใช่สาระแล้ว ยังทำให้ยึดติดอีกต่างหาก แต่เรื่องนี้พูดไปก็เกินความสามารถ อย่าเพิ่งไปพูดถึง สำคัญที่สุดคือว่า ก่อนตายกำลังใจเราเกาะความดีส่วนไหนได้บ้าง จะเป็นแบบใดแบบหนึ่งได้ทั้งนั้น เพราะถ้าหากว่าเกาะในส่วนของความดีได้ กุศลทั้งหมดจะเข้ามารวมตัว กำลังเรามีเท่าไรจะส่งผลให้ไปยังจุดที่เราต้องการ แต่ถ้าเรามัวแต่เดี๋ยวจะเกาะอันโน้น เดี๋ยวจะเกาะอันนี้ ถ้าไม่ได้อย่างที่ฉันต้องการ ฉันไม่เอา ก็บรรลัยเท่านั้น เพราะเท่ากับว่าเราไปปฏิเสธในสิ่งที่จิตเราชินและแสดงออกเอง อะไรก็ได้ที่เป็นด้านความดีให้เอาไว้ก่อน แล้วหลังจากนั้นพอถึงเวลา ความดีทั้งหมดจะรวมตัวเอง แต่อย่าลืมว่านี่ยังเป็นการติดดีอยู่ ถ้าจะเอามากกว่านั้นต้องทำให้มากกว่านี้ แล้วถึงเวลาจะปล่อยดีเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:53 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#218
|
||||
|
||||
ถาม : ปีนี้ลูกอยู่ ป.๕ สอบ แต่เขาสอบเข้าเรียนต่อได้แล้ว ย้ายไป ป.๖ โรงเรียนใหม่และต่อ ม.๑ ได้เลย เพราะโรงเรียนให้สอบก่อนได้ก่อน แต่ว่าหนูยังไม่ให้เขาเข้า จะให้เขาไปสอบปีหน้า แต่หนูก็ไม่รู้ว่าเขาจะสอบติดหรือเปล่า ?
ตอบ : แล้วทำไมต้องให้ลูกลำบากอีกปีหนึ่ง ? ถาม : เพราะว่าหนูอยากพิสูจน์ความตั้งใจของเขาก่อน เพราะว่าค่าเทอมแพงค่ะ แล้วหนูกลัวว่าเดี๋ยวไปเรียนแล้วเขาจะไม่ตั้งใจ ? ตอบ : ถ้าตั้งธงไว้แล้วก็ทำตามธงของเรา แต่ว่าถามใจลูกหรือเปล่าว่าลูกเขาต้องการหรือไม่ต้องการสิ่งที่เราตั้งไว้ ? ถาม : เขาอยากเข้าปีนี้ แต่หนูอยากให้พิสูจน์ความตั้งใจเขาก่อนแล้วค่อยเข้าปีหน้า แต่หนูก็กลัวว่าเขาจะสอบไม่ติด ? ตอบ : จำไว้ว่าตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้ สิ่งที่เราตั้งใจให้ลูกนั้นไม่เคยได้สักที แล้วยังจะไปยัดเยียดให้ลูกเขาอีก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-03-2020 เมื่อ 21:17 |
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#219
|
||||
|
||||
นิสัยของจูนมีความบกพร่องอย่างร้ายแรงอยู่ที่หนึ่ง ก็คือต้องการที่จะบงการทุกอย่าง ตรงนี้จะทำให้ครอบครัวพังได้ง่าย ๆ ทำไมไม่ลองปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมชาติบ้าง ? แล้วเราปรับใจให้ยอมรับแทน ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องยอมรับเรา ไม่ใช่เรื่องของหลวงพ่อที่จะพูดหรอก แต่เดี๋ยวเราก็ไปทำให้ทุกอย่างพังจนได้
สังเกตไหมว่าเวลาคนอื่นเขาทำอะไรที่ไม่ตรงกับความต้องการ เราจะรู้สึกขัดใจมาก แล้วก็โมโหข้ามวันข้ามคืน ? เป็นนิสัยที่เสียที่สุดเลย มีเด็กหลายต่อหลายครอบครัวที่อนาถมาก เพราะว่าสิ่งที่ตัวเองทำกับสิ่งที่พ่อแม่ต้องการนั้นไปกันไม่ได้ แล้วเด็กทั้งหลายเหล่านั้นก็โดนพ่อแม่ปั้นไปในทางที่ไม่ใช่ของตัวเอง ปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ อย่าไปตั้งความหวังกับคนอื่น ลูกทำได้ดีแค่ไหน เราพอใจแค่นั้น ชีวิตจะมีความสุขขึ้นอีกมาก พอ ๆ กับพ่อแม่บางคนนั่นแหละ ลูกบวชอยู่ อยากให้ลูกอยู่ใจจะขาด ลูกก็จะสึกวันสึกพรุ่ง สิ่งที่พ่อแม่อยากกับสิ่งที่ลูกอยากเป็นคนละเรื่องกัน คนรอบข้างไม่มีใครกล้าบอกเราหรอก เพราะเขารักตัวเขาเองมากกว่า เขากลัวเราโกรธ คราวนี้พอเราไม่รู้จุดบกพร่องตัวเอง เราก็แก้ไขตัวเองไม่ได้สักที
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-03-2020 เมื่อ 01:55 |
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#220
|
||||
|
||||
ถาม : ตัวรู้กับสติ คือตัวเดียวกันไหมครับ ?
ตอบ : สติคือการนึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว แต่ตัวรู้คือจิต ส่วนสติกับสัมปชัญญะเป็นการรับรู้ของจิต ถาม : ถ้าเราทำสมาธิจนจิตเรามีสติสัมปชัญญะไปด้วย จะ... (ไม่ชัด) ? ตอบ : เป็นไปได้อย่างไรที่ทำสมาธิแล้วจะไม่มีสติสัมปชัญญะ ? ถ้าไม่มีสติสัมปชัญญะก็ทรงสมาธิไม่ได้อยู่แล้ว ที่ไม่มีสติเดินตาลอยแก้ผ้าอยู่นั่นทำสมาธิได้ไหมเล่า ? ถาม : การที่เราทำสมาธิดำดิ่งลงไป การที่เราดำดิ่งก็คือเรามีสติ ? ตอบ : เรามีหน้าที่ตามดูตามรู้อยู่ ก็แปลว่าสติสัมปชัญญะต้องครบถ้วน ไม่อย่างนั้นเอ็งก็อาจจะหลุดจากสมาธิไปเพราะว่าสติตามไม่ทัน..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2020 เมื่อ 02:40 |
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|