กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-06-2022, 19:23
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,278
ได้รับอนุโมทนา 739,968 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 08-06-2022, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,261 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ ความจริงวันนี้น่าจะเป็นวันว่าง แต่กลายเป็นว่าต้องทำงานมากที่สุด หลายท่านที่ติดตามการทำงานของกระผม/อาตมภาพจากทางเฟซบุ๊ก หรือว่าเว็บไซต์วัดท่าขนุน อาจจะสงสัยว่าวันนี้ไม่มีงานการอะไรที่อัพขึ้นเลย แล้วไปทำงานอะไรมากมายขนาดนั้น ? ก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นงานเอกสารทั้งหมด แค่ออกเอกสารเชิญประชุมก็หน้ามืดแล้ว เพราะว่าแต่ละคน...ต้องบอกว่าจะมีส่วนหนึ่งที่แบกทิฏฐิไว้เต็มที่ ไม่เชิญประชุมก็ไม่มา เชิญประชุมบางทีก็ไม่มา ไม่เชิญโกรธก็อีกต่างหาก..!

ถ้าหากว่าโดยนิสัยของกระผม/อาตมภาพจริง ๆ แล้ว ก็ไม่แยแสคนทั้งหลายเหล่านี้หรอก แต่ว่าการทำงานเพื่อส่วนรวม เราต้องนึกถึงความสำเร็จของการงาน ไม่ใช่เอากิเลสไปชนกัน ในเมื่อเป็นไปในลักษณะอย่างนั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ การที่เราจะต้องลดทิฏฐิมานะ เพื่อที่จะให้ส่วนรวมไปได้ ก็ต้องยอมอดทน อดกลั้น แม้ว่าไม่อยากจะทำก็ต้องทำ ซึ่งตรงนี้หลายต่อหลายท่านใช้คำว่า "อยู่เป็น" ก็คือ ถ้าหากว่าเรา "อยู่เป็น" การงานต่าง ๆ ก็จะไปได้ง่าย แต่ถ้าเรา "อยู่ไม่เป็น" ทำตัวเหมือนเม่นที่พองขนใส่กัน ก็มีแต่จะทิ่มแทงคนอื่น

ความจริงแล้วกระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์ให้ไปปลุกเสกวัตถุมงคลในงานใหญ่มาก แต่ว่าที่ไม่ไปนั้น มี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกนั้นสำคัญที่สุด ก็คืออยู่ในช่วงจัดปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ์ พระบรมราชินี ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

เมื่อปฏิเสธไป อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้สนใจว่าสิ่งที่กระผม/อาตมภาพทำอยู่นั้นสำคัญแค่ไหน มองแต่ความสำคัญในงานส่วนของตัวเองเท่านั้น ถึงขนาดพูดในทำนองว่า "ถ้าไม่ไปก็ต้องรายงานท่านประธาน" ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของคณะสงฆ์ คงคิดว่ากระผม/อาตมภาพจะกลัวกระมัง ?

โดยหลักปฏิบัติเฉพาะตนของ
กระผม/อาตมภาพแล้ว ถ้ารับงานไหนไว้ก่อน งานถัดไปต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหน กระผม/อาตมภาพก็ไม่ไป ยกเว้นว่าถ้าเป็นงานส่วนตัวแล้วงานคณะสงฆ์เข้ามา ก็จะเอางานคณะสงฆ์เป็นใหญ่ ถ้าหากว่าเป็นงานคณะสงฆ์ แล้วมีงานในรั้วในวังเข้ามา ก็จะเอางานในรั้วในวังเป็นใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 08-06-2022, 00:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,261 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อลำดับความสำคัญในลักษณะอย่างนี้ ท่านเจ้าของงานย่อมไม่พอใจ เพราะว่าเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ก็คืองานของกูต้องสำคัญที่สุด หลายต่อหลายที่ก็เป็นแบบนี้ นี่เป็นประการแรกว่า กระผม/อาตมภาพติดงานสำคัญที่จัดอยู่ แล้วก็เชื่อว่าคงไม่มีงานอะไรที่สำคัญไปกว่านั้นได้ เพราะว่าเป็นเรื่องของการจัดงานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินี

ความจริงอยากจะถามกลับไปเหมือนกันว่า "คุณเห็นว่างานของคุณสำคัญกว่างานตรงนี้จริง ๆ หรือ ?" แต่ก็ไม่อยากที่จะไปสร้างกายกรรม วจีกรรมอะไรมากมาย เมื่อบอกปฏิเสธไปแล้ว คุณจะฟังเหตุผลหรือไม่ฟังเหตุผล กระผม/อาตมภาพก็วางสายแล้ว

ประการที่ ๒ ก็คือ ไม่มีการติดต่อมาล่วงหน้ามาก่อนเลย มีหนังสือนิมนต์มาถึงก็กระชั้นชิดกับงานมากแล้ว อย่าลืมว่าตัวกระผม/อาตมภาพนั้น หลายคนนิมนต์ข้ามปียังไม่ได้ตัวเลย ติดต่อก็ไม่ติดต่อมาก่อน มีหนังสือฉบับเดียว เหมือนอย่างกับชี้นิ้วสั่งให้ไปร่วมงาน อยากจะถามเหมือนกันว่า "สำคัญตัวเองผิดขนาดนั้นเลยหรือ ?" แต่ก็ไม่อยากให้มีเวรมีกรรมผูกพันกันมากมาย จึงได้แต่ปฏิเสธไปเท่านั้น

ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าก็เพราะว่าไม่อยากให้พวกเราทุกคนอยู่ในลักษณะอย่างนั้น โดยเฉพาะการทำงานเพื่อคณะสงฆ์ หรือทำงานเพื่อวัด เราต้องคำนึงถึงส่วนรวมเป็นใหญ่ ไม่ใช่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก

เหมือนอย่างที่มีพราหมณ์เข้าไปแสดงทัศนคติต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า "ข้าแต่สมณโคดม ข้าพเจ้ามีความเห็นว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ข้าพเจ้าไม่ชอบใจทั้งหมด" พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบไปว่า "ถ้าอย่างนั้นท่านก็ต้องไม่ชอบใจแม้กระทั่งตัวของท่านเองด้วย..!"

แต่ว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็ยังมีคนเป็นจำนวนมาก ที่ยังแบกกิเลสอยู่ในลักษณะนี้เป็นปกติ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลก ไม่ได้สนใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไร ขาดหลักธรรมในข้อสมานัตตตาเป็นอย่างมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 08-06-2022, 00:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,261 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกว่า พวกเราแปลคำว่า สมานัตตตา ผิดมาตั้งแต่ต้น ก็คือไปแปลว่า เสมอต้นเสมอปลาย

อย่าลืมว่าสังคหวัตถุ ๔ คือหลักธรรมสำหรับยึดโยงสังคมเข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วย ทาน รู้จักแบ่งปันให้แก่ผู้อื่น โดยมีบาลีกำกับว่า ททมาโน ปิโยโหติ ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก ปิยวาจา พูดดีพูดเพราะต่อคนอื่น ละเว้นจากวาจาไม่ดีไม่งามทั้ง ๔ ประการ คือการพูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดโกหก พูดเพ้อเจ้อ อัตถจริยา คือทำประโยชน์แก่คนอื่นเขา

สมานัตตตานั้นก็คือ ต้องนึกถึงอกเขาอกเรา พูดง่าย ๆ ก็คือ นึกถึงคนอื่นเสมอด้วยตนเอง เราไม่ชอบอะไรก็ต้องนึกว่าคนอื่นเขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน แล้วอย่าไปทำกับเขาอย่างนั้น เราชอบอะไร ก็ต้องนึกว่าคนอื่นเขาก็ชอบแบบเดียวกัน แล้วพยายามทำเพื่อสร้างความชอบใจให้เกิดกับคนอื่นเขา ไม่ใช่ไปแปลว่าความเสมอต้นเสมอปลาย ถ้าอย่างนั้นคนชั่วเสมอต้นเสมอปลายก็สามารถยึดโยงสังคมได้ ?!

ในส่วนนี้นอกจากพวกเราจะต้องคำนึงถึงส่วนรวมแล้วยังไม่พอ ยังต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา แต่ต้องไม่ทิ้งหลักการที่ถูกต้อง เท่าที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพเจอพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมาก ที่อยู่ในลักษณะไม่รู้ตัวว่าตนเองกำลังประจบคฤหัสถ์ ประทุษร้ายตระกูลของพระพุทธเจ้า เพราะว่าไปเอาใจคนรวย ไปเอาใจผู้มีอำนาจ

เพราะว่าในส่วนของการประจบเอาใจ กับในส่วนของการปฏิสันถารคาราวะ มีความใกล้เคียงกันมาก ถ้าหากว่าไม่มีความพอเหมาะพอดีเมื่อไร ล้ำเส้นเมื่อไรก็กลายเป็นประทุษร้ายตระกูลด้วยการประจบคฤหัสถ์ทันที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 08-06-2022, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,261 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตัวกระผม/อาตมภาพเองมีญาติโยมจำนวนมากปวารณาเอาไว้ ขนาดบอกว่าสร้างหนี้ได้ตามใจชอบ ถึงเวลาจะ "เคลียร์" ให้ทุกบาททุกสตางค์ แต่กระผม/อาตมภาพไม่เคยใช้สิทธิ์นี้เลย เพราะว่าถ้าหากว่าใช้เมื่อไร ก็จะกลายเป็นประจบคฤหัสถ์ได้ง่าย ๆ..!

แล้วคนทั้งหลายเหล่านี้เมื่อมา ถ้าหากว่าเจอแนวทางของวัดท่าขนุน ก็อาจจะรับไม่ได้ เพราะว่าที่นี่ไม่มีคนพิเศษ ทุกคนได้รับการต้อนรับเสมอกันหมด จากท่านทั้งหลาย ไม่ใช่กระผม เพราะส่วนใหญ่แล้วผมไม่ได้แยแสสนใจเลย

จึงเป็นเรื่องที่เราต้องสังวรระวังเอาไว้ว่า เราจะแบกสักกายทิฏฐิและมานะ ซึ่งเป็นกิเลสใหญ่ในสังโยชน์ทั้ง ๑๐ แล้วทำตัวเป็นศูนย์กลางของโลก ทุกสิ่งทุกอย่างต้องได้อย่างใจ ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าท่านทั้งหลายกระทำผิดหลักธรรมของพระพุทธเจ้าไปไกลมากแล้ว

เพราะว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่ได้อย่างใจ ถ้าเราต้องการให้ทุกอย่างได้อย่างใจ เราก็จะแบกความทุกข์อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าสรรพสิ่งทั้งหลายไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้ ตรงนี้บาลีใช้คำว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา อนัตตาที่หมายถึงไม่ใช่ตัวตน อีกความหมายหนึ่งก็คือบังคับบัญชาไม่ได้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเราเองว่าเราจะพยายาม ลด ละ เลิก ทิฏฐิเหล่านี้ หรือว่าจะแบกเอาไว้ให้ความทุกข์ท่วมทับเราอยู่ทุกวัน ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องไปพิจารณาและจัดการกันเองตามอัธยาศัย

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-06-2022 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว