กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 18-01-2022, 20:00
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 736,965 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 18-01-2022, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ อันดับแรกเลย ขอต้อนรับคณะของท่านปรีชญา มหารัศมี ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่นำคณะมาร่วมปฏิบัติธรรม ถ้าหากทุกคนสังเกตจะเห็นว่า พระวัดท่าขนุนช่วงนี้แบ่งออกเป็น ๓ ชุด ก็เพราะว่าตรงกับวันปฏิบัติธรรมประจำปี ของพระนิสิตมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้เมื่อช่วงเพล ได้มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ (สว่าง จนฺทวํโส) อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี ที่เสียชีวิตลงเพราะว่าโดนผู้ก่อการร้ายยิงตายพร้อมกับเพื่อนพระอีก ๒ รูป ซึ่งตรงจุดนี้ต้องบอกว่า ไม่ว่าในฐานะส่วนหนึ่งของคณะสงฆ์ไทยก็ดี หรือว่าในฐานะของสหธรรมิกที่คุ้นเคยและร่วมงานกันมาเกิน ๒๐ ปีก็ตาม นับว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เราจำเป็นที่จะต้องระลึกถึงและทำบุญให้กับท่านทั้งนั้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือวันนี้ตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย ถ้าถามว่าวันกองทัพไทยคือวันอะไร ? บางคนเรียกว่า วันนเรศวรชนะศึก ก็คือหลังจากปี พ.ศ. ๒๑๑๒ ที่เราโดนพม่ายึดเป็นเมืองขึ้น โดยเฉพาะนำเอาสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยาและพระนเรศวรซึ่งตอนนั้นยังเป็นราชกุมารไปเป็นตัวประกันที่หงสาวดี หลังจากนั้นมาเป็นระยะเวลา ๒๐ กว่าปี ที่ไทยเราต้องส่งบรรณาการให้แก่พม่าโดยตลอด

จนกระทั่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกลับมาเมืองไทย และรวบรวมกำลังพลประกาศอิสรภาพ ซึ่งทำให้พระเจ้านันทบุเรงกษัตริย์พม่าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของประเทศราช ทำให้คนอื่นเลียนแบบทำตามได้ จึงส่งพระมหาอุปราชยกทัพเข้ามา เพื่อที่จะจับตัวพระนเรศวรมหาราช หรือว่ายึดกรุงศรีอยุธยาที่พม่าเรียกว่า "โยเดีย" โยเดียนี่เป็นการพูดเร็ว ๆ ถ้าหากว่าพูดช้า ๆ ก็คือ โยธยา แต่ออกเสียงแบบพม่า โย-ดะ-ยา พอออกเสียงเร็ว ๆ ก็กลายเป็นโยเดีย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2022 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-01-2022, 23:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปรากฏว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชนั้นเปลี่ยนวิธีการตั้งรับข้าศึก จากที่ปกติแล้วก็คือปล่อยให้ข้าศึกล้อมกรุง จนกระทั่งหมดเสบียงอาหารหรือว่าน้ำท่วม ก็ต้องกลับไปเอง เปลี่ยนเป็นยกทัพไปต้านทัพข้าศึกนอกพระนคร ซึ่งตอนนั้นมาเผชิญหน้ากันที่บริเวณเจดีย์ยุทธหัตถี อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรีของเรานี่เอง ตามประวัติศาสตร์บันทึกไว้ว่า ตรงกับวันจันทร์ แรม ๒ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตอนหลังมีการคำนวณกันออกมาว่าตรงกับวันที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช ๒๑๓๕

แต่เดิมมากองทัพไทยของเราใช้วันที่ ๘ เมษายนเป็นวันกองทัพไทย เพราะถือว่าเป็นวันสถาปนากระทรวงกลาโหม พอมาปีพุทธศักราช ๒๕๒๓ ก็มีการเปลี่ยนมาใช้วันที่ ๒๕ มกราคมเป็นวันกองทัพไทยแทน ถือว่าเป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราช

แต่แล้วก็มีบรรดานักดาราศาสตร์คำนวณปฏิทินใหม่ว่า วันที่แท้จริง ถ้าหากว่าระบุกันตามในบันทึกประวัติศาสตร์แล้ว ต้องเป็นวันที่ ๑๘ มกราคม ซึ่งการคำนวณนั้นก็ต้องบอกว่า มีผู้ทำได้ตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ แต่ก็ต้องรอจน ๑๐ ปีให้หลัง คือปี ๒๕๔๘ คณะรัฐมนตรีถึงได้อนุมัติให้วันที่ ๑๘ มกราคมเป็นวันกองทัพไทย แต่กระทรวงกลาโหมและกองทัพบกไทย ก็ไปจัดงานฉลองกันจริง ๆ ในปี ๒๕๕๐ ก็คือบ้านเราเมืองเรานั้น อะไรดี ๆ มักจะทำช้ากัน

ดังนั้น...ถ้าจะว่าไปแล้ว วันนี้ในอดีตก็คือวันจันทร์ เดือนยี่ ปีมะโรง จุลศักราช ๙๕๔ ซึ่งตรงกับวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๑๓๕ เป็นวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชกระทำยุทธหัตถีชนะพระมหาอุปราชได้ด้วยทั้งความสามารถเฉพาะตัวและไหวพริบปฏิภาณ

สมัยก่อนกระผม/อาตมภาพก็สงสัยว่า ถึงเวลาทหารเขาโยกย้ายตำแหน่งกัน เขารู้ได้อย่างไรว่าคนไหนเหมาะกับตำแหน่งไหน พอมาถึงปัจจุบันก็มีญาติโยมถามว่า อย่างลูกศิษย์สายหลวงพ่อวัดท่าซุง สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังศึกษาอยู่กับท่าน มี ๔๐ กว่ารูป ทำไมเขาถึงรู้ว่าใครมีความสามารถเท่าไร ? ก็มาเลิกสงสัยตรงนี้เอง เพราะว่าการอยู่ร่วมกันมา ศึกษาด้วยกันมา ย่อมรู้ว่าแต่ละคนมีฝีไม้ลายมือเท่าไร ถึงเวลาจึงจัดวางตัวให้เหมาะสมกับตำแหน่งได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2022 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-01-2022, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้อย่าลืมว่าสมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมัยเป็นราชกุมาร โดนจับเป็นตัวประกันที่หงสาวดี ศึกษาเล่าเรียนมากับบรรดาราชกุมารของทางด้านราชสำนักพม่า ทุกคนรู้ดีว่าพระนเรศนั้นฝีมือร้ายกาจแค่ไหน ทุกวันนี้พวกเราอ่านชื่อพระนเรศวรมหาราช พม่าเรียกว่าพระนเรศ นเรศวรฤทธิ์ คราวนี้ นเรศ+วร มารวมกัน กลายเป็นนเรศวร พวกเราก็อ่านไปเรื่อยเปื่อย

ในเมื่อรู้อย่างนั้น พระมหาอุปราชที่ได้รับคำสั่งจากพระเจ้านันทบุเรงให้ยกทัพมาจับตัวพระนเรศวรมหาราช "พ่อส่งกูไปตายชัด ๆ เลย..!" ก็เลยรวบรวมบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ ที่ก่อนหน้านั้นเคยศึกษาวิชาการอยู่ราชสำนักเดียวกันมา ๑๒ คน แต่งตัวเหมือน ๆ กัน ช้างทรงแบบเดียวกัน กั้นเศวตฉัตรอุปราชเหมือนกัน พอสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถพระอนุชา หลุดเข้าไปกลางกองทัพพม่า มีหวังเจอ ๑๒ รุม ๑ แน่นอน เก่งแค่ไหนก็มีสิทธิ์ตายคาที่..!

ด้วยไหวพริบปฏิภาณเฉพาะพระองค์ ถึงได้เอ่ยท้าทายพระมหาอุปราชว่าให้ออกมากระทำยุทธหัตถีด้วยกัน เพื่อฝากชื่อไว้คู่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะ เมื่อระบุชื่อท้าทายกันตรง ๆ พระมหาอุปราชก็ต้องรับจึงออกมาชนช้างกับพระนเรศวรมหาราช แล้วก็อย่างที่ทราบกันอยู่ ก็คือพ่ายแพ้ถึงแก่เสียชีวิต เราถึงสามารถที่จะประกาศเอกราช กอบกู้แผ่นดินไทยคืนมา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ใช่สยามประเทศ ไม่ใช่ประเทศไทย แต่เป็นอาณาจักรอโยธยา

ตรงจุดนี้ที่บางท่านบางคนกำลังคัดค้านในเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเรื่องของมาตรา ๑๑๒ ที่เป็นกฎหมายเอาไว้สำหรับป้องกันสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากจะบอกกับท่านทั้งหลายว่า การที่คุณมีแผ่นดินเหยียบได้เต็มเท้า ไปไหนมีเกียรติมีศักดิ์ศรีเสมอชาติอื่น ๆ ในโลก ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์เอาเลือดเนื้อและชีวิตแลกแผ่นดินนี้มา บรรพบุรุษและตัวคุณถึงได้มีที่อยู่ที่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้

แม้ว่าในปัจจุบันนี้ รัฐบาลของเราจะทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ถูกอารมณ์ของท่านก็ตาม แต่ท่านต้องแยกแยะให้ออกว่า นั่นเป็นการใช้พระราชอำนาจของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พระมหากษัตริย์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-01-2022 เมื่อ 17:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-01-2022, 00:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่าบ้านเราแบ่งพระราชอำนาจออกเป็นสถาบัน ก็คือวุฒิสภา รัฐสภา และสถาบันตุลาการ แต่ละฝ่ายนำเอาพระราชอำนาจไปใช้ ถ้าหากว่าคนที่ปราศจากสามัญสำนึก ไม่ได้คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อองค์พระมหากษัตริย์เจ้าของพระราชอำนาจ เหตุการณ์ก็จะเป็นอย่างปัจจุบันนี้ แต่ไม่ใช่พระองค์ท่านทำให้เป็น หากแต่คนอื่นทำให้เป็น โปรดใช้ปัญญาแยกแยะให้ออกด้วย ไม่ใช่ประท้วงไปเรื่อยเปื่อย

แผ่นดินทุกตารางนิ้วในประเทศไทย เป็นของตระกูลพระมหากษัตริย์ ท่านช่วงชิงมาจากข้าศึก แม้แต่แบ่งให้พวกเรายึดครอง ก็ยังต้องมีโฉนดที่ลงด้วยคำว่า โดยพระบรมราชานุญาต

แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าบุคคลระดับครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะสอนในมหาวิทยาลัยแล้ว ไปเอาแนวความคิดของต่างชาติต่างภาษา ที่ไม่มีสถาบันอันทรงค่า คอยปกปักรักษาประเทศชาติมาเป็นแบบอย่าง แล้วอยากจะให้บ้านเราเป็นเหมือนบ้านเขา

ขอบอกให้รู้ว่า อีกไม่นานบ้านเมืองที่เราเห็นว่าเป็นประชาธิปไตย เป็นต้นแบบที่เราใฝ่ฝันหา อยากจะมี อยากจะเป็นอย่างที่หลายคนต้องการ จะเกิดความวุ่นวาย แตกแยก และก่อสงครามไปทั่วโลก

เมื่อถึงเวลา ถ้าหากเขาหกล้มจมดินเมื่อไร อยากจะรู้ว่าท่านทั้งหลายยังอยากให้บ้านเราเมืองเราเป็นอย่างเขาหรือไม่ ? ตรงจุดนี้พวกท่านทั้งหลายสามารถใช้ปัญญาที่มีอยู่เล็กน้อยตรึกตรองดูและรอดูเหตุการณ์ก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 19-01-2022, 00:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนว่า ภูมิ เว สปฺปุริสานํ กตญฺญูกตเวทิตา การรู้คุณท่านแล้วกระทำตอบแทนคุณท่าน เป็นพื้นฐานของคนดี ท่านทั้งหลายอาศัยแผ่นดินนี้อยู่ สร้างความร่ำรวยจนกระทั่งมีชาติมีตระกูล มีหน้ามีตา ได้ศึกษาเล่าเรียนถึงต่างประเทศ ก็เพราะสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราค้ำจุนแผ่นดินนี้เอาไว้

ข้าราชการทั้งหลายคือบุคคลที่พระองค์ท่านมอบหมายให้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน แบ่งปันพระราชอำนาจให้ไปใช้ เพื่อความอยู่สุขของประชาชนและประเทศชาติ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีสามัญสำนึก ตรึกตรองว่าอะไรควร อะไรไม่ควร ใช้พระราชอำนาจด้วยความระมัดระวัง ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะสร้างความกระทบกระเทือน เพราะว่าทุกชาติทุกภาษาที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ก็มีกฎหมายคุ้มครองสถาบันนี้ด้วยกันทั้งนั้น แล้วกระผม/อาตมภาพก็มั่นใจว่า ถ้าสถาบันนี้ยังอยู่ ก็คงไม่ได้ไปหนักที่สวมหมวกของใคร...!

การที่ท่านทั้งหลายดิ้นรนประท้วงไป อย่างที่ได้เคยกล่าวไว้ว่า อันดับแรก สังคมจะเป็นผู้ตัดสินการกระทำของท่าน ถ้าสังคมเป็นผู้ตัดสินการกระทำของท่านแล้ว ยังรู้สึกว่าไม่สมกับสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป ก็รอให้กฎแห่งกรรมเป็นผู้ตัดสินในภายหลัง

จึงขอเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลาย ที่ได้ฟังผ่านทางช่องยูทูบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-01-2022 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:27



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว