กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-08-2022, 19:47
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,090 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-08-2022, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,126 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปบรรยายถวายความรู้ให้กับพระนวกะในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอศรีสวัสดิ์ เมื่อเดินทางกลับมาก็แวะไปโรงพยาบาลทองผาภูมิ ทำการตัดไหม ถึงได้เห็นว่าโดนเย็บไป ๕ เข็มเต็มโควตา..!

คำว่า "โควตา ๕ เข็ม" นี่ พวกท่านทั้งหลายอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ในงานวันเกิดพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เดือนตุลาคม ปี ๒๕๒๖ ที่บ้านสายลม ท้าวมหาราชท่านให้พรในงานว่า "ลูกศิษย์หลวงพ่อที่มาร่วมงานในวันนี้ ท่านและบริวารจะช่วยรักษา ถ้ากฎของกรรมหนักจริง ๆ บาดเจ็บแค่ไหนก็เย็บไม่เกิน ๕ เข็ม" กระผม/อาตมภาพก็ไม่นึกว่าตัวเองใช้โควตาเต็มทีเดียวเลย พวกท่านต้องคิดนะครับว่าที่กระผม/อาตมภาพตกลงไปนั้น จริง ๆ แล้วแรงมาก จนทุกวันนี้ยังเจ็บซี่โครงอยู่เลย อย่างหัวแม่เท้าที่ไปเตะคอนกรีตจนกระทั่งเล็บถอยหลังมาทั้งอัน จะต้องลงไปหนักขนาดไหน..!

เมื่อหมอทำแผลเสร็จ มิติ (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ไอ้ลูกอ้วนกระซิบถามว่า "หลวงพ่อไม่เจ็บเลยหรือคะ ?" หึ..หึ..ไม่ร้องแปลว่าไม่เจ็บ..! ก็ต้องไปลองดูเองว่า เนื้อสด ๆ แล้วหมอก็เอาสำลีชุบน้ำเกลือเช็ดไปเช็ดมา ตัดไหมเสร็จ เช็ดซ้ำจนได้เลือดอีกต่างหาก..! เป็นพวกท่าน
กระผม/อาตมภาพว่าร้องลั่นโรงพยาบาลไปแล้ว เหตุที่กระผม/อาตมภาพไปให้หมอตัดไหมก่อนเวลา ก็เพราะว่าตรงจุดที่เขาเย็บเป็นจุดที่เล็บใหม่จะต้องงอกออกมา ถ้าปล่อยให้เย็บคาไว้อีกหลายวัน เดี๋ยวเล็บใหม่จะงอกออกมาไม่ได้

บางเรื่อง
กระผม/อาตมภาพก็รู้เกินหมอ แล้วให้คำแนะนำญาติโยมไปหลายต่อหลายคน ถ้าหมอเห็นว่าทำอะไรมีหวังโดนด่าแน่นอน แต่ปรากฎว่าหายเร็วมาก อย่างเช่นว่า ถ้าเราไปหาหมอให้ทำแผล หมอก็จะล้าง ๆ ๆ ๆ หน้าแผลของเราจนกระทั่งแดงสดขึ้นมา แล้วก็ทำการปิดแผลให้ ถ้าลักษณะอย่างนั้น เป็นอาทิตย์แผลของท่านก็ไม่หาย..!

แต่ที่กระผม/อาตมภาพแนะนำให้กับญาติโยมไปก็คือ อย่าไปหาหมอ ให้ล้างแผลเอง โดยเฉพาะอย่าไปล้างสีขาว ๆ ที่ปิดหน้าแผลออก ซึ่ง
กระผม/อาตมภาพก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า หมอกับพยาบาลนั้นเรียนมาขนาดนั้น ทำไมถึงได้เขลาขนาด จะว่า "ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง ฉันจึงมาหาความหมาย" ก็ไม่น่าจะใช่

สีขาวที่ปิดแผลอยู่ก็คือเนื้อใหม่ที่ร่างกายพยายามสร้างขึ้นมาเพื่อซ่อมแซมตัวเอง ไม่ทราบเหมือนกันว่าหมอกับพยาบาลคิดว่าเป็นหนองหรืออย่างไร จึงไปล้างทิ้งเสียหมด ? แล้วแผลก็ไม่หายเสียที กว่าจะหายได้ก็ค่อย ๆ ต้องไต่จากขอบแผลเข้าไปทีละน้อย แต่ถ้าเราปล่อยแผลเอาไว้ลักษณะอย่างนั้น สองวันสามวันแผลก็ปิดสนิท หายดีแล้ว

เพราะฉะนั้น..ที่กระผม/อาตมภาพขอยา ขอเครื่องมือจากหมอมาล้างแผลเองก็เพราะเหตุนี้ ไปหาหมอก็เจ็บตัวฟรีเปล่า ๆ แล้วดูว่าแผลของกระผม/อาตมภาพ ตามที่หมอนัดก็คือ ๗ วัน แล้วนี่กี่วัน ? ไปตัดไหมได้แล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2022 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-08-2022, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,126 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายเรื่องเป็นเรื่องความรู้ประมาณว่า "ผีบอก" หลายเรื่องก็เป็นประสบการณ์ที่ตัวเองเจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย แล้วช่างสังเกต เมื่อทำตามแล้วเกิดผลดี แต่ว่าหมอและพยาบาลสมัยนี้เขารับกันไม่ได้

ลักษณะเดียวกับที่เตือนพวกเด็กสาว ๆ ว่า ช่วงเมนส์มาอย่าไปกินของเย็นหรือน้ำแข็ง หมอเขาเถียงขาดใจตายเลย เขาบอกว่าถ้าหากแบบนั้นทำให้เมนส์หยุดได้ ก็แปลว่าถ้ากินเข้าไป เลือดของเราอาจจะข้นถึงขนาดตายกันหมดก็ได้ แต่ไม่เห็นคนเขาตายเพราะกินน้ำเย็น นั่นคือความคิดของหมอสมัยใหม่ที่ไม่ได้เข้าใจเลยว่า การหักล้างของธาตุ การหนุนเสริมของธาตุนั้นเป็นอย่างไร ธาตุเกินหรือว่าขาดก็คือเราจะเจ็บไข้ได้ป่วย

ในเมื่อไม่ได้เรียนในลักษณะของเวชศาสตร์วรรณาแบบโบราณ เราไปนั่งเถียงกับหมอก็เหนื่อยเปล่า เหมือนกับเต่าไปคุยให้ปลาฟังว่าบนบกหน้าตาเป็นอย่างไร ตีให้ตายปลาก็ไม่เชื่อ เพราะปลาไม่เคยขึ้นบก แม้แต่ปลาตีนก็ไปได้แค่ชายน้ำหน่อยเดียวเท่านั้น

อีกในส่วนหนึ่งระยะนี้ มีข่าวคราวบางอย่างในวงการสงฆ์ของเราที่พรรคพวกเพื่อนฝูงเขาส่งมาในกลุ่มไลน์ ข่าวแรกก็คือมีแม่ชีไปดวลไมค์กัน เสียงเพราะด้วยนะ มีใครได้ฟังบ้างหรือยัง ? เป็นเรื่องที่ไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้คุณเป็นนักร้องเก่าก็ไม่ได้

อย่าลืมว่าแม่ชีมีศีลแค่ ๘ ข้อ ถ้าขาดไปสักข้อหนึ่งแล้วเหลือเท่าไร ? หายไป ๑ ใน ๘ เลย..! ถ้าหากว่าเปรียบกับศีลพระ ๒๒๗ ข้อ หายไป ๑ ใน ๘ ก็เท่ากับเราต้องทำศีลขาดถึง ๒๐ กว่าข้อ..!

เรื่องบางอย่างด้วยความที่ไม่รู้จริง หรือว่าครูบาอาจารย์ไม่ได้อบรม หรืออยากอวดคนอื่นว่าเสียงดีก็ไม่รู้ ? จึงมีการไปดวลไมค์กันในลักษณะอย่างนี้ ถ้าสมมติว่าเรามีต้นทุนอยู่ ๘ ล้าน หายไปล้านหนึ่งนี่ใจหายเลย..! โดยเฉพาะถ้าเป็นนักร้องเก่า ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะไปจับไมโครโฟน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2022 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-08-2022, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,126 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายที่เรียนนักธรรมชั้นโทมาแล้วก็จะเห็น ถ้าภิกษุที่เป็นช่างกัลบกเก่า ห้ามจับมีดโกน จับมีดโกนจะต้องอาบัติ คนอื่นจับไปเถอะ แต่ช่างตัดผมห้าม เพราะพระพุทธเจ้าเกรงว่าจะไปนึกถึงอาชีพเดิมของตัวเองแล้วก็ฟุ้งซ่าน สึกไปทำมาหากินใหม่

ป่านนี้ไอ้ทิดเจ (นพรัตน์ กุลสัมพันธ์ขัย) ก็คงซาบซึ้งแล้วที่หลวงพ่อเตือนคืออะไร ? ปล่อยไปก็แล้วกัน..เขาเก่ง ก็ในเมื่อขนาดพระที่เคยเป็นช่างตัดผม ยังห้ามจับมีดโกน แม่ชีอดีตนักร้องก็ไม่ควรที่จะไปจับไมค์ จับมาแล้วก็ทำตัวเองศีลขาดอย่างที่เห็น

อีกเรื่องหนึ่งที่ทางเพื่อนฝูงเขาส่งมาก็คือ มีนักการเมืองบางพรรคอวดฉลาด ยื่นกระทู้ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้มงวดกับการใช้เงินของบรรดาเจ้าอาวาส เพื่อที่จะป้องกันการคอรัปชั่นที่จะเกิดขึ้นในวงการสงฆ์ ฟังดูดีมาก แต่โง่สะบัดเลย..!

ในช่วงที่ผ่านมา ถึงขนาดมีพระเถระผู้ใหญ่โดนจับเข้าคุกไปตั้งหลายต่อหลายราย ก็เพราะความเข้มงวดในเรื่องนี้ เขาทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว ซ้ำยังไม่ได้มาดูว่าคณะสงฆ์ของเรา ปีหนึ่งต้องส่งบัญชีถึง ๓ ครั้ง ก็คือส่งตามปีงบประมาณ ๒ ครั้ง ๙ เดือนแรกกับตอนครบปี แล้วก็ส่งคณะสงฆ์อีก ๑ ครั้ง ตามรอบปี ไม่ใช่รอบงบประมาณ ในเมื่อเขาทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว คุณไปนอนหลับอยู่ที่ไหนมา ?

แล้วบรรดาท่านผู้เป็นใหญ่ทั้งหลายที่รับฟังอยู่ก็น่าจะโง่พอกัน..! ไม่มีข้อมูลตรงนี้ ฟังแล้วกระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าอนาคตของพระพุทธศาสนาของเราเลือนรางเหลือเกิน ขนาดผู้ปกครองและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบ ซ้ำยังมีคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำสภาผู้แทนราษฎรด้วย แต่กลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องของพระเลย แบบนี้แปลว่าอะไร ? ยังดีนะครับ สามปีแรกที่
กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาส ต้องส่งข้อมูลเกี่ยวกับวัด ๔ ครั้ง เปลี่ยนรัฐบาลทีหนึ่ง ก็ขอมาทีหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2022 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-08-2022, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,126 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติขอบ้าง คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ประจำสภาผู้แทนราษฎรขอบ้าง กรมการศาสนาขอบ้าง เวลาคุณโยกย้าย ไม่มีการส่งต่อข้อมูลกันเลยหรืออย่างไร ? ก็เลยทำให้มีพวกประเภทโง่แล้วขยันยื่นกระทู้มาลักษณะอย่างนี้ ก็คือข้อมูลของตัวเองก็ไม่ดี คิดอยู่อย่างเดียวว่าเป็นเรื่องที่ชาวบ้านน่าจะสนใจ ยื่นกระทู้ไปก็อาจจะได้รับความสนใจ ถึงเวลาเลือกตั้งใหม่ น่าจะมีคนมาสนับสนุนตนเองบ้าง

แต่สิ่งที่กระทำออกไปแล้ว บรรดาพระภิกษุสามเณรเห็นว่าโง่ถนัดใจเลย เพราะว่าไม่เคยศึกษาอะไรเกี่ยวกับพระ อย่างที่ยุคก่อนมีประเภทเรียนพระพุทธศาสนาจากกูเกิ้ล แล้วก็มาออกกฎบังคับพระ

แม้กระทั่งกฎระเบียบเกี่ยวกับการบริหารศาสนสมบัติ ที่ระบุไว้ว่า ให้พระมีเงินติดวัดไว้ไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท ที่เหลือต้องฝากธนาคารที่ทางกรมการศาสนารับรอง ซึ่งในปัจจุบันนี้คำว่า "กรมการศาสนา" ก็ไม่ใช่ ต้องเป็น "สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" รับรอง ก็ยังงัดออกมาใช้แบบโง่ ๆ โดยไม่ได้ดูว่ากฎกระทรวงฉบับนี้ออกมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๑..!

พวกท่านทั้งหลายเกิดทันกี่คน ? แล้วช่วงปี ๒๕๑๑ ทองคำบาทละเท่าไร ? ถ้าถึงปัจจุบันนี้ เทียบตามราคาทองคำแล้ว เขาให้มีเงินติดวัดเป็นแสนนะครับ แต่ไอ้โง่บางคนที่ศึกษาพระพุทธศาสนาจากกูเกิ้ลดันไปงัดมา บอกว่าให้วัดสมัยนี้มีเงินติดวัดได้ไม่เกิน ๓,๐๐๐ บาท ค่าไฟยังไม่พอจ่ายเลย เพราะว่าค่าไฟวัดท่าขนุนเดือนหนึ่ง ๔๐,๐๐๐ กว่าบาท..!

เรื่องพวกนี้บางทีกระผม/อาตมภาพได้ฟังแล้วก็เซ็ง ไม่คิดที่จะศึกษาอะไรก่อนที่จะพูดเลยหรืออย่างไร ? ลักษณะอย่างนี้ถ้าเป็นการเรียนของพระ เขาเรียก "อลคัททูปมปริยัติ" ศึกษาแบบจับงูข้างหาง มีแต่จะโดนงูกัด เจ็บป่วยล้มตายไปโดยใช่เหตุ เพราะว่าไปหยิบตรงโน้นมา หยิบตรงนี้มา ที่คิดว่าใช่ โดยไม่ได้ดูบริบทเลยว่าเหมาะสมกับปัจจุบันหรือไม่ ?

แต่ว่าเรื่องนี้ก็ปล่อยเขาลากถูลู่ถูกังกันต่อไปเถอะ กระผม/อาตมภาพแค่มาบอกกล่าวกับพวกเราเท่านั้นว่า ปัจจุบันนี้บรรดาพุทธบริษัททั้งหลายไม่ใช่ผู้ที่สนับสนุนพระพุทธศาสนา แต่ว่าส่วนใหญ่ทำตัวเป็นผู้บั่นทอนพระพุทธศาสนา ถ้าท่านทั้งหลาย โดยเฉพาะพระภิกษุสามเณรและแม่ชี ยังไม่เคร่งครัดต่อตัวเอง โอกาสที่พระพุทธศาสนาจะพังลงในยุคของเราก็มีสูงมาก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2022 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว