กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-02-2022, 20:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 736,983 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 25-02-2022, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้องขออภัยญาติโยมที่มาทำบุญและถวายสังฆทานในช่วงบ่ายวันนี้ด้วย เพราะว่ากระผม/อาตมภาพติดการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ เนื่องจากว่าเป็นการประชุมทั้งภาค คือ ๔ จังหวัด กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร มีเรื่องที่ต้องนำเสนอมาก จึงลากยาวจนเกือบ ๕ โมงเย็น กว่าจะเสร็จสิ้นการประชุม

ความจริงในเรื่องของการประชุมนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนในอปริหานิยธรรม ๗ ว่า ความไม่เสื่อม ๗ ประการ ประกอบไปด้วย ความพร้อมเพรียงกันในการประชุม ความพร้อมเพรียงในการเลิกประชุม ความเคารพผู้เป็นประธานในที่ประชุม เป็นต้น

เรื่องนี้เกิดจากการที่พระเจ้าอชาตศัตรูต้องการตีแคว้นวัชชี เนื่องจากว่าระหว่างแคว้นวัชชีกับแคว้นมคธมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ซึ่งในบาลีอธิบายว่า เมื่อยามฝนตก จะมีทรัพย์หล่นลงมา ก็น่าจะเป็นพวกเพชรพลอยรัตนชาติ ซึ่งเมื่อน้ำฝนตกแล้วหลากลงมา ก็ทำให้พวกเพชรพลอยเหล่านี้ไหลลงมาที่ตีนเขา แล้วทุกครั้ง แคว้นวัชชีก็จะยกกองทัพไปเก็บทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไปก่อน ถามว่าแคว้นมคธมีคนไปบ้างหรือเปล่า ? มี..แต่น้อยกว่า ขาดความพร้อมเพรียงเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จึงทำให้ไม่สามารถที่จะสู้แคว้นวัชชีได้

พระเจ้าอชาตศัตรู เมื่อเสียท่าแคว้นวัชชีหลาย ๆ ครั้ง ไม่เคยได้สมบัติมาเลย จึงเกิดความคิดว่า "ในเมื่อภูเขาทั้งลูกแบ่งกันไม่ได้ ก็เอาทั้งแคว้นไปเลย..!" แต่ด้วยความที่แคว้นวัชชีมีความสามัคคี เหนียวแน่นกลมเกลียวกันมาก ถ้าหากว่าคิดที่จะยกทัพไปตี ก็คงเข้าทำนองภาษิตจีนที่ว่า ผู้อื่นสูญเสียหนึ่งพัน ตัวเราสูญเสียแปดร้อย สรุปง่าย ๆ ว่าฉิบหายวายป่วงใกล้เคียงกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2022 เมื่อ 03:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 25-02-2022, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเจ้าอชาตศัตรูหาวิธีสารพัดแล้ว ไม่สามารถที่จะตีแคว้นวัชชีได้ จึงให้วัสสการพราหมณ์ที่เป็นอำมาตย์ผู้ใหญ่ ไปทูลถามจากพระพุทธเจ้า..หากินง่ายดี เมื่อวัสสการพราหมณ์ไปทูลถาม พระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ตอบ แต่หันไปตรัสถามพระอานนท์ว่า "อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ ชาวแคว้นวัชชียังปฏิบัติในอปริหานิยธรรมที่ตถาคตให้ไว้ดีอยู่หรือ ?" พระอานนท์ตอบว่า "ยังคงมั่นคงอยู่ในอปริหานิยธรรมทั้ง ๗ อย่างสม่ำเสมอพระพุทธเจ้าข้า"

พระพุทธเจ้าจึงตรัสให้วัสสการพราหมณ์ได้ยินว่า "ตราบใดที่แคว้นวัชชียังมั่นคงในอปริหานิยธรรมทั้ง ๗ ตราบนั้นไม่มีผู้ใดตีแคว้นวัชชีได้" วัสสการพราหมณ์ได้ยินแล้วก็กลับไปกราบทูลพระเจ้าอชาตศัตรู

พระเจ้าอชาตศัตรูถามว่าอปริหานิยธรรม ๗ ประการขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ให้แคว้นวัชชีไว้นั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง ? วัสสการพราหมณ์ก็ทูลให้ทราบว่า หมั่นพร้อมเพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุมก็เลิกพร้อมกัน เคารพผู้เป็นใหญ่ในที่ประชุม เคารพบุคคลที่เป็นคนชราในชุมชน ไม่เบียดเบียนรังแกผู้หญิงและเด็ก ให้ความคุ้มครองพระอรหันต์ที่มาถึงแว่นแคว้นของตน เป็นต้น

พระเจ้าอชาตศัตรูพอได้ฟังก็รำพึงว่า แค่ประการเดียวก็หมดหนทางที่จะทำลายแคว้นวัชชีแล้ว อย่าว่าแต่แคว้นวัชชียังมีหลักการนี้ถึง ๗ ประการ จึงตรัสให้วัสสการพราหมณ์หาวิธีอย่างไรที่จะทำลายแคว้นวัชชีได้ วัสสการพราหมณ์ก็เลยคิดแผนให้พระเจ้าอชาตศัตรูโบย แล้วขับออกจากแคว้น เมื่อออกจากแคว้นมคธไป ก็ไปอาศัยที่แคว้นวัชชี ด้วยความที่เป็นมหาอำมาตย์ใหญ่ มีความรู้มาก เมื่อกษัตริย์วัชชีทั้งหลายจึงรับเข้าไปอยู่ในแคว้น แล้วก็ตั้งให้เป็นอาจารย์ของราชบุตร

คราวนี้เราต้องเข้าใจว่าราชบุตรหรือราชกุมารของแคว้นวัชชีนั้นมีมาก เนื่องจากว่าแคว้นวัชชีกับแคว้นมัลละนั้น ปกครองโดยระบอบสามัคคีธรรม ซึ่งหลายท่านกล่าวว่าเป็นต้นแบบของประชาธิปไตย ก็คือมีกษัตริย์ที่เป็นผู้นำอยู่ ๗ พระองค์ แต่ละพระองค์จะเลือกผู้นำที่ตนเองมั่นใจขึ้นมาอีก ๑๐๐ เป็น ๗๐๐ แล้ว ๗๐๐ นั้นจะเลือกผู้นำที่ตนเองมั่นใจอีกคนละ ๑๐ เป็น ๗,๐๐๐ ดังนั้น...คณะกษัตริย์ที่ปกครองแคว้นวัชชีจึงประกอบไปด้วย ๗,๗๐๗ พระองค์ ลักษณะคล้าย ๆ กับการเลือกตั้งเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2022 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 25-02-2022, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงเวลาประชุมพร้อมเพรียงกัน เลิกพร้อมเพรียงกัน ไม่มีใครแตกแถวแตกแนว รับฟังท่านผู้เป็นประธานแล้วปฏิบัติตาม ทุกอย่างก็เป็นไปโดยความพร้อมเพรียงและเข้มแข็ง ในเมื่อมีกษัตริย์ ๗,๗๐๗ พระองค์ เราต้องนึกว่ามีราชกุมารกี่พระองค์ ? อย่างไม่มี ๆ ก็ต้องอีก ๗,๐๐๐ กว่าองค์

วัสสการพราหมณ์เมื่อได้โอกาสเข้าไปสอนเหล่าราชกุมารไประยะหนึ่ง ก็เริ่มแผนการของตน ก็คือเมื่อถึงเวลาเลิกสอนแล้ว ก็เรียกราชกุมารพระองค์ใดพระองค์หนึ่งเอาไว้ ให้เข้าไปในห้องสองต่อสอง พูดง่าย ๆ ว่าทำโน่นทำนี่ให้พักหนึ่งก็ปล่อยกลับ ราชกุมารอื่นสอบถามว่า "อาจารย์เรียกท่านไปทำอะไร ? มีการบอกวิชาลับอะไรที่คนอื่นรู้ไม่ได้หรือ ?" ราชกุมารนั้นก็จะปฏิเสธว่าไม่มีอะไร แต่พอเปลี่ยนเป็นราชกุมารพระองค์นั้น พระองค์นี้ไปเรื่อย ๆ ระยะหนึ่ง ทุกคนก็เริ่มหวาดระแวงกันว่า อาจารย์อาจจะถ่ายทอดวิชาลับพิเศษให้ผู้อื่นเหนือกว่าตน ก็เอาไปฟ้องผู้เป็นพระราชบิดา

ผู้เป็นพระราชบิดาพอได้ยินได้ฟังก็เริ่มไม่พอใจกัน เมื่อถึงเวลาประชุม ก็เกิดอารมณ์ประมาณว่า "ลูกมึงเก่งกว่า ดีกว่า มึงก็ไปประชุมแล้วกัน..!" ตนเองก็เริ่มขาดประชุม พอทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ๆ ท้ายสุดตีกลองประชุมแล้วไม่มีใครเข้าประชุมเลย กว่าจะถึงระยะเวลานั้น ก็ผ่านไป ๓ ปี

เมื่อตีกลองแล้วไม่มีใครประชุมเลย วัสสการพราหมณ์จึงส่งข่าวถึงพระเจ้าอชาตศัตรู เมื่อยกทัพไปก็ล้มล้างแคว้นวัชชีได้โดยง่าย เพราะว่าไม่มีใครสู้รบ ต่างคนต่าง "โบ้ย" ให้เป็นภาระคนอื่น จนปัจจุบันนี้คำว่า วัสสการพราหมณ์ แทนความหมายของการเป็นไส้ศึก ที่เข้าไปทำลายความสามัคคีของอีกฝ่ายหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2022 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-02-2022, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีผู้ตั้งกระทู้ถามว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ารู้ไม่ใช่หรือว่า ถ้ากล่าวอย่างนั้นแล้ว วัสสการพราหมณ์จะหาทางทำลายแคว้นวัชชีได้ ? ก็ต้องตอบว่ารู้ แต่ว่าต้องเสียเวลาไป ๓ ปี แผนการนี้ถึงจะสำเร็จและคนตายน้อยมาก เพราะว่าแทบจะไม่มีการต่อต้านเลย

แต่ถ้าหากว่าไม่ตรัสแบบนั้น พระเจ้าอชาตศัตรูจะยกทัพบุกไปเลย เพราะว่าอดรนทนไม่ไหวแล้ว คราวนี้พอแข็งชนแข็งก็เลือดนองท้องช้าง อย่างที่บอกไป..ภาษาจีนกล่าวว่าทำลายฝ่ายตรงข้ามหนึ่งพัน ตัวเราก็สูญเสียแปดร้อย..!

ต้องนับว่าเป็นความกรุณาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่อย่างน้อยก็สามารถยับยั้งการทำลายแคว้นวัชชีให้ช้าลงไปได้ถึง ๓ ปี และขณะเดียวกันก็มีคนตายน้อยมาก

แต่ว่าวัสสการพราหมณ์ในปัจจุบันนั้น มักจะยุแหย่ให้ประเทศอื่นรบกันเอง แล้วตนเองขายอาวุธให้..! ซึ่งปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่เขาก็รู้เท่าทันกันหมดแล้ว แต่น่าสงสารที่ประเทศยูเครนโดนหลอกว่าถ้ายอมเข้านาโตแล้ว ทางด้านสหรัฐอเมริกาและนาโตจะให้ความคุ้มครองอย่างเต็มที่ แต่ว่าสงครามผ่านไปแล้ว เริ่มเข้าสู่วันที่สาม เราจะเห็นว่า คนที่รับปากเอาไว้ว่าช่วยเต็มที่ ไม่มีช่วยอะไรเลย นอกจากช่วยเอาใจช่วยอยู่ห่าง ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2022 เมื่อ 03:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 25-02-2022, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงนี้ต้องบอกว่าประธานาธิบดีปูตินอ่านเกมขาดว่า ให้ลงไปลุยเองสหรัฐก็ไม่เอา นาโตเองก็แตกแยกกัน เพราะว่ายุโรปไม่ได้เหนียวแน่น ส่วนหนึ่งต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากประเทศรัสเซีย ถ้ารัสเซียไม่ส่งก๊าซให้ก็ปางตาย แต่ว่าส่วนนั้นยังไม่น่ากังวล เพราะว่าถ้ารัสเซียเผด็จศึกเร็ว ๕ วัน ๗ วันจบ ก็กลายเป็น "ละครปาหี่" แหกตาคนทั้งโลกของอเมริกา ที่รับปากว่าจะช่วยอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็ปล่อยให้เขาตายเอง..!

แต่ว่าตรงจุดนี้ที่ควรระวังอย่างมากที่สุดก็คือ ในระหว่างที่ความสนใจของคนทั้งโลกมุ่งอยู่ที่ยูเครน จะมีประเทศทางตะวันออกกลางฉวยโอกาสนี้หรือเปล่า ? และขณะเดียวกันประเทศจีนจะฉวยโอกาสที่สหรัฐอเมริกามุ่งความสนใจไปทางอื่น บุกยึดไต้หวันไปเลยหรือเปล่า ?

พวกเราเองไม่ต้องเสียเวลาคิดตรงนี้ มีโอกาสให้ค่อย ๆ ดูไป สำคัญที่สุดก็คือ มั่นใจในวัตถุมงคลอะไรก็ให้พกติดตัวไว้ แล้วสวดมนต์ภาวนาทุกวัน เพราะว่าถ้าหากว่าผู้นำประเทศระดับนั้นขาดสติ ใช้อาวุธนิวเคลียร์ขึ้นมา หางเลขจะมาถึงบ้านเราด้วย ถ้าเรามีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ กระเซ็นกระสายจากกัมมันตภาพรังสีที่มาถึง ก็จะทำอันตรายเราไม่ได้

วันนี้จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2022 เมื่อ 03:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว