กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 07-11-2020, 18:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,141 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ ในระหว่างวัน ตลอดจนกระทั่งก่อนกรรมฐาน อาตมาได้บอกกล่าวบางสิ่งบางอย่างแก่ท่านทั้งหลายไปแล้ว เนื่องจากว่าในการเข้ากรรมฐาน ๓ วัน ตลอดจนกระทั่งการหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ และพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงิน ในวันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ นั้น อาตมาได้รับการบอกกล่าวจากพระ จากพรหม เทวดา จากครูบาอาจารย์ หลายสิ่งหลายประการด้วยกัน สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สามารถบอกกล่าวกับญาติโยมได้ จะมากจะน้อย ก็พยายามที่จะบอกไป ตามที่ได้รับอนุญาตมา

วันนี้อยากจะตักเตือนญาติโยมทั้งหลายว่า ในเรื่องของการปฏิบัตินั้น ต้องเอาจริงแล้ว อย่าทำเป็นเล่น อย่าทำเหมือนแก้บน เพราะว่าการปฏิบัติของเราในครั้งนี้ ไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อหวังการหลุดพ้น ไม่ใช่การปฏิบัติเพื่อกดกิเลสเอาไว้เฉพาะหน้า แต่เป็นการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยในชีวิต เพื่อความคล่องตัวในชีวิต ทั้งของตัวเรา ทั้งของคนที่เรารัก

ต้องเรียกว่า ถึงวาระที่ทุกคนต้องช่วยกัน เพราะว่าสถานการณ์ในประเทศก็ดี ต่างประเทศก็ดี บีบคั้นเข้ามามาก นอกจากภาวะเศรษฐกิจที่ตึงตัวไปทั่วทั้งโลกแล้ว ก็ยังมีภาวะสงคราม ยังมีโรคระบาด ตลอดจนกระทั่งเรื่องอื่น ๆ อีกจิปาถะ โดยเฉพาะภัยธรรมชาติที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าน้ำกำลังท่วมอยู่ ภัยแล้งก็จะติดตามมาภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นต้น โรคระบาดคนยังไม่ทันจะสิ้นสุด กำลังอยู่ในช่วงระบาดหนัก โรคระบาดสัตว์ก็จะตามมาติด ๆ

สิ่งที่ท่านทั้งหลายต้องกระทำ อาจจะค้านกับคำสอนที่อาตมาบอกกล่าวญาติโยมมาครึ่งชีวิต...ที่ว่าเราต้องปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น ปฏิบัติเพื่อพระนิพพาน ซึ่งญาติโยมก็ยังคงทำกันแบบเล่น ๆ ทำแบบไม่เอาจริงเอาจัง ทำแบบให้พ้น ๆ หน้าไป แต่ว่า..ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว เพราะว่าตอนนี้เราต้องทำเพื่อเอาชีวิตรอด ทำเพื่อให้พ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่บีบคั้นอยู่ ทำเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว เป็นต้น

ดังนั้น...สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ในแต่ละวันให้ทุกคนตั้งใจทบทวนศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ถ้าเราสามารถที่จะรักษากฎเกณฑ์กติกานี้ได้อย่างเคร่งครัด ในเรื่องของพรหม เทวดา ในเรื่องของครูบาอาจารย์ ท่านก็จะมีเหตุที่ช่วยคุ้มครองรักษาเราได้ เพราะว่าเราสร้างผลที่คู่ควรกับเหตุนั้นขึ้นมาแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2020 เมื่อ 20:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 07-11-2020, 18:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,141 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วลำดับต่อไปก็คือ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างสมาธิให้ทรงตัวให้ได้ ยิ่งได้ถึงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ก็ยิ่งดี เพื่อที่จะคุ้มครองตัวเรา คุ้มครองครอบครัวของเรา คุ้มครองคนที่เรารักไปด้วย เพราะว่ากำลังใจของบางคน..แม้แต่คุ้มครองตนเองก็ไม่ได้ กำลังใจบางคน..คุ้มครองตนเองได้..แต่คุ้มครองหมู่คณะไม่ได้ เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างกำลังใจของเรา ให้คุ้มครองหมู่คณะได้ นั่นคือเป้าหมายใหญ่ ถ้าหากว่าเราไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายใหญ่ได้ อย่างน้อยเราก็จะสามารถคุ้มครองตัวเองได้

และข้อสุดท้าย ให้ทุกคนตั้งกำลังใจเอาไว้ว่า ถ้าหากว่าวาระกรรมมาถึง เราหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุ อันตรายใด ๆ จนถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปอยู่ที่พระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น ในแต่ละวันให้ทุกท่านตั้งกำลังใจอย่างนี้เอาไว้ให้มั่นคง

มีวัตถุมงคลอะไรที่เรามั่นใจว่าคุ้มครองรักษาตัวเราเองได้ คุ้มครองรักษาหมู่คณะได้ หรือว่าคุ้มครองรักษาครอบครัวของเราได้ ก็อาราธนาเอาไว้ให้เป็นปกติ โดยเฉพาะถ้าหากว่าเป็นรูปองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นรูปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า หรือว่าเป็นรูปของพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ท่านใดท่านหนึ่งก็ตาม ให้นึกถึงภาพของท่านให้เป็นปกติ จนชัดเจนแจ่มใส แล้วกำหนดภาพนั้นให้ครอบตัวเรา หรือว่าคนที่เรารักเอาไว้ หรือถ้ากำลังสูงพอ ก็ครอบไว้ทั้งสถานที่ของเรา เพื่อที่ถึงเวลาแล้ว อย่างน้อย ๆ บารมีของพระรัตนตรัย บารมีของพรหม เทวดา หรือครูบาอาจารย์ จะได้อนุเคราะห์สงเคราะห์ คุ้มครองป้องกันตัวเราและคนที่เรารัก ให้อยู่รอดปลอดภัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2020 เมื่อ 20:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-11-2020, 18:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,141 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะว่าวัตถุมงคลนั้นเปรียบเหมือนเครื่องส่ง เครื่องส่งนั้นส่งกำลังอยู่ตลอดเวลา ถ้าเครื่องรับไม่เปิด ไม่นึกถึง ไม่อาราธนา ก็จะทำให้มีผลน้อย ถ้าหากว่าเราเปิดใจด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ยึดเป็นที่พึ่งสุดท้ายในชีวิต ว่าเราจะมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งก็ดี มีครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่งก็ดี เท่ากับว่าเราเปิดใจรับแล้ว

จากนั้นก็อาราธนาพระตามวิธีการที่ได้รับการแนะนำมา ถ้าเป็นวัตถุมงคลทั้งหมดของวัดท่าขนุน ที่เข้าพิธีในช่วงกรรมฐาน ๓ วันก่อนหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อทองคำ ปกติก็อาราธนาด้วยคาถา “อิทธิฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด” ถ้าต้องการความคล่องตัวในหน้าที่การงาน ในเรื่องของการเงิน ก็ให้ภาวนาพระคาถาเงินล้านวันละ ๑๐๘ จบ ถ้าต้องการให้มีอานุภาพเป็นมหาสะท้อนก็ภาวนาคาถา “เมสัมมุกขา สัพพาหะระติ เตสัมมุกขา” ไว้เป็นประจำวัน

ท่านที่ไม่มีวัตถุมงคลเนื้อเงิน เนื้อนาก เนื้อทองคำ ก็แค่ไม่ได้มีในส่วนของมหาสะท้อนเท่านั้น อานุภาพส่วนอื่นนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์ก็ดี ท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ไว้ครบถ้วนทุกด้านแล้ว

ขอให้ทุกคนระลึกถึง ปฏิบัติตนอยู่ในศีล สมาธิ และปัญญา ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น แล้วเราก็จะสามารถนำพาตนเอง นำพาคนที่รัก นำพาหมู่คณะหรือครอบครัว ให้อยู่รอดปลอดภัย

ลำดับต่อไปก็ให้ท่านทั้งหลายตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้สัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-11-2020 เมื่อ 20:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว