กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 26-12-2021, 06:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราปฏิบัติไป เกิดภาวะเห็นว่าร่างกายเราไม่มีแล้ว เหลือแต่หัวใจดวงเดียวที่เต้นอยู่ เราควรจะทำอย่างไรต่อดีคะ ?
ตอบ : อันดับแรกเลย ให้เห็นว่าสภาพร่างกายที่แท้จริงของเรานั้นไม่มี ตอนนี้เหลือแค่ความรู้สึกอยู่ตรงนี้เท่านั้น เป็นการยืนยันหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ท้ายสุดไม่มีสิ่งหนึ่งประการใดเป็นตัวตนให้ยึดมั่นถือมั่นได้ ขึ้นชื่อว่าร่างกายที่หาสาระไม่ได้เช่นนี้ มีความทุกข์เป็นปกติเช่นนี้ ไม่มีความเที่ยงแท้อะไรสักอย่างเช่นนี้ เรายังต้องการหรือไม่ ?

ถ้าเราไม่ต้องการแล้ว ก็เหลืออย่างเดียวว่าเราจะไปไหน ? อยากเป็นเทวดาเป็นนางฟ้า ก็เอาใจเกาะเขตเทวดานางฟ้าเอาไว้ อยากจะเป็นพรหมก็เอาใจเกาะเขตของพรหมไว้ อยากจะหลุดพ้นจากกิเลส ก็เกาะพระพุทธเจ้าเอาไว้ ตั้งใจว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่ที่ไหนเลย นอกจากบนพระนิพพาน เราเห็นพระองค์ท่านคือเราอยู่กับพระองค์ท่าน เราอยู่กับพระองค์ท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน

แล้วรักษาอารมณ์ของเราเอาไว้แค่นั้นแหละ ไม่ต้องทำอย่างอื่นมาก หลุดออกมาก็เริ่มต้นใหม่ พอทำอย่างนี้ ซักซ้อมบ่อย ๆ กำลังเราจะมีมากขึ้นแล้วจะอยู่ได้นานขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 26-12-2021, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเรานั่งสมาธิ แล้วเราก็คิดไปเยอะแยะไปหมด นั่นคืออะไรครับ ?
ตอบ : ถ้าคิดได้แปลว่าฟุ้งซ่าน ยังไม่เป็นสมาธิ ถ้าเป็นสมาธิ จะหยุดการคิดเอาไว้เฉพาะหน้า อย่างเช่นว่าอยู่กับพองยุบ อยู่กับลมหายใจเข้าออก เป็นต้น

คิดก็แปลว่าเราไม่ได้อยู่กับลมหายใจจริง ๆ เราก็เลยคิดไปเรื่อยเปื่อย ลักษณะอย่างนั้นเขาเรียกว่าอุทธัจจะกุกกุจจะ คือความฟุ้งซ่าน เป็น ๑ ในนิวรณ์ที่เป็นกิเลสหยาบ กั้นเราไม่ให้เข้าถึงความดี ก้าวข้ามไปได้เมื่อไรถึงจะเป็นสมาธิได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 26-12-2021, 08:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่นั่งสมาธิ พยายามจะนั่งวิปัสสนาและกำหนดรู้ แต่พอไปถึงจุด ๆ หนึ่งเหมือนจับความรู้สึกตัวไม่ได้ เกิดความนิ่ง แต่หัวเราเกิดหงุดหงิดในหัว ซึ่งบางครั้งก็รู้สึกสุขที่ถูกกดทับในสภาวะนี้ แต่ก็รู้สึกว่าเวียน ๆ แล้วจับความรู้สึกไม่ได้ แบบนี้ถูกหรือผิด หรือต้องแก้ไขอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ความจริงไม่ต้องแก้หรอก แค่เรา "ไม่กลัว" และก็ "ไม่อยาก" เท่านั้น คำว่าไม่กลัวก็คือ เมื่อเกิดอาการขึ้นมาแล้วบางคนกลัว คำว่าไม่อยากก็คือ อย่าอยากให้เป็นเช่นนั้น อย่าอยากให้เป็นเช่นนี้

รักษาอารมณ์ใจเราเป็นกลาง ๆ แค่กำหนดรู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างนั้น ถ้ารู้สึกว่ารักษาอารมณ์ใจเป็นกลางนั้นยาก เราก็กลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกของเราก็ได้ ภาวนาของเราไปเรื่อย ๆ ถึงเวลาถ้าใจอยากสงบ ปล่อยให้เขาสงบ ถ้าหากว่าเขาอยากจะคิด เราค่อยเอาวิปัสสนาญาณมาให้คิด ง่าย ๆ เลยก็คือคิดให้เห็นว่าร่างกายนี้ไม่เที่ยงอย่างไร เป็นทุกข์อย่างไร ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเราอย่างไร

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ก็คืออย่าไปกลัวและอย่าไปอยาก ถ้าอยากสงบ ปล่อยให้สงบ ถ้าอยากจะคิด หาเรื่องที่ดีให้เขาคิด ไม่อย่างนั้น เขาจะฟุ้งซ่านไป รัก โลภ โกรธ หลง ครับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 26-12-2021, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การภาวนานั่งสมาธิแล้วเห็นตัวเองใหญ่ ๆ ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : รับรู้ไว้เฉยๆ นั่นเขาเรียกว่า ปีติ บางคนรู้สึกตัวพอง ตัวใหญ่เป็นยักษ์เลย บางคนถึงขนาดแตกระเบิดเป็นผงไปเลย เริ่มจะเข้าอนุบาล ๑ แล้ว ถ้าเรารู้จักสังเกตจะเห็นว่าแม้จะตัวพองตัวใหญ่อย่างไร แต่ใจของเราจะสงบ

อย่าไปกลัวก็พอ แค่กำหนดรู้เอาไว้ ถ้าหากว่าเป็นสายพองยุบ ก็รู้หนอ รู้หนอ ถ้าหากว่าเป็นสายอื่นก็รู้ว่า เออ..เอ็งอยากจะใหญ่ก็ใหญ่ไป ข้าจะภาวนาของข้าก็แล้วกัน

ถ้าหากว่าก้าวข้ามตรงจุดนี้ได้ จิตจะสงบลงตัว บางที่เขาเรียกว่าตกภวังค์ ความจริงภวังค์คืออารมณ์ปกติ แต่ตกภวังค์ของเขาจริง ๆ คือสมาธิแนบแน่นขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น...ตรงจุดนี้เราแค่มีหน้าที่รับรู้เฉย ๆ ไม่ต้องกลัว แล้วก็กำหนดภาวนาต่อไปเท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 26-12-2021, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เห็นคนอื่นผิดศีล แล้วเราควรทำอย่างไรหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าเกรงใจสังคม ก็ไปห่าง ๆ เขาเสีย ถ้าไม่เกรงใจสังคม ก็ช่วยห้ามเขาหน่อย แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มักจะเฉย ๆ เพราะว่ารักตัวเองมากจนเกินไป กลัวว่าไปห้ามคนอื่นแล้วเขาจะโกรธเรา เขาจะเกลียดเรา เราก็เลยหุบปาก ปล่อยคนอื่นลงนรกไปหน้าตาเฉยเลย..!

ดังนั้น...ตรงจุดนี้ถ้าคิดว่าเรามีน้ำหนักเพียงพอที่เขาจะฟัง ก็ช่วยหักห้ามเขาหน่อย ถ้าหากว่าไม่มี ก็อย่าไปทำตามเขาก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 26-12-2021, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอภาวนาแล้ว เกิดภาพพระพุทธรูปแล้วควรปฏิบัติอย่างไรต่อไป
ตอบ : ภาวนาและกำหนดภาพนั้นต่อไปเลย ยิ่งนานไป ภาพนั้นก็จะชัดขึ้น ใสขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถที่จะกำหนดให้ใหญ่ได้ เล็กได้ ตามใจของเรา แล้วตอนนี้อยากจะเห็นอะไรก็ขอให้ภาพพระนั้นหายไป ขอให้สิ่งที่เราอยากเห็นปรากฏขึ้นมาแทน อันนี้บอกเกินไป
เยอะมาก แต่อาจจะไม่มีเวลาถามกันอีก จึงบอกไปเลยทีเดียว

แล้วระมัดระวังให้ดี การรู้เห็นไม่ใช่เรื่องดี เพราะว่าทำให้เราหลงได้ง่าย เราต้องรู้ตัว โดยมีสติอยู่เสมอว่า เราปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น เรื่องของฤทธิ์เดชต่าง ๆ ความเป็นทิพย์ต่าง ๆ เป็นแค่ของแถมในการปฏิบัติเท่านั้น เราต้องการหรือไม่ต้องการ ถึงเวลาเขาก็มาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 26-12-2021, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่จะละสังโยชน์ ๓ ถ้าเรามีความปรารถนาที่จะละให้ได้ มีวิธีการใดที่จะทำให้สำเร็จได้ครับ ?
ตอบ : ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ตั้งหน้าตั้งตาละ แต่ถ้าหากว่าจะเอาวิธีการจริง ๆ ให้กำหนดเอาไว้ใน ๕ ข้อนี้ไปปฏิบัติ

อันดับแรก...คือเคารพพระพุทธเจ้าจริง ๆ เคารพพระธรรมจริง ๆ เคารพพระสงฆ์จริง ๆ คำว่า จริง ๆ ในที่นี้ก็คือไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

ถ้าหากว่าตรงจุดนี้เราสามารถที่จะทำได้ ก็เพิ่มเติมว่ารักษาศีลให้บริสุทธิ์ อย่างที่เมื่อสักครู่ได้ตอบไปแล้ว ก็คือไม่ละเมิดศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

และข้อสุดท้าย...ใช้ปัญญานิดหนึ่ง กำหนดใจรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราต้องตาย ถ้าหากว่าเราตายไป เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ทบทวน ๕ ข้อนี้เอาไว้บ่อย ๆ ทำได้คล่องตัวเมื่อไร สามารถตัดสังโยชน์ได้

แต่ถ้ารู้สึกว่า ๕ ข้อมากไป อาตมาลดราคาให้ ช่วงนี้เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาด ขายของไม่ค่อยได้ ยินดีลดให้...! ก็ลดเหลือ ๓ ข้อ รวบเอาความเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มาเป็นข้อเดียว คือมีความเคารพในพระรัตนตรัยจริง ๆ ข้อที่สองก็คือรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์ ข้อที่สามคือทำความรู้สึกว่าตัวเราต้องตายอยู่เสมอ ตายเมื่อไร ขอไปพระนิพพาน

ถ้ายังมากเกินไปอีก เอาข้อเดียว คือรักษาศีลให้บริสุทธิ์ โดยทำความรู้สึกว่าเรารักษาศีลบริสุทธิ์ เพราะเราเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรารักษาศีลบริสุทธิ์ เพราะเราจะไปพระนิพพาน เหลือแค่นี้น่าจะพอทำได้แล้วนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 05:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 26-12-2021, 10:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขณะที่ปฏิบัติ คล้าย ๆ จะหลับ ตัวเบา ควรจะทำต่ออย่างไร ?
ตอบ : กำหนดสติเอาไว้ ไม่อย่างนั้นเผลอเมื่อไรจะหลับทันที การกำหนดสติ ถ้าหากว่าเป็นสายพองยุบก็คือกำหนดว่ารู้หนอ..รู้หนอ...รู้หนอ หรือ ง่วงหนอ...ง่วงหนอ...ง่วงหนอ ก็ได้

แต่ถ้าหากว่าเป็นสายอื่น เราแค่เอาความรู้สึกทั้งหมด จดจ่ออยู่ที่ลมหายใจเข้าออก ถ้าลมหายใจเบาลง กำหนดรู้ว่าลมหายใจนั้นเบาลง ถ้าลมหายใจหายไป กำหนดรู้เฉย ๆ ว่าหายไป อย่าไปดิ้นรนหายใจใหม่ เรากำลังจะขึ้นบันไดอยู่แล้ว ถ้าไปดิ้นรนหายใจใหม่ คือเราย้อนกลับลงมา แบบนั้นก็ขึ้นไม่ได้เสียที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 20:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 26-12-2021, 10:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คำถามของพวกเราจริง ๆ แล้วมีเยอะมาก อันดับแรกก็คือไม่กล้าถาม อันดับที่สองก็คือถามไปแล้ว กลัวพระอาจารย์จะว่าเอา ไม่ได้เกี่ยวกันเลยนะ

ส่วนเรื่องของนักปฏิบัติธรรมเป็น ๑๐ ปียังด่าคนอื่นนั้น เป็นเรื่องปกติ ไม่สามารถที่จะควบคุมกิเลสของตนเองในกรอบได้ เคยได้ยินคำว่า "วิปัสสนาขี้โกรธ สันโดษขี้ขอ อุเบกขาบ้ายอ" บ้างไหม ?

เพราะว่าเราไปกดกิเลสอยู่ ถึงเวลากิเลสก็จะงัดคืน ไปเก็บกดไว้นาน ๆ คนสะกิดแล้วระเบิดง่าย ก็เลยกลายเป็นวิปัสสนาขี้โกรธ ฉะนั้น...ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แทนที่จะโกรธ จะเกลียดอะไรเขา ก็สงสารเขาเถอะ เอ้า...เวลาล่วงเลยมาเยอะแล้ว

ท้ายสุดของการบรรยายนี้ กระผม/อาตมภาพขออ้างคุณพระศรีรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะองค์หลวงพ่อวัดไร่ขิงที่เราทั้งหลายเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสุขความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม แม้ว่าประสงค์สิ่งหนึ่งประการใด ที่เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรมวินัย ก็ขอให้ความประสงค์ของท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงสำเร็จสัมฤทธิ์ผลทุกประการโดยถ้วนหน้ากัน ทุกท่านทุกคนเทอญ


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
บรรยายในงานปฏิบัติประจำปี วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-12-2021 เมื่อ 20:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:53



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว