กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๔ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๔

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๔ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนตุลาคม ๒๕๖๔

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-10-2021, 22:03
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,530
ได้ให้อนุโมทนา: 215,928
ได้รับอนุโมทนา 737,085 ครั้ง ใน 35,905 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-10-2021, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,124 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔ เป็นวันสอบนักธรรมสนามหลวงชั้นตรีวันแรก ซึ่งคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิของเรา ก็ได้รับคำสั่งจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่ออำเภอทองผาภูมิ นำโดยท่านนายอำเภอนภเดช เกลียวศิริกุล ให้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ก่อนที่จะเข้าสอบ ตรวจแล้วก็เจอจนได้ ปรากฏว่าแจ็กพ็อตไปแตกที่วัดทองผาภูมิ มีผลตรวจเป็นบวก ๑ รูป พระทั้ง ๓ รูปที่จะเข้าสอบของวัดทองผาภูมิ ก็เลยต้องโดนขอร้องให้งดการสอบ

ต้องบอกว่าทองผาภูมิของเราระยะนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ค่อนข้างจะรุนแรง ตรวจเมื่อไรก็เจอเมื่อนั้น ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าอีก ๓ วันที่เหลือจะโดนตรวจอีกกี่ครั้ง ในฐานะรองประธานกรรมการสนามสอบ เป็นหน้าที่ซึ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องเข้าไปดำเนินงานให้เสร็จสิ้นลง ส่วนหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ ยอมให้สามเณรงดการสอบเอง ท่านบอกว่า "ผมไม่เอาเด็กของผมมาเสี่ยงด้วยหรอก สถานที่ชุมนุมที่ไหนก็อันตรายทั้งนั้น" ก็เป็นเรื่องจริงของท่าน

แต่ว่าของเราก็มีการตรวจ ATK มีการใส่หน้ากากอนามัย มีการเว้นระยะ มีเจลแอลกอฮอล์ไว้ให้ล้างมือ ซึ่งบอกว่าป้องกันได้ในระดับหนึ่ง ถ้าหากว่ายังติดเชื้ออีก ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่หลังจากการสอบแล้ว เนื่องจากว่าพระทั้ง ๓ รูปนั้น ก่อนที่จะตรวจนั่งใกล้กับใคร คนนั้นแหละที่เป็นผู้เสี่ยง..!

ตรงจุดนี้ไม่ว่าจะพระภิกษุสามเณรหรือว่าญาติโยม ทั้งที่อยู่ที่นี่หรือว่าอยู่ที่บ้านก็ตาม จำเป็นต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง เพราะว่าไม่มีใครที่สามารถจะช่วยเราได้ นอกจากดูแลตัวเองให้ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2021 เมื่อ 02:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-10-2021, 23:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,124 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าประเทศของเราไม่สามารถที่จะยื้อต่อไปได้อีกแล้ว กู้เงินจนเกินพิกัดแล้ว ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะเปิดประเทศเพื่อทำมาหากินได้ รัฐบาลก็ลากต่อไปไม่ไหวเช่นกัน โดยเฉพาะรัฐบาลของเรามาจากทหาร ซึ่งไม่ได้ถนัดในเรื่องของเศรษฐกิจเลย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น โอกาสที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จะแพร่ระบาดหนัก ๆ อีกรอบหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน..!

พวกเราเองจึงต้องระมัดระวังตนเอง ห้ามประมาท ห้ามการ์ดตก ต้องเอาอย่างหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ วันนี้พระอื่นนั่งโต๊ะฉันเพล ๔ รูปต่อ ๑ โต๊ะ คือนั่งเว้นระยะคนละมุม หลวงพ่อท่านโน่น..ไปนั่งคนเดียวต่างหาก พูดง่าย ๆ ก็คือไม่เข้าใกล้คนอื่นเลย เพราะว่าท่านอายุ ๗๖ ปีเต็ม ขึ้น ๗๗ ปีแล้ว ท่านบอกอายุขนาดผม ติดเมื่อไรก็ตายเมื่อนั้น นั่นก็คือเราต้องระวังตนเองด้วยความไม่ประมาท

หลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราต้องนำมาใช้จริง หลายท่านอาจจะบอกว่า ปฏิบัติธรรมแล้วไม่กลัวตาย...ถูก แต่ถ้าหากว่าครึ่งเป็นครึ่งตาย ใครจะดูแล ? สงสารแพทย์พยาบาลที่งานล้นมืออยู่บ้าง ไปที่ไหนก็เตียงเต็ม

ทองผาภูมิของเราตรวจเมื่อไรก็เจอเมื่อนั้น วันก่อนก็บ้านปิล็อก ๗ ราย เมื่อวานบ้านกุยแหย่ ๑๒ ราย วันนี้แค่เฉพาะตรวจพระที่เข้าสอบ เจอไป ๑ ราย เท่ากับว่าเป็นผู้เสี่ยงสูงอยู่ ๒ ราย ส่วนที่ขึ้นไปตรวจที่ศูนย์อพยพชาวพม่า ยังไม่ได้แจ้งผลมาว่าเจอไปอีกกี่ร้อยราย จนกว่าจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2021 เมื่อ 02:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 15-10-2021, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,124 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ถ้าหากว่าเราบอกว่า เราปฏิบัติธรรมแล้วไม่กลัวตาย ต้องบอกว่าท่านกำลังประมาท คนไม่กลัวตาย ไม่ใช่ไปแส่หาที่ตาย..! คนไม่กลัวตาย คือบุคคลที่ดำเนินชีวิตด้วยความระมัดระวัง อยู่ในกรอบของ ศีล สมาธิ ปัญญา คอยขับไล่ความชั่วออกจากจิตใจของตนเอง ระมัดระวังไว้ไม่ให้ความชั่วนั้นเข้ามาอีก คอยสร้างเสริมความดีให้เกิดขึ้นในจิตใจของตนเอง แล้วก็เร่งทำให้ความดีนั้นเจริญงอกงามยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่ใช่บอกว่าไม่กลัวตาย แล้วเราก็วิ่งเข้าไปหาที่ตาย ถ้าแบบนั้นก็โง่ ๒ ชั้น แล้วดันไปคิดว่าตนเองฉลาด..!

กระผม/อาตมภาพเคยพูดอยู่บ่อย ๆ ว่า "บุคคลที่ปฏิบัติธรรมแล้วคิดว่าไม่กลัวตาย ถือว่าดีแล้ว" เป็นเรื่องที่ผิด บางคนอยากตายเสียด้วยซ้ำไป อันนั้นยิ่งผิดหนักเข้าไปใหญ่ เพราะว่ากำลังใจที่อยากตายเป็นกำลังใจที่เศร้าหมอง ถ้าตายตอนนั้น อาจจะลงอบายภูมิก็ได้

กำลังใจที่ถูกต้องก็คือ ไม่กลัวตาย แต่ไม่ได้อยากตาย เพียงแต่พร้อมที่จะตายตลอดเวลา อยู่ในลักษณะของการระลึกถึงมรณานุสติเต็มระดับ รู้ตัวอยู่เสมอว่าชีวิตของเรามีแค่ชั่วลมหายใจเข้าออกเท่านั้น หายใจเข้า..ถ้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออก..ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตาย เพียงแต่ว่าอยู่ในลักษณะของการพร้อมที่จะตายโดยไม่ประมาท

ขณะที่ยังดำรงชีวิตอยู่ ก็ถือว่าเราได้สร้างบุญสร้างบารมี ถ้าหากว่าตายเมื่อไร เราก็พร้อมที่จะไปพระนิพพาน จึงอยู่ในลักษณะของการที่อยู่ก็ได้ ตายก็ดี ก็แปลว่าต้องอยู่ให้ดีที่สุด ถ้าหากว่าตาย ก็ตายอย่างพร้อมที่สุด พร้อมเพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีอะไรให้เรายึดถือแล้ว ปล่อยวางจากภาระทั้งปวงแล้ว ถ้าชีวิตยังมีอยู่ ก็ดำเนินไปตามหน้าที่ของตน ถ้าชีวิตหมดสิ้นลง ก็ไปตามทางที่ตนได้เลือกไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2021 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 15-10-2021, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,124 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องพวกนี้ท่านทั้งหลายต้องฟังไว้บ่อย ๆ จิตใจจะได้เคยชิน เมื่อถึงเวลาเคยชิน ก็จะไม่รู้สึกว่ายาก อย่างเช่นวันนี้คณะกรรมการทั้งหลาย โดยเฉพาะกองงานเลขานุการ ที่ไปทำหน้าที่ในการจัดสอบ เก็บข้อสอบ รับ ตรวจสอบและจัดเรียงกระดาษคำตอบ เตรียมพร้อมที่จะส่งเข้าจังหวัด ส่งเข้าภาค เมื่อถึงเวลาเสร็จงาน รู้สึกโล่งใจ เบาใจ สบายใจ ผ่านพ้นไปวันหนึ่ง

พวกเราดำรงชีวิตอยู่ ต้องอยู่ในลักษณะอย่างนั้น ก็คืออยู่ไปงานหนึ่ง อยู่ไปวันหนึ่ง หรืออยู่ไปครึ่งวัน อยู่ไปชั่วโมงนี้ อยู่ไปนาทีนี้ อยู่ไปแค่วินาทีนี้ แล้วแต่กำลังใจสูงต่ำ ถ้าหากว่าเราวางกำลังใจของเราลักษณะอย่างนี้ได้ ก็เหมือนกับการที่ปลดวางทุกสิ่งทุกอย่างลงเป็นระยะ ๆ

เมื่อสักครู่เราทำวัตรค่ำรอบแรกจบไปแล้ว ตอนนี้กำลังฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อีกสักครู่ก็จะจบอีกแล้ว แล้วหลังจากนั้น เราก็ทำวัตรค่ำรอบที่ ๒ ให้จบลงไป งานของเราก็จะเสร็จสิ้นลงไปทีละงาน...ทีละงาน...ทีละงาน เหมือนกับเราปล่อยวางภาระลงทีละอย่าง...ทีละอย่าง ก็จะรู้สึกถึงความเบา ความสบาย ความไม่มีอะไรถ่วงเราอยู่ข้างหลัง เพราะว่าเราก้าวข้ามไปทีละก้าว

เหมือนกับพี่น้องชาวทิเบตที่ถึงเวลาก็นับลูกประคำ หมุนกงล้อมนต์ ภาวนา โอม มณี ปัทเม หุม เดินจงกรมรอบเจดีย์ เดินก้าวหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง นับลูกประคำเม็ดหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง หมุนกงล้อมนต์รอบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ภาวนาจบหนึ่งก็ใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง

ถ้ากำลังใจของเราอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ถึงจะเรียกว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้อง สมควรแก่ธรรม ก็คืออยู่เฉพาะปัจจุบันตรงหน้านี้เท่านั้น ถ้าหากว่ากำลังใจสูงสุดก็คือ อยู่แค่ชั่วลมหายใจนี้เท่านั้น มากไปกว่านั้นไม่เสียเวลาคิด เรื่องมาถึงตรงหน้าก็ทำไปทีละอย่าง จบแล้วก็วางไปทีละงาน ละภาระหน้าที่ไปทีละอย่าง เราก็จะไม่มีอะไรที่รู้สึกว่าเป็นเครื่องถ่วง

หมดวันเอนกายลงนอนก็เหมือนกับคนที่ตายแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้ลืมตาเห็นฟ้าใหม่หรือไม่ ถ้าหากว่าตาย เราก็ขอไปพระนิพพานแห่งเดียว เอากำลังใจสุดท้ายเกาะองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพานเอาไว้ นี่จึงเป็นการดำเนินชีวิตอย่างไม่ประมาทโดยแท้จริง

จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งญาติโยมทั้งหลาย ทั้งที่อยู่ที่นี่ อยู่ที่บ้าน อยู่ในประเทศ อยู่ต่างประเทศทุกคน เรื่องพวกนี้ถ้าไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ก็ไม่มีโอกาสที่จะมาบอกมากล่าวกันบ่อยนัก เพราะว่าเป็นของหนักสำหรับคนทั่วไป แต่เป็นทางสว่างสำหรับผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติอย่างแท้จริง ก็ขอยุติลงแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๔
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2021 เมื่อ 02:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:18



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว