จ้องภาพพระ

[เถรี]

ถาม : จ้องภาพพระ...

ตอบ: จริง ๆ ถ้าหากว่าภาพพระไม่ได้หายไป จะอยู่ส่วนไหน ก็กำหนดรู้ไว้ ถ้าท่านเปลี่ยนแปลงจะใหญ่จะเล็กจะขาวจะดำอย่างไร เรารู้ไว้เฉย ๆ กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ บางทีอาจจะเป็นการทดสอบเราว่าสมาธิเราจะเคลื่อนไหม ? ขณะเดียวกันถ้าหากว่าเราจับภาพอยู่ จากภาพพระนั่ง กลายเป็นพระยืน หรือว่ากลายเป็นปางลีลา คือเดิน หรือว่าเป็นปางไสยาสน์ คือนอน อย่างไรก็ตาม ถ้าเราต้องการพุทธานุสติ ก็จับต่อไปได้เลย ใช้ได้เหมือนกัน ลองกำหนดดูว่าดึงท่านให้กลับเข้ามาจุดเดิมได้ไหม ถ้าดึงกลับมาจุดเดิมได้ก็ดึง ถ้าดึงกลับมาจุดเดิมไม่ได้ กำหนดใจสบาย ๆ กำหนดรู้ไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้สายตาหรอก จะไปอยู่ทิศไหนรอบตัว มันรู้ได้หมด เห็นได้หมดเหมือนกัน


กระโถนข้างธรรมาสน์ฉบับที่ ๖๒
เดือนเมษายน ๒๕๕๒
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก

[มิ่งเมือง]

มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการจับภาพพระมาฝากครับ

เมื่อสมัยที่หลวงพี่เอก ท่านรับสังฆทานที่บ้านบางนา ทุกเย็นวันอาทิตย์จะมี
การสอนพระกรรมฐานตามแบบของพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งก่อนการสอนกรรมฐานหลวงพี่ท่านจะนำอาราธนาพระกรรมฐาน จากนั้นจึงปล่อยให้ภาวนาพร้อมจับภาพพระเป็นเวลาเกือบ ๑๐ นาที

จำได้ว่ามีอยู่เดือนหนึ่งผมเองลองจับภาพพระและภาวนาโดยที่ไม่หลับตา แต่ก็มองไปที่พื้นตลอด แต่วันนั้นมีเด็กฝึกใหม่มีหนึ่งคน นั่งจ้องหลวงพี่เอกในขณะที่ท่านสั่งให้ภาวนาและจับภาพพระ

ท่านก็ถามขึ้นว่า "ทำไม...ไม่หลับตาจับภาพพระ"
เด็กที่นั่งจ้องหลวงพี่ก็บอกว่า "กำลังจับภาพพระอยู่นี่ครับ"
(ภาพพระที่เด็กจับ(จ้อง)ก็คือหลวงพี่เอก)

จับภาพพระจริง ๆ ด้วย เป็นองค์เลย

ทำไปได้!!!!

[ทาริกา]

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันเครียดหนัก ตอนก่อนนอนก็จับภาพพระอาจารย์(เล็ก)
จับไปจับมาหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืน ก็เห็นหน้าพระอาจารย์ ติด ๆ ดับ ๆ ทั้งคืนเหมือนกัน
เหมือนมีพระอาจารย์อยู่ด้วยตลอดเลย
เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่หนูประทับใจมาก
และทำได้ครั้งเดียวเองค่ะ

[เถรี]

หลวงพ่อวัดท่าซุงสอนว่า "วิธีปฏิบัติจริง ๆ อย่ามัวคิดว่าจะต้องนั่งขัดสมาธิ จะต้องนั่งพับเพียบเสมอไป ถ้านึกถึงภาพพระ เวลาเดินไปเดินมา ทำการงานก็ดี ไปธุระก็ดี ให้นึกถึงไว้เป็นปกติให้ชิน ถ้าจะถามว่าทำอย่างนี้ได้หรือก็ต้องตอบว่าทำได้ เพราะอาตมาทำมาแล้ว เราเดินไปถ้าคุยกับใครเราก็คุย เวลาว่างจากการคุยนึกถึงภาพพระ ให้นึกถึงทันทีทันใด คำว่าเห็น นึกเห็นนะ นึกจำภาพได้"