มหาเศรษฐีไปบรมพุทโธ ตอนที่ ๖

[สุธรรม]

สัตบรรณ (บัวสายสีแดง) บานรับอากาศสดชื่นในยามเช้า

๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕

ตื่นตั้งแต่ตีสองตามเคย ภาวนาจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ก็ลุกมาจัดการกับรูปต่อ จากนั้นนั่งพิมพ์เรื่องของการเดินทางเมื่อวาน แม่ป๋อมเอาน้ำร้อนมาถวาย พอเปิดประตูอากาศเย็นก็ไหลพรูเข้ามา เย็นชื่นใจทีเดียว…

แม่ป๋อมถวายปัจจัยทำบุญเช้านี้ ๑๐๐,๐๐๐ รูเปียห์ บอกว่าเดี๋ยวจะเรี่ยไรเงินกองกลางเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายที่คุณเห็นดีและภรรยาจ่ายมาตลอด อาตมาจะควักกระเป๋าร่วมด้วย คุณเธอบอกว่าไม่ต้อง “เดี๋ยวหนูจ่ายให้เองค่ะ..”

[สุธรรม]

เดินชมวัดในช่วงเช้า หลังนี้คือวิหารพระพุทธไสยาสน์

ตีสี่ครึ่งเสียงละหมาดดังมารอบทิศ ยิ่งมาก็ยิ่งดัง อาตมาปิดเครื่องโน้ตบุ๊ค ส่งใจไปกราบพระบนพระนิพพาน ภาวนาแข่งกับแม่ป๋อมที่ไปนั่งภาวนาอยู่ในห้องโถงรับแขก เผลอไปหน่อยเดียวเสียงละหมาดเงียบไปหมดเมื่อไรก็ไม่รู้ ?

ดูนาฬิกา ตายห่..หกโมงห้านาทีแล้ว ออกไปดูในห้องโถง แม่ป๋อมก็หายไปตอนไหนไม่รู้ ? อาตมารีบสรงน้ำ ครองผ้า แล้วไหว้พระสวดมนต์ จากนั้นออกไปข้างนอก เอาซองปัจจัยส่งให้ป้านุช บอกว่าให้ถามคุณอาเล็กให้ดี ว่าพระที่นี่รับปัจจัยโดยตรงได้หรือไม่ ? จะได้ไม่ไปทำผิด ๆ ให้ท่านตำหนิเอาได้...

[สุธรรม]

วิหารพระพุทธรูปด้านในซึ่งความจริงก็คือด้านหน้าวัด

ญาติโยมทั้งหญิงและชายหลายคนกำลังช่วยกันทำความสะอาดวัด สภาพวัดกว้างขวาง สะอาดสะอ้านและร่มรื่นมาก มีอาคารลักษณะเหมือนโบสถ์แต่ก็ไม่เห็นเสมา บางหลังน่าจะเป็นศาลาการเปรียญ บางหลังก็น่าจะเป็นศาลาสำหรับนั่งวิปัสสนา อาตมาเดินเก็บภาพไปถึงหลังวัด จึงเห็นว่ามีประตูใหญ่ให้รถเข้าอยู่ทางด้านนี้ แปลว่าด้านหน้าที่เราเข้ามาทุกครั้งความจริงก็คือหลังวัด !?!?

[สุธรรม]

ภายในกุฏิของท่านเจ้าคุณพระปัญญาวราภรณ์

ถ่ายรูปเพลินจนป้านุชมาตาม บอกว่าหลวงพ่อโชติธมฺโมลงมาที่หอฉันแล้ว จึงรีบกลับมายังหอฉัน บอกขออภัยที่ทำให้ท่านรอ มีญาติโยมมาถวายอาหารเช้าหลายราย ดูหน้าตาแล้วมีเชื้อจีนทั้งนั้น อนุโมทนาแล้วฉันเช้าด้วยข้าวผัด...

หลวงพ่อโชติธมฺโมชวนคุยถึงเรื่องตลกในวงการพระ ที่ญาติโยมมักจะใช้คำศัพท์แบบพระไม่ค่อยถูก อาตมาจึงเล่าเรื่องทางเมืองไทยให้ท่านฟังว่า พระขอให้โยมถอดรองเท้าตอนใส่บาตร โยมจึงถามพระว่า "Do you want one or both of these shoes ? ท่านต้องการจะรับทั้งสองข้างหรือข้างเดียว ?" ทำเอาท่านหัวเราะชอบใจเป็นการใหญ่...

[สุธรรม]

ขาไปคุณแม่เดินไป แต่ขากลับขอนั่งรถเมล์กลับ..!

ฉันเสร็จแล้วเป็นทีของโยมกันบ้าง นี่ถ้าไม่ต้องรอพระฉันป่านนี้ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้ เห็นคุณอาเล็กเอาปัจจัยถวายหลวงพ่อโชติธมฺโม ท่านก็รับแบบหน้าตาเฉย แสดงว่าเป็นพวกเดียวกับอาตมา ไม่อย่างนั้นจะไปหาใบปวารณาที่ไหนได้...

แม่ป๋อมเล่าว่าเมื่อเช้าที่หายไปนั้น ลองเดินไปยังพระมหาเจดีย์บรมพุทโธดู เพราะได้ยินว่าสมัยก่อนเขาเดินจากพระเจดีย์เมนดุต เพื่อไปทำบุญกันต่อที่พระมหาเจดีย์บรมพุทโธ เดินจนขาลากยังเกือบจะไปไม่ถึง ขากลับคิดจะโบกรถกลับ แต่เกรงว่ารถพาไปประเทศอื่น เลยต้องฝืนลากขากลับมา เกือบจะโดนทิ้งเสียแล้วโทษฐานที่มาช้า ขนาดเหนื่อยแทบตายยังวางฟอร์มโม้ ว่าได้ไปกราบบรมพุทโธอีกหน..!

[สุธรรม]

ญาติโยมที่มาทำบุญต้องทำหน้าที่แม่ครัวไปด้วย

กว่าทุกคนจะเรียบร้อยและขึ้นรถได้ คุณเห็นดีก็ซื้อของจากร้านข้าง ๆ วัดไปอีกหอบหนึ่งแล้ว พลขับออกรถวิ่งย้อนทางเดิม มาจนถึงสามแยกสถานีขนส่ง Jombor พี่แกพาวิ่งตรงไปเลย

นึกว่าวันนี้ได้ไปคนละทางไม่ซ้ำของเดิมแล้ว ที่ไหนได้ วิ่งอ้อมไปสักพักก็โผล่ออกมาตรงสามแยก เลี้ยวซ้ายขึ้นถนนเส้นเดิมตรงสะพานใหญ่ เขายังขุดขี้เถ้าภูเขาไฟกันเหมือนเดิม บรรดาสาว (แก่) โม้กันกระจาย สารพัดเรื่องเฉิ่ม ๆ จะขนมาเล่าสู่กันฟัง ขนาดลงจากรถเมล์กระโปรงขาดติดอยู่บนรถก็เคยมาแล้ว..!

[สุธรรม]

สามล้ออินโดนีเซีย เอาผู้โดยสารเป็นกันชน..!

คุยกันไปเรื่อย คุณอาเล็ก คุณเห็นดีและคุณนายเทวีเป็นฮกเกี้ยน พูดจีนกลางได้ อาตมาจึงกลายจาก “บันเต” เป็น “ซือฝู่” รถวิ่งเข้ามาในตัวเมืองยอร์กจาการ์ตา ฝ่าการจราจรที่สับสนมาก เลาะข้างทางรถไฟที่มีไม้เถาปลูกเป็นร่มยาวเหยียดน่าเดินเล่น เลี้ยวขวาข้ามทางรถไฟมาแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Mariobolang แหล่งเดินซื้อของชื่อดังของที่นี่ รถราแน่นขนัดไปหมด มีสามล้อและรถม้ามากมาย สามล้ออินโดนีเซียเอาผู้โดยสารนั่งข้างหน้า ถ้าชนกันคนนั่งก็รับเละไปตามระเบียบ..!

[สุธรรม]

มนุษย์ต้นไม้แห้งเหี่ยวแหงแก๋ ไม่รู้ว่าตั้งใจสื่อให้รักษาธรรมชาติหรือเปล่า ?

วิ่งทะลุออกมาเกือบนอกเมือง ตรงสี่แยกไฟแดงมีรูปปั้นมนุษย์ต้นไม้ด้วย ถามพลขับว่าเขาสื่อความหมายอะไร ได้รับคำตอบว่าเป็นการแสดงผลงานของศิลปิน ถึงหกเดือนก็จะเปลี่ยนทีหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าศิลปินเจ้าของผลงานชิ้นนี้ตั้งใจจะสื่อถึงอะไร...

[สุธรรม]

บริเวณหน้าประตูวังชั้นที่สอง

วิ่งเลยสี่แยกไปไม่ไกลก็เจอรถฉลามบกพร้อมจราจรหลายคน พวกเราเลี้ยวขวาแล้วจอด ที่แท้ถึงวังสุลต่านเกอราตอนที่หมายของเช้านี้แล้ว พวกเราเดินผ่านตำรวจหลายนาย และร้านขายของที่ระลึกยาวเหยียดเข้าไปซื้อบัตรเข้าชม เขาระบุไว้ชัดเลยว่า

Visitors = Rp.12,500._
Camera = Rp.1,000._

จึงไม่ต้องปั้นหน้าให้เหมือนชาวบ้านที่นี่ รับบัตรมาทั้งบัตรผ่านและบัตรอนุญาตให้ใช้กล้อง เอามาแจกให้กับทุกคน แล้วมีคุณยายท่านหนึ่งในชุดเครื่องแบบของที่นี่ มาแนะนำตัวว่าเป็นมัคคุเทศก์ พาพวกเราเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไป พลางถามอาตมาว่า

[สุธรรม]

พระตำหนักรับรองพระราชอาคันตุกะ

“Are you Theravada or Mahayana ?” จึงต้องสารภาพกับคุณยายแต่โดยดีว่า “I'm Theravada Buddhist monk.” คุณยายจึงอธิบายฉอด ๆ ว่าที่เห็นอยู่เบื้องหน้านี้ เป็นวังรับรองพระราชอาคันตุกะ คนสำคัญที่เคยมาพักที่นี่มีทั้งควีนเอลิซาเบ็ธ และเจ้าหญิงไดอาน่า อาตมาเดินเข้าไปถ่ายรูป คุณยายร้องว่าไม่ได้ ห้ามเข้า อ้าว..ป้ายดันไปอยู่ข้างหน้าโน่น ตรงที่อาตมาเข้าไม่มีนี่หว่า ? แต่ก็ต้องเชื่อ..ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคุณยายไม่คุยให้ฟังอีก...

[สุธรรม]

พระตำหนักต่าง ๆ ภายในวังสุลต่านแห่งเกอราตอน

คุณยายพาวนอยู่รอบบริเวณวังรับรองพระราชอาคันตุกะ ที่มีพระตำหนักหลายหลัง พลางอธิบายว่าแต่ละหลังเคยใช้ทำอะไรบ้าง อาตมาถ่ายรูปคานหามแบบวอของไทย แล้วตามคุณยายเข้าลึกไปข้างอีกช่วง คุณยายให้ถ่ายรูปกับตราประจำพระองค์ตรงกำแพงก่อน แล้วพาเข้าไปชมพระตำหนักทรงงานของสุลต่าน หลังนี้สีสันสดใสงดงามอลังการมาก มีทหารแต่งเครื่องแบบโบราณ พกกริชเฝ้าอยู่ ๓ นาย...

[สุธรรม]

เพดานพระตำหนักทรงงาน สีสดใสงดงามมาก

ดูเครื่องมือเครื่องใช้ในการทรงงาน แล้วคุณยายแนะนำว่าควรถ่ายรูปมุมไหนถึงจะสวย ฮ่า..คุณยายบอกช้าไป เพราะทั้งอาตมา ป้านุช แม่ป๋อม และเกรซ จัดการเก็บภาพมุมที่ว่ามาหมดแล้ว...

[สุธรรม]

คุณยายนำชมเครื่องราชูปโภคขององค์สุลต่าน

จากนั้นตามคุณยายเข้าไปในพระตำหนักต่าง ๆ เดินชมเครื่องราชูปโภคและของที่ประเทศต่าง ๆ น้อมถวายองค์สุลต่าน ตลอดจนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของประเทศต่าง ๆ ที่องค์สุลต่านได้รับ จนวนครบรอบออกมาบริเวณพระตำหนักทรงงานเหมือนเดิม...

[สุธรรม]

ช่างไม่รู้เอาเลยว่าอิสลามิกชนเขาเคร่งครัดเรื่องผู้หญิงขนาดไหน..!

ป้านุชและเกรซเห็นทหารในเครื่องแบบโบราณดูเคร่งขรึมมาก ถามคุณยายว่าถ่ายรูปทหารได้ไหม ? พอคุณยายบอกว่าได้ ทั้งป้านุช แม่ป๋อมและเกรซก็เฮโลเข้าไป แทบจะนั่งไปบนตักของคุณลุงทหารเลย ไม่รู้ว่ามีใครโดนบรรดาคุณลุงแอบบิดเนื้อบ้างหรือเปล่า ?

[สุธรรม]

ด้านในช่วงนี้ร่มรื่นมาก มีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด

เสร็จแล้วคุณยายพาเข้าไปด้านในอีกช่วงหนึ่ง ตรงนี้ร่มรื่นมาก ปากทางเข้ามีกลองแบบกลองเพลใบใหญ่ อีกด้านหนึ่งเป็นเกราะไม้อันมหึมา สมัยก่อนเอาไว้สำหรับตีแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย คุณยายลองทุบให้ดูว่าเสียงดังแบบไหน ด้านในเป็นตำหนักที่ประทับเพื่อชมการแสดงรื่นเริงต่าง ๆ ...

[สุธรรม]

ทหารราชองครักษ์คนใหม่ ท่านสุลต่านเพิ่งรับเข้าทำงาน..!

คุณยายว่าสมัยก่อนจะมีการแสดงถวายองค์สุลต่านทุกเย็นวันศุกร์ สุลต่านองค์ปัจจุบันนี้เป็นองค์ที่ ๑๐ แล้ว สืบสายโดยตรงมาจากสุลต่านพระองค์แรก บรรดาคุณลุงทหารและคุณยายทั้งหลายที่เป็นมัคคุเทศก์ในนี้ เกษียณอายุราชการแล้วเขาจึงรับเข้ามาทำงานที่นี่ มีด้วยกันทั้งหมด ๒,๐๐๐ คน..!

คุณยายพาชมพระตำหนักอื่น ๆ รอบพระตำหนักรื่นรมย์ มีภาพถ่ายองค์สุลต่านและรานี ตลอดจนราชบุตรราชธิดา และเชื้อพระวงศ์ต่าง ๆ มากมาย เข้าไปถึงพระตำหนักหนึ่ง มีช่องเว้าสำหรับทหารรักษาการณ์ คุณยายแนะนำให้อาตมานั่งเป็นหุ่นให้ทุกคนถ่ายรูป เล่นเอาทุกคนถ่ายไปหัวเราะไป พลางบอกว่ารูปออกมาเหมือนหุ่นจริง ๆ..!

[สุธรรม]

คนสวย (วัยงาม) ทั้งสองกำลังถ่ายรูปด้วยกัน

มีพระตำหนักหลายแห่งที่ปิดซ่อมแซมไม่ให้เข้าชม คุณยายจึงพาพวกเราวนออกมาตรงทางออก มีร้านจำหน่ายรูปต่าง ๆ และรับถ่ายรูปด้วย เด็กนักเรียนกลุ่มใหญ่กำลังรุมร้านขายรูปจนแน่นไปหมด มีคุณยายท่านหนึ่งแต่งตัวด้วยชุดชาววัง คล้าย ๆ กับชุดผ้าถุงเกาะอก ดูทะมัดทะแมงมาก เข้ามาสลามทักทายคุณยายมัคคุเทศก์ แล้วถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันใหญ่...

ป้านุชเห็นแล้วชอบใจ วิ่งไปกอดคุณยายชาววังขอถ่ายรูปด้วย คุณยายบอกว่ายินดีมาก จะได้มีรูปถ่ายสาวสวย ๒ คนไว้เป็นที่ระลึก เกรซจึงเลียนแบบบ้าง แต่ดูท่าวัยยังไม่ถึง จึงไม่สามารถที่จะเป็นคนสวยในสายตาของคุณยายชาววังได้..!

[สุธรรม]

การแสดงต่าง ๆ สำหรับนักท่องเที่ยว

อาตมาเดินแทรกเด็ก ๆ ออกมาด้านนอกก่อน รอจนทุกคนตามมาแล้วจึงพาเลี้ยวออกมาทางเดิม บอกลาคุณยายแล้วถ่ายรูปตรงปากทางเข้าวังเป็นที่ระลึก บรรดาพ่อค้าแม่ค้าตามเสนอสินค้าเป็นการใหญ่ ที่น่าสนใจเป็นนกหวีดที่เป่าเป็นเสียงนกต่าง ๆ ได้ แต่ขอโทษ..ที่เจอมาก็คือพอซื้อไปแล้วเป่าไม่ได้เหมือนกับอันที่เป็นตัวอย่าง จึงไม่มีใครซื้อสักคน...

ตรงตำหนักใกล้ปากทางเข้า กำลังมีการแสดงดนตรีพื้นเมือง บรรดานักท่องเที่ยวฝรั่งกลุ่มใหญ่นั่งชมการแสดงอยู่ แต่พวกเราเห็นการแสดงอังกะลุง (คำนี้เป็นภาษาชวา) มากันจนเบื่อแล้ว จึงเดินยาวออกมาที่รถเลย...

[สุธรรม]

ปากทางเข้าพระตำหนักสรงสนาน (Water Palace)

นึกว่าใกล้เพลแล้วจะไปร้านอาหารกัน ที่ไหนได้..พลขับพาวิ่งเลาะกำแพงวังสุลต่านยาวเหยียด ไปจนถึงทางแยกแห่งหนึ่งก็เลี้ยวเข้าไป บอกว่าเป็น Water Palace คุณนายเทวีไปซื้อบัตรเข้าชม ขณะที่อาตมานั่งเป็นหุ่นอยู่ในป้อมทหารให้เขาถ่ายรูปกันอีก...

[สุธรรม]

น้ำในสระมาจากปากพ่อพญานาครูปหล่อนี่เอง

ด้านในเป็นสระน้ำสามแห่ง ตรงกลางที่โผล่เข้าไปแล้วเจอเลย เป็นของบรรดาสาวสรรกำนัลใน ด้านขวาเป็นของบรรดาเด็ก ๆ ลูกท่านหลานเธอ ด้านซ้ายเป็นขององค์สุลต่านและนางห้าม น้ำไหลลงสระมาจากปากมังกรที่อยู่ใต้หอรักษาการณ์ สระน้ำรักษาได้ดีมาก น้ำสะอาดใสไม่มีตะไคร่เลย ทั้งที่แสงแดดแรงมาก...