กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 22-10-2020, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“เรื่องของการนอนนั้น พระพุทธเจ้ากำหนดไว้สุดยอดมาก...อยู่โคนไม้ สมัยนี้อยู่โคนไม้คงจะไม่ไหว ป่ากลายเป็นป่าสงวน กลายเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า กลายเป็นอุทยาน ก็อยู่ในวัด กุฏิใครกุฏิท่าน โดยเฉพาะของวัดท่าขนุน ไม่มีพระสองรูปอยู่กุฏิเดียวกัน คือต่างคนต่างมีห้องส่วนตัวของตัวเอง โอกาสที่จะใกล้ชิดจนกระทั่งสัมผัสโรคก็ไม่มี

การกินแล้ว การนอนแล้ว การทำงาน...ต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ ปัดกวาดเช็ดถูเสนาสนะต่าง ๆ ก็คนละมุมคนละที่กัน ตอนทำวัตรเย็นทำวัตรเช้าที่ต้องมาร่วมกัน ของเราก็นั่งเว้นระยะ เว้นชนิดที่เอื้อมมือเขกหัวกันไม่ถึง..! ก็เลยทำให้เห็นว่า ในช่วงที่ญาติโยมเดือดร้อน อยู่กับบ้าน สั่งอาหารมาส่ง พระแทบจะไม่มีความเดือดร้อนตรงส่วนนี้เลย ฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านกำหนดอะไรมา จะเหมาะสมกับทุกยุคทุกสมัย อาศัยการปรับตัวเล็กน้อยก็เข้ากับสมัยหรือเหตุการณ์นั้น ๆ ได้แล้ว

สำหรับวัดท่าขนุนนั้น เดือนมีนาคม เมษายน พฤษภาคม อาตมาก็ยังทำตัวสบาย ๆ ออกบิณฑบาตใส่หน้ากากบ้าง ไม่ใส่บ้าง พอถึงมิถุนายนก็สั่งพระเณรทุกรูปใส่หน้ากากตลอดมาจนบัดนี้ พระท่านก็สงสัยว่าทำไม ? จึงตอบว่า “ผมเป็นทหารมาก่อน ข้าศึกมักจะเข้าโจมตีตอนที่เราเผลอ คนเราพอระมัดระวังไปนาน ๆ แล้วจะหย่อนยาน ก็จะเผลอให้ข้าศึกทำอันตรายได้ เพราะฉะนั้น..ตอนที่คนอื่นเขาระวังกัน ผมไม่ระวังหรอก เพราะว่าโดยสัญชาตญาณเขาก็ต้องคิดว่าเราระวัง แต่ตอนที่คนอื่นเริ่มเลิกระวังกัน นั่นแหละ เราต้องระวังให้จงหนัก พลาดเมื่อไรเป็นโดน..!”

ก็สรุปว่าจนป่านนี้พระวัดท่าขนุนยังไม่มีใครติดโควิด กำลังรออยู่เหมือนกันว่าจะติดเมื่อไร..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 22-10-2020, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ด้วยความที่มีชีวิตมายากลำบาก ในชีวิตเคยอดตอนเด็ก ๆ จะเรียกว่าอดทีเดียวก็ไม่ใช่ ต้องเรียกว่าถ้าเลือกกินก็จะอด ก็คือตอนเด็ก ๆ เกิดทุพภิกขภัย ข้าวยากหมากแพงอยู่สองรอบ ช่วงก่อน พ.ศ. ๒๕๑๐ ใครยังไม่เกิดฟังไว้เฉย ๆ ทำให้ข้าวปลาอาหารหายาก ตอนแรกก็ลดจำนวนข้าวลง เพิ่มบรรดาหัวเผือกหัวมันลงไปในหม้อข้าวด้วย เพื่อให้ได้มีอาหารมากขึ้น ก็ต้องกินข้าวผสมเผือกผสมมันไป

คราวนี้พอมากขึ้น ๆ จากข้าวขาวก็ไม่มี ก็เหลือแต่ข้าวกล้อง แล้วข้าวกล้องต่างจังหวัดสมัยก่อนก็มักจะตำ ไม่ได้สีด้วยเครื่อง ก็จะติดเปลือกที่เป็นแกลบบ้างอะไรบ้าง...กลืนยากมาก พอข้าวกล้องก็ไม่มี ก็ต้องกินข้าวโพดที่เก็บไว้ทำพันธุ์ สมัยก่อนเขาเรียกว่าข้าวโพดม้า เก็บไว้เลี้ยงม้าอย่างเดียว เม็ดแข็งเป็นหิน ค้อนทุบเกือบไม่แตก ตากแห้งเพื่อรอเอาไปปลูกอีกปีหนึ่งตอนฤดูฝน ขนาดเอามานึ่งจนสุกแล้วยังรู้สึกเหมือนกับเคี้ยวก้อนหิน..! แต่ก็ยังดีว่าไม่ถึงขนาดกินขุยไผ่เหมือนกับรุ่นพ่อรุ่นแม่”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 02:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 22-10-2020, 20:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“คราวนี้พอโตขึ้นมาหน่อย เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓ ก็เกิดข้าวยากหมากแพงอีกรอบหนึ่ง ตอนนั้นจำได้ว่าทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ปีแรก ๆ ประมาณปี ๒๕๑๙-๒๕๒๐ ต้องมีการปันส่วนอาหารกัน ใครที่ทันเหตุการณ์ตอนนั้นจะจำข้าวโอชาได้ ข้าวโอชาเป็นการใช้ข้าวเหนียว ๓๐ เปอร์เซ็นต์ปนกับข้าวเจ้า แต่ละบ้านต้องมีบัตรปันส่วนว่า แต่ละเดือนซื้อข้าวได้กี่ลิตร เสร็จแล้วก็มาเจอการลอยตัวค่าเงินบาทในช่วงสมัยรัฐบาลป๋าเปรม มาเจอวิกฤตต้มยำกุ้งปี ๒๕๔๐ แล้วปัจจุบันนี้ก็คือวิกฤตโควิด-๑๙ ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่าลำบาก ยังสามารถช่วยเหลือคนอื่นเขาได้เป็นปกติ

ดังนั้น..ในส่วนที่เล่ามา ก็ไปนึกถึงคำโบราณที่ว่า “ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ” จะบอกว่าสบายก็ไม่ใช่ เพียงแต่ว่าเคยทนลำบากมากกว่านั้นมา ลำบากที่เห็นในปัจจุบันนี้ก็เลยกลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับตัวเราเอง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 23-10-2020, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “วิกฤตไวรัสโควิด-๑๙ ครั้งนี้ ส่วนที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน ใหญ่เท่าไรก็เจ็บตัวเท่านั้น โดยเฉพาะบรรดาสายการบินที่แข่งขันกันทั่วโลก เครื่องบินที่บินว่อนไปทั้งอากาศ..จอดเรียบ ปรับโครงสร้างบ้าง ดุลพนักงานออกบ้าง ยอมล้มละลายบ้าง กิจการเล็ก ๆ กลับรอดตัวง่ายกว่า

คราวนี้วิกฤตครั้งนี้เราต้องมาพิจารณาว่าปัจจัย ๔ ที่เรียนกันตั้งแต่รุ่นอาตมายังเด็ก ๆ มี อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค จะว่าไปแล้วเขากำหนดตามความสำคัญเลยนะ อาหารที่มาก่อนเพราะว่าต้องกินทุกวัน เครื่องนุ่งห่มต้องใช้ทุกวัน แต่ใช้น้อยกว่าอาหาร ส่วนมากก็โน่น..ใส่กันทั้งวัน ที่อยู่อาศัย..อย่างดีก็นอนวันละครั้งหนึ่ง ใครมีนอนกลางวันก็สองครั้ง..! ยารักษาโรค..เราไม่ได้ป่วยทุกวัน นาน ๆ ป่วยที ถ้าป่วยทุกวันนั่นถือว่าโชคดี ห้ามยกเป็นตัวอย่าง จัดเป็นชนกลุ่มน้อย..แปลกแยกจากสังคม..!

เราจะเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่มีอยู่นั้น ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คืออาหาร ก็เลยทำให้กิจการส่งอาหารถึงบ้าน อย่าง Foodpanda และอีกสารพัดกิจการ..รุ่งเรืองมาก แม้ว่าจะโดนปักหมุดเข้าไปอยู่ในสุสานบ้าง หรือสั่งแล้ว "เท" บ้างก็เถอะ..! สมัยอาตมายังเด็ก ๆ พี่ ๆ ทุกคนถ้าเป็นผู้หญิงต้องทำอาหารเป็น ต้องไปวัด ถึงเวลาหุงข้าว ต้มแกงไปถวายหลวงปู่ หลวงตา หลวงพ่อ วันพระทีหนึ่งก็อวดฝีมือกันทีหนึ่ง ว่าลูกบ้านไหนจะทำกับข้าวได้อร่อยกว่ากัน เราจะเห็นว่าคนที่ทำอาหารอร่อย ถึงเวลาตกงานเพราะโควิดอาละวาด เปิดขายอาหารออนไลน์ก็เอาตัวรอดได้ แม้ว่าจะติดก้นถุงอยู่นิดหนึ่ง แต่ราคา ๑๕๐ บาทก็ช่างเถอะ ขายได้ก็แล้วกัน

คราวนี้สิ่งที่ท่านกำหนดเอาไว้แต่โบราณในเรื่องของปัจจัย ๔ คือสิ่งที่จำเป็นในชีวิตทั้งหมด มาถึงโลกยุคปัจจุบันนี้ต้องมีปัจจัยที่ ๕ คือสมาร์ทโฟน ไม่อย่างนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าสารพัดแอปพลิเคชันอยู่ในนั้น จะสั่งจะซื้อจะโอนเงินก็อยู่ในนั้นทั้งหมด ดังนั้น..ปัจจัยที่ ๕ จึงงอกเงยขึ้นมา แต่โปรด...ลบแอปฯ Lazada ออกไปบ้าง ลบแอปฯ Shopee ออกไปบ้าง แล้วชีวิตนี้ถึงจะมีเงินเหลือ..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 16:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 23-10-2020, 10:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยม “เขียนชื่อมาด้วย ถ้าไม่มีชื่อก็เขียนคณะมาก็ได้ ส่วนใหญ่อาตมาลงบัญชีก็ลงให้เป็นคณะ ทำคนเดียวก็ลงว่าคณะของคุณคนโน้นคุณคนนี้

ต้องบอกว่าอาตมาพยายามทำบัญชีทุกอย่างให้โปร่งใส รอรับการตรวจสอบ อาตมาเองไม่อยากที่จะเปิดเผยความลับของฟ้ามาก แต่ขอให้รู้ว่าพระเราจะโดนเก็บภาษี พระเราจะโดนตรวจสอบทางการเงิน ถ้าหากว่าใครเตรียมตัวเอาไว้แต่เนิ่น ๆ มีระบบบัญชีที่ชัดเจนโปร่งใสก็รอดตัวไป หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกอาตมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ บอกหลังจากที่ท่านมรณภาพแล้วนั่นแหละ..! "ให้ไปรื้อบัญชีทำใหม่ เงินทุกบาททุกสตางค์รับมาจากใคร ใช้ไปเรื่องอะไร ถ้ามีคนตรวจสอบต้องชี้แจงเขาได้” ครูบาอาจารย์ท่านมองการณ์ไกล ท่านดูหนังจบแล้ว ท่านรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ของเราก็แค่ทำตามที่ท่านบอก

เพราะฉะนั้น..บัญชีเงินวัดท่าขนุนสามารถตรวจสอบย้อนหลังไปได้จนถึงปี ๒๕๓๖ คงไม่มีวัดไหนที่ให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ยาวขนาดนี้หรอก

สมัยแรกอาตมายังทำบัญชีด้วยมือ พอมาใช้คอมพิวเตอร์ก็สะดวกขึ้น ไม่อย่างนั้นแล้วยอดสังฆทานรับกันแทบทั้งเดือน จะเล็กจะน้อยแค่ไหนก็ต้องลง ถึงเวลาเขียนด้วยมือจะลำบากมาก แต่พอมาทำใน Word ก็สะดวก ถึงเวลาก็บวกเพิ่ม โดยเฉพาะระบบของ Excel นี่สุดยอดมาก พิมพ์ตัวเลขลงไป บวกให้เสร็จลบให้เสร็จ เหมาะสำหรับคนขี้เกียจ..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 16:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 23-10-2020, 10:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (พระกราบเรียน) เป็นโรคบ้านหมุนครับ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก นอนให้พอ โรคนี้สาเหตุเดียวคือนอนไม่พอ ก็ดีตรงที่ช่วยให้เรามีสติมากขึ้น จะลุกจะนั่งต้องระวังไปหมด ถ้าสามารถระวังแบบนี้ได้ กิเลสก็กินไม่ได้ เขาเรียกว่าในวิกฤตมีโอกาส ...(หัวเราะ)... ไม่มีอะไรหรอก ไม่ต้องเสียเวลาไปกินยา แค่นอนให้พอก็หายแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2020 เมื่อ 16:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 24-10-2020, 23:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “อาตมาเองอยู่ในสังคมก้มหน้ามาก่อนเด็กอื่นอย่างน้อยก็ ๔๐ ปี เพราะว่าชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันนี้ก็เฉลี่ยอ่านหนังสือวันละ ๑ เล่ม แล้วมีปัญหาคือหาหนังสืออ่านยาก เพราะว่าหนังสือออกไม่ทัน..! ทั้ง ๆ ที่เป็นคนอ่านหนังสือทุกแนว

ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครมาคุยบอกว่าเด็กยุคนี้อยู่ในสังคมก้มหน้านี่ อาตมาทันสมัยล่วงหน้าเขาอย่างน้อยก็ ๔๐ ปี มีแต่มากกว่า ไม่มีน้อยกว่า

โดยทั่ว ๆ ไปอาตมาพยายามจำกัดค่าหนังสือให้อยู่ในเดือนละ ๓ พันบาท แต่มักจะเอาไม่ค่อยอยู่ โดยเฉพาะช่วงงานสัปดาห์หนังสือฯ บางทีก็ ๗-๘ พันบาทต่อเดือน เพราะว่าหนังสือใหม่มักจะไปประดังออกพร้อมกันช่วงนั้น แล้วมาตอนหลังน่าจะเห็นว่าขายดี จากที่มีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติประมาณเดือนเมษายนของทุกปี ก็มาเพิ่มงานมหกรรมหนังสือระดับชาติเอาเสียอีกรอบหนึ่ง แล้วก็ยังมีบรรดาบริษัท ห้างร้าน สำนักพิมพ์ต่าง ๆ ถึงเวลาก็จัดรายการลดแลกแจกแถมประจำปีของตัวเองเข้าไปอีก”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 24-10-2020, 23:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ในเมื่ออ่านหนังสือทุกแนวอย่างอาตมา ก็เลยกลายเป็นว่า ถึงเวลานั้นมีสิทธิ์ที่จะกระเป๋าฉีก เพียงแต่ตอนนี้กระเป๋าฉีกน้อยลง เพราะว่ามีไอ้ตัวเล็กฉีกแทน..! อาตมามีหน้าที่อ่านแล้วก็ลงยอดไว้ว่าเดือนนี้ยอดหนังสือเท่าไร แล้วก็หักเอายอดหนังสือนั้นแหละไปทำบุญสังฆทานแทน ไอ้ตัวเล็กเลยได้ทำบุญสังฆทานเดือนละเยอะ ๆ โดยไม่รู้ตัว บางทีก็ยัดลงไปสร้างพระทองคำบ้าง ...(หัวเราะ)... เขาเรียกว่ารวยแบบไม่รู้ตัว ได้ทำบุญแล้วยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ทำ..!

อย่างเล่มที่อ่านอยู่นี้คือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ฉบับที่ ๓๒ มีลายเซ็นคนเขียนคือหนุ่มเมืองจันท์มาด้วย สมัยก่อนอาตมาก็เก็บหนังสือที่มีลายเซ็นคนเขียนไว้ อย่างของคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ครูพนมเทียน ปรากฏว่าเก็บไปเก็บมา ท้ายสุดก็เลิกเก็บ เอาลงห้องสมุดไปหมด ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 24-10-2020, 23:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สมัยนี้เขาต้องมีย้อมผมปกปิดกันใช่ไหม ? คนไม่แก่พยายามจะแก่ ส่วนคนแก่พยายามที่จะไม่แก่ เขาเรียกว่า ภวตัณหาและวิภวตัณหา ภวตัณหา เป็นไปตามสภาพ วิภวตัณหา ฝืนสภาพ

อยากสวย อยากรวย อยากดี อยากเด่น อันนี้ภวตัณหา ส่วนวิภวตัณหาบอกว่าไม่อยาก แต่จริง ๆ แล้วก็คืออยาก ไม่อยากแก่ ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากตาย ก็คืออยากจะไม่แก่ อยากจะไม่เจ็บ อยากจะไม่ตาย ...(หัวเราะ)...”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 24-10-2020, 23:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอยากเริ่มฝึกนั่งกรรมฐานค่ะ ?
ตอบ : ก็นั่งสิจ๊ะ

ถาม : ง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือคะ ?
ตอบ : จะนั่งจะนอน จะหกคะเมนตีลังกาอย่างไรก็ได้ แต่สำคัญที่ให้รู้ลมหายใจเข้าออกไว้ ให้ใจอยู่แค่ตรงลมหายใจนี้ อย่าให้ไปคิดเรื่องอื่น ถ้ารู้สึกตัวว่ากำลังคิดเรื่องอื่นเมื่อไรให้ดึงกลับมาตรงนี้ หายใจเข้าจนสุด หายใจออกจนสุด ถ้าไม่คิดเรื่องอื่นให้นับ ๑ หายใจเข้าจนสุด หายใจออกจนสุด ถ้าไม่คิดเรื่องอื่นให้นับ ๒

พยายามนับให้ถึง ๑๐ โดยที่เราไม่คิดอะไร ถ้าหากว่านับไปถึง ๓ ถึง ๔ แล้วคิด ก็ให้เริ่มต้นนับ ๑ ใหม่ นับไปถึง ๘ ถึง ๙ แล้วคิด ก็เริ่มต้นนับ ๑ ใหม่ ต้องบังคับลักษณะอย่างนี้ไประยะหนึ่ง แล้วพอจิตเคยชินก็จะยอมอยู่กับลมหายใจเอง เพราะฉะนั้น..เรื่องของการนั่ง การยืน การเดิน การนอน หรือหกคะเมนตีลังกานั้นไม่ได้สำคัญ สำคัญตรงที่รักษาความรู้สึกของเราให้อยู่ตรงนี้

ไป...ไปทำได้แล้ว ทำแล้วเป็นอย่างไรแล้วมารายงาน เดี๋ยวจะต่อวิชาได้ ตอนนี้เอาแค่นี้ให้ได้ก่อนว่า ภายในครึ่งชั่วโมงจะนับ ๑ ถึง ๑๐ ได้ตามลมหายใจโดยไม่คิดอะไรไหม ถ้าทำได้นี่เก่งสุด ๆ เลย อย่าคิดว่า ๑ ถึง ๑๐ ง่ายนะ ขอยืนยันว่าปางตายเลยแหละ..!


ถาม : ขอกราบลาเจ้าค่ะ ?
ตอบ : พยายามตื๊อสู้ไว้ด้วย ไม่ใช่ถึงเวลาก็เบื่อ เลิก รำคาญ ไม่เอาแล้ว ทำอะไรต้องทำให้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 24-10-2020, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ช่วงโควิด-๑๙ ระบาดนี้ มีตัวย่ออยู่คำหนึ่งก็คือ WFH (work from home) หมายถึงการทำงานจากบ้าน ถามว่ามีข้อดีไหม ? แรก ๆ มีข้อดีเยอะมาก เพราะว่าได้อยู่กับบ้าน ไม่ต้องเดินทาง อยากจะนอนเมื่อไรก็กลิ้งได้เลย..! แต่พอนาน ๆ ไปแล้วไม่ค่อยดี โดยเฉพาะถ้ามีครอบครัวแล้ว คนจะทำงาน แต่ลูกจะให้พ่อพาไปโน่นไปนี่ เมียจะไล่ให้ไปซักผ้า หรือไม่ก็ถ้าหากว่าเป็นคู่กัด เห็นหน้าต้องทะเลาะกันละก็..บ้านจะแตกตาย..!

แล้ว work from home ถามว่าดีไหม ? ดี...ประหยัด จริง ๆ แล้วควรที่จะกำหนดให้ว่า อาทิตย์หนึ่งควรจะทำงานที่บ้านสัก ๒-๓ วัน ส่วนที่เหลือก็ไปทำงานที่บริษัท ไปทำงานที่ห้างร้านของตัวเองเพื่อแก้เบื่อ เบื่อบ้านอย่างน้อยก็หนีไปที่ทำงาน เบื่อที่ทำงานก็ได้กลับบ้าน อยู่ที่ทำงานถึงเวลาพักเที่ยง ชวนกันไปกินข้าวก็ "เมาท์" กันสนั่น มีความสุขมาก จะกินอะไรก็สั่ง แต่ถ้าอยู่บ้านนี่ ไม่ฝีมือตัวเองก็ฝีมือคุณภรรยา กินมาหลายปีแล้ว เริ่มเบื่อ ...(หัวเราะ)... บางคนคุณภรรยามีความสามารถสูงมาก ทอดไข่เจียวเป็นอย่างเดียว..! นี่ถ้าหากว่าไม่มี Grab หรือ Foodpanda นี่ตายแน่นอน..!

เพราะฉะนั้น..ได้โปรดอย่าให้ถึงขนาดต้องทำงานที่บ้านตลอดทั้งอาทิตย์ กรุณาเถอะ..เปิดสำนักงานให้เขาไปทำบ้าง เพราะว่าหลายบ้านก็ไม่ได้เหมาะที่จะเป็นที่ทำงาน ลองนึกดูว่าถ้าหากว่าอยู่ในห้องแคบ ๆ เช่าเขาอยู่ เครื่องปรับอากาศก็ไม่มี ใครจะไปอยากทำงาน ? ไปสำนักงานเน็ตก็แรง คอมพิวเตอร์ก็จอใหญ่ เครื่องปรับอากาศก็เย็น ทุกวันนี้แทบจะกราบขอร้องเจ้านาย..ขอกลับไปทำงานเถอะ ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 24-10-2020, 23:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ส่วนพวกที่บ้านมีรั้วรอบขอบชิด มีห้องปรับอากาศ ไม่มีความหนักใจในเรื่องของค่าน้ำค่าไฟ อยากจะทำอยู่กับบ้านก็เชิญ แต่กรุณาอย่าบังคับกัน เพราะว่าคนที่เขาไม่ถนัดทำงานที่บ้านเพราะสารพัดเหตุผล บางคนลูกเล็ก ๆ ถึงเวลาพ่อนั่งทำงาน แม่นั่งทำงานก็ตะกายขึ้นตัก ปีนหัวปีนหูไปเลย แล้วจะไปทำงานอีท่าไหน ก็ต้องเล่นกับลูกจนกว่าจะหมดแรงกันไปข้างหนึ่ง ถ้าลูกหมดแรงไปนอน พ่อแม่ก็แทบจะหมดแรงทำงานเหมือนกัน..!

ฉะนั้น..อะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง บางทีก็มองเห็นชัดในช่วงวิกฤตแบบนี้ ที่เรียกร้องประเภทถ้าไม่ต้องไปทำงานได้ หรือถ้าได้ทำงานจากบ้านจะดีมาก ตอนนี้โอกาสมีแล้ว แต่ขอโทษ...ไม่มีใครอยากทำ..!

วิกฤตโควิดงวดนี้ทำให้คนทำงานเป็นเยอะขึ้น อย่างเช่นว่า แอร์โฮสเตสต้องไปทอดปาท่องโก๋ ส่วนตอนนี้ "นางฟ้าโบว์" ก็ต้องมาช่วยนับเหรียญ ...(หัวเราะ)...”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 24-10-2020, 23:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “วันก่อนมีคนทำแล้วประสบความสำเร็จ ก็คือเย็บกระเป๋าสตางค์เป็นรูปซองกฐิน มีตราวัดมีอะไรด้วย เขาบอกว่าวันไหนรำคาญเพื่อน เขาจะถือกระเป๋าสตางค์อันนี้ไป เพื่อนจะไม่เข้าใกล้..เพราะว่ากลัวโดนแจกซองกฐิน..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 24-10-2020, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยม “อันนี้ไม่ใช่ทอง...เป็นกระดาษเคลือบทอง อาตมารับไปหลายอันแล้ว ลองแกะออกมาดูสิ เป็นกระดาษทำเป็นรูปแท่งเงินหยวนเป่าของจีน เหมือนกับว่าตั้งใจให้เป็นของขวัญ ของฝาก ของที่ระลึกประมาณนั้น แต่ไม่ใช่ทองจริง ๆ เป็นกระดาษขึ้นรูปมา

โยมหลายคนก็ไม่รู้ ถึงเวลาก็ซื้อมาร่วมหล่อพระ แล้วก็หลายคนส่งกำไลทองคำมาเป็นกุรุสเลย ๘ วง ๑๐ วง ปรากฏว่าเป็นสเตนเลสชุบทอง หลอมอย่างไรก็ไม่ละลาย เพราะว่าสเตนเลสต้องใช้ความร้อนสูงกว่าทองคำมาก ของเราเองไม่ใช่ผู้ชำนาญ เพราะฉะนั้น..โอกาสผิดพลาดก็มีอยู่แล้ว ถือว่าความตั้งใจหล่อพระของเรานั้น ได้บุญไปตั้งแต่ตอนตั้งใจแล้ว”

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 24-10-2020, 23:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการหล่อพระทำให้ได้เห็นว่า บางคนด้วยความอยากได้บุญอย่างเดียว ก็ไม่ได้ใช้ปัญญาพินิจพิจารณาอะไรเลย ทางวัดประกาศชัดเจนว่าหล่อพระทองคำ ก็ส่งแผ่นทองเหลืองไปเป็นกุรุส อาจจะคิดว่าคงเหมือนกับหลาย ๆ วัด ที่ถึงเวลาแล้วก็หล่อทองเหลือง แล้วก็เอาทองคำใส่ลงไปนิดหน่อย แต่ของวัดท่าขนุนเป็นทองคำแท้ทั้งองค์ เป็นเงินแท้ทั้งองค์ แต่โยมก็อุตส่าห์ส่งแผ่นทองเหลืองบ้าง แผ่นทองแดงบ้างไปให้ แล้วระบุชัดด้วยนะว่า ร่วมหล่อพระทองคำ เห็นแล้ว "น้ำตาจิไหล..!" ก็เลยไม่เข้าใจว่าโยมอยากได้บุญจนลืมพินิจพิจารณา หรือว่าโยมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทองคำกับทองเหลืองต่างกันตรงไหน ?

อีกส่วนหนึ่งก็คือท่านที่โอนเงินร่วมทำบุญ โดยเฉพาะท่านที่โอนผ่าน QR code มีหลายท่านมีความสุขกับการได้ทำบุญ โอนทีละ ๑๑ สตางค์ ๓๓ สตางค์ โอนทุกวัน แต่คราวนี้ไม่รู้ว่าบัญชีของพระนี่เขาห้ามพลาด ต้องลงทุกบาททุกสตางค์ โยมก็ได้บุญมีความสุข ส่วนพระนั้นทุกข์ถนัด เพราะว่าต้องมาลงบัญชีของเขาทุกวัน บางวันเขามีความสุขมากก็โอนเช้าโอนเย็น เช้า ๑๑ สตางค์ บ่าย ๓๓ สตางค์ จะเป็นตัวเลขนี้ตลอด มีโอนสูงสุดอยู่ครั้งเดียวคือ ๓ บาท ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาติดใจอะไรกับเลขตัวนี้ ก็ไม่เป็นไร...โยมมีความสุข อาตมาก็จะยอมทนทุกข์ต่อไป..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 24-10-2020, 23:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ฉะนั้น..การทำบุญออนไลน์ไม่จำเป็นต้องใส่เศษสตางค์ เพราะว่าไม่ใช่การบูชาพระหรือว่าซื้อของ จะได้มีเศษสตางค์เพื่อให้ตรวจสอบได้ง่าย ถ้าเป็นไปได้ก็ลงเป็นเลขกลม ๆ ไปเลยก็คือ ๐ หรือไม่ก็ ๕ ถึงเวลารวมตัวเลขจะได้สะดวกหน่อย

ถ้าสมมติว่าโยมจะทำบุญ ๙๙ บาท โยมก็โอนทีละ ๑๐ บาทไปเรื่อย ๆ ก็ได้ เลข ๙ อาจจะสวยในความรู้สึกของโยม แต่ว่าคนคิดบัญชีจะเครียด พอถึงเวลาตัวเลขไม่ลงตัว ส่วนใหญ่อาตมาจะควักกระเป๋าตัวเองบวกเพิ่มเข้าไป แต่คราวนี้ถ้าหากว่าโอนผ่าน QR code จะเพิ่มไม่ได้ เพราะว่าสรรพากรเขาจะตรวจสอบตามยอดโอน ก็ต้องตรงไปตรงมา ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องลงอย่างเช่น ๐.๑๑ บาท ๐.๓๓ บาท

ถ้าโยมรู้ว่าวันหนึ่ง ๆ คนเขาโอนเงินเท่าไรแล้วจะช็อค คือบางคนก็โอน ๑ บาทไปเรื่อย ๆ บางคนก็โอน ๙ บาทไปเรื่อย ๆ บางคนก็โอน ๑๐๘ บาทไปเรื่อย ๆ แต่คราวนี้เลขครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะเลขสวยขนาดไหนก็ตาม มาถึงพระทำบัญชีจะตายเอา เพราะว่าต้องลงทุกบาททุกสตางค์”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 24-10-2020, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดร.คนหนึ่งที่เคยวิเคราะห์ว่าปี ๕๔ น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ เยอะ แต่ปีนี้จะท่วมเยอะกว่า ?
ตอบ : นี่ก็ปลายฝนแล้ว จะพยายามจะท่วมแค่ไหนก็ไม่ได้มากหรอก ...(หัวเราะ)... คุณอย่าเพิ่งไปเชื่อเขาเสียหมด เราต้องดูความเป็นจริงด้วย นี่เดือนตุลาคมแล้ว ฝนสั่งฟ้าแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 24-10-2020, 23:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับโยมคนหนึ่งที่กำลังบูชาวัตถุมงคล “โยมซื้อของเหมือนกับอาตมา ของแพงเราก็ซื้อน้อย ของถูกเราก็ซื้อมาก เพราะว่าวัตถุมงคลอาจารย์เดียวกันเสก ก็แปลว่าอานุภาพเหมือนกัน”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 24-10-2020, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “คนสมัยก่อนทำงานสบาย ๆ จะว่าสบายก็ไม่ใช่นะ งานหนักมาก อย่างทำนาพอปลายเดือน ๕ ต้นเดือน ๖ ก็เริ่มไถ ไถแปร ไถคราด ตีตม หว่านข้าว ถ้าหากว่าเป็นนาดำก็หนักกว่าอีก ถอนกล้า ดำนา กว่าจะเสร็จก็กลางเดือน ๗ เดือน ๘ โน่น คราวนี้ก็ว่างสิ ต้องรออย่างเดียวก็คือรอข้าวตั้งท้อง รอข้าวแก่ รอเกี่ยว รอกันจนถึงเดือน ๑๒ รอไปเถอะ เวลาว่างเยอะ สมัยโน้นเขาก็เลยบวชกันในช่วงนั้น ก็คือช่วงเข้าพรรษา

พอทำนาเสร็จแล้ว จะไปเกี่ยวอีกทีก็เดือนอ้ายเดือนยี่โน่น เกี่ยวข้าวเสร็จ ฟาดข้าว นวดข้าว ขนข้าวขึ้นยุ้ง งานหมดอีก ก็เป็นตรุษเป็นสงกรานต์ สมัยนั้นทำอะไรก็ช้า อย่างเช่นขี่เกวียนอย่างนี้ สมัยนี้งานไม่ได้ยากขนาดนั้น รถราก็วิ่งดี ทำไมเวลาถึงไม่มี ? ฝากไว้ให้คิดว่าเอาเวลาไปไหนกันหมด ก้มหน้าแชตไลน์พักเดียวหมดไปหนึ่งชั่วโมง ว่าจะเดินห้างซื้อของสักชิ้น เผลอหน่อยเดียวเวลาหายไป ๓-๔ ชั่วโมงแล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 24-10-2020, 23:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เด็กนักเรียนชั้นมัธยมของโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ จังหวัดลำพูน ทำโครงงานตักบาตรเติมบุญ ด้วยการติดจีพีเอสที่ฝาบาตร แล้วก็ให้ญาติโยมที่ใส่บาตรโหลดแอปฯ เอาไว้ จะได้รู้ว่าพระตอนนี้เดินบิณฑบาตถึงจุดไหนแล้ว ซึ่งก็เป็นความคิดที่ดี แต่ว่าทำให้ผู้ที่ใช้แอปพลิเคชั่นนี้ขาดความดีที่พึงจะได้ไปอย่างน่าเสียดาย

โดยปกติญาติโยมต้องไปรอพระเพื่อใส่บาตร กำลังใจที่จดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับพระสงฆ์เป็นสังฆานุสติ จดจ่อมุ่งมั่นอยู่กับการจะใส่บาตรเป็นจาคานุสติ เท่ากับปฏิบัติในกรรมฐานใหญ่ ๒ กองพร้อมกัน ยิ่งรอนาน ยิ่งได้มาก แต่คราวนี้เมื่อใช้แอปพลิเคชั่นตักบาตรเติมบุญนี้เข้าไป เห็นว่าพระยังอยู่ไกล ก็ทำโน่นทำนี่ไปก่อน กำลังใจไม่ได้มุ่งมั่นเหมือนเดิม จึงขาดบุญใหญ่ที่จะพึงได้ไปอย่างน่าเสียดาย

ดังนั้น...เราจะเห็นว่าเรื่องของเทคโนโลยีหรือว่าความก้าวหน้าทางโลก เป็นเรื่องที่เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ว่าควรที่จะใช้เพื่อหนุนเสริมความดีของเราให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ไม่ใช่ใช้แล้วลดความดีของเราลงมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2020 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว