กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

Notices

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕ เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมกราคม ๒๕๖๕

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-01-2022, 19:58
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,787 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 20-01-2022, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระยะนี้นิสิตของวัดท่าขนุนเราต้องปฏิบัติธรรมประจำปี ซึ่งเลื่อนมาจากเดือนธันวาคมของทุกปี ก็เพราะว่าวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์เป็นวิทยาลัยสงฆ์ที่ตั้งใหม่ การงานต่าง ๆ ยังขาดความคล่องตัวอยู่มาก โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้งบประมาณส่วนกลาง เขามีกรอบเวลาให้ทำตามนั้น ยังโชคดีที่ว่าสามารถอ้างการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ได้ ก็เลยทำให้สามารถเลื่อนต่อมาได้อีก ๑ เดือน ไม่อย่างนั้นงานทุกอย่างต้องจบลงเมื่อสิ้นไตรมาส ก็คือสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๔

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นความเคยชิน แต่เป็นความเคยชินในด้านที่ไม่ดี ที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นภาษาบาลีว่า อตฺตา หิ กิร ทุทฺทโม ได้ยินว่าการฝึกตนนั้นช่างยากจริงหนอ เพราะว่าส่วนใหญ่กลายเป็น "นิสัยถาวร" ไปแล้ว ในเมื่อกลายเป็นนิสัยถาวร การแก้ไขต่าง ๆ จะยากมาก

แล้วถ้าหากว่ายิ่งเป็นผู้ปฏิบัติธรรมด้วย ก็มักจะยึดมั่นถือมั่นในเรื่องของสีลัพพตุปาทาน คือ "กูทำดีแล้ว กูทำถูกแล้ว" ถ้าไม่ใช่บุคคลที่เชื่อถือได้จริง ๆ มาบอกกล่าวให้แก้ไข ก็มักจะรั้น ไม่ยอมแก้ไข

เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพเจอมาตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง ขนาดหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านออกปากเอง เขายังไม่คิดเลยว่าตัวเองผิด อย่างเช่น มีอยู่วันหนึ่งท่านบอกว่า "วันนี้พระเสด็จมา ท่านบอกว่า พระของคุณมีอยู่ ๔ รูปที่กำลังใจดำมาก" อันนี้หมายถึงสีของจิต "ถ้าหากว่าไม่แก้ไข โอกาสลงอบายภูมิมีสูง..!"

เมื่อได้ยินแบบนี้ พอเลิกจากปาฏิโมกข์ ออกจากโบสถ์มา เสียงที่กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วรู้สึกรำคาญใจก็คือ ทุกคนไปไล่ถามกันว่า "ใครวะ ?" กระผม/อาตมภาพกับท่านชาติชาย (พระชาติชาย สุธมฺมธนปาโล - ลือพาณิชย์กุล) ตอนนั้น ๒ รูปนี้มีวีรกรรมเยอะมาก เพราะว่างัดข้อกับท่านอื่นเป็นประจำ ด้วยความหมั่นไส้
กระผม/อาตมภาพก็เลยบอกว่า "ผมกับท่านชาติชายรับไป ๒ ไอ้ที่เหลือไปแบ่งกันเองก็แล้วกัน..!"

ก็คือทุกครั้งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกกล่าวอะไร โดยเฉพาะในส่วนไม่ดีที่ต้องแก้ไข กระผม/อาตมภาพจะคิดอยู่เสมอว่า "กูด้วย" "กูโดนด้วย" "กูต้องแก้ไข" แต่นิสัยถาวรของพวกเรา แม้แต่คนในวัด มักจะไม่คิดว่าตัวเองผิด อยู่ในลักษณะที่โบราณเขาบอกว่า "โทษคนอื่นมองเห็นเป็นภูเขา โทษของเรามองเห็นเท่าเส้นขน" ในเมื่อเป็นอย่างนั้น โอกาสที่จะได้ดีก็หายากมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-01-2022 เมื่อ 00:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 20-01-2022, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้จะว่าไปแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาของบุคคลที่หนาไปด้วยกิเลส การยอมรับว่าตัวเองผิดมันเสียหน้ามาก บังเอิญว่ากระผม/อาตมภาพโชคดี ได้รับการฝึกฝนมาแบบทหาร ถ้าเจ้านายบอกว่าผิดก็คือมึงผิด คำสั่งของผู้บังคับบัญชาคือเสียงสวรรค์ ทหารต้องทำตามโดยไม่มีข้อแม้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถึงเวลา ถ้าหากว่ามีใครบอกกล่าวอะไร ก็ต้องจะดูตัวเองก่อนว่าเราผิดตรงไหน ? อย่างที่เคยเล่าให้พวกท่านทั้งหลายฟังว่า บางครั้งหาที่ผิดไม่ได้จริง ๆ จนในที่สุดก็สรุปลงไปว่า "มึงผิดตั้งแต่เกิดมาแล้ว ถ้าไม่เกิดมาก็ไม่เจอเรื่องแบบนี้"

พอสรุปได้ หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านโทรมาเดี๋ยวนั้นเลย ท่านจะเฉลยให้ฟังว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ปรากฏว่างานนั้นโดน "ท่านย่า" ฝากด่ามา ก็คือไม่ได้ทำผิดอะไรหรอก แต่ให้ด่า ๆ ไว้หน่อย ท่านย่าบอกว่า "ไอ้นี่รู้ตัวเร็ว ถ้าด่ามันแล้วมันจะระวัง คนอื่นจะได้เล่นงานไม่ได้" ดังนั้น...พวกท่านทั้งหลายจะไปคิดว่า ถึงเวลาแล้ว คนโน้นผิด คนนั้นผิด...ไม่ใช่ เราต้องคิดอยู่เสมอว่าตัวเราผิด ใช้หลักอัตตนา โจทยัตตานัง ต้องกล่าวโทษโจทย์ตนเองอยู่เสมอ

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระผม/อาตมภาพก็ตำหนิคณะกรรมการร้านค้าชุมชนคุณธรรมวัดท่าขนุนไปว่า มีการเล่นพรรคเล่นพวก มีการปฏิบัติแบบ ๒ มาตรฐาน เพื่อที่จะไปให้แก้ไขให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าเป้าหมายของการตั้งร้านชุมชนของกระผม/อาตมภาพเองก็คือ เพื่อประโยชน์ของคนทั้งอำเภอทองผาภูมิ ไม่ใช่ตั้งมาเพื่อคณะกรรมการแค่ไม่กี่คน

แต่ปราฏว่าท่านทั้งหลายกลับไปเที่ยวเสาะหาแล้วก็กล่าวโทษคนอื่น โดยที่ไม่ได้ดูว่าตัวเองทำอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วแก้ไข ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจ เพราะว่าถ้ายังทำอย่างนี้อยู่โอกาสที่จะได้ดีก็ไม่มีเลย เพราะว่าไม่เห็นความผิดของตัวเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-01-2022 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 20-01-2022, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งภายในวัดท่าขนุนของเราก็มี หลายคนก็เอาจริตนิสัยเฉพาะตัวมา อย่างบางทีกระผม/อาตมภาพสั่งให้แจกของสังฆทานก็ดี หรือว่าให้แจกอาหารแก่คนก็ดี ก็มีการ "หวงของ" ประมาณว่าถ้าผมไม่ได้สั่ง คนอื่นจะมาสั่งไม่ได้ คนอื่นจะมาขอไม่ได้

สันดานแบบนี้เคยเกิดกับ
กระผม/อาตมภาพแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง สมัยที่ยังเป็นฆราวาสช่วยงานพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงอยู่ที่บ้านสายลม ตอนนั้นมีเด็กเล็ก ๆ ตามพ่อแม่มาถวายสังฆทาน กระผม/อาตมภาพเห็นว่าถ้าให้วัตถุมงคลไป เด็กน่าจะรักษาไม่ได้ จึงไม่ให้

แต่ปรากฏว่าพอเหลือบตาไป หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านพยักหน้าให้นิดหนึ่ง ก็คือบอกชัดว่าให้เด็กด้วย แล้วหลังจากนั้นมีผู้ใหญ่มาเป็นคณะ แต่ทำบุญมาแค่คนเดียว กระผม/อาตมภาพก็มอบวัตถุมงคลให้คนเดียว หลวงพ่อท่านบอกว่าให้ทั้งคณะไปเลย

ตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นมา กระผม/อาตมภาพแจกกระจาย ใครมาให้หมด ก็เพราะเห็นชัดเจนว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำเพื่อประโยชน์คนอื่น คนเขาต้องการ มาถึงอาจจะไม่มีเงินทำบุญ แต่อยากได้วัตถุมงคลเป็นที่ระลึก ความคิดตอนนั้นก็คือ "หลวงพ่อท่านยังไม่หวง แล้วกูจะหวงไปทำไม ?"

เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดกับกระผม/อาตมภาพ เคยเกิด..แต่รู้ตัวเร็ว แก้ไขเร็ว หลังจากนั้นก็เป็นคนไม่เคยหวงของ ถือหลักว่า "ถ้ามึงกล้าขอ กูก็กล้าให้" แต่อย่างของวัดเรา บางทีพระเจ้าไปเบิกข้าวเบิกของ ยากเย็นแสนเข็ญ หวงเอาไว้ทำอะไรก็ไม่รู้ แค่อยากให้คนเห็นว่า "กูมีความสำคัญเท่านั้น" โดยที่ลืมไปว่ากิเลสกำลังท่วมหัวตัวเองอยู่..!

บุคคลที่ไม่เห็นโทษตนเอง ไม่เห็นความผิดตนเอง โอกาสที่จะแก้ไขให้ดีนั้นยากมาก โดยเฉพาะบุคคลที่จะเป็นกระจกสะท้อนให้นั้นมีน้อย เพราะว่าทุกคนย่อมรักตัวเอง ไม่กล้าว่ากล่าวตักเตือน เพราะว่ากลัวคนอื่นเกลียดขี้หน้า ก็ได้แต่ประจบยกยอกันไปวันหนึ่ง ๆ ซึ่งหาประโยชน์อะไรไม่ได้เลย โอกาสที่จะแก้ไขตนเองให้ กาย วาจา ใจ ดีขึ้นก็ไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-01-2022 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 20-01-2022, 00:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ไม่ว่าจะเป็นภายในวัดของเรา พระภิกษุ สามเณร แม่ชีหรือฆราวาสก็ตาม หรือว่าในส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับวัดท่าขนุน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุน หน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลท่าขนุน หรือสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ถ้าหากว่าต้องการให้งานเหล่านี้ไปได้ดี ต้องลดความเห็นแก่ตัวลงให้มากที่สุด พยายามเห็นแก่ส่วนรวมให้มากที่สุด ประมาณว่า "ทำงานเอาดัง" ไม่ใช่ทำงาน "เพื่อประโยชน์ของตน" คำว่าทำงานเอาดังก็คือ เสียสละทุกอย่างเพื่อส่วนรวม ทำนานไป ๆ ผลงานเกิดขึ้น คนเขาก็จะสรรเสริญเยินยอไปเอง ตอนนี้ออกมาจากความเป็นจริงที่เรารับได้โดยไม่ต้องอายใครอีกด้วย

ในส่วนของวันนี้ที่บอกกล่าวออกมา นอกจากท่านทั้งหลายที่ได้ยินได้ฟังแล้ว แม้กระทั่งญาติโยมที่อยู่ทางบ้านหรือว่าอยู่ต่างประเทศ ถ้าหากว่ารู้ตัวแล้วปรับแก้ได้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตนอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากว่าไม่รู้ตัว ปรับแก้ไม่ได้ หนทางในการเวียนว่ายตายเกิดของท่านก็ยังอีกยาวนานนัก อยู่วันหนึ่งก็ทุกข์ยากไปวันหนึ่ง อยู่เดือนหนึ่งก็ทุกข์ยากไปเดือนหนึ่ง อยู่ปีหนึ่งก็ทุกข์ยากไปปีหนึ่ง อยู่ชาติหนึ่งก็ทุกข์ยากไปชาติหนึ่ง

แต่ว่าการกระทำด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจของท่าน ถ้าไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควร ไม่ได้ทุกข์ยากแค่ชาติเดียว แต่จะพาให้เส้นทางการเวียนว่ายตายเกิดของเรา ยาวนานออกไปอีกไม่รู้จบ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกกี่ร้อยกี่พันชาติที่เราจะต้องทนทุกข์ยากกันต่อไป

ดังนั้น...ถ้าหากว่าเราเห็นโทษตรงนี้ก็รีบแก้ไขตัวเราให้ดีที่สุด ถ้าหากว่าไม่แก้ไข
กระผม/อาตมภาพก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลืออะไรได้เหมือนกัน เนื่องเพราะว่าแม้แต่พระพุทธเจ้าก็ยังบอกกล่าวเอาไว้ชัดเจนว่า อักขาตาโร ตถาคตา แม้แต่ตถาคตก็เป็นเพียงผู้บอกเท่านั้น เมื่อชี้ทางออกบอกทางถูกให้แล้ว ท่านไม่ยอมเดิน พระองค์ท่านก็ได้แต่อุเบกขา ในเมื่อ เมตตา กรุณา มุทิตา แล้ว ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้ เมื่ออุเบกขาขึ้นมาก็แปลว่าปล่อยเราไปตามเวรตามกรรมเท่านั้นเอง..!

ก็ขอบอกกล่าวแก่พระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-01-2022 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:19



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว