กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-05-2022, 17:11
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,524
ได้ให้อนุโมทนา: 215,913
ได้รับอนุโมทนา 736,867 ครั้ง ใน 35,896 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-05-2022, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ขณะที่กำลังบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนอยู่นี้ มีพายุฝนฟ้าคะนองค่อนข้างจะรุนแรง ถ้าหากว่าท่านใดหูดี อาจจะได้ยินเสียงฟ้าเสียงฝนแทรกเข้ามาบ้าง ก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

เมื่อวานนี้ภารกิจในการต้อนรับและแสดงธรรมให้กับ คณะแรลลี่ทัวร์เที่ยวชุมชนยลวิถี ของ เว็บเพจกิฟท์จังพลังเวทย์ ก็จบลงด้วยความประทับใจของทุกฝ่าย ถ้าหากว่าท่านใดที่ต้องการจะไปเที่ยวในลักษณะแบบนี้อีก ก็ขอเชิญสมัครที่ได้เพจกิฟท์จังพลังเวทย์สำหรับโปรแกรมในเดือนมิถุนายน

ขอยืนยันตรงนี้ว่า วัตถุมงคลที่จะมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้ที่จะเดินทางไปในเดือนมิถุนายนนั้น จะไม่ซ้ำกับของเดือนนี้ และจะพยายามไม่ให้ซ้ำกัน ถ้ามีครั้งต่อ ๆ ไปด้วย

สำหรับวันนี้ภารกิจสำคัญอันดับแรกเลยก็คือ นำรถเข้าอู่ซ่อมใหญ่ เหตุเพราะว่าวันก่อนที่เดินทางกลับสู่วัดท่าขนุนนั้น สภาพของรถรวนมาก ความจริงจะว่าไปแล้ว ก็เกิดจากความเมตตาของท่านเจ้าภาพผู้ซื้อรถถวาย คืออยากจะให้กระผม/อาตมภาพได้ใช้รถอย่างสบาย จึงไปซื้อหารถที่เป็นระบบอัตโนมัติมาทั้งคัน ทำให้ราคาแพงกว่ารถปกติอีกห้าแสนกว่าบาท แล้วระบบทั้งหลายเหล่านั้น กระผม/อาตมภาพก็แทบจะไม่ได้ใช้งานเลย..!

อย่างเช่นการเปิดปิดฝาท้ายด้วยระบบอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อเรากดปุ่มแล้ว ถ้าเป็นรถทั่วไปก็คือเปิดขึ้นไป แล้วสามารถหยิบของหรือเก็บของได้เลย แต่ว่ารถยนต์คันนี้ต้องรอให้ระบบค่อย ๆ เปิดจนกว่าจะสุด ซึ่งช้ามาก ถ้าเป็นรถทั่วไป ถึงเวลาเราปิดโครมลงไปก็ใช้ได้แล้ว แต่รถคันนี้เมื่อกดปุ่มแล้ว ก็ต้องรอจนกว่าฝาท้ายจะค่อย ๆ ปิดสนิทจนล็อกเอง ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลย เพราะว่าทันทีที่เราไปแตะต้อง ระบบจะตัดกลางคัน ทำให้ฝาท้ายค้างคา ไม่ยอมปิดเปิดต่อ เป็นต้น

ในเมื่อญาติโยมเมตตาหารถที่ระบบล้ำสมัยเกินไปมาให้ เมื่อถึงเวลาเกิดอะไรขึ้นจึงรวนไปทั้งระบบ กว่าที่จะนำรถกลับเข้าสู่วัดท่าขนุนได้ จากแต่เดิมที่กะเอาไว้ว่าไม่เกิน ๙ โมงครึ่งหรือ ๑๐ โมงเช้า ก็ปรากฏว่าไปถึงเกือบบ่ายโมงครึ่ง..! เพราะว่าต้องค่อย ๆ ประคับประคอง "ปะเหลาะ" ปลอบให้รถทำงาน ซึ่งถ้าหากว่าระบบไม่ยอมทำงาน เราก็ไม่สามารถที่จะนำรถไปไหนได้เลยเช่นกัน ดังนั้น...จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำรถเข้าอู่ เพื่อที่จะจัดการกับระบบทั้งหลายเหล่านี้ให้เรียบร้อย

แต่ที่ผ่านมาก็คือยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง แก้ตรงจุดนี้ ก็ไปบอกว่าเสียหายตรงจุดนั้น แก้ตรงจุดนั้น ก็ไปเสียหายตรงจุดโน้น ตั้งแต่ทำการซ่อมมา ๖ - ๗ เดือน หมดไปสี่ห้าแสนบาทแล้ว ปรากฏว่ายังแก้ไม่ตก ก็ต้องถือว่าอดทนใช้กันต่อไป จนกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ตั้งใจเอาไว้จะมาถึง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2022 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-05-2022, 23:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าเวลาไปไหนก็ตาม ญาติโยมส่วนหนึ่งก็มักจะถวายข้าวของมา อย่างชนิดที่ไม่ดูเลยว่ากระผม/อาตมภาพจะนำกลับไปได้อย่างไร ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป ถ้าเป็นขนาดเล็กแค่ ๒ ที่นั่ง ก็ไม่ต้องพูดถึงว่าจะบรรทุกอะไรได้ แล้วถ้าหากว่าเป็นประเภทรถเก๋งซีดาน ก็คงมีที่ให้เก็บของได้เฉพาะฝาท้ายเท่านั้น จึงตั้งใจจะใช้ประเภทรถตรวจการณ์ หรือที่มีชื่อย่อภาษาอังกฤษว่า SUV

เท่าที่ดูแล้วก็มีบางยี่ห้อที่ถูกตาอยู่บ้าง แต่ส่วนที่เกี่ยงอยู่ก็คือว่า รอเวลาให้รถทั้งหลายเหล่านี้ได้ปรับปรุงคุณภาพอีกสักปีสองปี โดยเฉพาะการชาร์จไฟฟ้าครั้งหนึ่งแล้ว ให้วิ่งได้อย่างต่ำ ๆ ก็สักหนึ่งพันกิโลเมตร จะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะหาที่ชาร์จไม่ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ช่วงระยะเวลาที่เหลือ ก็คงต้องทนซ่อมรถเก่าเพื่อใช้งานกันต่อไป

ส่วนภารกิจอีกอย่างหนึ่งก็คือ ไปทำเรื่องขอเปลี่ยนหนังสือเดินทางเล่มใหม่แทนเล่มเก่าที่หมดอายุแล้ว มีผู้แนะนำว่าให้ไปทำที่สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวบางใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น G ของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่า สาขาเวสต์เกต เมื่อไปถึงแล้วปรากฏว่า เจ้าหน้าที่เป็นมือใหม่หัดขับกันเกือบทั้งหน่วยงาน..!

แต่ส่วนที่ประทับใจมาก ๆ ก็คือความใจเย็น ความเอื้ออาทร และการปฏิบัติต่อพระอย่างให้เกียรติเป็นที่สุด ทุกคนที่ไม่รู้จัก หรือว่ารู้จักก็เข้ามาทักทายสอบถามว่ามีปัญหาอะไรบ้าง ? ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ซึ่งยังไม่เคยทำหนังสือเดินทางให้พระ ก็พยายามที่จะศึกษาว่าจะต้องลงรายละเอียดอย่างไรบ้าง อย่างเช่นว่าคำนำหน้าชื่อ ชื่อ-นามสกุล จะต้องจัดการอย่างไร เพราะว่าส่วนใหญ่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นพระที่ได้รับสมณศักดิ์ ก็มักจะมีแต่สมณศักดิ์เท่านั้น ช่องอื่นที่จะให้ลงเหมือนอย่างบุคคลทั่วไปก็ไม่มี

เจ้าหน้าที่ ๖-๗ คนจึงมามะรุมมะตุ้มช่วยเหลือกัน แต่ละคนล้วนแล้วแต่ให้ความเอื้อเฟื้อต่อผู้ที่ทำหน้าที่อยู่ตรงนั้น ช่วยกันแก้ไข ช่วยกันปรับ ช่วยกันออกความเห็น ช่วยกันส่งข่าวสอบถามจากบุคคลที่มีประสบการณ์ในส่วนงานอื่น จนในที่สุดแม้ว่าจะใช้เวลาไปเป็นชั่วโมง แต่ก็ทำให้กระผม/อาตมภาพสามารถที่จะทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ได้สำเร็จเรียบร้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2022 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-05-2022, 23:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อกลับเข้าสู่ที่พักแล้ว ก็ได้เข้าร่วมงานสัมมนาหัวข้อ "แนวทางในการบริหารวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์" รอบบ่าย ซึ่งกระผม/อาตมภาพเข้าร่วมมาตั้งแต่เช้าแล้ว โดยเฉพาะในช่วงบ่ายนั้นเข้าก่อนเวลาเสียอีก เนื่องจากว่าสถานที่ทำหนังสือเดินทางกับสถานที่พักนั้นไม่ได้ห่างกันมาก

เมื่อเข้าไปแล้วก็ได้รับแนวทางการบริหารจากท่านอาจารย์พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. ซึ่งท่านเคยเป็นครูบาอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนอยู่ที่ห้องเรียนวัดไร่ขิง แล้วก็ยกขึ้นเป็นหน่วยวิทยบริการของคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จนกระทั่งยกขึ้นมาเป็นวิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี

และตัวกระผม/อาตมภาพเอง ก็ยังเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตร สอนอยู่ที่วิทยาลัยสงฆ์นี้พุทธปัญญาฯ มาหลายปี จนกระทั่งต้องวางมือ ลาออก เพราะว่าต้องมาดำเนินการเกี่ยวกับการจัดสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์

แต่ด้วยความที่วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์นั้น เพิ่งยกขึ้นมาจากโครงการขยายห้องเรียนคณะพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อขึ้นมาเป็นวิทยาลัยสงฆ์ การบริหารงานบางอย่างก็ยังติดในรูปแบบเดิม ๆ ซึ่งไม่ต้องเร่งรัดอะไร แต่ว่าไม่เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบัน

เพราะว่าการศึกษาในสมัยนี้ก้าวไกลไปมาก โดยเฉพาะในช่วง ๒ ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ทำให้ต้องเปลี่ยนจากการเรียนการสอนในห้องเรียน มาเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก และเป็นการเปลี่ยนแปลงในลักษณะของ Disruption ก็คือสถานการณ์บังคับให้ต้องเปลี่ยน ถ้าหากว่าคุณไม่เปลี่ยนก็คือตาย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จึงต้องการผู้เชี่ยวชาญอย่างท่านอาจารย์พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ, ศ.ดร. ซึ่งท่านเป็นศาสตราจารย์ที่อายุน้อยที่สุดของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มาแนะนำแนวทางให้แก่พวกเรา ซึ่งวันนี้ท่านเองก็เมตตาจนกระทั่งเลยเวลาไปมาก และพรุ่งนี้ก็มีอีกวันหนึ่งที่ท่านจะมาแนะนำให้พวกเราทั้งหลายว่า จะต้องแก้ไขปรับปรุงอย่างไร ถึงเวลาการตรวจประเมินต่าง ๆ จะได้ผ่านมาตรฐานของ สกอ. ตามที่พวกเราตั้งเป้าเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2022 เมื่อ 02:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-05-2022, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตรงส่วนนี้ต้องบอกว่า เราทั้งหลายต้องยอมรับด้วยว่า เรามีข้อบกพร่องอยู่ตรงไหน เมื่อผู้อื่นมาชี้ให้เห็นข้อบกพร่องนั้น เราก็ควรที่จะน้อมรับแล้วเอาไปแก้ไข แต่ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะรับได้ เพราะว่าแบกตัวกูของกูเอาไว้มาก ท่านเองก็จะเป็นผู้ที่เสียประโยชน์ไปโดยปริยาย

เนื่องเพราะว่ามีบุคคลเมตตาชี้ขุมทรัพย์ให้ แต่ว่าท่านเองมิได้สนใจ ย่อมไม่ได้ขุมทรัพย์ทั้งหลายเหล่านั้นไปบริโภคใช้สอย สร้างความสุขสบายแก่ตนเอง เปรียบเสมือนกับบุคคลส่องกระจก พบเห็นด้านที่อัปลักษณ์ของตนเองแล้วรับไม่ได้ บางคนโกรธถึงขนาดทุบกระจกทิ้งไปเลยก็มี..!

ถ้าหากว่าเป็นเช่นนี้ ท่านทั้งหลายก็กระทำผิดไปจากสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน ก็คือให้ละสักกายทิฎฐิ ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน และขณะเดียวกัน ก็ให้ละอติมานะ คือ ความถือตัวถือตนว่าเราเป็นผู้ใหญ่ เราเป็นผู้รู้ เราเป็นผู้บริหาร

ถ้าทำตัวในลักษณะนั้น มีผู้รู้ท่านเปรียบไว้ว่าเหมือนกับ "น้ำชาล้นแก้ว" ไม่ว่าใครจะพยายามเติมน้ำใหม่ลงไปเท่าไร ก็ไม่สามารถที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ได้ เพราะว่าในเมื่อมีน้ำเต็มแก้วอยู่แล้ว เติมของใหม่ลงไปก็ล้นทิ้งเสียหายไปเปล่า ๆ

สิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสอนพวกเราเอาไว้นั้นเป็นอกาลิโก ไม่จำกัดด้วยกาลเวลาหรือยุคสมัย ถ้าผู้ใดนำไปปฏิบัติ ก็ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทั้งตนเอง ทั้งหน่วยงาน ทั้งครอบครัว ตลอดจนกระทั่งถึงส่วนใหญ่ ก็คือประเทศชาติหรือว่าโลกด้วย ซึ่งจะมีแต่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเป็นไปในเฉพาะด้านดีเท่านั้น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็คงจะเป็นภาระที่พวกกระผม/อาตมภาพทั้งหลาย จะต้องแบกรับและแก้ไขกันต่อไป เมื่อผู้รู้ชี้ขุมทรัพย์ให้แล้ว แม้ว่าจะต้องมือไม้จะต้องถลอกปอกเปิก ก็ต้องพยายามที่จะขุดขึ้นมาใช้งานให้ได้

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๙ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-05-2022 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว