กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-02-2022, 20:21
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,523
ได้ให้อนุโมทนา: 215,909
ได้รับอนุโมทนา 736,838 ครั้ง ใน 35,895 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 28-02-2022, 23:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕ วันเวลาหมดไปอีกหนึ่งเดือนอย่างรวดเร็ว ต้องไปนึกถึงปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณะที่ว่า วันคืนล่วงไป ๆ เราทั้งหลายทำอะไรกันอยู่ ?

ช่วงสองวันที่หายไปก็ติดภารกิจ โดยเฉพาะการภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงตาพระราชภาวนาพัชรญาณ วิ. ตุ๊พ่อสิงห์ หลวงพ่อนิล และพรรคพวกเพื่อนฝูงอีกจำนวนมากมาร่วมงานด้วยกัน

แต่คราวนี้ในส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่ขาดสติ ก็คือญาติโยมที่ไป จอดรถแบบไม่เกรงใจคน เนื่องจากว่าภายในวัดรองรับรถไปห้าหกร้อยคันจนเต็มแล้ว ที่เหลือก็จอดถนนด้านนอก แต่เป็นการจอดที่กินไปเกินครึ่งเลน จึงทำให้รถของชาวบ้านเขาลำบากในการหลีก แล้วหลายท่านก็ทำหูทวนลม ถึงประกาศหมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ สีรถ ชนิดรถ ก็ไม่สนใจทั้งนั้น..!

ตรงจุดนี้ต้องบอกว่า กำลังใจของท่านเหล่านั้นยังห่างไกลความดีอยู่มาก ไม่เห็นทุกข์เห็นโทษว่า การกระทำของตนเองนั้นเดือดร้อนคนอื่นเท่าไร ถ้าหากว่าจะขัดเกลาตนเองเพื่อมรรคเพื่อผลกันจริง ๆ ก็น่าจะต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าคนอื่นอีกมาก

คราวนี้การที่ไปจัดภาวนาพระคาถาเงินล้านที่วัดอุทยาน ญาติโยมส่วนใหญ่เดินทางไปได้ง่าย ทำให้ไปกันจนเกินจำนวนที่ทางราชการอนุญาต ก็คือทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี อนุญาตให้ไม่เกิน ๕๐๐ คน แต่ว่าเกินไปหลายเท่า ประจวบเหมาะกับมี ส.ส.ท่านหนึ่งไปทำบุญที่วัดอุทยาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดาราที่ตกน้ำตาย แล้วมีนักข่าวตามไปหลายช่อง ทางสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จึงขอร้องให้ยุติงานภาวนาพระคาถาเงินล้านลงกลางคัน เพราะถ้าหากว่านักข่าวมาถ่ายทำ แล้วปรากฏออกสื่อไปเมื่อไร ก็จะเกิดอาการที่เรียกว่า "ดราม่า" กันทั่วประเทศ อาจจะทั่วโลกด้วย

แม้ว่ากระผม/อาตมภาพจะมั่นใจว่า ในเรื่องของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ นั้น ถ้าหากว่าจะแพร่ระบาดก็ไม่ระบาดในงานนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าท้าวมหาราช โดยเฉพาะท่านท้าวเวสสุวรรณมาประจำการอยู่ที่นั่น บรรดาเทวดาโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นโรคระบาดคน หรือว่าโรคระบาดสัตว์ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นลูกน้องของท่าน เมื่อเจ้านายใหญ่อยู่ ลูกน้องก็ย่อมไม่กล้ามาแถวนั้น

แต่ว่าเราไม่สามารถที่จะยืนยันกับผู้อื่นได้ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่สามารถจะรู้เห็นได้ ยืนยันไปก็กลายเป็นว่าเราบ้า..!
จึงต้องหยุดการภาวนาพระคาถาเงินล้านลงกลางคัน ที่เหลือก็ให้ญาติโยมไปภาวนาต่อที่บ้าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 01-03-2022 เมื่อ 08:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-02-2022, 23:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การที่ญาติโยมทั้งหลายทำบุญ ถ้าหากว่าอยู่ที่วัดอื่น พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านสอนพวกเรามาว่า "เงินเกิดที่ไหน ให้ทิ้งไว้ที่นั่น" กระผม/อาตมภาพก็เลยทิ้งเงิน ๕๐๐,๐๐๐ กว่าบาท รวมทั้งทองคำเอาไว้ที่นั่น ที่พูดถึงนี่เพื่อที่จะบอกแก่ญาติโยมทั้งหลายว่า เงินส่วนนี้ ทางด้านพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. จะนำเอาไปทำรั้วสแตนเลส ตลอดริมแนวชายคลองบางกอกน้อยส่วนเป็นพื้นที่ของวัด เพราะว่าเคยมีคนไปปล่อยปลาแล้วพลาดตกน้ำไปเลย

ส่วนประการที่สองนั้น มีญาติโยมหลายท่าน ประมาณว่าส่ง "จดหมายน้อย" ถึงกระผม/อาตมภาพเป็นการส่วนตัว ซึ่ง
กระผม/อาตมภาพก็ไม่มีโอกาสได้อ่านและไม่มีเวลาได้อ่าน เพราะไม่ว่าจดหมายหรือซองเงินก็ไปรวมอยู่ที่เดียวกันหมด คนที่น่าจะได้อ่านคงจะเป็นเจ้าหน้าที่นับเงินของวัดอุทยาน ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายที่ท่านบอกกล่าวมาในจดหมาย เป็นอันว่ากระผม/อาตมภาพไม่ได้รับรู้รับทราบอะไรทั้งสิ้น..!

ส่วนการภาวนาพระคาถาเงินล้านในเดือนถัดไป ก็น่าจะแก้ปัญหาด้วยการไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว ทางหน่วยราชการก็จะเดือดร้อนอีก ไม่ส่งคนมาดูแล ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่งคนมาดูแล ก็ต้องเข้มงวดตามที่กฎหมายกำหนด แต่ถ้าไม่บอกไม่กล่าว จัดงานเฉย ๆ ส่วนใหญ่ข้าราชการเหล่านี้ท่าน "อยู่เป็น" เมื่อไม่บอก ท่านถือว่าไม่รู้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ คราวนี้ก็ต้องแล้วแต่ว่าบรรดาญาติโยมทั้งหลายจะแสวงหาข่าวกันเอง

ส่วนในเรื่องของอีกงานหนึ่งก็คือ เพิ่งจะไปรับรางวัลชุมชนคุณธรรมต้นแบบโดดเด่น ซึ่งเป็นโล่รางวัลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ผู้มอบให้ก็คือท่านอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ยังได้เรียนท่านรัฐมนตรีไปว่า "นี่เป็นโล่ใบที่ ๖ แล้ว ที่รับกับมือของท่าน" ท่านก็ยังบอกว่า "แสดงว่าเป็นชุมชนคุณธรรมที่โดดเด่นแบบยั่งยืนจริง ๆ"

แต่ส่วนที่ไม่ได้บอกท่านก็คือว่า โล่ทั้ง ๘ อัน ฟังไม่ผิด ก็คือรับกับมือท่านอิทธิพล ๖ อัน แล้วที่ทางเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเอามาถวายที่วัดอีก ๒ อัน หน้าตาเหมือนกันหมดทุกประการ ยกเว้นตัวหนังสือเท่านั้น เอามาวางเรียงกันเมื่อไรก็กลายเป็น "ของโหล" ไปทันที ซึ่งถ้าหากว่ามีการปรับเปลี่ยนสีสันบ้าง หรือว่ารูปแบบบ้าง ให้มองเป็นก็รู้ว่าโล่อันนี้รับมาปีไหน เกี่ยวกับงานอะไร จะเป็นเรื่องที่ดีมาก

แต่อย่าลืมว่ากระทรวงวัฒนธรรมก็คือกระทรวงที่อนุรักษ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี ในเมื่อทำเรื่องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ ก็เลยค่อนข้างที่จะอนุรักษ์นิยม ถนัดแบบไหนก็ทำออกมาเหมือนเดิมทุกประการ ซึ่งก็นับว่าสะดวกต่อการคำนวณค่าใช้จ่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2022 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 28-02-2022, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอรับโล่เสร็จ ทางเจ้าหน้าที่มานิมนต์ไปฉันเพล กระผม/อาตมภาพแจ้งเขาไปว่า จะต้องมาเยี่ยมสนามสอบบาลีที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม และเข้าประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองจังหวัดกาญจนบุรีประจำเดือนกุมภาพันธ์ ก็ปรากฏว่าวิ่งมาได้ถึงตรงเวลา ทำให้งานอีก ๒ งานที่รับไว้ก็คือ เยี่ยมสนามสอบกับการประชุมไม่เสียหาย

ตรงนี้ต้องบอกว่าเป็นความสามารถของพลขับ ก็คือทำอย่างไร จะไปให้ทันเวลาโดยไม่ผิดกฎหมาย นอกจากจะต้องรักษาความเร็วแล้ว ยังต้องไปให้ทันเวลาอีกด้วย ซึ่งลำพังถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพเองก็คงไม่มีปัญญาที่จะวิ่งหลายแห่งขนาดนั้น แต่ก็เกิดอาการแย่พอกัน ก็คือกลับมาก็เหนื่อยจนหมดสภาพ..! ท่านทั้งหลายคงจะไม่ลืมว่ากระผม/อาตมภาพเองอายุ ๖๓ ปีแล้ว ส่วนพลขับก็อายุ ๕๔ ปี ซึ่งถ้าหากว่าอีกปีเดียวก็เข้าสู่อายุ ๕๕ ปี ต้องรับเบี้ยเลี้ยงผู้สูงอายุเดือนละ ๖๐๐ บาทแล้ว..!

การที่เราจะทำงานทุกอย่างให้ได้สมบูรณ์ นอกจากประกอบด้วยการที่มีจิตใจเสียสละแล้ว ยังจะต้องประกอบไปด้วยความแข็งแรงของร่างกาย อย่างที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จออกกำลังพระวรกายทุกวัน ทำเอาบรรดาองครักษ์เหนื่อยลิ้นห้อยไปตาม ๆ กัน เมื่อมีผู้ทูลถาม พระองค์ท่านก็ตรัสบอกว่า ถ้าหากว่าร่างกายแข็งแรง ก็จะทำหน้าที่ดูแลประชาชนได้ดี

ดังนั้น...ตรงจุดนี้นอกจากกำลังใจที่เสียสละ ร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังมีข้อสุดท้ายที่บางทีพวกเราก็ลืมไป ก็คือต้องไม่กลัวตายด้วย เพราะว่าส่วนใหญ่พวกเราส่วนหนึ่งก็คือ พอเหนื่อยก็พัก โดยที่ไม่ได้เคยลองดูว่า ถ้าหากว่าเหนื่อยยิ่งไปกว่านี้แล้วจะมีสภาพอย่างไร สาเหตุใหญ่ก็คือกลัวตายเลยไม่กล้าทำต่อไป

จึงฝากเอาไว้สำหรับท่านที่เป็นนักปฏิบัติทั้งหลายว่า ถ้าหากว่าเราอยากจะรู้กำลังใจของตนเองว่าควรแก่การหลุดพ้นสักเท่าไร ก็ต้องทดสอบกับความตายดู อย่างที่พระสายวัดป่ามักจะพูดกันอยู่เสมอว่า ธรรมะอยู่ฟากตาย ถ้าท่านทั้งหลายเห็นความตายเป็นปกติ ไม่มีความหวั่นเกรง ไม่ได้อยากตาย แต่พร้อมเสมอที่จะตาย ถ้าเช่นนั้นก็แปลว่าการปฏิบัติธรรมของท่านนั้นมีผล

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-03-2022 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว