|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#81
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่จะไปปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์ วันที่ ๑๑ เมษายน เรามีโครงการใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์ เอาเฉพาะสุภาพสตรีแล้วกัน...ช่วยติดผ้าถุงไปด้วย จะได้ไปเข้าโครงการนุ่งผ้าซิ่น ใส่บาตรพระกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:29 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคนอาจจะเบื่องาน ลองนึกถึงใจของคนตกงานบ้าง บางคนอาจจะเบื่อบ้าน ลองนึกถึงใจของคนไม่มีบ้านบ้าง บางคนอาจจะเรียกร้องทุกอย่างจากพ่อแม่พี่น้องคนรอบข้าง ลองนึกถึงใจเด็กกำพร้าดูบ้าง
ถ้าสามารถนึกถึงอกเขาอกเรา อย่างน้อย ๆ เราก็มีหลักธรรมข้อหนึ่ง คือ สมานัตตตา ในสังคหวัตถุ ซึ่งสมานัตตตานี้ไม่ใช่ว่าความเสมอต้นเสมอปลาย ความหมายจริง ๆ ก็คือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เรารักสุขเกลียดทุกข์อย่างไร คนอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์แบบนั้น เพราะฉะนั้น..เราไม่ชอบสิ่งไหน อย่าทำสิ่งนั้นกับคนอื่น ขณะเดียวกันเราชอบสิ่งไหน ไม่ใช่ว่าเราจะทำสิ่งนั้นกับคนอื่นได้ทุกคน ต้องดูกาละคือเวลาที่เหมาะสม ดูเทศะคือสถานที่อันเหมาะสมด้วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:30 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "บางคนอาจจะคิดว่าพระอาจารย์เล็กพกวัตถุมงคลอะไรวิลิศมาหรา ที่เห็นนี่เพราะว่าใส่ถุงพลาสติก ก็เลยต้องพับปากถุงแล้วซีลกันน้ำ ภายในถุงก็มีผ้ายันต์หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ก็คือยันต์เกราะเพชรนั่นแหละ น่าจะรุ่นสร้างประมาณพ.ศ. ๒๔๗๔-๒๔๗๕ แล้วก็มีรูปหลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี ซึ่งเป็นอาจารย์ปู่ เพราะว่าท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สาย กับเหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณเนื้อเงิน
อาตมาก็บูชามาราคาเดียวกับโยมนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเหรียญก่อนหน้านี้ให้รองฯ สมเกียรติ ซึ่งเป็นรองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอทองผาภูมิ ท่านไปขับรถชน ๒ ครั้งติด ๆ กัน บอกว่ากำลังดวงตก ตั้งแต่ได้เหรียญรอยพระพุทธบาทหลังท้าวเวสสุวรรณของวัดท่าขนุนไปก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ปัจจุบันนี้ก็น่าจะต้องลาออกจากผู้ใหญ่บ้าน เพราะว่าไปลงสมัครตำแหน่งรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:31 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราถ้าไม่รู้จักพอก็ต้องดิ้นรนเรื่อยไป อย่างที่เมื่อครู่ได้บอกแล้ว ไม่อยากอยู่บ้านเลย...นึกถึงพวกไม่มีบ้านดูบ้าง ไม่อยากทำงานที่นี่เลย...นึกถึงคนตกงานบ้าง ถ้าเรารู้จักพอ ทุกอย่างจะดีหมด เพราะว่าสภาพจิตจะดิ้นรนน้อยลง
หลวงปู่มหาอำพันท่านบอกว่า "ความไม่พอพาจนเป็นคนเข็ญ พอแล้วเป็นเศรษฐีมหาศาล" คนไม่พอมักจะให้อะไรใครไม่ได้ ก็เท่ากับเป็นคนจน แต่คนรู้จักพอ มีอะไรก็ให้คนอื่นได้เท่ากับเป็นคนรวย "จนทั้งนอกจนทั้งในไม่ได้การ ต้องคิดอ่านแก้จนเป็นคนพอ" พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน ทำงานอะไร ฐานะแบบไหน พยายามให้มีความสุขกับสิ่งที่ตนเองมี ยินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี จะเป็นเศรษฐีในเรือนยาจก ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี ก็เป็นแค่วณิพกในเรือนเศรษฐี อันนี้หลวงปู่จันทร์ หรือหลวงปู่พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดเจดีย์หลวง สมัยยังอยู่วัดป่าดาราภิรมย์ ท่านบอกกับอาตมาเอง เพราะว่าตอนนั้นอยู่วัดเทพศิรินทราวาส พระธรรมยุตเขาไปถึงกันหมด ตอนนั้นท่านยังเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าดาราภิรมย์อยู่ ตอนนั้นท่านเป็นชั้นเทพ ดังนั้น..ถ้าหากว่าเราขึ้นรถเมล์ ขึ้นรถไฟฟ้า เราก็มีความสุขได้ อาตมาเองโหนรถมาเสียเยอะแล้ว ถึงเวลาเห็นคนแก่ เห็นผู้หญิง เห็นคนท้องขึ้นรถมาก็รีบลุกให้นั่ง เห็นเด็กบางทีก็จับนั่งใส่ตักเลย...ไปด้วยกัน แล้วเด็กทุกคนไม่กลัวอาตมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:32 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
||||
|
||||
"มีอยู่เที่ยวหนึ่ง ตอนนั้นก็กำลังจะกลับฐานที่ตั้งเพราะว่าอยู่แนวหน้า เขาให้ลาได้ ๑๐ วัน ก็แต่งชุดทหารเต็มยศนั่นแหละ ขึ้นรถที่หมอชิตเก่าเพื่อที่จะกลับไปอรัญประเทศ ตอนนั้นยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรีอยู่ ไม่ใช่จังหวัดสระแก้ว แล้วสมัยนั้นถนนที่ไปสระแก้วโดยตรงที่ออกทางด้านตะวันออกก็คือระยองนั้นยังไม่มี ต้องนั่งรถผ่านฉะเชิงเทรา พนมสารคาม ขึ้นไปปราจีนบุรี ออกจากหมอชิตประมาณ ๐๘.๓๐ น. ต้องไปแวะกินข้าวเที่ยงที่ปราจีนบุรี เขาจะมีที่ให้จอดรถพัก
ก็ปรากฏว่ามีสามแม่ลูกขึ้นมา ตัวเล็กก็อุ้มอยู่ น่าจะประมาณสักขวบหนึ่งได้ ตัวโตประมาณ ๕ ขวบ สงสัยว่าแม่จะตีตั๋วใบเดียว สมัยโน้นเขายังใจดี เด็ก ๆ ให้ขึ้นฟรี ก็เลยมีที่นั่งเดียว อุ้มลูกคนเล็กแล้วลูกคนโตจะทำอย่างไร ? อาตมาเองเห็นแล้วชั่งน้ำหนักตัวเอง ถึงกูจะเป็นทหารแข็งแรงขนาดไหน ถ้าแปดโมงครึ่งยืนยันเที่ยงก็แย่เหมือนกัน..! ก็เลยดึงตัวโตมา "มา..นั่งตักอานี่" ไอ้เจ้าเด็กนั่งได้ปุ๊บก็หลับเลย ไว้วางใจมาก..! แล้วจะทำอย่างไร อาตมาก็กระดิกไม่ได้ ต้องนั่งให้เขาได้นอนในท่าที่สบายที่สุด ไปถึงปราจีนบุรีคนขับก็จอดรถเพื่อให้ลงไปกินข้าวกลางวัน อาตมาก็ปลุกเจ้าเด็กนั่นขึ้นมา แต่ตัวเองลุกไม่ได้ รู้สึกว่าท่อนล่างหายไปเลย...ชาหมดทั้งตัว ...(หัวเราะ)... ให้เขานั่งตั้งแต่ประมาณแปดโมงครึ่งยันเที่ยง ถึงได้บอกว่าบางทีนั่งรถเมล์เราก็มีความสุขได้ ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย ไม่มีอะไรก็ดูคน ดูวิว นั่งรถไฟฟ้าก็พยายามฟังเสียงภาษาอังกฤษ อย่าไปฟังเสียงภาษาไทย จะได้ซ้อมภาษาไปด้วย "Next station, Bangrak Yai" ...(หัวเราะ)... ฟังให้ชิน ไปต่างประเทศจะได้คุ้นหู ถ้าไปต่างประเทศอาตมาก็ถนัดเดิน ถึงจะขึ้นตึก ๕ ชั้น ๑๐ ชั้น ก็ขึ้นบันไดเอา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:35 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
||||
|
||||
"วันก่อนไปชี้แจงเพื่อยกห้องเรียนวัดไชยชุมพลชนะสงครามเป็นวิทยาลัยสงฆ์ อาตมาก็เดินขึ้นบันไดลงบันไดตึกอธิการบดี ทางด้านหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดลงลิฟท์ ปรากฏว่าอาตมาลงมาถึงไล่ ๆ กัน ก็คือพอลิฟท์ของท่านเปิด ท่านเดินออกมาได้ยังไม่ทันที่จะพ้นประตู อาตมาก็ลงมาถึงชั้นล่างพอดี
เพราะฉะนั้น..ถ้ายินดีในสิ่งที่ตนได้ พอใจในสิ่งที่ตนมี เราทำอะไรเราก็มีความสุขได้ อะไรที่สามารถแก้ไขได้ ทำสุดความสามารถแล้ว ถ้าแก้ไม่ได้ก็ต้องยอมรับว่าความจริงเป็นอย่างนั้น พยายามแยกความฝันกับความจริงให้ออก ความฝันเราอยากมีอยากได้อยากเป็นอะไร พยายามทำความจริงให้เป็นอย่างนั้น ยอมรับสภาพของตนเอง ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ความก้าวหน้าจะมาเอง อาตมาเองก็ไม่เห็นมีอะไร แค่ทำงานไปเรื่อย ไม่ต้องดิ้นต้องรนอะไร ทั้งยศทั้งตำแหน่งก็ไหลมาเทมา ให้ก็รับไว้ ไม่ให้ก็ไม่เอา ไม่ไปดิ้นรนไขว่คว้าหาเหมือนคนอื่นเขา ทำงานถ้าหากว่าเราทำเต็มที่ ก็จะอยู่ในสายตาของเจ้านาย ท่านจะรู้เองว่าคนนี้มีใจให้กับงาน เดี๋ยวท่านก็มอบหมายหน้าที่มาให้ แล้วหน้าที่ก็มักจะมาพร้อมกับตำแหน่งไปเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:36 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อากาศร้อน คนหงุดหงิดง่าย พยายามตั้งสติรักษากำลังใจให้ดี อย่าไประเบิดใส่ใคร สมัยนี้น่ากลัวมาก ขับรถอยู่ยังไปไล่ชนกัน ไล่ยิงกัน ลงไปเอามีดไล่ฟันกัน ใจเย็น ๆ หน่อย...กว่าจะเกิดมาได้ กว่าจะรักษาตัวเองรอดมาจนถึงปัจจุบันได้ ใจร้อนหน่อยเดียวอาจจะตายได้เลย
อย่างวันก่อนลูกชายเจ๊เกียวเจ้าของบริษัทเชิดชัยทัวร์ เจ้าแม่รถทัวร์ ถ้าหากว่าใครขึ้นรถสายอีสานไม่รู้จักเจ๊เกียว ก็แปลว่าไม่เคยขึ้นรถที่หมอชิต ...(หัวเราะ)... ลูกชายเจ๊เกียวไปรถมอเตอร์ไซค์คว่ำ กระเด็นตกน้ำเสียชีวิต แล้วเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ไปช่วยบ้านไฟไหม้แถว ๆ บรมราชชนนีซอย ๑๐๕ ตึกถล่มทับเสียชีวิต เราจะเห็นว่าเผลอนิดเดียวก็ตายแล้ว เพราะฉะนั้น..ชีวิตเป็นของน้อย พยายามตั้งสติ ละเว้นการทะเลาะเบาะแว้ง สร้างความดีในทาน ในศีล ในภาวนาให้มากเข้าไว้ อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้การเวียนว่ายตายเกิดของเราสั้นลง ต้องเกิดมาทุกข์น้อยลงกว่าคนอื่นเขา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:37 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#88
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าจะร่วมบุญกฐินปลดหนี้ ให้ลงไปบูชาของแพงได้ ยังมีพระกริ่งสะท้านไตรภพอยู่ แล้วก็ยังมีเหรียญพญาเต่ามังกรเงินล้านเนื้อเขียวเหล็กไหล หน้ากากเงิน ขา หาง และหัวเป็นฝาบาตร เป็นเหรียญขนาดกลาง เหมาะสำหรับผู้หญิง แต่ผู้ชายจะใส่ก็ดี ไม่ต้องเสียเงินเลี่ยมมาก อาตมาค่อนข้างจะหวงเสียด้วย นาน ๆ ก็เอาออกมาหน่อยหนึ่ง
ท่านใดถ้าหากว่ารอบูชาวัตถุมงคลที่เข้ากรรมฐานสามวัน โดยมีพระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ท่านเมตตาสงเคราะห์ แล้วอาตมาก็ไม่ค่อยจะเอาออกมา ถ้าต้องการก็ไปบูชาได้ที่วัดสี่แยกเจริญพร ที่อาตมาแบ่งให้ท่านไปจำนวนหนึ่ง ต้องบอกว่ามากทีเดียวแหละ รวมทั้งวัดท่ามะขาม วัดสี่แยกเจริญพรอยู่อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม วัดท่ามะขามอยู่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยเฉพาะผ้ายันต์พญาเต่ามังกรเงินล้านเปิดโลกพลิกชีวิต ส่วนใหญ่จะอยู่ที่วัดท่ามะขาม ไปหาเอามาติดบ้านไว้ เกิดศึกเกิดสงครามอะไรขึ้นมาจะได้ปลอดภัย หรือไม่ก็เกิดภัยธรรมชาติอะไรขึ้นมาจะได้ปลอดภัย ส่วนพวกเหรียญส่วนใหญ่ทำเน้นหนักไปทางลาภผล ใครทำมาหากินค้าขายอะไร ต้องการความสะดวกคล่องตัวก็ไปบูชาเอาได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2021 เมื่อ 15:39 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#89
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปัญหาเรื่องการปะทะกันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่เริ่มแบ่งข้างอย่างชัดเจน เกิดจากสหรัฐฯ ยังอยากจะเป็นใหญ่ในโลก แต่โดนจีนทำท่าจะแซง ก็ต้องหาทางสกัดกั้น แต่คราวนี้ด้วยความที่สหรัฐฯ เป็นอเมริกัน คิดแบบอเมริกัน ไม่เข้าใจหลักปรัชญาตะวันออกที่ว่า "หาเพื่อนดีกว่า" ต้องบอกว่าคนที่เข้าใจหลักปรัชญานี้ดีที่สุดอยู่ในเมืองไทยและตายไปแล้ว ก็คือ "น้าชาติ" พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายเปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า นั่นแหละชัดที่สุดเลย
ประเทศจีนก็พยายามทำแบบเดียวกัน สร้างโครงการ One Belt One Road ขึ้นมา เพื่อที่จะเชื่อมโลกเข้าด้วยกัน ตอนนี้รถไฟความเร็วสูงจากประเทศจีน สามารถขนสินค้าส่งถึงปารีสได้ภายในหนึ่งเดือน ไปทีเป็นร้อย ๆ ตู้เลย ตู้รถไฟยาวที ๒-๓ กิโลเมตร คนไทยแปลว่า หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง ก็คือลักษณะของเส้นทางสายไหมยุคใหม่ คราวนี้สหรัฐฯ ทนดูคนดีกว่าไม่ได้ ขาดหลักธรรมข้อมุทิตา มีแต่อธรรมในข้ออิจฉา ก็เลยพยายามสกัด แล้วคราวนี้ถ้าหากว่าปะทะกันโดยตรง รู้ว่าเทคโนโลยีหลายอย่าง จีนล้ำหน้าตัวเองไปเยอะแล้ว ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูงสุดชื่อเทียนกงเป็นของประเทศจีน เทคโนโลยี ๕G ที่ดีที่สุดเป็นของประเทศจีน แล้วตอนนี้จีนก้าวหน้าไปถึง ๖G แล้ว ก็เลยทำให้สหรัฐฯ ต้องหาผู้ร่วมอุดมการณ์อย่างไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี เพื่อช่วยสกัดกั้นจีน โดยที่ตัวเองไม่ต้องไปปะทะเองโดยตรง ก็เลยทำให้ภาวะตึงเครียดเกิดขึ้นทั่วไปหมด แต่สหรัฐฯ น่าสงสารตรงที่ไม่ได้ดูปัญหาในบ้าน ก็คือเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อาละวาด เรื่องของการเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติในบ้านตัวเอง ตลอดจนกระทั่งปัญหาที่ไปรังแกคนอิสลามไว้มาก เรื่องพวกนี้ปะทุขึ้นมาเมื่อไร สหรัฐฯ ก็ปวดหัว ถ้าหากปะทะกับจีนแล้วมีปัญหานี้ขึ้นมาก็จะเดือดร้อนกันทั้งประเทศ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:09 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#90
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมากำลังชวนคุณนวลจันทร์ เพียรธรรม เจ้าของเอ็นซีทัวร์ เอ็นซีก็คือนวลจันทร์นั่นแหละ นั่งรถไฟจากประเทศจีนทะลุไปรัสเซีย แหม..เริ่มวางแผนหน่อยเดียวเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ อาละวาดเสียนี่ เดี๋ยวต้องฉีดวัคซีนซิโนแวคหรือไม่ก็สปุตนิกก่อนถึงจะไปได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:12 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#91
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "รายการทำบุญหลายอย่างที่ญาติโยมร่วมกันทำบุญไปในเว็บวัดท่าขนุน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างห้องประชุมที่เรียกว่าเธียเตอร์ ที่อาคารเอนกประสงค์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (วังน้อย) การสร้างห้องประชุมอาคารเรียนรวม วิทยาลัยสงฆ์พุทธปัญญาศรีทวารวดี การร่วมบุญสร้างวิทยาลัยสงฆ์สุพรรณบุรีศรีสุวรรณภูมิ การร่วมสร้างอาคารบ้านพักเด็ก โรงเรียนหมู่บ้านเด็กวังด้ง การร่วมบุญสร้างอาคารโดม ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลวังด้ง อาตมาจัดการให้กับทุกท่านเรียบร้อยแล้ว
ระยะหลังส่วนใหญ่อาตมาจะใช้วิธีซื้อเป็นเช็คเงินสด เพื่อที่จะได้มีหลักฐานยืนยันว่าเราร่วมบุญไปแล้วจริง ๆ แต่ว่าส่วนอื่นอีกหลายรายการ อย่างเช่นว่า การร่วมสร้างหลวงพ่อสมใจ วัดปรังกาสี ท่านจะหล่อในวันที่ ๒๘ เมษายนนี้ ก็จะเอาเงินไปให้วันนั้นเลย เงินที่โยมทำบุญมาเพียงพอแล้วจึงปิดกระทู้ไป ตอนนี้ก็เริ่มกฐินปลดหนี้วัดท่าโขลง ซึ่งหลวงพ่อหนึ่ง (ท่านพระครูนาคดิตถ์วรรักษ์) ได้สร้างโรงเรียนให้เด็กชาวเขา ก็เป็นหนี้หัวโตอยู่ ...(หัวเราะ)... ขอความช่วยเหลือมาประมาณ ๕ ปีแล้วเพิ่งจะถึงคิว ยังดีที่ยืนหยัดอยู่ได้โดยที่ไม่โดนหนี้ทับตายไปเสียก่อน..! แต่ว่ามีอาการเครียด ลักษณะเส้นเลือดตีบ บางช่วงมือเท้าไม่ค่อยอยากจะทำงาน อาตมาก็ต้องคอยโวยวายไว้ว่า "อายุน้อยกว่าผมตั้งเยอะตั้งแยะ คุณจะเครียดไปถึงไหนวะ ? งานคุณก็ทำน้อยกว่า มีแค่เรื่องโรงเรียนอย่างเดียว" บางท่านนี่ชิงแก่แซงอาตมาไปหมดทั้ง ๆ ที่เป็นรุ่นน้อง อย่างครูบาเหนือชัย ครูบาเหนือชัยอายุน้อยกว่า ๓ ปี อย่างของท่านเจ้าคุณทองดี (พระพิศาลญาณวงศ์) วัดใหม่ปลายห้วย เมื่อเดือนที่แล้วก็ไปร่วมงานกันที่อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จ.สกลนคร ท่านบอกว่า "อาจารย์เล็ก...ผมขึ้นไม่ไหวนะ นิมนต์อาจารย์ขึ้นไปคนเดียวแล้วกัน" เพราะว่าเจ้าภาพก็คือหลวงพี่นิล (ท่านพระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ท่านนิมนต์เป็นประธานคู่กัน ต้องขึ้นไปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระเกศสมเด็จองค์ปฐม สูงจากพื้นไม่มากหรอก ประมาณ ๕ เมตรกว่า ๆ..! ท่านบอกว่าขึ้นไม่ไหว ไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เห็นอาตมาไม่แก่..ว่าอย่างนั้น เจ้าคุณทองดีก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับครูบาเหนือชัยนั่นแหละ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 13:27 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#92
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันนี้ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรมไปตรวจเยี่ยมที่วัดท่าขนุน ต้องสั่งงานทางไลน์ตลอดเวลา ...(หัวเราะ)... โดยเฉพาะต้องติดต่อเครือข่ายของชุมชนคุณธรรมต้นแบบวัดท่าขนุนทั้ง ๒๖ แห่ง เอาสินค้าชุมชนของตัวเองมาลงให้เขาดู ว่าเรื่องการพึ่งพาตนเองของเราเป็นอย่างไรบ้าง
ตอนนี้ทางชุมชนเขาพร้อมกันหมดแล้ว ซาเล้งพร้อม จุดคัดกรองพร้อม คำกล่าวต้อนรับพร้อม มีพวกเครื่องไม้เครื่องมือแบบนี้ก็ดี อาตมาอยู่ถึงบ้านเติมบุญ สามารถควบคุมการทำงานที่ทองผาภูมิได้ อันนี้โทษอาตมาไม่ได้ว่าไม่ให้เกียรติผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ก็ท่านเล่นกำหนดมาไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา ตรวจราชการก็ต้องวันราชการ ไม่ใช่วันหยุด มาขยันผิดปกติ แล้วอาตมาเป็นคนที่ถ้าหากว่ามีงานที่ไหนแล้วจะไม่รับงานซ้ำ ยกเว้นอย่างเดียวว่าเป็นงานหลวง คืองานของในหลวงพระราชินี หรือพระญาติพระวงศ์อย่างหนึ่ง กับงานคณะสงฆ์ที่สำคัญจริง ๆ อีกอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใช่สองงานนี้อย่าหวังเลยว่าจะไปให้ เพราะฉะนั้น..ท่านผู้ตรวจก็กรุณาอยู่กับชาวบ้านไปก็แล้วกัน ...(หัวเราะ)..."
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:17 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#93
|
||||
|
||||
พูดถึงข่าวไฟไหม้บ้านถล่มทับอาสากู้ภัยเสียชีวิต "ว่าแต่ว่าเจ้าของบ้านเขายังจะกล้าไปสร้างบ้านทับที่เดิมไหมนี่ ? เพราะอย่างน้อยก็ ๕ ศพไปแล้ว วันดีคืนดีก็มีคนวิ่งตึงตังกู้ภัยอยู่ในบ้านละสนุกแน่ ...(หัวเราะ)... คือท่านทั้งหลายเหล่านี้เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติงาน หลายคนบางทีไม่รู้ตัวว่าตัวเองตายแล้ว ใจยังมุ่งอยู่กับงานเดิมของตัวเอง
สมัยอาตมาเป็นทหารอยู่ที่กองพลที่ ๙ ค่ายสุรสีห์ สมัยโน้นยังเป็นค่ายกาญจนบุรีอยู่ วันดีคืนดีก็มีเสียงกองทัพปะทะกัน เสียงช้าง เสียงม้า เสียงดาบ เสียงหอก กระทบกันเหมือนอย่างกับรบกันอยู่ใกล้ ๆ เลย ลักษณะนั้นก็เหมือนกัน เพราะว่าตรงนั้นก็คือสมรภูมิทุ่งลาดหญ้า ที่ไทยเราไปปะทะกับกองทัพพระเจ้าปดุงในสงครามเก้าทัพ แล้วบริเวณไม่ไกลจากนั่น ห่างประมาณ ๑๒ กิโลเมตร ก็ยังเป็นจุดที่พระนเรศวรทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราช ท่านทั้งหลายที่เสียชีวิตอยู่ ต้องบอกว่าใจยังมุ่งมั่นอยู่กับงานตัวเอง ก็เลยไม่ได้ไปไหน พอโอกาสดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในเขตให้เราได้รู้ได้เห็นกันบ้าง ถ้าเป็นอาตมาก็คงขายทิ้งเลย ไปหาซื้อที่สร้างบ้านที่อื่นดีกว่า ...(หัวเราะ)... คือตัวเองแก้ไขได้นะ แต่คงไม่ไปแก้หรอก เพื่อความสบายใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย คนอื่นมาอยู่จะคิดอย่างไร เพราะฉะนั้น..ของเราเองก็ขายทิ้งไปเถอะ หาซื้อที่อื่นดีกว่า ไม่ต้องหลังใหญ่ขนาดนั้นก็ได้ เรื่องของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่เป็นกรรมเก่าจากการฆ่าคนฆ่าสัตว์ใหญ่เอาไว้ ถึงวาระเคยทำร่วมกันมาก็มาตายร่วมกัน อย่างท่านองคุลีมาลฆ่าคนไปเป็นพันเลย ที่ฆ่าคนนั่นเพราะว่า ในอดีตมีอยู่ชาติหนึ่งท่านเกิดเป็นควายป่า แล้วโดนชาวบ้านล้อมล่า พูดง่าย ๆ ก็คือสมัยก่อน รุ่นพวกเรามีใครเกิดทันไหม ? รุ่นอาตมานี่ทัน เขาเรียกไล่ราวหรือไล่เหล่า พอถึงเวลาก็คนเกือบทั้งหมู่บ้านล้อมป่าแล้วก็ตีเกราะเคาะไม้ สัตว์ป่าจะเตลิดไปตามทางที่นายพรานเขาซุ่มอยู่แล้วก็ยิง แต่อันนี้ของเขาไล่ฆ่ากันเลย ใช้หอก ใช้แหลน ใช้หลาว รุมแทงควายป่าจนตาย ก่อนตายก็อาฆาตไว้ว่าจะกลับมาฆ่าพวกนี้คืนบ้าง พอเกิดมาชาตินี้ก็มาเป็นอหิงสกกุมารหรือองคุลีมาลเถระในระยะหลังนั่นแหละ มาฆ่าคืนไปทีละศพสองศพ ล่อไปเป็นพันเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:19 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#94
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ประเทศอียิปต์จัดขบวนเคลื่อนศพมัมมี่ ทั้งฟาโรห์และพระราชินี ๒๒ พระองค์ ทำไม่ดีก็คงได้เจริญกันบ้างแหละ..! เพราะว่าเจ้าพระยามหากษัตริย์หรือพระราชินีสมัยก่อนมีอำนาจสิทธิ์ขาดทุกอย่าง ทำอะไรไม่ถูกพระทัยก็โปรดระวังเอาไว้ด้วย ...(หัวเราะ)..."
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:20 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#95
|
||||
|
||||
พระอาจารย์สนทนากับโยมคนหนึ่ง "เป็นอย่างไรบ้าง ? (ตอนนี้ดูแลแม่ที่นนทบุรีครับ) อ๋อ..กลัวแม่ติดโควิด ...(หัวเราะ)... จะว่าไปแล้วไม่ว่าจะทำงานที่ไหนก็สะดุดไปหมด เจอฝีมือโควิดเข้า ฉวยโอกาสกตเวทิตาแม่ก็ดี กตัญญูแปลว่ารู้คุณท่าน กตเวทิตาแปลว่าทำการตอบแทน กตะ ก็คือย้อนกลับ คืนให้
บางทีรู้บาลีก็ได้เปรียบชาวบ้านเขา แต่บางทีรู้เกินไปก็เครียด เพราะว่าชื่อบางคนแปลเป็นภาษาบาลีแล้วหมดสภาพเลย วันก่อนเจอคนชื่อ นิลมล นิล ตัวแรกก็คือดำ มล ตัวหลังคือสกปรก ...(หัวเราะ)... ต้อง นิรมล นิร แปลว่าไม่ นิรมล ไม่สกปรก ก็คือสะอาด บางทีคนเขียนไม่มีความรู้ก็คิดว่าชื่ออย่างนี้ดีแล้ว นิรมล แต่กลายเป็น ล.ลิง ไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2021 เมื่อ 12:20 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#96
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาลุ้นลูกสาว ยื่นเข้าเรียนปริญญาโทที่ London Business School ที่ลุ้นไม่ได้ลุ้นเรื่องภาษาเพราะว่าลูกเขาเก่งอยู่แล้ว แต่ลุ้นว่าจะรอดจากโควิดไหม ? ...(หัวเราะ)...
ตอนนี้กำลังเงี่ยหูฟังข่าวทั่วโลก ว่าใครพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วติดโควิดบ้าง ? ติดขึ้นมาเมื่อไรอาตมาจะอาละวาด..! ในเมื่อรับปากว่าจะช่วยก็ต้องช่วยกันสิ คือความจริงเรื่องของพระเรื่องของเทวดาท่านพูดครั้งเดียว แต่ด้วยความที่อาตมาเป็นโรคหวาดระแวงก็ต้องคอยเช็คข่าว ว่าใครพกวัตถุมงคลวัดท่าขนุนแล้วมีติดโรคบ้าง ตอนนี้ก็ยังเมตตานะ ทองผาภูมิยังเป็นอำเภอสะอาด ยังไม่มีใครติดโควิดแม้แต่คนเดียว อาตมาก็เอาแค่อำเภอเดียวนั่นแหละ ของหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเล่นทั้งจังหวัด อุทัยธานียังไม่มีใครติดโควิดแม้แต่คนเดียว ...(หัวเราะ)... หลวงพ่อท่านเล่นทั้งจังหวัด หลวงลูกได้แค่อำเภอเดียว..! เพราะว่าในตัวจังหวัดกาญจนบุรีตั้งแต่ต้นมาติดโควิดไป ๘ คน มาจากที่อื่นทั้งนั้นเลย เรื่องของพระ เรื่องของพรหมเทวดา ถ้าท่านตั้งใจสงเคราะห์ ตั้งใจช่วย ไม่มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรงท่าน เพียงแต่ว่าของท่านส่วนใหญ่แล้วก็คือยอมรับกฎของกรรม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2021 เมื่อ 13:17 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#97
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กเล็ก ๆ บางคนมีความเป็นผู้ใหญ่จนกระทั่งเราคิดไม่ถึง ส่วนใหญ่แล้วเป็นเพราะมีอดีตที่ข้ามชาติข้ามภพมา เคยชินกับความเป็นผู้ใหญ่ก็คิดพูดทำแบบผู้ใหญ่ ในวงการพระตัวอย่างชัด ๆ ก็ท่านเจ้าคุณพระพิศาลญาณวงศ์ หรือหลวงปู่ทองดี วัดใหม่ปลายห้วย กับอดีตหลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังสี รายนั้นมรณภาพแล้วเกิดใหม่เลย ก็เลยติดความเป็นคนแก่มาด้วย
ส่วนเด็ก ๆ ที่ติดความเป็นผู้ใหญ่มาก็เพราะว่าชาติก่อนเป็นผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่พวกตายแล้วเกิดใหม่เลยไม่ต้องไปคั่นชาติอื่น หรือว่าไม่ต้องไปเสวยสุขเสวยทุกข์อยู่ในภพภูมิอื่น ก็จะจดจำสิ่งเก่า ๆ ได้ เหมือนกับคนหลับแล้วตื่น หรือไม่ก็ปฏิกิริยาเคยชินในความเป็นผู้ใหญ่ ก็พูดแบบผู้ใหญ่ ทำแบบผู้ใหญ่ บางคนอย่างท่านเจ้าคุณเล็ง เรียกแม่ว่าน้อง ...(หัวเราะ)... เพราะว่าท่านตายแล้วมาเกิดเป็นลูกน้องสาว ไม่ยอมเรียกแม่กับใครหรอก เจอแม่เรียกน้องอย่างเดียว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2021 เมื่อ 13:20 |
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#98
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวถึงการปล่อยสัตว์ประจำเดือน "การปล่อยนกนั้น ส่วนใหญ่นกที่โดนจับมาเป็นนกกระติ๊ดสีอิฐ แล้วนกพวกนี้จะหากินเป็นฝูง พอลงนาข้าวก็ลงเป็นฝูง เป็นร้อย ๆ ตัว พวกคนที่ดักนกก็จะไปดักดูอยู่ ๒-๓ วัน คือฝูงนกเวลาลงหากินจะมีทิศทางลงของตัวเอง ถึงเวลาจะขึ้นทิศไหน จะลงทิศไหน เขาจะดูอยู่ ๒-๓ วัน หลังจากนั้นก็เอาตาข่ายไปขวางทิศที่ขึ้น พอนกลงหากินก็ตะเพิดให้บินขึ้น เท่านั้นก็ไปติดตาข่ายกันหมด
ถ้าถามว่าทำไมรู้ ? เด็ก ๆ อาตมากินมาเป็นร้อยเป็นพันแล้ว ...(หัวเราะ)... ล่ามาทุกวิถีทางแล้ว เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าทำไมตอนนี้ถึงป่วยแหง็ก ๆ อย่างนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2021 เมื่อ 13:20 |
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#99
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เลขาฯ ส่วนตัวส่งข้อความมาบอกว่า คุณโชติธัชอยากได้พาลีงาแกะของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ต้องกลับไปดูก่อนว่ามีเหลือไหม ? เพราะว่าค่อนข้างจะหายาก ในชีวิตอาตมาก็ได้มาแค่ ๓ ตนเท่านั้น โบราณเขาสร้างพาลีมาจากตรงที่ว่า พาลีไม่เคยแพ้ใคร โดยเฉพาะได้พรจากพระอิศวร รบกับใครกำลังของคู่ต่อสู้จะหายไปครึ่งหนึ่ง แล้วมาเพิ่มให้กับพาลี ก็มีแต่ชนะอย่างเดียว ...(หัวเราะ)...
แต่คราวนี้ไปโดนพระรามยิงด้วยศรสะกิดผิวแค่เลือดออกหยดเดียว ยอมฆ่าตัวตายดีกว่า ในพาลีสอนน้องบอกว่า เลือดพี่มีค่ากว่าตน เสียเลือดเสียชนม์ดีกว่า โลหิตติดปลายโลมา อับอายขายหน้าฟ้าดิน พูดง่าย ๆ ก็คือศักดิ์ศรีค้ำคอ เกิดมาเป็นยอดแชมป์ไม่เคยแพ้ใคร โดนพระรามยิงด้วยศรสะกิดเลือดออกมาหนึ่งหยด รับไม่ได้ ...(หัวเราะ)..."
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2021 เมื่อ 13:21 |
สมาชิก 144 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#100
|
||||
|
||||
"คนไม่เคยแพ้นี่ลำบาก ทำใจยาก ถ้าคนแพ้เป็นนี่ยกขึ้นวางลงได้ มีภูมิคุ้มกัน ทนแรงเสียดทานในสังคมได้มากกว่า ดังนั้น..พาลีไม่เคยแพ้ ก็เลยไม่สามารถที่จะทนต่อความอับอายขายหน้าของตัวเองได้ ความจริงรบกันตรง ๆ ก็ไม่แน่ว่าจะแพ้ แต่ด้วยความที่ว่าเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี เกิดมาไม่เคยเสียเลือดให้ใคร มาโดนปลายศรพระรามสะกิดเข้าหน่อยหนึ่งก็ถือว่าแพ้แล้ว ก็เลยฝากฝังเมืองขีดขินให้กับสุครีพผู้เป็นน้อง แล้วก็ฆ่าตัวตาย
ดังนั้น..ถ้าหากว่าใครดูโขนบ่อย ๆ จะเห็นมีพญาลิงอยู่ ๒ ตัว สีเขียวใส่มงกุฎกับสีแดงใส่มงกุฎ สีเขียวคือพาลี สีแดงคือสุครีพ เหตุที่ลิง ๒ ตัวทรงมงกุฎยอดแหลมเพราะว่าเป็นเจ้าเมือง คือเจ้าเมืองขีดขิน ลิงอื่น ๆ อย่างเก่งก็มีแค่รัดเกล้า หรือไม่ก็อย่างองคตก็จะเป็นมงกุฎทรงเตี้ย เพราะถือว่าเป็นเจ้าชาย องคตเป็นลูกพาลีกับนางมณโฑ ฤๅษีโคบุตรดึงเอาองคตออกจากท้องนางมณโฑไปใส่ไว้ในท้องแพะ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็คืออุ้มบุญ แต่ว่าเก่งกว่าสมัยนี้เยอะเลย ...(หัวเราะ)... สมัยนี้อุ้มบุญยังต้องใช้แม่คน...ใช่ไหม ? แม่เป็นคน สมัยโน้นเขาอุ้มบุญใส่ไว้ในท้องแพะ แล้วก็โตขึ้นมาได้เหมือนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2021 เมื่อ 13:22 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|