กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 06-04-2021, 07:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๔

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ เมื่อช่วงเช้าได้ทำการตอบปัญหาธรรม แล้วก็มีบางคำถามที่น่าสนใจ อย่างเช่นว่า มีโยมผู้หญิงท่านหนึ่งสอบถามว่า จะกินอาหารอะไรถึงจะช่วยลดกามราคะลงได้ เพราะว่ารบกวนในเวลาปฏิบัติมากเหลือเกิน

ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่องพวกนี้ยังมีคนเข้าใจผิดกันอยู่มากมาย ว่าอาหารนั้นเป็นส่วนที่กระตุ้นให้กามราคะกำเริบ แต่อาตมาเองขอยืนยันว่า ในส่วนที่ทำให้กามราคะกำเริบนั้นไม่ใช่อาหาร แต่เป็นการนึกคิดปรุงแต่ง ที่ใช้คำว่า จิตสังขาร คือการปรุงแต่งของใจ

ซึ่งตรงจุดนี้ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง เคยเล่าให้ฟังว่า ท่านเองก็อยากรู้ว่าในเรื่องของราคะนั้นเกี่ยวข้องกับอาหารหรือเปล่า ? ก็อุตส่าห์ผ่อนอาหารบ้าง ฉันแต่อาหารเจที่เป็นผักอย่างเดียวบ้าง แต่ไม่ได้บอกใคร ถ้าไปที่ไหนเขาไม่มีอาหารเจให้ ก็เลือกเอาแต่พวกผักมาฉัน ท่านบอกว่าบางวันไม่มีอาหารอะไรที่พอฉันได้ ก็เอาหัวหอมจิ้มน้ำปลาฉันกับข้าว ผ่านไป ๓ ปี กามราคะยังงอกงามเหมือนเดิม

ส่วนตัวของอาตมาเองมาทดสอบเอาตอนแก่นี่เอง คือช่วงเดือนที่แล้วสังขารร่างกายทรุดโทรมเสื่อมหนักจากอาการป่วย ก็มีญาติโยมนำเอายาบำรุงที่เรียกว่า พระกระโดดกำแพง มาให้ฉันต่อเนื่องกัน ๕ วัน สรุปว่าไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยังคงหมดเรี่ยวหมดแรงเหมือนเดิม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-04-2021 เมื่อ 09:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 06-04-2021, 07:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ก็แปลว่าในส่วนของอาหารนั้นมีส่วนน้อยมาก ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพจิตที่นึกคิดปรุงแต่งมากกว่า ถ้าหากว่าเราสามารถหยุดความคิดได้ ไม่ว่าจะเป็น ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ก็สงบ หมดสภาพไปเอง เพราะว่าขาดการปรุงแต่ง อาตมาเคยเปรียบเทียบว่าเหมือนกับเราลวกก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำเปล่า ก็ไม่มีใครอยากกิน แต่คราวนี้การที่เราไปปรุง ใส่หมูสับ ใส่กุ้งแห้ง ใส่ลูกชิ้น ใส่ตั้งฉาย ใส่ต้นหอม ใส่ผักชี ใส่น้ำส้ม ใส่น้ำปลา ใส่แม้กระทั่งถั่วลิสงคั่ว ยิ่งปรุงมากก็ยิ่งอร่อยมาก จึงทำให้อยากกินมากขึ้น

ลักษณะสภาพใจของเราก็แบบเดียวกัน ก็แปลว่าท่านผู้ถามนั้นไม่สามารถจะหยุดความคิดทั้งหมดให้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออกได้ ถ้าเราดึงเอาความคิดทั้งหมดมาอยู่ที่ลมหายใจ หายใจเข้าให้ความรู้สึกแนบชิดกับลมหายใจ...ไหลตามเข้าไปจนสุด...หายใจออกให้เอาความรู้สึกทั้งหมดแนบชิดติดกับลมหายใจ ไหลออกมาจนสุด

ถ้ากำลังใจของเราอยู่แค่นี้ รัก โลภ โกรธ หลง อะไรก็กินเราไม่ได้ เพียงแต่ว่าบางท่านพยายามแล้วพยายามอีก กำลังของกิเลสก็ยังเหนือกว่า ถ้าลักษณะอย่างนั้นต้องหางานอื่นทำ เพื่อที่จะให้เผลอลืมไปเลย

อย่างที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านใช้วิธีวิ่งอยู่ในป่าช้า วิ่งจนกระทั่งโดนกำนันเถา กำนันตำบลบางนมโค ไปฟ้องหลวงปู่ปานว่า "พระของท่านไม่สำรวม วิ่งกันโครม ๆ ไม่ได้อยู่ในสมณวิสัยที่สมควร" หลวงปู่ปานท่านก็ถามกลับไปว่า "กำนันไปเห็นพระของฉันไปวิ่งกันที่ไหน ?" กำนันเถาก็ตอบว่าวิ่งกันอยู่ในป่าช้า หลวงปู่ปานก็เลยถามไปอีกประโยคว่า "เขาอุตส่าห์หลบไปวิ่งในป่าช้า แล้วกำนันเสือกตามไปดูทำไม !!?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 07-04-2021, 07:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลักษณะอย่างนั้นก็เช่นเดียวกัน ก็คือหางานให้จิตทำ เพื่อที่จะได้เบี่ยงเบนออกจาก รัก โลภ โกรธ หลง ที่จิตกำลังปรุงแต่งครุ่นคิดอยู่ โดยเฉพาะหลวงพ่อกับเพื่อนทั้ง ๓ องค์นั้น ท่านใช้วิธีวิ่งพร้อมกับภาวนา โดยมีการขีดเส้นเอาไว้ กำหนดว่าถ้าวิ่งถึงตรงนี้จะต้องทรงฌานนี้ได้ วิ่งถึงตรงนั้นต้องทรงฌานนั้นได้ นอกจากจะเป็นการซักซ้อมความคล่องตัวในการเข้าออกฌานสมาบัติแล้ว ยังเป็นการเบี่ยงเบนความคิดไม่ให้ปรุงแต่งไปในด้านของ รัก โลก โกรธ หลง ให้จิตมีงานทำอยู่เฉพาะหน้าอีกด้วย

เมื่อวิ่งจนเหนื่อยแล้ว สภาพจิตพอเหนื่อย ความกลัวตายจะเกิดขึ้นโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ความกลัวตายในที่นี้ก็ทำให้สภาพจิตจะรีบกลับเข้ามานิ่งอยู่ในร่าง เพราะกลัวว่าตายแล้วจะหลุดพ้นจากร่างกายนี้ไป เมื่อสภาพจิตยอมกลับมานิ่งอยู่ในร่างเมื่อไร ก็ฉวยโอกาสนี้เร่งการภาวนา จับลมหายใจเข้าออกให้มั่นคง จนกระทั่งสามารถทรงอารมณ์ให้แนบแน่นเป็นอัปปนาสมาธิได้ รัก โลภ โกรธ หลง ทั้งหลายก็จะโดนกดดับชั่วคราวไปเอง

ดังที่ได้กล่าวมา ญาติโยมทั้งหลายคงพอที่จะรู้ว่าต้องแก้ไขอย่างไร ถ้าอารมณ์ใจไปปรุงแต่งอยู่กับ รัก โลภ โกรธ หลง

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๔

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2021 เมื่อ 10:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว