กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-05-2022, 20:13
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,532
ได้ให้อนุโมทนา: 216,107
ได้รับอนุโมทนา 737,096 ครั้ง ใน 35,914 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-05-2022, 23:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ ต้องบอกว่าวันนี้ภารกิจพิเศษเพิ่มขึ้นมาโดยที่ไม่ได้คาดหมาย เนื่องจากว่าวันนี้เป็นเวรประจำวัน ในงานอบรมเจ้าอาวาสใหม่ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) จังหวัดนครปฐม

กระผม/อาตมภาพได้ไปถึงวัดไร่ขิงตั้งแต่เช้า เมื่อร่วมงานไปจนถึงประมาณ ๑๐ โมงเช้า ก็กราบลาผู้บังคับบัญชา ขออนุญาตวิ่งมายังวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมงานปลุกเสกวัตถุมงคล สำหรับหาทุนสร้างพระเจดีย์ศรีโสภณประชานารถ ซึ่งเป็นพระเจดีย์ที่สร้างเป็นที่ระลึกของหลวงพ่อนาถ หรือท่านพระครูโสภณประชานารถ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงในอดีตของจังหวัดกาญจนบุรีรูปหนึ่ง

เมื่อวิ่งมาถึงและได้ร่วมงานพุทธาภิเษก ก็ได้รับไลน์จากหลวงพี่โย่ง คือท่านพระครูสุนทรสาครกิจ ที่เป็นทีมเลขานุการคณะสงฆ์ภาค ๑๔ แจ้งมาว่า "หลวงพ่อ..ช่วยกลับไปบรรยายสัก ๑ ชั่วโมงได้ไหมครับ ?" กระผม/อาตมภาพพิจารณาดูเวลาแล้วว่า ถ้ากลับไปก็ทัน

แต่นี่เรามาตั้งครึ่งทางแล้ว วิ่งต่อไปถึงวัดท่าขนุนกับวิ่งกลับไปวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) ระยะทางก็ใกล้เคียงกัน แต่ในเมื่อวันนี้เป็นหน้าที่ เป็นเวรของจังหวัดกาญจนบุรี ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรับผิดชอบให้สมกับหน้าที่ซึ่งได้รับมา จึงต้องวิ่งย้อนกลับไปยังวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเข้าบรรยายถวายความรู้ให้แก่บรรดาเจ้าอาวาสใหม่

ต้องบอกว่าทางผู้บังคับบัญชา คือพระเดชพระคุณพระเทพศาสนาภิบาล (แย้ม กิตฺตินฺธโร ป.ธ.๓) เจ้าคณะภาค ๑๔ นั้นทุ่มทุนสร้างมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ท่านนิมนต์บุคคลผู้มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางในแต่ละหัวข้อ แต่ละวิชาที่เจ้าอาวาสใหม่ได้รับการอบรมทั้งสิ้น

เมื่อมาถึงคิวของกระผม/อาตมภาพนั้น ท่านกำหนดว่า ให้เล่าประสบการณ์ตลอดจนกระทั่งวิธีการในการบริหารงานวัด ในฐานะเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนให้เจ้าอาวาสใหม่ได้ทราบ ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็ได้สรุปลงตรงที่ว่า การที่เราเป็นเจ้าอาวาสนั้น จะต้องประกอบไปด้วยหลักการหลายอย่างด้วยกัน

ประการแรก ก็คือ การปลูกศรัทธา

ประการที่ ๒ คือ การหาต้นทุน

ประการที่ ๓ คือ การบูรณะของเก่า

ประการที่ ๔ คือ การเสริมสร้างของใหม่

ประการที่ ๕ คือ การเทิดไท้องค์ราชัน

ประการที่ ๖ คือ การประสาน ๑๐ ทิศ

ประการที่ ๗ ประการสุดท้าย คือ การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนรอบวัด


ตรงนี้มีรายละเอียดอย่างไร ให้ทุกท่านไปฟังเอาจากธรรมบรรยาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำลงในยูทูบให้ไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2022 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-05-2022, 00:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่กว่าที่จะบรรยายเสร็จ กว่าที่จะรับปัจจัยไทยธรรมอะไรมาเรียบร้อยก็เกือบจะ ๖ โมงเย็น กระผม/อาตมภาพได้สละปัจจัยค่าบรรยายร่วมบุญในการอบรมเจ้าอาวาสใหม่ไปตามระเบียบ ก็คือเป็นนิสัยเฉพาะตนว่า ถ้าบรรยายเป็นการกุศลในลักษณะอย่างนี้ หากว่าทางเจ้าภาพรับบริจาคช่วยเหลืองาน ก็จะบริจาคให้กับงานนั้น ๆ ไปเลย

หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ แต่ว่าไปไม่ถึงวัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าสภาพร่างกายกรอบทั้งโชเฟอร์และทั้งผู้โดยสาร ก็คือคนขับก็ไม่ไหว คนนั่งอย่างกระผม/อาตมภาพก็ไม่ไหว จึงได้แวะเข้าพักที่วัดท่ามะขาม หรือวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ที่ไปถึงเวลา ๑ ทุ่ม ๔๕ นาที เมื่อมาถึงก็ได้ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ส่งให้แก่ญาติโยมทั้งหลายที่รอฟังอยู่ทุกวัน

สิ่งที่อยากจะพูด อยากจะบอก อยากจะกล่าวในวันนี้ก็คือ พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ซึ่งเมื่อไปถึงแล้ว หลวงพ่อไล้ (พระครูวิบูลจิตตารักษ์) เจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ที่ต้องบอกว่าเป็น "ลูกหม้อ" ขนานแท้ของวัดนี้ เมื่อสิ้นหลวงพ่อพระครูบวรพัฒนกิจ (บรรทม กิตฺติสาโร) อดีตเจ้าคณะอำเภอท่าม่วง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ชาวบ้านก็ขอตัวหลวงพ่อไล้ ซึ่งก็คือลูกศิษย์ของหลวงพ่อบรรทม (พระครูบวรพัฒนกิจ) กลับมาเป็นเจ้าอาวาสต่อจากครูบาอาจารย์ของตน

เมื่อมาบริหารจัดการวัด ท่านก็คิดจะเสริมสร้างสิ่งที่สามารถจรรโลงเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ เกียรติคุณ ของอดีตเจ้าอาวาสวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง โดยเฉพาะผู้ที่ชาวบ้านทั้งหลายเคารพนับถืออย่างมาก ก็คือหลวงพ่อนาถ ด้วยการจะสร้างพระเจดีย์ศรีโสภณประชานารถ เป็นการบูชาคุณครูบาอาจารย์ อดีตบูรพาจารย์ เจ้าอาวาสเก่า จึงได้ตั้งใจสร้างวัตถุมงคลขึ้นมา โดยติดต่อกระผม/อาตมภาพ ให้เป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ที่มาทำการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้

เมื่อกระผม/อาตมภาพได้รับการติดต่อมา ก็แจ้งท่านไปว่า ส่งฎีกาทางไปรษณีย์ก็ได้ หรือว่าสแกนแล้วส่งในกลุ่มไลน์ก็ได้ แต่ว่าท่านพระครูวิบูลย์จิตตารักษ์ หรือว่าหลวงพ่อไล้ ท่านไม่ยอมทำอย่างนั้น ท่านเดินทางขึ้นไปจนถึงวัดท่าขนุน ซึ่งจากท่าม่วงไปก็ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เพื่อที่จะถวายฎีกา แล้วในระหว่างก่อนงาน ก็ยังมีการโทรศัพท์ตรวจสอบเป็นระยะว่า กระผม/อาตมภาพมีงานด่วนอะไรแทรกเข้ามาหรือไม่ ? เพราะได้เรียนท่านไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า "ถ้าเป็นงานคณะสงฆ์ กระผมก็จะ "เท" งานของท่าน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2022 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-05-2022, 00:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,702
ได้รับอนุโมทนา 4,397,155 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อสามารถปลีกตัวออกจากงานได้ โดยที่ตั้งใจว่าจะกลับให้ถึงวัดท่าขนุน แต่ได้รับการติดต่อจากท่านพระครูสุนทรสาครกิจ ให้ย้อนกลับไปบรรยายที่วัดไร่ขิง (พระอารามหลวง) กระผม/อาตมภาพก็ได้ย้อนกลับไปทำหน้าที่ให้

ในงานบวงสรวงพุทธาภิเษกครั้งนี้ หลวงพ่อไล้ท่านนิมนต์พระเกจิอาจารย์มาได้อย่างที่กระผม/อาตมภาพนึกไม่ถึง ก็คือนอกจากหลวงปู่อวยพร วัดดอนยายหอม (พระครูปฐมวราจารย์) แล้ว ก็ยังมีหลวงพ่อสนองชาติ(พระครูสุภัทรกาญจนกิจ) วัดเย็นสนิทธรรมาราม ที่นึกไม่ถึงก็คือหลวงพ่อท่านเจ้าคุณสมาน วัดท่าตอน คือ พระเดชพระคุณพระเทพมังคลาจารย์ (สมาน กิตฺติโสภโณ) รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน ที่ท่านต้องเดินทางมาไกลกว่ากระผม/อาตมภาพมากเหลือเกิน แต่ท่านก็ยังเมตตามาเพื่ออนุเคราะห์สงเคราะห์ผู้มีจิตศรัทธา

ตรงนี้ต้องบอกว่าทางด้านวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ได้ตั้งความหวังไว้กับพระเกจิอาจารย์ชุดนี้สูงมาก โดยเฉพาะกระผม/อาตมภาพ ที่โดนใช้จนคุ้ม ก็คือนอกจากปลุกเสกวัตถุมงคลแล้ว ยังต้องทำการโปรยข้าวตอกดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา และพรมน้ำอบน้ำหอมถวายเป็นพุทธบูชา จนทั่วถึงทั้งบริเวณพิธี ซึ่งแม้จะปฏิเสธโดยบอกว่า ขอทำแค่ครึ่งเดียว ที่เหลือให้นิมนต์หลวงปู่อวยพร หรือหลวงพ่อสนองชาติก็ได้ แต่ทางท่านเจ้าภาพก็ไม่ยอม จนกระผม/อาตมภาพได้แต่นึกว่า "ตกลงนี่จะขายผมคนเดียวเลยใช่ไหม ?" แต่ว่าก็ไม่ได้ออกปากไป

ในระหว่างที่พุทธาภิเษกนั้น ด้วยความที่เปลี่ยนตัวโชเฟอร์ใหม่ เนื่องเพราะว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ไปผ่าตัดตามา ทำให้ไม่สามารถขับรถได้ จึงต้องรบกวนให้ทิดแดง (นายมงคล ม่วงน้อยเจริญ) มาขับรถแทน ซึ่งทิดแดงบอกว่า "ได้ถ่ายรูปหลวงพ่อเอาไว้ตอนที่หันหลังให้ในพิธี เห็นว่าขาวมากกว่าปกติ จนกระทั่งแปลกตาอย่างที่เห็นได้ชัด..!"

กระผม/อาตมภาพจึงได้บอกกล่าวเป็นการส่วนตัวว่า ถ้าพระหรือว่าครูบาอาจารย์แต่ละท่านแต่ละองค์มาสงเคราะห์ ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีลักษณะพิเศษต่าง ๆ กันไป โดยที่ไม่บอกแต่ให้สังเกตเอาเองว่า ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ไหนมา จะมีลักษณะสีกายแบบไหน เป็นต้น

ตรงนี้ญาติโยมทั้งหลายไปแสวงหาความรู้กันเอาเอง เพราะว่าถ้าพูดไปชัด ๆ ก็เป็นการ "อวย" ตัวเองมากจนเกินไป อาจจะทำให้กลายเป็นการโฆษณาเกินกว่าเหตุ จนเกิดเป็นโทษทีหลังก็ได้ แต่หลายท่านที่ช่างสังเกต สามารถจับจุดตรงนี้ได้มาหลายต่อหลายงานแล้ว เป็นต้น

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวให้ญาติโยมทั้งหลายได้ทราบแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันจันทร์ที่ ๒๓ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2022 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 22:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว