กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-05-2022, 17:48
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,274
ได้รับอนุโมทนา 739,789 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-05-2022, 00:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ จากการที่เดินทางไปเป็นคณะกรรมการอำนวยการฝึกอบรมเจ้าอาวาสใหม่ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ วันนี้ต้องบอกว่า "เสียท่า" อย่างมาก เนื่องจากว่ามีผู้มาเสิร์ฟน้ำชาร้อน จึงรับมาฉันไป ๒ แก้ว แล้วนึกว่าทำไมน้ำชาเขากลิ่นแปลกพิกล ? หลังจากนั้นไม่กี่นาทีก็ทำท่าเหมือนกับ "ฟิวส์" จะขาด ก็คือจะหลับกลางอากาศเสียให้ได้..!

ด้วยความสงสัยจึงเดินไปถามผู้ที่เสิร์ฟน้ำว่าเป็นใบชายี่ห้ออะไร ? สรุปออกมาว่าเป็นน้ำกัญชา..! ตั้งใจถวายพระเพื่อให้รักษาโรค แต่กระผม/อาตมภาพแพ้ของพวกนี้ เพราะว่าในชีวิตแตะต้องสิ่งเสพติดไม่ได้เลย ต้องใช้คำว่า "โดนบังคับมาตั้งแต่ก่อนเกิด" ไม่ใช่ว่าไม่เคยพยายามจะทำ แต่ว่าทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จต่างหาก..!

เริ่มจากการสูบบุหรี่ ตอนนั้นขโมยบุหรี่ของพ่อไปได้ ๑ มวน แอบหนีไปสูบในพุ่มไม้ ปรากฏว่าดูดไปไม่กี่ที รู้สึกขมไปทั้งปาก เพราะว่าบุหรี่สมัยนั้นไม่มีก้นกรอง เป็นยี่ห้อ "พระจันทร์" บ้าง "รวงข้าว" บ้าง "เกล็ดทอง" บ้าง ค่อนข้างจะฉุนรุนแรง กระผม/อาตมภาพเมาน้ำลายยืดไปครึ่งค่อนวัน..! จึงเข็ดไปจนวันตาย ไม่กล้าที่จะดูดบุหรี่อีกเลย

ส่วนในเรื่องของเหล้าของเบียร์นั้น ด้วยความที่อยู่ใกล้ชิดกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เพราะว่าครอบครัวคนจีนมีการไหว้เจ้าอยู่เสมอ สิ่งที่ใช้ไหว้เจ้าเป็นปกติ ถ้าหากว่าเป็นวันพระทั่วไปก็เป็นน้ำชา ถ้าหากว่าเป็นเทศกาลก็เป็นเหล้าขาว ซึ่งมักจะมีเหล้าขาว ๔๐ ดีกรีเป็นตัวชูโรง

กระผม/อาตมภาพแค่ได้กลิ่นก็เมาหัวทิ่มแล้ว อย่าว่าแต่กินเลย..! แล้วก็ได้รับคำแนะนำจากพรรคพวกเพื่อนฝูงวัยรุ่นด้วยกันว่า "อย่าไปกินเหล้าเลย ถ้าคออ่อนแบบมึง ให้ไปกินเบียร์ดีกว่า กินหมดเป็นโหลก็ยังไม่เมาเลย"

กระผม/อาตมภาพอยากจะเป็นที่ยอมรับของเพื่อนฝูงบ้าง จึงลองไปหาเบียร์มาเพื่อกินดู ปรากฏว่าพอเทใส่แก้ว แล้วยกขึ้นดมก็หงายท้องตึง..! เนื่องจากว่าเป็นเด็กบ้านนอก ซึ่งจะต้องมีการถักแหถักอวนสำหรับใช้หาปลา ในเมื่อถักเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องไปถากเปลือกไม้มาต้ม เพื่อย้อมแหย้อมอวนให้เส้นด้ายนั้นมีความคงทน แช่น้ำได้นาน ๆ โดยที่ไม่เปื่อย

เมื่อถึงเวลาทิ้งเปลือกไม้ต้มนั้นเอาไว้สัก ๒ วัน ๓ วันก็เริ่มบูดฟองฟอดขึ้นมา แค่ได้กลิ่นก็ต้องเบือนหน้าหนีแล้ว ปรากฏว่าเบียร์นั้นกลิ่นเดียวกับเปลือกไม้เน่าที่เอาไว้สำหรับย้อมแหย้อมอวน
กระผม/อาตมภาพยังมาคิดว่า "ทำไมเขากินของบูดของเน่าแบบนี้กันได้ก็ไม่รู้ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-05-2022, 00:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนเรื่องอื่นนั้น ในสมัยวัยรุ่นยังมีโรคมีภัยอยู่มาก ซ้ำยังไม่มีเงินทองด้วย จึงไม่สามารถที่จะไปเที่ยวผู้หญิงตามที่เพื่อนฝูงยุแยง แต่ว่าตอนที่เป็นทหารนั้น มีเงินเดือนประจำแล้ว ปรากฏว่าต้องไปประจำอยู่ที่ชายแดน บ้านแซร์ออ อำเภอวัฒนานคร เป็นเวลา ๓ เดือน ที่บ้านโคกสูง อำเภออรัญประเทศ ๓ เดือน และที่บ้านทับเซียม อำเภอตาพระยาเป็นเวลา ๓ เดือน แต่เนื่องจากว่ามีการรบติดพันกัน ทำให้ต้องติดอยู่ที่แนวหน้าตาพระยานานถึง ๕ เดือนกว่า เพราะว่าไม่สามารถที่จะเปลี่ยนกำลังพลได้

บรรดาทหารนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นคนหนุ่ม พอถึงเวลากลัดมันขึ้นมา ก็ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไปเที่ยวซ่องกัน เพื่อนฝูงก็ฉุดกระชากลากถูกระผม/อาตมภาพขึ้นรถไปด้วย แต่ด้วยความที่ว่า เวลาทหารไปก็ไปกันทั้งหมวด ไปกันทั้งกองร้อย ถ้าหากว่าเป็นเวลาทำมาหากินปกติของเขา ลูกค้าก็ได้กระเจิดกระเจิงกันพอดี จึงต้องเลือกไปเวลาประมาณบ่ายโมงหรือว่าบ่าย ๒ โมง ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็คือเป็นเวลาดึกมากสำหรับคนที่ทำอาชีพนี้ แต่ในเมื่อลูกค้ามาถึงเป็นร้อย บรรดา "แม่เล้า" ก็ต้องไปทุบประตูเรียกคุณน้องคุณหนูทั้งหลายออกมา

กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วสลดสังเวชเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าแต่ละคนที่ออกมานั้น หน้าซีดเป็นผีตาย หัวเป็นกระเซิง บางคนก็ตาดำเป็นหมีแพนดาเลย เนื่องจากว่าเป็นเวลาพักผ่อน กว่าที่เขาจะตื่นก็ต้องประมาณ ๖ โมงเย็น แล้วค่อยมาแต่งสวย เพื่อรอรับแขกตอนประมาณ ๑ ทุ่ม ไม่ใช่เวลาบ่ายโมงกว่าหรือว่าบ่าย ๒ โมง เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทำให้นั่งฝ่อหมดอารมณ์ เพื่อนฝูงถามว่า "จะเลือกคนไหน ?"
กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่สั่นหัว บอกเพื่อนไปว่า "พวกมึงเลือกไปเถอะ..กูนั่งรอได้"

ดังนั้น...ในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายที่ประสบพบเห็นในลักษณะเดียวกันมา ก็จะมีความเข้าใจว่า บางคนนั้นโดนคุมประพฤติมาตั้งแต่ก่อนเกิด ก็คือไม่สามารถที่จะกระทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นความชั่วได้เลย เพราะว่าไปสัญญาเอาไว้ก่อนที่จะลงมาเกิดว่า ถ้าหากลงมาแล้ว ต้องไปให้ดีกว่าเดิม หรือถ้าหากว่าหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้เลยก็ยิ่งดี

จึงทำให้บรรดาญาติพี่น้อง ครูบาอาจารย์ที่อยู่ข้างบน ต้องใช้คำว่า "ฟาดกันแบบไม่เลี้ยง" โอกาสที่จะทำชั่วนั้นยากมาก จึงทำให้ไม่คุ้นเคยกับสิ่งทั้งหลายเหล่านี้


ดังนั้น...เมื่อเจอน้ำกัญชาเข้าไป ๒ แก้ว แม้ว่าจะเป็นแค่แก้วกาแฟก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็หมดสภาพ ไปกราบลาท่านเจ้าคุณพระบวรรังษี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ กราบเรียนท่านว่า "จะน่าเกลียดไหมครับ ? ถ้าหากว่ากระผมจะขออนุญาตลาไปนอน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-05-2022, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านเจ้าคุณมองหน้าด้วยความแปลกใจ กระผมจึงเรียนถวายไปว่า "เจอน้ำกัญชาเข้าไป ๒ แก้วครับ กระผมไม่ทราบ นึกว่าเป็นน้ำชาทั่วไป ฉันเข้าไปแล้วรู้สึกว่าจะลืมตาไม่ขึ้น พอถามคนที่หามาถวาย เขาบอกว่าเป็นน้ำกัญชา..!" เมื่อท่านทราบเช่นนั้น ก็บอกว่า "ถ้าอย่างนั้นก็นิมนต์รีบไปพักเถอะครับ" ถึงได้ถอยออกมาจากที่ประชุมได้

ส่วนอื่น ๆ ที่อยากจะกระทำ แต่ไม่สามารถที่จะกระทำได้ก็ยังมีอีกมาก แต่ว่าวันนี้เล่าให้ฟังแต่พอสังเขปเท่านี้ก่อน

ส่วนหนึ่งที่อยากจะกล่าวถึงก็คือว่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น มีการแข่งกีฬาซีเกมส์ ซึ่งทัพนักกีฬาไทยสร้างชื่อเลื่องลือในระดับซีเกมส์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของกรีฑาระยะสั้นก็ดี เรื่องของวอลเลย์บอลหญิงก็ตาม ซึ่งในส่วนทั้งหลายเหล่านี้ บางท่านก็อาจจะไม่ได้ติดตามเลย เพราะว่าข่าวสารบ้านเมืองและความเป็นไปของโลก ไม่เหมาะสมที่จะทำให้คิดในเรื่องทั้งหลายเหล่านี้

แต่ขอทุกท่านทราบด้วยความยินดีว่า ทัพนักกีฬาไทยของเราไม่น้อยหน้าชาติไหน ถ้าหากว่าเป็นในเรื่องของกีฬาสากลแล้ว สามารถสู้ได้ทุกชาติ ขาดอยู่แต่เพียงการแก้เกมของผู้ฝึกสอน หรือว่าประสบการณ์ของนักกีฬาเท่านั้น

อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งญาติโยมบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า กรุงเทพมหานครนั้นเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งบ้านเรามีอยู่ ๒ เขต อีกเขตหนึ่งก็คือเมืองพัทยา ทั้ง ๒ เขตนี้ จะมีการเลือกผู้ปกครองเองต่างหาก ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ว่าราชการหรือว่านายอำเภอไปดูแลของทางกระทรวงมหาดไทย ทั้ง ๒ สถานที่นี้จะมีงบประมาณเป็นของตนเองเอาไว้บริหารจัดการ

คราวนี้ในการเลือกตั้งนั้น มีสิ่งที่นักข่าวส่วนใหญ่ใช้คำว่า "แลนด์สไลด์" คือชนะกับแบบถล่มทลาย เนื่องจากว่า รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่ลงสมัครในนามอิสระนั้น ทำคะแนนสูงสุด ทำลายสถิติการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตั้งแต่ต้นมาจนถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันผู้ที่ได้ตำแหน่งรอง ๆ ลงมา ก็เป็นคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น

การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดว่า ในเรื่องของคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะมีแนวความคิด มีการกระทำที่ช่วยพัฒนาชาติบ้านเมืองของเราให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศนั้น เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น ถ้าหากว่าสถานการณ์บ้านเมืองของเราเป็นไปในแนวนี้ รัฐบาลของเราก็คงจะ "หืดขึ้นคอ" ในการเลือกตั้งครั้งหน้า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-05-2022, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น...ไม่ว่าท่านหนึ่งท่านใดในคณะรัฐบาล จะเป็นนายกรัฐมนตรีก็ดี รัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือว่าบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็ตาม สิ่งใดที่ท่านทั้งหลายสามารถช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ให้ทันเหตุการณ์และมีความยั่งยืน ท่านทั้งหลายต้องรีบคิดค้นขึ้นมา และนำเสนอเป็นนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม ไม่เช่นนั้นแล้วในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ภาพของการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่ผ่านมา ก็จะเป็นภาพที่ท่านทั้งหลายจะได้เห็นอย่างที่ไม่ยินดีที่จะเห็น..!

เพราะว่าประชาชนของเรา ถ้าหากว่าลำบากเดือดร้อนก็ย่อมต้องหาทางออกว่า มีวิธีใดที่ทำให้ตนพ้นจากความเดือดร้อนไปได้ โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ปัญหาครอบครัว เรื่องของการไม่มีงานทำ หรือว่ามีงานทำแต่ไม่ยั่งยืน ซึ่งเป็นปัญหาที่รัฐบาลทั้งหลายควรที่จะรีบแก้ไข

โดยเฉพาะปัญหาน้ำมันแพงที่เสียงของประชาชนดังขึ้นมาทุกที ว่าบ้านเราเมืองเราขุดน้ำมันได้เอง แล้วทำไมถึงไปซื้อน้ำมันแพง ๆ จากต่างประเทศมา ? โดยที่ขายน้ำมันของเราให้ต่างประเทศในราคาถูก

คำถามทั้งหลายเหล่านี้มีเต็มสื่อโซเชียลไปหมด ซึ่งมั่นใจว่ารัฐบาลทั้งหลาย ตลอดจนกระทั่งผู้เกี่ยวข้องก็ต้องทราบ และพยายามที่จะหาคำอธิบาย เพียงแต่ว่าคำอธิบายของท่านทั้งหลายเหล่านั้น สามารถเป็นที่ยอมรับของประชาชนได้สักเท่าไร ? นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กระผม/อาตมภาพในฐานะพระภิกษุสงฆ์ในพุทธศาสนา ซึ่งถ้าหากว่าประชาชนเดือดร้อน บ้านเมืองระส่ำระสาย พระภิกษุสามเณรทั้งหลายก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย เพราะว่าต้องอาศัยปัจจัย ๔ จากประชาชนมาอุดหนุนค้ำจุน จึงสามารถที่จะอยู่ได้

จึงขออาศัยเสียงตรงนี้ส่งไปถึงรัฐบาล หรือท่านผู้มีอำนาจในบ้านเมืองว่า ท่านทั้งหลายต้องรีบคิดแก้เกมโดยด่วน และสิ่งที่คิดนั้นควรที่จะเป็นรูปธรรม และก่อประโยชน์ให้เกิดกับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง ท่านจึงจะสามารถกลับมาบริหารงานในประเทศของเราต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็จะเป็นตัวอย่างที่ท่านทั้งหลายจะได้พบได้เห็นในเวลาอีกไม่นาน..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2022 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:39



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว