|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#61
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้โทรศัพท์ที่โทรมา ร้อยละ ๙๙ คือถามเรื่องหล่อหลวงพ่อทองคำ เสร็จแล้วก็มีหลายคนถามว่าใช่สมเด็จองค์ปฐมไหม ? บอกว่าใช่ทั้ง ๓ องค์นั่นแหละ จะทอง จะนาก จะเงิน แสดงว่าหล่อสมเด็จองค์ปฐมมา ๓-๔ องค์แล้วยังไม่รู้ตัวเลย
แล้วก็ไม่แน่ใจว่าระยะนี้ที่เร่งโทรเข้ามาเป็นเพราะใกล้จะหมดเวลาหรือเปล่า ? ก็คืออาตมาเตรียมการมา ๖ ปี โยมไม่คิดที่จะมาทำบุญ จะมาทำเอาวินาทีสุดท้าย ตื่นเต้นกับชีวิตดีใช่ไหมที่วิ่งไล่รถเที่ยวสุดท้าย ? ถ้าเป็นอาตมานี่เที่ยวแรกมาก็ขึ้นนั่งแล้ว มัวแต่มารอเที่ยวสุดท้ายอยู่เดี๋ยวขึ้นไม่ทัน บางคนมีวิสัยอย่างนั้น ทำอะไรช้าเป็นปกติ ไม่ใช่ช้าแล้วดีนะ ช้าแล้วพาเสียอีกด้วย อาตมาสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีอยู่ปีหนึ่งเจอนิสิตที่สุดยอดมาก ทำข้อสอบเสร็จตั้งแต่ชั่วโมงแรก แต่รอวินาทีสุดท้ายแล้วค่อยส่ง ทุกวิชาจะเป็นอย่างนี้ แล้วเป็นอยู่คนเดียว ที่อาตมาเบื่อที่สุดก็คือกูจะรีบ ๆ ไป แต่เขาไม่ใช่ ต้องใช้เวลาให้ครบทุกวินาทีถึงจะพอใจ แล้วก็นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทบทวน ไม่ได้แก้ไขอะไรหรอก นั่งรอเวลาหมดแล้วค่อยส่ง ประเภทนี้น่าจะเป็นลูกหลานของหลวงพ่อสุภัททะ แต่หลวงพ่อสุภัททะท่านเป็นพระอรหันต์นะ ในเมื่อเป็นลักษณะอย่างนั้น ตัวของเราเองถ้าไม่ได้สร้างบารมีมาอย่างท่าน เราก็มีสิทธิ์ที่จะเดี้ยง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-03-2019 เมื่อ 08:20 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#62
|
||||
|
||||
"อดีตพระเอกหนังที่เพิ่งจะตายไปไม่นาน มีฉายาว่าเจ้าชายสายเสมอ รู้จักไหม ? ไม่ว่าจะนัดเวลาไหน เขาก็ไปช้าเป็นปกติ
ยิ่งทำอะไรช้ามากเท่าไร กำลังใจก็ยิ่งห่างมรรคผลมากเท่านั้น เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า บุคคลที่ตั้งความปรารถนาจะเอามรรคผล จะมุ่งตรงไปข้างหน้าโดยที่ไม่ได้พะวงถึงสิ่งฉุดรั้งต่าง ๆ ก็เลยเป็นคนทำอะไรเร็ว ตรงเวลา มีแต่ก่อนไม่มีหลัง เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครรู้ว่าตนเองอยู่ในประเภทเจ้าชายหรือเจ้าหญิงสายเสมอ ก็ให้พยายามปรับปรุงตัว เพื่อหนทางที่เราเดินในวัฏสงสาร ซึ่งยาวไกลไม่เห็นต้นเห็นปลาย จะได้สั้นลงบ้าง ไม่ใช่ยิ่งเดินก็ยิ่งยาวไปเรื่อย เพราะว่าเราทำอะไรช้าอยู่เสมอ ถ้าหากว่าอยู่ในส่วนของมนุษยภูมิขึ้นไปก็ยังถือว่าท่านโชคดี แต่ถ้าช้าแล้วลงอบายภูมินี่จะยิ่งช้าหนักเข้าไปอีก เพราะว่าข้างล่างโดยเฉพาะส่วนของนรก เปรต อสุรกาย ระยะเวลาต่างกับโลกมนุษย์มาก อย่างเบา ๆ ๑ วันของเขาก็เท่ากับ ๕๐ ปีของเรา แล้วอายุก็ยาวนานเหลือเกิน เล่นกันเป็นกัป กัปหนึ่งไม่มีใครรู้ว่าเวลายาวนานเท่าไร แม้แต่พระพุทธเจ้าก็ทรงให้ประมาณการไว้เท่านั้น ประมาณการว่ามีถังเหล็กใบหนึ่ง กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ ก็คือกว้างยาวสูงด้านละ ๑๖ กิโลเมตร ๑๐๐ ปีเอาเมล็ดพันธุ์ผักกาดหย่อนลงไปหนึ่งเมล็ด เมล็ดพันธุ์ผักกาดเต็มเสมอขอบถังเมื่อไร ประมาณเวลาได้กัปหนึ่ง เป็นกัปหนึ่งโดยประมาณไม่ใช่ตรงเป๊ะ เราจะได้หยอดสักเมล็ดไหม ? ๑๐๐ ปีหยอดเมล็ดหนึ่ง เมื่อไม่นานที่ผ่านมาก็หลวงปู่บุญฤทธิ์ อายุ ๑๐๒ ปีเพิ่งมรณภาพ นั่นท่านหย่อนได้เมล็ดหนึ่ง พวกเรายังไม่มีสิทธิ์ได้หย่อนเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2019 เมื่อ 03:22 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#63
|
||||
|
||||
"ที่ภาษาบาลีที่บอกว่าอสังไขย หรืออสงไขย ก็มาจากคำว่าอสังขยา หรืออสังขะยะ ที่แปลว่านับไม่ได้ ก็คือบุคคลทั่วไปนับไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ได้โปรดทำอะไรให้เร็วขึ้นนิดหนึ่ง แล้วชีวิตจะง่ายขึ้นเยอะ ยิ่งเป็นนักปฏิบัติธรรม มีแต่ทำแล้วต้องเร็วขึ้นไปเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าเป็นสภาพจิตที่เร็วโดยไม่ผิดพลาด แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกเราก็มักจะช้ากันเป็นปกติ บางคนภูมิใจในความช้าของตัวเองอีกต่างหาก
หลวงพ่ออดีตเจ้าคณะอำเภอ.......... วัด........... เท่าที่รู้จักท่านมาตั้งแต่ต้นจนท่านมรณภาพ ไม่ว่าจะงานเจริญพระพุทธมนต์ สวดพุทธมนต์ที่ไหนก็ตาม เขาต้องว่ากันไปครึ่งค่อนแล้วท่านถึงจะมา คือท่านคงรู้สึกว่า การปรากฏตัวระยะนั้น สายตาทุกคนจะต้องจับมาที่ท่าน เป็นการเท่ดีหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ? แต่ถ้าอาตมาเป็นพระผู้ใหญ่หัวแถว จะไม่ชอบใจเลยที่ท้ายแถวมาช้าขนาดนี้ แล้วทุกครั้งก็จะเป็นแบบนั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2019 เมื่อ 03:24 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#64
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ปลายเดือนนี้เป็นช่วงบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ปีที่แล้วมี ๓๐ กว่ารูป ไม่รู้ว่าพวกที่โดนตีไปบอกกล่าวต่อ ๆ กันไป แล้วปีนี้จะน้อยลงหรือเปล่า ? เพราะที่วัดประกาศไว้ชัดเจนที่สุด ใครส่งลูกมาบวชทำใจไว้เลย...โดนไม้แน่นอน พอ ๓ วันผ่านไปนี่เรียบเป็นผ้าพับไว้ เพราะรู้ว่าโดนตีแน่ ๆ อยู่บ้านดื้อได้ซนได้ เพราะรู้ว่าพ่อแม่ไม่กล้าตี แต่ไปวัดนี่พระพี่เลี้ยงแต่ละรูปพกไม้ ๓ อัน ๔ อัน
ตอนแรกอาตมาก็สงสัย ถามว่าทำไมต้องพกไม้เยอะขนาดนั้นด้วย ? พระพี่เลี้ยงบอกว่า ถ้าตีไม้หักจะได้ไม่ต้องหาใหม่ อาตมาก็เลยไม่ใช้ไม้ เพราะว่าตีแล้วไม้หัก อาตมาใช้สายไฟขนาด ๒.๕ สแควร์มิล...! ถ้าตีแล้วสายไฟขาดถึงจะยอมยกให้ แต่ถ้าหากว่าใครอยู่ครบกำหนด ก็คือบวชวันที่ ๓๑ มีนาคม สึกอย่างเร็วที่สุดวันที่ ๑๐ เมษายน ถ้าอยู่ได้ถึงอาตมาจะให้ทุนการศึกษารูปละ ๒,๐๐๐ บาท ปีที่แล้วก็มีส่วนหนึ่งบอกว่า "อย่าไปบวชนะโว้ย..หลวงพ่อตีจริง ๆ" อีกส่วนหนึ่งก็บอกว่า "มึงก็ทำดีไว้สิ ทนแค่ ๑๐ วันได้เงินไปเล่นเกมตั้ง ๒,๐๐๐ บาท" อ้าว...ตูให้ทุนการศึกษา ดันเอาไปเล่นเกม...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2019 เมื่อ 03:27 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#65
|
||||
|
||||
"แต่มีสามเณรบางรูป ต้องบอกว่าบวชเณรเป็นอาชีพ เขาชอบของเขาอย่างนั้น อย่างสามเณรเตวัตร สามเณรณัฐภูมิ เมื่อไร ๆ ก็ต้องบวช บวชแล้วสึกออกไปก็นำพ่อแม่ใส่บาตรทุกวัน นับเป็นอภิชาตบุตรจริง ๆ แต่พอใส่ไปใส่มาหลังจากสึกไปแล้วสักเดือนหนึ่ง...สามเณรก็หายไป เหลือแต่พ่อแม่ที่ไม่เคยใส่บาตรยังคงใส่ต่อไป..!
เสียดายอยู่อย่างเดียวว่าทางบ้านต่อยอดจากวัดไม่ได้ อยู่วัดต้องซักผ้าเอง ถูศาลาเอง จัดที่นอนเอง ล้างจานเอง พูดง่าย ๆ ก็คือบิณฑบาตกินเองด้วย พอกลับบ้านไปเดี๋ยวพ่อแม่ก็บริการให้อีกแล้ว สามเณรก็จะจำแค่วันแรก ๆ สึกไปแล้วยังทำตัวเหมือนอยู่วัด พอสัก ๓ วัน ๕ วันไปก็เริ่มเลือน ๆ แล้ว พ่อแม่ต้องทำให้เหมือนเดิม คือถ้าทางบ้านหรือทางโรงเรียน สามารถรักษาความมีระเบียบวินัยของสามเณรเอาไว้หลังจากสึกไปแล้ว จะเป็นเรื่องที่ดีมาก แต่ว่ารักษาไม่ได้ ต่อยอดไม่เป็น เสียดาย...บวชเมื่อไรก็ต้องเริ่มต้นกันใหม่ทุกครั้ง ฝากลูกไปบวชเณรที่วัดสักเดือนหนึ่งก็ได้นะ กลับมานี่เปลี่ยนจากลิงเป็นคนเลย โดยเฉพาะถ้าหลวงพ่อตีเองนี่ ทีหนึ่งก็ได้ ๒ แผล เพราะว่าหวดน่อง..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2019 เมื่อ 03:29 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#66
|
||||
|
||||
ถาม : ลูกชายเป็นคนสมาธิค่อนข้างสั้น มีวิธีฝึกสมาธิง่าย ๆ อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ต้องให้เล่นกีฬาสมาธิ เล่นกีฬาพร้อมกับสมาธิ ก็คือไม่ว่าจะทำอะไร บอกเขาว่าอย่าลืมลมหายใจ พอได้เคลื่อนไหวแล้ว เหมือนกำลังจะเริ่มหมด คราวนี้ก็จะนิ่งได้ง่ายขึ้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-03-2019 เมื่อ 03:30 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#67
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพรหมที่สี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเรียกว่าพระพรหมเอราวัณ เหตุที่สร้างท่านเกิดจากการสร้างโรงแรมเอราวัณ ที่ถือว่าเป็นโรงแรมสำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในสมัยโน้น มีแต่อุปสรรค เขาก็เชิญพลเรือตรีหลวงสุวิชานแพทย์ เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือในยุคนั้น ที่ใคร ๆ เขาเรียกว่าเจ้ากรมแพทย์ตาทิพย์มาดูให้
ท่านบอกว่าที่โรงแรมติดขัดเพราะว่าไปใช้ชื่อเอราวัณที่เป็นช้างทรงของพระอินทร์ แล้วจะแก้ไขอย่างไร ? ท่านบอกให้สร้างรูปพระพรหมที่ใหญ่กว่าเอาไว้ แล้วท่านก็ช่วยทำพิธีอัญเชิญให้ ประหลาดตรงที่ว่า ตรงจุดนั้นแต่ก่อนเป็นแหล่งความเจริญมาก อยู่ใกล้ ๆ สนามม้าราชกรีฑา แล้วก็กรมตำรวจ ห้างไดมารูเก่า แล้วต่อมาก็มีห้างซัสโก้ ตอนหลังห้างไดมารูก็เลิกกิจการไป มีการสร้างห้างเวิลด์เทรดขึ้นมาแทน เท่ากับอยู่ตรงศูนย์กลาง แต่ว่าศรัทธาของพระพรหมเอราวัณนี่ยิ่งมายิ่งมาก ตอนหลังเขามีการสร้างพระตรีมูรติ มีการสร้างพระพิฆเณศวร์ ก็ไม่สามารถที่จะแย่งศรัทธาไปจากพระพรหมได้ เพราะว่าคนที่มากราบไหว้บูชาแล้วอธิษฐานขออะไรมักจะสำเร็จ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 02:57 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#68
|
||||
|
||||
"อาตมาไปสิงคโปร์ครั้งล่าสุด คนขับรถแท็กซี่มีรูปพระพรหมเอราวัณติดอยู่หน้ารถ เขาเรียกท่านว่า "อากง" ถึงเวลาต้องไปไหว้ "อากง" ปีละครั้ง ไปถวายละครชาตรี คือจ้างนางรำไปรำ เขาบอกว่า "Make my life smooth and easy." ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแล้วก็ราบรื่น ก็แสดงว่าสิ่งที่เขาทำนั้นมีผลจริง
เรามาดูว่าตอนนี้ตรงนั้นกลายเป็นย่านการค้าที่ทันสมัยสุด ๆ ของกรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าศรัทธาพระพรหมเอราวัณยิ่งมายิ่งมาก ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความเจริญยิ่งมากเท่าไร คนก็ยิ่งต้องการที่พึ่งทางใจมากเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 02:59 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#69
|
||||
|
||||
"ที่พึ่งพระพุทธศาสนาของเรา บางทีหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเปรียบว่าเหมือนกับเพชร จะให้คนเข้าร้านขายเพชรทุกวันก็เข้าไม่ไหวหรอก ซื้อเพชรไม่ไหว แต่ถ้าหากให้เข้าร้านโชว์ห่วยขายของชำนี่เข้าได้ทุกวัน เข้าเช้าเข้าเย็นก็ได้ เขาก็เลยแวะไปหาพระพรหมเอราวัณกันมาก ก็ต้องบอกว่าท่านเบาแรงพระไปเยอะ แต่ถ้านับในเรื่องของมรรคของผลอะไรแล้ว ก็มีผลน้อยกว่า
แต่เราก็ต้องยอมรับว่าศาสนาทุกศาสนา ในเรื่องของพิธีกรรมความเชื่อเป็นฐานใหญ่สุด แล้วช่วงกลางถึงจะมาเป็นเรื่องของศีล เรื่องของหลักการปฏิบัติ ช่วงปลายถึงจะเป็นการเอามรรคเอาผล เอาความหลุดพ้นกัน ลักษณะเหมือนกับปีรามิด ฐานล่างใหญ่มาก ตรงกลางก็เล็กลงมา เหลือปลายอยู่หน่อยเดียว เพราะฉะนั้น...ญาติโยมทั้งหลายที่มาปฏิบัติธรรมตั้งใจเพื่อความหลุดพ้น ถือว่าแปลกแยกจากสังคม เป็นส่วนยอดของปีรามิดที่มีอยู่หน่อยเดียวเท่านั้น ใครจะกลับใจลงไปฐานล่างก็เอานะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 03:00 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#70
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าผมตั้งใจใช้ทองคำที่หล่อพระมาบูชาพระบรมธาตุจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าจะนำทองคำมาหล่อพระ ให้ตั้งใจว่าหล่อพระก่อนแล้วเราค่อยไปบูชา หลังจากนั้นค่อยลามาหล่อพระ ถ้าหากว่าคุณไปตั้งใจบูชาพระบรมธาตุก่อนแล้วลามา ประเภทนี้ผิดงานแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 03:01 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#71
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาใช้สมบัติคนตายเยอะมาก โดยเฉพาะกระเป๋าเดินทางใบนี้ ใช้มา ๒๐ กว่าปีแล้ว เจ้าของเป็นเอดส์ตาย ญาติเขาบอกว่าอยากให้ได้กุศล ก็เลยเอากระเป๋าของเขามาถวาย เพราะว่าไม่มีใครกล้าใช้
ไปนึกถึงสมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงกับเพื่อนยังอยู่ที่วัดบางนมโค ท่านไปเจริญกรรมฐานในป่าช้า มีญาติโยมขี้สงสัย เห็นพระอยู่ในป่าช้าก็เข้าไปชวนคุยด้วย แกชี้ไปที่เตียงถามพระท่านว่า "นี่อะไร ?" "ฝาโลง" ใช้ฝาโลงผี ๒ แผ่นมาตอกเป็นเตียง "แล้วโต๊ะล่ะ ?" "ฝาโลง" "เก้าอี้ล่ะ ?" "ฝาโลง" พอฝาโลง ๓ ครั้ง โยมวิ่งเลย เพราะคิดว่าที่นั่งคุยอยู่ต้องเป็นผี..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:49 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#72
|
||||
|
||||
ถาม : เครื่องทรงพระทองคำ ใครเป็นเจ้าภาพครับ ?
ตอบ : อาตมาเป็นเจ้าภาพ เพราะว่าหล่อติดกับองค์พระไปเลย ถาม : มีการติดพลอยเพิ่มไหมครับ ? ตอบ : ไม่มีติดพลอยติดเพชรเพิ่ม ทำแบบนั้นอาตมาถือว่าไร้รสนิยม..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:49 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#73
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเราไม่มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เลย การที่จะขึ้นสวรรค์ดาวดึงส์ยากขนาดไหนครับ ?
ตอบ : ก็ยากพอ ๆ กับเดินตีนเปล่าขึ้นยอดเขาเอเวอเรสต์..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:50 |
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#74
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "การไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการไปดูงาน มีคนจำนวนหนึ่งที่มองโลกในแง่ร้าย เห็นว่าไปเที่ยวกัน แต่อาตมายืนยันว่า อาตมาไปดูงานก็คือไปดูจริง ๆ อะไรของเขาที่ดีก็จะเอามาปรับปรุงของเรา อะไรที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้เราคิดได้ว่าจะทำความเจริญให้กับศาสนาในแบบไหนก็จะทำ
อย่างเวลาไปต่างประเทศ โดยเฉพาะทางยุโรป อเมริกา เราเข้าไปในโบสถ์ของศาสนาคริสต์ อลังการมากแทบทุกโบสถ์เลย พอเข้าไปเราจะรู้สึกว่าตัวเราเล็กนิดเดียว พระเจ้าเท่านั้นที่ยิ่งใหญ่ บางที่เข้าไปนี่ร้องโอ้โฮเลย ทำไมเขาสร้างได้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้ แล้ววัดในประเทศไทยมีกี่วัดที่เราเข้าไปแล้วโอ้โฮบ้าง ? ของเขานี่แทบทุกแห่ง แต่ของเรานี่ ๒ มือนับน่าจะไม่ครบนิ้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:51 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#75
|
||||
|
||||
"ฉะนั้น...ในส่วนนี้เวลาเราไป ถ้าเก็บเป็นจะได้อะไรเยอะมาก อาตมาไปดูงานตอนเรียนปริญญาเอก สรุปการดูงานให้อาจารย์ ๕ บรรทัด อาจารย์ท่านถามว่า "เอาแค่นี้จริง ๆ หรือครับ ?" บอกว่า "เนื้อหาครบไหมละครับ ?" ท่านมอง ๆ แล้วบอกว่า "ครบ" "ถ้าครบผมก็เอาแค่นี้แหละ"
อาตมาสรุปงานให้ว่า ถ้าเรารักษาของเก่าจนขายได้แบบอิตาลี รักษาธรรมชาติจนขายได้แบบสวิตเซอร์แลนด์ สร้างแบรนด์จนขายได้แบบฝรั่งเศสก็พอแล้ว แต่ทั้งหมดที่ว่ามายังไม่ต้องทำหรอก ควรสร้างจิตสำนึกของคนเราให้ได้อย่างเขาก่อน ไปดูงานมา ๑๒ วัน สรุปได้แค่ ๕ บรรทัด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:52 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#76
|
||||
|
||||
ถาม : จิตสำนึกที่ต้องสร้างนี่คืออะไรคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าจิตสาธารณะ เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด เป็นต้น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2019 เมื่อ 21:53 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#77
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เงินส่วนองค์อาตมาไม่ค่อยได้ใช้หรอก ส่วนใหญ่พอเผลอ ๆ ก็กลายเป็นทุนการศึกษาบ้าง เลี้ยงเด็กบ้าง อะไรบ้างไปเรื่อยเปื่อย ทุนการศึกษาในส่วนที่ใช้เงินสงฆ์ก็ใช้เงินสงฆ์ บางส่วนที่อาตมาให้เป็นการส่วนตัวก็ใช้เงินส่วนตัว
ทุนการศึกษาของวัดท่าขนุน ปีหน้าโรงเรียนที่จะได้มากที่สุด ก็คือโรงเรียนสมาคมป่าไม้แห่งประเทศไทยอุทิศ เพราะว่ามีตั้งแต่อนุบาลยันมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ก็แปลว่าจะได้ทุนระดับประถม ๒๐ ทุน ทุนระดับมัธยม ๒๐ ทุน แล้วเขาจะเปิด ปวช.ด้วย ถ้ามี ปวช.นี่ก็ต้องแบ่งกับทุนระดับมัธยม อาจจะคนละครึ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2019 เมื่อ 03:06 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#78
|
||||
|
||||
พระอาจารย์อ่านและแปลบาลีให้ฟัง "แปลทันไหม ? ผมบาลีเถื่อนนะ แปลได้หมด แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ตอนที่เรียนไวยากรณ์ท่องไปท่องมา เหมือนกับมีอะไรแตกโป๊ะอยู่ในหัว แล้วเข้าใจหมดเลย ตั้งแต่นั้นมา เรียนหรือไม่เรียนก็ราคาเดียวกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2019 เมื่อ 03:06 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#79
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวกับพระที่มากราบว่า "จำไว้อย่างหนึ่งว่า เป็นผู้นำเขา อารมณ์ต้องมั่นคง จะไปขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2019 เมื่อ 03:07 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#80
|
||||
|
||||
สนทนากับพระ "ระยะนี้ผมไปไหนก็เดือดร้อนไปหมด ถึงเวลาเขาก็ต้องขยับที่ให้ วันก่อนเจ้าคณะจังหวัดไม่อยู่ในงาน เขาบอกว่าพระอาจารย์ช่วยเป็นประธานให้หน่อย
มเหสักโข แปลว่าผู้ประกอบไปด้วยศักดิ์อันยิ่งใหญ่ ในเมื่อท่านที่ใหญ่กว่ามาถึง ท่านที่เล็กกว่าก็ต้องหลบไป แบบเดียวกับอังกุรเทพบุตร กับ อินทกเทพบุตร ถึงเวลานั่งอยู่ซ้ายขวาของพระพุทธเจ้า พอเทวดาที่เป็นมเหสักข์มาถึง ท่านอังกุรเทพบุตรก็ถอยไปเรื่อย อินทกเทพบุตรยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ไม่ต้องหลบให้ใคร ปัจจุบันนี้ดูท่าอาตมาจะเริ่มเป็นอินทกเทพบุตรแล้ว นั่งลงไปนี่แทบจะไม่ต้องถอยให้ใครแล้ว ตอนที่ชัดที่สุดก็คือ ปีนั้นน่าจะพรรษาที่ ๕ ไปงานพระราชทานสัญญาบัตรพัศยศของคณะสงฆ์หนเหนือ ที่วัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่ เข้าไปนั่งอยู่ในโบสถ์ ปรากฏว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ของสำนักพุทธฯ เชียงใหม่ ไล่พระอื่นออกหมด เหลืออาตมานั่งอยู่รูปเดียว ไม่กล้าไล่ เพราะว่าอาตมาเอาหลวงพ่อวัดท่าซุงนั่งบนหัวไปด้วย คิดอยู่อย่างเดียวว่า "ถ้ามึงแน่จริงก็ไล่หลวงพ่อสิวะ..!" ปรากฏว่าเขาไม่กล้าไล่ ปล่อยให้อยู่จนกระทั่งสมเด็จพระสังฆราชท่านเสด็จมา ท่านเลยประทานย่ามให้ใบหนึ่ง ทุกวันนี้ก็ยังเก็บย่ามนั้นไว้เป็นที่ระลึก มีย่ามของท่านใบหนึ่ง มีผ้ารับประเคนของท่านตอน ๙๐ พรรษาผืนหนึ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-03-2019 เมื่อ 03:45 |
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|