กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๘ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๘

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-05-2025, 19:37
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 505
ได้ให้อนุโมทนา: 3,308
ได้รับอนุโมทนา 25,182 ครั้ง ใน 993 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๘


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-05-2025, 01:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,447
ได้ให้อนุโมทนา: 158,103
ได้รับอนุโมทนา 4,481,746 ครั้ง ใน 36,056 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ฝนฟ้าก็ตก อาการเจ็บไข้ได้ป่วยก็ยังมีอยู่เป็นปกติ เมื่อครู่นี้กระผม/อาตมภาพก็เพิ่งไปเป็นเจ้าภาพงานศพที่วัดปรังกาสีกลับมา พอบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนเสร็จ ก็ต้องไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม ถวายหลวงพ่อพระครูกาญจนปัญญาวุฒิ (พูลศักดิ์ ปญฺญาวุโธ) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขื่อนวชิราลงกรณ อดีตรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิอีก

เรื่องของกำลังใจคน ถ้าหากว่าต่างกันไม่สามารถที่จะเอามาประเมินกันได้ ถ้าเป็นพวกเราเจ็บไข้ได้ป่วย ก็คง "ล้มหมอนนอนเสื่อ" ไป ๓ วัน ๗ วัน แต่กระผม/อาตมภาพเอง เจ็บป่วยแค่ไหนก็ยังทำงานตามปกติ ก็ถือว่าทำทุกอย่างเป็นวันสุดท้ายของชีวิต

พวกเราที่มักจะประมาท เห็นว่าครูบาอาจารย์ยังแข็งแรง กูไม่ต้องรีบทำอะไรก็ได้ อย่างไรท่านก็อยู่ให้กูเกาะไปอีกนาน ถ้าคิดลักษณะแบบนี้ กระผม/อาตมภาพเจอมามากต่อมาแล้ว จนกระทั่งครูบาอาจารย์มรณภาพไปหลายรูป พวกนี้ก็ยังเอาดีอะไรไม่ได้ เพราะหวังแต่จะอาศัยเกาะอย่างเดียว ไม่ได้คิดที่จะยืนหยัดด้วยตัวเองเลย..!

สมัยที่กระผม/อาตมภาพอยู่ที่วัดท่าซุง ไม่เคยคิดว่าหลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านจะอยู่ได้เกินวันนี้ ถ้าเห็นว่าดินฟ้าอากาศผิดปกติ ก็จะลุกมาเจริญกรรมฐาน เพื่อดูว่าท่านไปแล้วหรือยัง ? ดังนั้น..ทุกวินาทีจึงมีค่ามาก เราต้องช่วงชิงกับเวลา กอบโกยเอาสิ่งที่ท่านสอนเราไว้กับตัว ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้ามีอะไรสงสัยจะได้ถามท่านได้ ไม่ใช่รอจนท่านมรณภาพแล้วไม่รู้ว่าจะไปถามใคร ?

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น หลายท่านอาจจะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพบวชอยู่กับท่านแค่ ๗ พรรษาเท่านั้น เวลาส่วนใหญ่อีก ๑๐ กว่าปีนั้นเป็นฆราวาสอยู่ แล้วในวัดก็มีรุ่นพี่ที่อยู่กับท่านมา ๑๐ กว่าพรรษา ๒๐ พรรษา แต่ก็เอาดีอะไรได้ยาก หลายท่านพอมรณภาพไป หลวงพ่อท่านก็บอกว่า "รายนี้ลงอเวจีมหานรก..!" เป็นตัวอย่างให้เห็นชัด ๆ ว่า สถานที่จะดีแค่ไหนก็ตาม ครูบาอาจารย์จะดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราไม่ตั้งใจเอาดีด้วยตนเอง ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่ว่าเราจะได้ดีแบบคนอื่นเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2025 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 11-05-2025, 01:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,447
ได้ให้อนุโมทนา: 158,103
ได้รับอนุโมทนา 4,481,746 ครั้ง ใน 36,056 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะในการปฏิบัติธรรมนั้น เราต้องเป็นผู้ไม่ประมาท แบบหลวงปู่พระพาหิยะ ที่ท่านทราบว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ ก็รีบเร่งเดินทางไปหา แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำลังบิณฑบาตอยู่ ก็ยังเข้าไปขวางทางไว้ เพื่อถามปัญหาที่ตนเองติดขัดอยู่ ด้วยความที่เกรงว่าถ้ามัวแต่รอช้า ไม่ใช่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปรินิพพาน ก็เป็นตัวเองนั่นแหละที่จะตายไปเสียก่อน..!

แต่พวกเราแล้วส่วนใหญ่ประมาทมาก ไปดูเปลือกนอกว่ากระผม/อาตมภาพยังแข็งแรงอยู่ ซึ่งเรื่องของเปลือกนั้นเป็นเรื่องที่หลอกตากันได้ แทบจะไม่มีใครคิดว่ากระผม/อาตมภาพจะมรณภาพลงไปวันนี้..! คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะอยู่ให้เกาะไปอีกนาน คิดได้แค่ประเภทพวกเห็บพวกเหา ก็คืออาศัยเกาะไปวัน ๆ ไม่คิดจะทำอะไรด้วยตนเองเลย..!

ขนาดมีพระนำปฏิบัติธรรม หลวงพ่อป่วยจะตาย พวกเรายังอยากจะให้หลวงพ่อลงมานำ ไม่ได้คิดที่จะขวนขวายด้วยตนเอง พากเพียรด้วยตนเอง รออยู่อย่างเดียวว่าจะอาศัยเกาะ ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ ครูบาอาจารย์เสียชีวิตเมื่อไร ท่านก็จะกลายเป็นสวะลอยน้ำ หาทิศทางชีวิตไม่ได้ แล้วพอเจอครูบาอาจารย์ใหม่ก็ไปเกาะเหมือนเดิม พูดง่าย ๆ ว่าครูบาอาจาย์ตาย หรือมรณภาพไปองค์แล้วองค์เล่า เราก็เอาดีไม่ได้เสียที

ดังนั้น..ต้องเอาอย่างหลวงปู่พระพาหิยะ ก็คือถ้าไม่ใช่เราตาย ก็ครูบาอาจารย์ตายจากเราไป เพราะฉะนั้น..ในระหว่างที่มีชีวิตอยู่ ยังเห็นกันอยู่ เราต้องกอบโกยเอาคุณงามความดีใส่ตัวของเราให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถึงเวลาจะได้อาศัยตัวเองเป็นเกาะ ได้อาศัยตัวเองเป็นฝั่ง หยั่งกายอยู่ท่ามกลางกระแสเชี่ยวของวัฏสงสาร ไม่ต้องเป็นสวะลอยน้ำเหมือนกับคนอื่นเขา

แต่เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ถ้าตราบใดที่เรายังไม่เข็ด เราก็ยังไม่เพียรพยายามด้วยตนเอง คิดแต่จะอาศัยเกาะครูบาอาจารย์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการเกาะที่ผิด การเกาะครูบาอาจารย์ก็คือเกาะปฏิปทาแนวทางการดำเนินชีวิตของท่าน ไม่ใช่ไปเกาะตัวท่านที่จะตายเมื่อไรก็ไม่รู้ ?!

ความจริงเรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นต้องมาพูดก็ได้ แต่ถ้า
กระผม/อาตมภาพไม่พูด พวกเราก็ยังคงประมาทกันต่อไป โดยเฉพาะช่วงเช้ามืด อาตมภาพไม่มีแรงที่จะสอน ไม่มีเสียงที่จะสอน พวกเราก็ยังตั้งหน้าตั้งตารอ ทำตัวเหมือนกับลูกนกรออาหาร ไม่คิดที่จะหากินด้วยตนเอง ถ้าลักษณะอย่างนี้ ชีวิตนี้ก็เอาดีได้ยาก..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-05-2025 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว