กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 04-02-2023, 19:00
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 319
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 17,589 ครั้ง ใน 791 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 05-02-2023, 00:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจต้องวิ่งไปยังวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมงานทำบุญร้อยวันของคุณแม่ดำ ฉ่ำเม้า โยมมารดาของพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์มาด้วยกัน

ในงานก็เจอพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายต่อหลายท่านด้วยกัน อย่างเช่น พระครูวิสุทธานันทคุณ (สุรศักดิ์ วิสุทฺธาจาโร ป.ธ.๓ , ผศ.ดร.)เจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน

พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนปริญญาเอกมาด้วยกัน

หรือว่าพระเดชพระคุณพระภาวนาวิหารกิจ วิ. (ทองย้อย สญฺญโม) หรือหลวงพ่อเจ้าคุณทองย้อย เจ้าอาวาสวัดเขาวัง (พระอารามหลวง) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ที่กระผม/อาตมภาพภูมิใจมาก เนื่องเพราะว่าท่านเป็นพระเถระที่อายุกาลผ่านวัยถึง ๘๐ กว่าปีแล้ว ได้มีโอกาสอบรมพระอุปัชฌาย์ด้วยกัน เห็นความน่ารัก ความใจเย็นของท่าน โดยเฉพาะสภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเดินขึ้นเขาวัง ราชบุรีอยู่ทุกบ่อย จึงทำให้คนหนุ่มรู้สึกอายท่านเวลาเดินขึ้นเขาไม่ค่อยจะไหว

หลังจากที่เจริญพระพุทธมนต์ ฉันเพล โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์พระปิฎกโกศล, ดร. (ปราโมทย์ ปโมทิโต ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่

เมื่อเสร็จภารกิจ ฉันเพลกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบวิ่งไปยังวัดสันติคีรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดตลุงใต้ หมู่ที่ ๖ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ในงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี พระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. (วีระ มหาวีโร ป.ธ.๗) เจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสันติคีรี ซึ่งในงานนั้นพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นประธานสงฆ์อยู่

หลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี พอเห็นหน้าก็รีบบอกว่า "วันก่อนในงานเปิดอบรมบาลีก่อนสอบที่วัดสามพระยา เซียนพระเขามาดูพระที่ท่านถวายมาให้ ตีราคามาให้ ๔๒ ล้านบาท..!" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ขำ จึงกราบเรียนไปว่า "หลวงพ่อปล่อยไปได้เลยครับ เดี๋ยวกระผมจะหาให้ใหม่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 05-02-2023, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ เมื่อถึงเวลาบรรดาลูกคณะต่าง ๆ หาของขวัญไปมุทิตาสักการะในวาระสำคัญ ส่วนหนึ่งก็เป็นวัตถุมงคล แต่ท่านปรารภว่า เมื่อให้เซียนเขาตรวจสอบแล้ว ปลอมเสียทั้งหมด..! ไม่มีอะไรที่เป็นของดีในลักษณะของเบญจภาคีเมืองไทยบ้างเลย

กระผม/อาตมภาพได้ยินท่านปรารภเช่นนั้น จึงปลดสมเด็จวัดระฆังองค์ที่แขวนติดประคำอยู่เป็นประจำถวายท่านไป โดยกราบเรียนท่านว่า "ถ้าเขาให้ต่ำกว่า ๒๐ ล้าน หลวงพ่ออย่าปล่อยนะครับ" หลังจากนั้นก็ยังหาพระผงสุพรรณองค์ "สวยหูตากระพริบ" ให้ท่านไปอีก ๑ องค์ กำลังรออยู่ว่าจะไปขุดกรุเจอเมื่อไรว่าเบญจภาคีในส่วนที่เหลือยังมีองค์ใดบ้าง เนื่องเพราะว่าการย้ายวัดหลายต่อหลายครั้งด้วยกันนั้น ทำให้ข้าวของต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็หมกอยู่ก้นลัง ไม่มีเวลาที่จะไปค้นดู ถ้าหากว่าค้นของอื่นแล้วไปเจอเข้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างยิ่ง

คราวนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจอหน้าเมื่อไร ก็ตบหน้าอกให้ดูตรงกระเป๋าอังสะว่า "ใช้ติดตัวอยู่นะ" แต่งานนี้ปรากฏว่าเจอเซียนพระตีราคาเข้า กระผม/อาตมภาพก็เลยขำ ตรงที่ว่าท่านเองก็เกรงใจคนถวาย ก็เลยไม่กล้าที่จะปล่อยให้เซียนตามราคาที่เขาตั้ง หรืออาจจะคิดว่า ถ้าปล่อยไปแล้ว ไม่มีทางที่จะหาองค์สวยขนาดนี้ได้อีก จึงตัดใจเก็บเอาไว้บูชาเองดีกว่า

หลังจากที่เสร็จจากงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. แล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ปรารภว่า "อีกไม่กี่วันเราก็ต้องมีการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ กัน ก็ในเมื่อวันนี้ทุกท่านมากันเกือบจะครบถ้วนแล้ว ก็ประชุมเสียเลยเป็นอย่างไร ?"

พวกเราทุกคนก็เห็นด้วย จึงได้เข้าร่วมประชุมกันก่อน โดยที่ท่านปรารภว่าจะให้จบภายใน ๓๐ นาที เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น รับอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. เนื่องในโอกาสที่ท่านจะหาปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดสันติคีรี หรือว่าวัดตลุงใต้ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงพ่อของท่านเองที่มาบวชในยามชรา จนกระทั่งได้เป็นฐานานุกรมที่พระครูใบฎีกา หลังจากที่มรณภาพ
แล้ว ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. ก็ฌาปนกิจหลวงพ่อของท่านที่นี่ แล้วรักษาการเจ้าอาวาสเรื่อยมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 05-02-2023, 00:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเสร็จจากการประชุมแล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. ก็บอกว่า "อาจารย์เล็กไปเข้าปลุกเสกวัตถุมงคลได้เลยครับ ทางด้านนี้ที่เหลือ ถ้ามีอะไรก็จะว่ากันต่อไปเอง" กระผม/อาตมภาพจึงไปยังมณฑลพิธี ซึ่งจะมีการหล่อพระด้วย

เมื่อทำการอาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์เรียบร้อยแล้ว หลับตาลงภาวนา ก็เห็นหลวงพ่อรูปหนึ่ง นั่งอยู่กลางวง กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าตัวเองตาฝาด หรือว่าเฝือไปหรือเปล่า ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าหลวงพ่อองค์นั้นคือหลวงพ่อขาว พระประธานในศาลาการการเปรียญของวัดสันติคีรีนั่นเอง

แต่แปลกตรงที่ว่าท่านมาในรูปของพระสงฆ์ พอลืมตาดูรูปพระสงฆ์ก็กลืนกับรูปพระพุทธที่ตั้งเป็นประธานอยู่ ถึงได้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านมาสงเคราะห์ โดยเฉพาะเทวดาที่รักษาองค์หลวงพ่อขาว ท่านแสดงนิมิตให้เห็นว่า ท่านรับรู้ในการที่สร้างรูปของท่านให้ประชาชนที่เคารพนับถือได้บูชา

เมื่อเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัว เดินทางไปยังวัดวังโพธิการาม หมู่ที่ ๑ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อถวายมุทิตาสักการะพระครูโพธิกาญจนธรรม (ทองยุ้ย ฐานธมฺโม) เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ - สังขละบุรี (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดวังโพธิการาม ซึ่งท่านเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี เจอหน้าก็หัวเราะใส่กัน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเรียกท่านว่า "หลวงพี่ยุ้ย" มาตลอด โดยที่เพิ่งจะรู้ว่าท่านอายุน้อยกว่าในวันนี้เอง

เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลกที่บางทีก็หัวเราะไม่ออก อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเรียกท่านเจ้าคุณองอาจ พระภาวนาประชานุกูล วิ. (องอาจ อาภากโร) เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงแพ่ง เจ้าอาวาสวัดวีระโชติธรรมารามว่า "หลวงพี่" หรือไม่ก็เรียกสั้น ๆ ว่า "พี่องอาจ" มาตลอด

แต่เมื่อจับกลุ่มเข้าวงกันไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ก็มีการไล่อายุไล่พรรษากัน ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณองอาจเด็กที่สุด ตอนนั้นท่านเพิ่งจะอายุ ๔๘ - ๔๙ ปี ท่านถึงขนาดนั่งบ่นว่า "ทำไมกูหน้าแก่แท้วะ ?" กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ ถึงได้เรียนถวายไปว่า "เรียกแล้วไม่รับคืนครับ" ในเมื่อเรียกพี่มาตลอด ก็ขออนุญาตเรียกต่อไปก็แล้วกัน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 05-02-2023, 00:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นก็ได้ขอตัวกับหลวงพ่อทองยุ้ย ไปกราบหลวงพ่อพระพุทธชินราชที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ซึ่งตกคุ้งตรงบริเวณหน้าวัดของท่านพอดี บรรยากาศงดงามมาก ข้างล่างยังมีเรือนแพอีกต่างหาก

ถ้าหากว่าทางด้านวัดท่าขนุนนั้น มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างตามโครงการเดิม กระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจจะสร้างหมู่เรือนแพเป็นแถวยาวตลอดหน้าวัด แต่ปรากฏว่าโครงการนี้ต้องล้มพับไป เนื่องเพราะว่าทันทีที่ประกาศโครงการ แล้วรู้ว่าบริเวณที่จะสร้างเขื่อนตอนล่างเพื่อสูบน้ำกลับใช้ในการปั่นไฟฟ้านั้น อยู่บริเวณบ้านจันเดย์ ที่ดินบริเวณนั้นก็ขึ้นราคาไปหูดับตับไหม้..! จากราคาประเมินไร่ละหนึ่งแสนก็ขึ้นไปถึงสามล้านบาท ทำให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่สามารถที่จะหางบประมาณมาซื้อที่ดินเพื่อใช้ในการสร้างเขื่อนได้

กระผม/อาตมภาพก็ยังเคยท้วงในวงประชาพิจารณ์ว่า "ทำไมเราไม่ทำการซื้อที่ดินก่อนแล้วถึงประกาศโครงการ ? เพราะว่าประกาศไปแล้วก็จะมีแต่คนฉวยโอกาสขึ้นราคาในลักษณะอย่างนี้" ปรากฏว่าทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็มีเหตุผลของเขาว่า "ถ้าหากว่าซื้อที่ดินไปแล้ว โครงการไม่ผ่านการพิจารณาก็แปลว่า กฟผ.เสียเงินฟรีอีก" ตกลงว่าไม่ว่าจะซื้อก่อนหรือว่าซื้อหลัง ก็มีแต่จุดบกพร่องให้คนฉวยโอกาสได้ทั้งสิ้น

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นกระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็น "ฝันค้าง" เพราะว่าหลังจากที่ยื้อกันมา ๘ ปี ๑๐ ปี เพิ่งสรุปได้อย่างชัดเจนเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่า โครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างนั้น พับทิ้งไปโดยปริยาย เพราะว่าไม่สามารถหางบประมาณที่จะมาดำเนินการได้

เป็นที่น่าเสียดายว่าหมู่เรือนแพวัดท่าขนุนไม่สามารถที่จะปรากฏขึ้น ไม่เช่นนั้นถึงเวลาจัดการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ แล้วท่านทั้งหลายเดินจงกรมในเรือนแพรับลมแม่น้ำเย็นชื่นใจ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าบรรยากาศน่าปฏิบัติธรรมขนาดไหน ตอนนี้ก็ได้แต่ฝันไปก่อนก็แล้วกัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-02-2023 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:37



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว