กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนสิงหาคม ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 23-08-2022, 19:39
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,596
ได้ให้อนุโมทนา: 216,264
ได้รับอนุโมทนา 739,704 ครั้ง ใน 36,060 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 23-08-2022, 23:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพไปรับรางวัลมณีกาญจน์ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี แล้วก็มอบเงินเป็นทุนการศึกษาให้กับทางมหาวิทยาลัยด้วย ๑ แสนบาท เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าระยะหลังนี้ ตั้งแต่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาด ญาติโยมต่างทำมาหากินยากลำบากมาก คนที่ส่งลูกเรียนระดับปริญญา ก็ยิ่งต้องเดือดร้อนมาก

คราวนี้บรรดานิสิตที่รับทุนการศึกษาจากวัดท่าขนุน แล้วไปเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีก็ถือว่าลอยตัว เพราะว่าทางเรามอบให้ทุกปีจนกว่าจะจบ แต่ก็ยังมีเด็กทั้งของทองผาภูมิและที่อื่นที่เรียนอยู่อีกจำนวนมาก ถ้าหากว่าขาดทุนการศึกษาไปช่วยค้ำจุนตรงนี้ จะไปหวังกู้ กยศ.อย่างเดียวก็ลำบาก

ถ้ากระผม/อาตมภาพพูดว่า "รัฐบาลถังแตก" ก็เป็นการใส่ร้ายรัฐบาลอีก ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมอบทุนการศึกษาให้กับทางมหาวิทยาลัยไป เพื่อจัดสรรให้กับนักศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อน

ทางด้าน ผศ.ดร.พจนีย์ สุขชาวนา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรีบอกว่า จะให้คณะกรรมการพิจารณานักศึกษาที่มาจากอำเภอทองผาภูมิก่อน ตรงนี้ก็คงต้องตรวจสอบกันให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าไปเจอนักศึกษาที่ได้ทุนจากวัดท่าขนุนแล้ว ก็เท่ากับถูกหวยสองเด้งไปเลย

ตรงส่วนนี้ไม่ขอกล่าวถึง ไปกล่าวถึงในงานว่า เขามีการแสดงทางวัฒนธรรมก่อนที่เขาจะมอบรางวัล พอกระผม/อาตมภาพเห็นแล้ว ก็ไปนึกถึง "ดราม่าบุพเพสันนิวาส ๒" ขึ้นมา เพราะว่าทางประเทศเพื่อนบ้านของเรากล่าวหาว่าเราลอกแบบของเขาไป

ตรงนี้ขอให้พวกท่านทั้งหลายเข้าใจว่า การที่เพื่อนบ้านเห็นเราเป็นเหมือนกับศัตรู เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือเราเคยไปตีบ้านตีเมืองเขาจริง ๆ สาเหตุที่สองก็คือ ประวัติศาสตร์ที่พวกเขาเรียนอยู่ เขียนให้เราเป็นผู้ร้าย ลักษณะเดียวกับที่ท่านทั้งหลายจำนวนมากไม่ชอบพม่า เพราะยังไปฝังใจว่าพม่ามาตีกรุงศรีอยุธยาแตกถึง ๒ ครั้ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2022 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-08-2022, 23:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพไปพม่า มีอยู่เที่ยวหนึ่งต้องไปค้างคืนที่บ้านตองซุน เจอคุณยายท่านหนึ่งมาชวนคุยด้วย คุณยายท่านนี้ลูกหลานเคยพาไปเที่ยวประเทศไทย บอกว่า "ไปโยเดีย" ก็คืออยุธยา คุณยายถามว่าพูดเรื่องอย่างนี้ได้ไหม ? กระผม/อาตมภาพก็บอกว่าพูดได้เต็มที่เลยยาย อาตมภาพไม่ใช่พวกชาตินิยมจนกระทั่งไม่มองความเป็นจริง

คุณยายบอกว่า "ไม่นึกว่าอูอองไซยะจะเผาโยเดียไปขนาดนั้น" นี่ขนาดคนพม่ายังเข้าใจผิด อูอองไซยะเป็นชื่อเดิมของพระเจ้าอลองพญา

สมัยนั้นเขามีค่านิยมว่า ถ้าคุณเป็นพระมหากษัตริย์ ต้องแสดงพระราชอำนาจด้วยการไปตีบ้านอื่นเมืองอื่นเป็นข้าขอบขัณฑสีมา ซึ่งจะมีประโยชน์หลายอย่าง อย่างแรกก็คือ ข้าทาส ช้าง ม้า วัว ควาย ที่กวาดต้อนมาได้ ก็ได้เอามาใช้ในประเทศของตน อย่างที่สองก็คือเบาแรงในการทำมาหากิน เพราะว่าอีกฝ่ายต้องส่งบรรณาการให้ทุกปี

ในเมื่อค่านิยมเป็นไปในลักษณะอย่างนั้น ก็เหมือนกับสมัยนี้ที่เรานิยมไปเที่ยวห้าง แล้วถ้าเด็กรุ่นหลานรุ่นเหลนบอกว่า รุ่นปู่ย่าตายายเหลวไหลมาก ทั้งวันเอาแต่เดินห้าง ถ้าเป็นเราตอนนี้ได้ยินแล้วจะเถียงว่าอย่างไร ? ก็ในเมื่อค่านิยมของยุคสมัยเป็นอย่างนั้น

เรื่องที่คุณยายเข้าใจผิดก็คือ พระเจ้าอลองพญาไม่ได้ทำลายอยุธยา พระองค์ท่านตั้งกองทัพโดยมีกองบัญชาการทัพหลวงอยู่ที่วัดหน้าพระเมรุ แล้วใช้ปืนใหญ่ยิงเข้าไปในอยุธยา แม้แต่ต้นไม้ต้นเดียวของวัดหน้าพระเมรุ พระองค์ท่านยังไม่แตะต้องเลย เพียงแต่ว่าปืนใหญ่ระเบิด พระองค์ท่านบาดเจ็บจนต้องยกทัพกลับ แล้วก็ไปสวรรคตที่พม่า

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพระองค์ท่านมาในฐานะทัพกษัตริย์ ซึ่งมีเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ค้ำอยู่ อะไรที่ไม่ใช่คนอื่นเสนอให้ โดยที่ตนเองมีอำนาจเด็ดขาดเหนือกว่า จะไม่ไปแตะต้องเขาในลักษณะที่ปล้นเอา ที่อยุธยาโดนทำลายมาก ก็เพราะยุคของเนเมียวสีหบดีกับมังมหานรธา ทั้งสองคนเป็นแม่ทัพของพม่า คุมทหารเป็นหมื่น

คราวนี้การที่จะเลี้ยงกองทัพของตน วิธีที่ดีที่สุดก็คือไปตีบ้านอื่นเมืองอื่น เสบียงก็ได้ ทรัพย์สมบัติก็ได้ ข้าทาสบริวารก็ได้ ผู้หญิงก็ได้ ปรากฏว่าเป็นช่วงที่ต้องบอกว่า ประเทศไทยเราแย่มาก เพราะว่าทั้งสองแม่ทัพตีมะริดก็ได้ ตีทวายก็ได้ ตีตะนาวศรีก็ได้ ตีกาญจนบุรีก็ได้ ตีสุพรรณบุรีก็ได้ จากที่คิดจะตีแค่มะริดเพื่อที่จะเอาเสบียงไปเลี้ยงกองทัพ ก็เลยกลายเป็นว่าลุยมาจนถึงอยุธยา แล้วด้วยความดวงตกของประเทศเราที่ผู้นำไม่เข้มแข็ง จึงทำให้ทั้งสองท่านตีอยุธยาได้สำเร็จอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2022 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-08-2022, 00:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อตั้งใจมาเอาประโยชน์จึงกอบโกยอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะตนเองไม่ใช่กษัตริย์ ไม่ต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไรทั้งสิ้น อะไรที่เป็นประโยชน์ก็เอาหมด จึงได้ขนทรัพย์สมบัติจากอยุธยาไป อย่างชนิดที่เขาบอกว่า "กองเกวียนออกจากอยุธยาตอนเช้า จนเพลแล้วยังไม่หมดเลย" เกวียนขนสมบัติ โดยเฉพาะทองคำต่าง ๆ ที่หุ้มพระพุทธรูปหรือหุ้มพระเจดีย์ โดนเผาลอกเอาไปหมด ที่คุณยายเข้าใจว่าเป็นฝีมืออูอองไซยะ แต่ความจริงเป็นฝีมือพ่อเจ้าประคุณทั้งสองนี้ต่างหาก

คราวนี้นอกจากตรงจุดนี้แล้ว เมื่อกระผม/อาตมภาพไปในพม่า โดยเฉพาะเข้าไปในพระราชวังมัณฑะเลย์ ทางด้านอารักษ์ หรือว่าเจ้าที่ซึ่งดูแลพระราชวังไม่ยอมให้เข้า เพราะเห็นว่าเป็นแม่ทัพไทย (เขาจำได้..!) บุกเข้ามาถึงเมืองหลวงแล้ว จึงต้องต่อต้านกันสุดชีวิต

กระผม/อาตมภาพเดินเข้าไปในพระราชวังมัณฑะเลย์ เหมือนอย่างกับคนเดินสวนคลื่นทะเลเลย ต้องใช้กำลังทั้งตัวถึงจะอัดเข้าไปได้ รอบด้านมีแต่พลังงานที่ผลักออกมา ได้บอกกล่าวกับเขาไปว่า "ในอดีตก็คืออดีต นี่คือปัจจุบันแล้ว" แต่เขาไม่ฟังกัน คอยระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา กว่าที่จะเดินชมสถานที่จบก็เหนื่อยจนลิ้นห้อย เพราะว่าต้องใช้แรงมุดเข้าไปอยู่ตลอดเวลา

พอเดินพ้นประตูพระราชวังมัณฑะเลย์ออกมา
กระผม/อาตมภาพหัวเกือบจะทิ่มพื้น เพราะว่าใช้แรงเดินเท่าเดิม แต่ไอ้พวกบ้านั่นดันถอนพลังกลับแล้ว พวกคุณลองนึกดูว่า ถ้าเรากำลังทุ่มไปเต็มที่ แล้วอยู่ ๆ ไอ้ที่ยันอยู่ดันหายไป จะเกิดอะไรขึ้น ? ก็ในลักษณะอย่างนั้น ที่ทำให้คนไทยฝังใจเกลียดพม่า โดยไม่ได้นึกถึงความเป็นจริง

คราวนี้ทางด้านประเทศเขมรก็เหมือนกัน เกลียดคนไทย เพราะประวัติศาสตร์เขาบอกว่าไทยเราบุกไปปล้นเมือง เขาใช้คำว่า "ปล้นเมือง" หลายวาระด้วยกัน ตั้งแต่ยุคพระนครหรือว่านครวัดนั่นแหละ แล้วมาระยะหลัง สมัยรัชกาลที่ ๑ ที่ ๒ ที่ ๓ ของกรุงรัตนโกสินทร์ กษัตริย์เขมรทุกพระองค์ในยุคนั้นจะต้องได้รับการแต่งตั้งจากประเทศไทย

เท่านั้นยังไม่พอ ประเทศลาว ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายไปเที่ยวหลวงพระบาง ที่วัดเชียงทอง มัคคุเทศก์เขาก็จะบอกว่า "ตรงจุดนี้เคยเป็นที่ตั้งของพระแก้วมรกต" จะพูดแค่นั้นแหละ ถ้าใครเผลอไปถามว่า "แล้วตอนนี้พระแก้วมรกตอยู่ที่ไหน ?" เขาจะตอบทันทีว่า "โดนไทยปล้นไปแล้ว"

ทั้ง ๆ ที่ประวัติศาสตร์ที่แท้จริง ก็คือ พระแก้วมรกตโดนพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชที่เป็นเขยสองแผ่นดิน ก็คือเป็นคนล้านช้าง แต่ว่าได้รับเชิญมาครองล้านนา คือเชียงใหม่ เมื่อจะกลับไปอยู่ล้านช้างจึงอัญเชิญพระแก้วมรกตไปด้วย เมื่อไทยเราไปตีประเทศลาวได้ ก็อัญเชิญพระแก้วมรกตกลับมา พร้อมกับพระบาง พระสุก พระใส พระเสริม มาตอนหลังก็ต้องคืนพระบางให้กับลาวไป เพราะฉะนั้น..ในสายตาคนลาวส่วนหนึ่ง จะเกลียดไทยเหมือนกับที่พวกเราเกลียดพม่า..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2022 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 24-08-2022, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทางด้านเขมรก็เหมือนกัน เขาถือว่าเคยยิ่งใหญ่มาก่อน พอไทยตั้งอาณาจักรสุโขทัยได้ ก็ตีกินพื้นที่ของเขมรไปมหาศาลเลย เพราะว่าสมัยนั้นเขาปกครองไปจนกระทั่งถึงสุโขทัย เท่ากับว่าเราไปแย่งชิงดินแดนของเขมรมา

กระผม/อาตมภาพไปเที่ยวเขมร เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราชเทพวงศ์ ท่านถึงขนาดออกปากว่า "ถ้าเป็นยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ผมจะไม่ต้อนรับท่านเลย ยังดีว่าเป็นยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่มีนโยบายเป็นมิตรกับเขมร"

คิดดูว่านั่นขนาดระดับสมเด็จพระสังฆราช ยังแบกกิเลสเอาไว้เต็มที่ขนาดนั้น ท่านพูดจาเสียงดัง โผงผาง ท่าทางโกรธเคืองมาก จนกระทั่งมัคคุเทศก์บอกว่า "กลับเถอะ..กลับเถอะ"
กระผม/อาตมภาพไม่กลับหรอก อย่างไรท่านก็ตัวเล็กกว่าตั้งเยอะ ทุบทีเดียวก็อยู่แล้ว..! เรื่องอะไรจะหนี ต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน

กระผม/อาตมภาพถามว่า "แล้วหลวงพ่อรู้ได้อย่างไรว่าเรื่องที่รู้มาเป็นเรื่องจริง ?" ท่านบอกว่า "รู้สิ..ผมฟังข่าวอยู่ทุกวัน ดูโทรทัศน์ทุกวัน" ก็ยิ่งเจริญเข้าไปใหญ่..!

รัฐบาลไหนก็ตาม ถ้าหากว่าเสื่อมความนิยมจากชาวบ้าน วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือหาเรื่องกับประเทศคู่แข่ง เพื่อที่จะได้รวมกำลังใจของชาวบ้านให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะฉะนั้น..ข่าวคราวที่ออกมาเป็นข่าวที่รัฐบาลอยากให้หลวงพ่อรู้ แต่ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง พูดง่าย ๆ ว่า ผมค่อย ๆ ใช้เหตุผลตะล่อม จนกระทั่งท่านหายโกรธไปเอง

เพราะฉะนั้น..."ไอ้ดราม่าออเจ้า" นี่ไม่ต้องสงสัย เป็นความเกลียดชังที่ฝังอยู่ในใจอย่างหนึ่ง แล้วก็เป็นความอิจฉาที่เห็นคนอื่นดีกว่าไม่ได้อีกอย่างหนึ่ง ต้องบอกว่าเป็นกิเลสในใจนั่นแหละ ว่าทำไมบุพเพสันนิวาสของไทยได้รับความนิยมมาก แต่ของเขมรสร้างละครแล้วไม่ได้รับความนิยมแบบนี้

ก็พอ ๆ กับที่เวียดนามเห็นไทยเป็นคู่แข่งตลอดมา โดยเฉพาะ "ดราม่า" วอลเล่ย์บอลหญิงใน VNL league ก็เพราะว่าสมัยรัชกาลที่ ๓ เจ้าพระยาบดินทรเดชาหวดญวนเสียเละเทะ ออกรบประเทศญวน ๑๒ ปีไม่กลับบ้าน ในหลวงรัชกาลที่ ๓ ต้องมีพระราชสาส์นไปว่า "เจ้าคุณ..พักศึกกลับบ้านบ้างเถอะ ลูกชายเกิดตอนเจ้าคุณไป ตอนนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว ไม่เคยได้เห็นหน้าพ่อเลย"

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าเรามาคิดถึงใจคนไทยส่วนหนึ่งที่ฝังใจเกลียดพม่า คนญวน คนลาว คนเขมร เขาก็จะฝังใจเกลียดไทยเหมือนกัน เพราะว่าเราเคยไปตีบ้านตีเมืองเขา ประวัติศาสตร์ก็ย่อมให้เขียนว่าฝ่ายตัวเองเป็นพระเอก อีกฝ่ายเป็นผู้ร้ายเป็นปกติ

แต่ถ้าเรานึกถึงค่านิยมในสมัยนั้นอย่างหนึ่ง แล้วความเป็นหอกข้างแคร่อาจจะก่อความเดือดร้อนให้อีกอย่างหนึ่ง ก็จำเป็นที่จะต้องลงไม้ลงมือกัน แต่คนมักจะไม่ได้คิดถึงตรงนี้ พูดง่าย ๆ ก็คือไปยึดติดเรื่องของอดีตมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าอย่างนั้นก็อย่าหวังเลยว่าจะหลุดพ้นได้

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2022 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:13



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว