กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-07-2020, 08:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓

ญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๓ วันนี้เรื่องที่อยากจะบอกกล่าวกับญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะท่านผู้เก่าในการปฏิบัติ แต่ว่าหาความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมไม่ได้ ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากการที่ท่านขาดหลักธรรมและกองกรรมฐานที่เหมาะสมที่จะเอาไปประพฤติปฏิบัติกัน

หลักธรรมที่ว่าก็คือ หลักอิทธิบาท ๔ อิทธิบาท คือคุณเครื่องพื้นฐานที่นำเราไปสู่ความสำเร็จ มีอยู่ ๔ ประการคือ ๑ ฉันทะ ยินดีและพอใจที่จะทำสิ่งนั้น ๆ อย่างจริงจัง

คำว่า จริงจัง ในที่นี้ ก็คือการแลกด้วยชีวิต หมายความว่าถ้าหากทุ่มเทจริงจัง ถึงตายลงไปก็ยอม เพื่อให้ได้อรรถได้ธรรมที่ตนเองต้องการ ซึ่งกำลังใจในลักษณะของความพอใจชนิดที่แลกกันด้วยชีวิตนี่แหละ ที่จะทำให้เกิดความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมได้

ท่านทั้งหลายก็ต้องพินิจพิจารณาดูว่า ตัวเราเองนั้นมีความยินดีและพอใจที่จะปฏิบัติธรรมจริง ๆ หรือเปล่า ? หรือว่ายังยินดีในเรื่องอื่น ๆ ที่ขวางกับการปฏิบัติธรรม เป็นต้นว่า ดูหนัง ฟังเพลง แช็ตไลน์ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จะเห็นได้ชัดว่า ความยินดีและพอใจของท่านนั้นออกไปนอกลู่นอกทาง นอกแนวของการปฏิบัติไปมากแล้ว ถ้าขาดความยินดีความพอใจที่เรียกว่าฉันทะตัวนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลกหรือว่าเรื่องทางธรรม ท่านก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติให้สำเร็จลงได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-07-2020, 08:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่ ๒ คือ วิริยะ พากเพียรกระทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นอย่างเต็มที่ ถ้าถามว่าอย่างเต็มที่นี่ระดับไหน ? ก็ต้องระดับประมาณฝนทั่งให้เป็นเข็ม เด็กรุ่นหลังไม่เคยเห็นทั่ง ทั่งก็คือแท่นเหล็กหล่อที่เอาไว้สำหรับรองรับเวลาตีเหล็ก ไม่ว่าจะตีเหล็กเป็นรูปร่างลักษณะอย่างไร เป็นเครื่องใช้ไม้สอยอะไรก็ตาม วัตถุสำคัญอย่างหนึ่งที่ใช้ในการตีเหล็ก ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือทั่ง เป็นเหล็กหล่อแท่งใหญ่มาก ถึงจะมั่นคงแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับค้อนหนัก ๆ ที่เหวี่ยงฟาดอยู่ตลอดเวลาได้

ความเพียรพยายามในการปฏิบัติธรรมนั้นต้องอยู่ในระดับฝนทั่งให้เป็นเข็ม ก็คือค่อย ๆ ขัด ค่อย ๆ ถู จนกระทั่งเหล็กแท่งใหญ่กลายเป็นเข็มลงไป ต้องใช้ความเพียรพยายามสูงขนาดไหน ? ท่านทั้งหลายก็เปรียบเทียบดู แล้วตัวเราเองนั้นใช้ความเพียรความพยายามในระดับนั้นแล้วหรือยัง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-07-2020, 20:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อที่ ๓ จิตตะ กำลังใจในการจดจ่อปักมั่นอยู่กับเป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่เป็นคนใจง่าย ถึงเวลาเขาบอกว่ากองกรรมฐานนี้ดี เราก็ย้ายไปทำกรรมฐานกองนั้น ยังไม่ทันที่จะเกิดผล

เขาบอกว่ากรรมฐานกองโน้นดี เราก็ย้ายไปทำกรรมฐานกองโน้น ซึ่งอาตมาเคยเปรียบไว้ว่า เหมือนเราขุดบ่อต้องการน้ำ แต่ขุดลงไป ๒-๓ เมตร เขาบอกว่าทางด้านโน้นดีกว่า น่าจะมีน้ำ เราก็ย้ายที่ไปขุดใหม่ ก็ได้แต่ย้ายไปย้ายมา ทำงานด้วยความเหนื่อยยาก แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ คือไม่เจอน้ำเลย เนื่องจากว่ากำลังใจเราไม่ได้ปักมั่นอยู่ที่เดียว

ลักษณะของการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นการฝืนกระแสโลก ถ้ากำลังใจของเราไม่เด็ดเดี่ยวมั่นคง สิ่งแรกเลยที่เราจะสู้ไม่ได้ก็คือคำพูดของคน ที่กล่าวหาว่าเราบ้าบ้าง เพี้ยนไปแล้วบ้าง ซึ่งถ้าหากว่ากำลังใจของเราจดจ่อปักมั่นแน่วแน่ต่อเป้าหมาย ก็จะไม่แยแสกับสิ่งต่าง ๆ ที่มาจากภายนอก โอกาสที่จะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรมอย่างที่ต้องการ ก็จะมีก็จะเกิดขึ้น ญาติโยมทั้งหลายก็ต้องพินิจพิจารณาดูว่า กำลังใจของเราปักมั่น แน่นหนาดีแล้วหรือ ต่อเป้าหมายของเราคือพระนิพพาน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 23-07-2020, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ข้อสุดท้ายคือ วิมังสา ต้องหมั่นไตร่ตรองทบทวนอยู่เสมอ ๆ ที่ปัจจุบันนี้ต่างประเทศนำเอาไปเป็นทฤษฎีในการสรุปและประเมินผล ซึ่งความจริงแล้วพระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๒,๖๐๐ ปีเศษแล้ว

วิมังสาที่ไต่ตรองทบทวนนั้น ก็เพื่อที่จะได้มั่นใจว่า เรากระทำอะไร ? เพื่ออะไร ? ยังตรงต่อเป้าหมายหรือไม่ ? ขาดระยะทางอยู่ใกล้ไกลเท่าไร ? เป็นต้น เราจะได้ใช้ความเพียร ใช้กำลังใจที่จดจ่อปักมั่น ใช้ความยินดีที่กระทำสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น ได้อย่างเต็มที่และถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

ดังนั้น...ท่านทั้งหลายที่ปฏิบัติธรรมในลักษณะของเป็นคนเก่า ทำมานานแต่ไม่เกิดผล ให้พิจารณาดูว่าเราเองนั้นขาดตัวอิทธิบาท ๔ หรือไม่ ?

ประการที่สอง ที่อยากจะบอกกล่าว ก็คือ อานาปานสติ คือการระลึกถึงลมหายใจเข้าออก ซึ่งเป็นพื้นฐานของกองกรรมฐานทั้งปวง ซึ่งถ้าท่านทั้งหลายขาดอานาปานสติกรรมฐานควบไปแล้ว กองกรรมฐานใด ๆ ทำไปก็ไม่เกิดผล เพราะว่าขาดหลักหรือว่าขาดพื้นฐานที่มั่นคงเพียงพอ ซึ่งจะทำให้สิ่งทั้งหลายที่เราทำนั้นพังไปเสียหายไปโดยง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 23-07-2020, 20:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นักปฏิบัติที่ดีอย่างไรเสียก็จะลืมลมหายใจเข้าออกไม่ได้ โดยเฉพาะท่านทั้งหลายที่เดือดร้อนเพราะ รัก โลภ โกรธ หลง กระหน่ำซ้ำเติมอยู่ทุกวัน ถ้าเราหยุดใจเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออกได้ รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะหาเราไม่เจอชั่วคราว ทำให้เรามีเวลาพัก ทำให้เรามีเวลาคิดไตร่ตรอง แล้วหาช่องทางที่จะต่อสู้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จต่อไป

ฉะนั้น...ญาติโยมทั้งหลาย ไม่ว่าจะปฏิบัติกรรมฐานสายไหนก็ตาม จะเป็น พุทโธ นะมะพะทะ สัมมา อะระหัง พองหนอ ยุบหนอ หรือจะใช้การภาวนาตัวบทพระคาถาใด ๆ ก็ดี ต้องควบลมหายใจเข้าออกไปด้วย จึงจะเกิดเป็นอัปปนาสมาธิที่ตั้งมั่น ควรแก่การใช้งาน ควรแก่การนำไปตัดกิเลส ถ้าอย่างนั้นแล้วท่านทั้งหลายจึงจะประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 24 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว