กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 25-05-2023, 19:41
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,617
ได้ให้อนุโมทนา: 216,321
ได้รับอนุโมทนา 741,348 ครั้ง ใน 36,109 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 42 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-05-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,355 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพกลับมาจากภูเก็ต ถึงกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ช่วงค่ำ เจอรถติดค่อนข้างจะสาหัส ตอนเช้ามืดก็ต้องรีบไปยังวัดประยุรวงศาวาส เพื่อร่วมงานแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติ ครั้งที่ ๑๘ พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือการจัดการให้กับคณะกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระพรหมบัณฑิต, ศ.ดร. (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.๙) เป็นองค์ประธาน และมอบอีกส่วนหนึ่งให้กับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ในเรื่องของการจัดงานต่าง ๆ นั้น ส่วนสำคัญส่วนหนึ่งก็คืองบประมาณ โดยเฉพาะทางราชการ เป็นเรื่องที่ลำบากมาก ถ้าไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ก่อน ก็ไม่สามารถที่จะเอาเงินไปใช้ได้ ติดขัดด้วยขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อป้องกันการทุจริต จึงทำให้บางทีหลายหน่วยงานไม่มีผลงานอะไรขึ้นมาในช่วงเวลาสำคัญ เพราะว่าขาดการตั้งงบประมาณล่วงหน้าเอาไว้ก่อน

คราวนี้การจัดกิจกรรมวิสาขบูชานานาชาติครั้งที่ ๑๘ ต้องบอกว่าเป็นการฟื้นฟูใหม่ หลังจากที่หยุดไปสามปีต่อเนื่องกัน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จึงทำให้แรงขับเคลื่อนต่าง ๆ ที่กำลังเป็นไปด้วยดี แผ่วลงไปอย่างชนิดที่เรียกว่าน่าเสียดาย แต่ว่า
จากที่ได้คุยกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็คือ ปีนี้จะจัดให้มีการแสดงพระธรรมเทศนาเป็นเวลาสามวัน โดยนิมนต์พระเถระที่มีชื่อเสียงทำการแสดงพระธรรมเทศนามาเทศน์ให้ญาติโยมที่ไปร่วมกิจกรรมได้ฟัง

ความจริงกระผม/อาตมภาพได้บอกไปว่า เรื่องแบบนี้ควรจะมีทุกวันพระเสียด้วยซ้ำไป เพราะว่าพุทธมณฑลเท่ากับเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของประเทศไทย แล้วนานาชาติลงมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาโลก แต่ด้วยความที่ถ้าหากว่าจัดงานทุกวันพระ ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ยิ่งไม่มีงบประมาณสนับสนุนเข้าไปใหญ่ จึงมาเริ่มในช่วงวันสำคัญอย่างสัปดาห์วันวิสาขบูชา เป็นต้น

เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ ภาคส่วนที่ช่วยกันผลักดัน จากการที่แถลงข่าวในวันนี้ ท่านสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวถึงส่วนที่ทำให้เบาใจก็คือ ท่านจะผลักดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอทุกอำเภอ เป็นผู้นำในการจัดงาน ถ้าหากว่าเบื้องบนมีแนวคิดแบบนี้ ก็น่าจะทำให้งานต่าง ๆ มีความคึกคัก ครึกครื้นมากขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-05-2023, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,355 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ท่านทั้งหลายต้องไม่ลืมว่า นี่เป็นแค่เปลือกเท่านั้น ต่อให้การจัดงานมีคนไปร่วมมากขนาดไหนก็ตาม ก็เป็นเพียงเปลือกนอกที่เอาไว้อวดคนอื่นเขา ส่วนที่สำคัญอย่างแท้จริง คือพุทธศาสนิกชนที่นำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนาไปใช้งานในชีวิตจริง คืออย่างน้อย ๆ ให้มีศีล ๕ ครบถ้วน ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าหากว่าเราขาดศีล ๕ ความเป็นมนุษย์ก็จะบกพร่องลงไป

เนื่องเพราะว่าศีล ๕ นั้นเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มนุสสธรรม คือหลักธรรมที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ เพราะว่าโดยปกติ ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาฆ่าเรา มาทำร้ายเรา

ไม่มีใครอยากให้คนอื่นมาลักขโมย ช่วงชิงสิ่งของของเรา

ไม่อยากให้ใครมาแย่งคนที่เรารัก ของที่เรารัก

ไม่อยากให้ใครมาโกหกหลอกลวง

ไม่อยากเป็นบุคคลผู้ขาดสติ ทำอาการเหมือนหนึ่งบ้า ๆ บอ ๆ

ดังนั้น..ถ้าหากว่าผู้หนึ่งผู้ใดที่รักษาศีล ๕ ได้ไม่ครบถ้วน ก็แปลว่าความเป็นมนุษย์บกพร่องลงไป ถ้าตีว่าศีล ๕ ข้อเท่ากับ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ศีลขาด ๑ ข้อ ความเป็นมนุษย์ของเราหายไป ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ศีลขาด ๒ ข้อ หายไป ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ขาดครบ ๕ ข้อเมื่อไร ก็ไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-05-2023, 00:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,355 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านทั้งหลายมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ฟังธรรม แล้วน้อมนำมาหลักการทั้งหลายเหล่านั้นไปประพฤติปฏิบัติ ก็ถือว่าท่านทั้งหลายประกอบไปด้วยบุญลาภอันใหญ่ยิ่ง เพราะว่าการเกิดเป็นมนุษย์ก็ยาก การจะดำรงชีวิตอยู่จนกระทั่งได้พบหลักธรรมก็ยาก การที่ฟังธรรมแล้วจะเลื่อมใสยอมปฏิบัติตามก็ยาก

โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นยากที่สุด จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายว่า ถ้าเราทิ้งหลักการที่ทำให้เราเกิดเป็นมนุษย์ ก็แปลว่าเรามีโอกาสที่จะตกสู่อบายภูมิสูงมาก


มนุสสภูมิของเราอยู่ในจุดที่เหมาะสมที่สุดที่จะพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นเทวดานางฟ้าก็ดี เป็นพรหมชั้นต่าง ๆ ก็ดี หรือกระทั่งหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน เนื่องเพราะว่าในอบายภูมิมีแต่ความทุกข์ กำลังใจของผู้ที่แบกหาบความทุกข์อยู่ ไม่มีอารมณ์ที่จะมาสนใจปฏิบัติธรรม

ส่วนสุคติภูมิ เทวดา นางฟ้า พรหม ส่วนหนึ่งก็ติดอยู่ในความสุข ประกอบกับอายุมากมายเหลือเกิน อย่างเช่น ถ้าเป็นอรูปพรหมชั้นที่ ๔ ซึ่งแทรกอยู่ระหว่างรูปพรหมชั้นที่ ๑๑ และชั้นที่ ๑๒ ถ้าเป็นเนวสัญญานาสัญญายตนพรหม ก็จะมีอายุถึง ๘๔,๐๐๐ มหากัป นานเกินกว่าที่จะประพฤติปฏิบัติอะไรได้ แถมถ้ากินบุญเก่าหมด โอกาสที่จะลงข้างล่างก็มีสูงมาก..!

ส่วนการเป็นเทวดา พรหม นอกจากติดสุขแล้ว ยังอยู่ที่อายุยืนนาน โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมเพื่อความหลุดพ้นจึงมีน้อย ไม่เหมือนกับมนุษย์เราที่อายุขัยอยู่ระดับที่พอดี สติปัญญาเพียงพอที่จะมองเห็นทุกข์ เมื่อเห็นความเป็นจริง แล้วเกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด ปล่อยความยึดถือ ก็สามารถที่จะหลุดพ้นได้

ดังนั้น..ในเมื่อเราอยู่ในภพภูมิที่เหมาะสม อยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสม ได้พบหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ถ้ายังปล่อยทิ้งไปเฉย ๆ ก็เป็นเรื่องที่เสียชาติเกิดจริง ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-05-2023, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,355 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ไม่ว่าทางด้านภายนอก งานวิสาขบูชานานาชาติจะได้รับการสนับสนุนจากประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา ทั้งเถรวาท มหายาน หรือว่าวัชรยานสักเท่าไรก็ตาม จะได้รับการสนับสนุนจากหน่วยราชการสักเท่าไรก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่สาระแก่นสารที่สำคัญ

สาระแก่นสารที่สำคัญ อยู่ที่พุทธบริษัททั้งหลายปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนสามารถเข้าถึง บอกได้ถึงคุณความดีอย่างแท้จริงของหลักธรรมนั้นว่าดีอย่างไร สามารถใช้ตนเองเป็นพยานว่า หลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของแท้อย่างไร นั่นจึงเป็นเรื่องที่พวกเราต้องสังวร และยึดถือปฏิบัติให้ได้

ไม่ใช่ติดอยู่แค่เปลือกนอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้งานทั้งหลายเหล่านี้สิ้นเปลืองงบประมาณไป โดยที่ได้รับผลตอบแทนกลับมาน้อยมาก

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2023 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว