กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๕ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-11-2022, 17:27
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,598
ได้ให้อนุโมทนา: 216,278
ได้รับอนุโมทนา 739,968 ครั้ง ใน 36,062 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-11-2022, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,256 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพพร้อมด้วยตุ๊พ่อสิงห์ (พระอธิการสิงห์ วิสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ หลวงพ่อนิล (พระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม) ประธานที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร พระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. เจ้าอาวาสวัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี นำญาติโยมทั้งหลายภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ในขณะเดียวกันก็ได้ทำการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลไปด้วย

วัตถุมงคลในวันนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรูปเปรียบองค์พระปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้าน แกะจากหินลาปิสลาซูรี ซึ่งจะว่าไปแล้ว พระพุทธรูปองค์ที่แกะจากหินลาปิสลาซูรีนี้ ทางด้านคณะของคุณรัตน์ เพื่อนรักษ์ จังหวัดภูเก็ต ตั้งใจที่จะแกะถวายให้กับวัดท่าขนุน โดยขอให้กระผม/อาตมภาพบอกไปเท่านั้นว่าจะเอาแบบไหน แต่กระผม/อาตมภาพปฏิเสธไป เพราะว่าไม่มีที่ตั้งอันเหมาะสมสำหรับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กระผม/อาตมภาพถือสาเป็นที่สุด เพราะว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือพ่อใหญ่ของพวกเรา ความรักความเคารพในองค์ท่านนั้นมีมากเท่าไร กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะพูดออกมาเป็นภาษาคนได้ แต่อยากจะบอกว่า ถ้ามีรูปของท่านแล้ววางไว้ในที่ไม่เหมาะสม ก็จะรู้สึกไม่สบายใจ

ดังนั้น..ถ้าท่านทั้งหลายไปยังวัดท่าขนุน จะเห็นว่าไม่มีพระพุทธรูปเกะกะไปหมดเหมือนกับวัดอื่น ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า พระพุทธรูปแต่ละองค์นั้น ต้องอยู่ในจุดที่เหมาะสมต่อการกราบไหว้ ต่อการบูชา โดยที่กระผม/อาตมภาพถือหลักว่า พ่อของเรา..ถ้าเราไม่เคารพ แล้วจะให้ใครมาเคารพ ?

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้ปฏิเสธคณะเจ้าภาพ คือคุณรัตน์ เพื่อนรักษ์ จากจังหวัดภูเก็ต ว่าไม่ขอรับพระพุทธรูปองค์นี้ เพราะว่าไม่มีที่ตั้งอันสมควร แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าทางคุณรัตน์และคณะไปติดต่อกับทางพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ดร. แบบไหน ถึงได้แกะสลักออกมาเป็นรูปสมเด็จพระพุทธธนเสฏฐปัจเจกพุทธเจ้า เจ้าของพระคาถาเงินล้าน แต่ก็เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่จะนำมาเป็นองค์ประธานในพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบในครั้งนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-11-2022, 00:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,256 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของพระคาถาเงินล้านนั้น ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับศรัทธาเลื่อมใสยังไม่พอ ยังต้องขึ้นอยู่กับความขยันและสม่ำเสมอของเราอีกด้วย ถ้าหากว่าเราไม่ขยันภาวนาเอาไว้อย่างสม่ำเสมอแล้ว จะไปหวังให้เกิดผล ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

โดยเฉพาะพระคาถาเงินล้านนั้น เป็นพระคาถาที่ต้องการความเชื่อมั่นและเลื่อมใสอย่างสูงสุด ไม่เช่นนั้นแล้ว โอกาสที่เราจะทุ่มเท กาย วาจา ใจ ในการภาวนาอย่างจริงจังสม่ำเสมอนั้น ย่อมเป็นไปได้ยาก ในเมื่อไม่มีความจริงจังสม่ำเสมอ แล้วจะให้พระคาถาเกิดผล จึงมีโอกาสที่เป็นไปได้น้อยมาก

แต่ก็ยังดีใจที่ญาติโยมทั้งหลายมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะสถานที่จอดรถเกือบจะไม่เหลือเลย เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายอย่าได้รอจนกระทั่งทางวัดท่าขนุนหรือว่าทางวัดอุทยานจัดงานภาวนาพระคาถาเงินล้าน แล้วค่อยไปนั่งภาวนากันครั้งหนึ่งเกือบ ๒ ชั่วโมง แต่ว่าวันอื่น ๆ ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง ขาดความสม่ำเสมอ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว โอกาสที่พระคาถาจะเกิดผลย่อมเป็นไปไม่ได้

นอกจากนั้นแล้วพระคาถาเงินล้านยังต้องการการทำทานอย่างสม่ำเสมอด้วย ก็คือต้องมีการสละออก ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเปรียบเอาไว้ว่า เหมือนกับเราเปิดน้ำในเขื่อนให้ไหลออก น้ำใหม่ถึงจะไหลเข้ามาทดแทนได้ ไม่เช่นนั้นแล้วน้ำเก่าเต็มอยู่ ค้ำอยู่ น้ำใหม่ย่อมไม่สามารถที่จะหมุนเวียนไหลเข้ามาเพิ่มเติมได้

ดังนั้น..ในส่วนของการใช้พระคาถาเงินล้านให้เกิดผลนั้น สิ่งสำคัญก็คือต้องมีการให้ทานอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นไปในส่วนของจาคานุสติหรือว่าทานบารมีแล้ว
จะเป็นวันละเล็กวันละน้อยเท่าไรก็ได้ เมื่อเราทำต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เมื่อผลของทานเริ่มส่งผลดีให้ ผลของพระคาถาเงินล้านก็จะส่งผลให้มากขึ้นตามไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-11-2022, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,256 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของพระคาถาต่าง ๆ นั้นเป็นบาท คือพื้นฐานของการฝึกอภิญญา ท่านใดที่ทำพระคาถาบทใดบทหนึ่งขึ้นแล้ว ขอให้จดจำไว้ว่าเราวางกำลังใจแบบใด ถ้าสามารถจดจำได้ วางกำลังใจได้ถูก พระคาถาทุกบทก็จะให้ผลได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น..ในส่วนของการฝึกหัดอภิญญา ซึ่งเป็นลำดับที่สูงกว่านั้น ก็จะทำให้ท่านทั้งหลายมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง หนักแน่น จากการฝึกพระคาถามาก่อน ทำให้สามารถฝึกอภิญญาสมาบัติได้ง่ายขึ้น เพราะว่าคุ้นชินกับการภาวนามาแล้ว

เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายอย่าทำตัวเป็นคนขี้สงสัย สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ? สิ่งนี้คืออะไร ? นั่นไม่ได้สำคัญเท่ากับว่าท่านทำได้หรือไม่ ? ไม่เช่นนั้นแล้วท่านมัวแต่ไปสงสัยอยู่ แบบเดียวกับนักวิชาการบางท่านที่สงสัยว่า อารมณ์ใจในลักษณะแบบนี้ ตรงกับการปฏิบัติตรงไหน ? หรือว่าจุดไหน ? แล้วก็เที่ยวไปค้นคว้า โดยที่ไม่ยอมปฏิบัติเอง โอกาสที่จะรับรู้อย่างแท้จริงก็ไม่มี

เหมือนอย่างกับว่ามีอาหารสำเร็จรูปอยู่ตรงหน้า ใส่จานเตรียมไว้แล้ว เรามีหน้าที่แค่ตักใส่ปากเท่านั้น แต่เรามัวแต่ไปวิจัยค้นคว้าว่าอาหารจานนั้นมีส่วนประกอบอะไร ? มีวิธีทำอย่างไร ? แต่ละขั้นตอนเรียกว่าอะไร ? แบบนั้นแล้วเมื่อไรท่านถึงจะมีโอกาสได้กินอาหารนั้นให้เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง

ท่านทั้งหลายจึงควรที่จะตระหนักว่า การที่เราลงมือปฏิบัติ ถ้าหากว่าทำอย่างจริงจังสม่ำเสมอแล้ว แทบจะได้รับคำตอบในสิ่งที่สงสัยเกือบทั้งหมด ยกเว้นแค่ในส่วนของการยกอารมณ์ขึ้นสู่ความเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งจะต้องมีครูบาอาจารย์คอยแนะนำ คอยบอกกล่าวอย่างใกล้ชิด ไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสที่จะทำได้ตรง ได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด ก็มีโอกาสน้อยลง อาจจะต้องเสียเวลาไปมากมายหลายปีก็เป็นได้

ปัญหาต่าง ๆ ในการปฏิบัติธรรมนั้น ถ้าท่านทั้งหลายทุ่มเทเวลาให้กับการภาวนาอย่างแท้จริง ไม่เสียเวลาไปสงสัยสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้น เราย่อมได้รับคำตอบไปในตัว ถึงเวลาทำไปถึงก็จะรู้เองว่า อารมณ์ใจนี้คืออะไรอย่างที่ตำราได้กล่าวถึงเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-11-2022, 00:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,256 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เอาแค่การภาวนาแล้วเข้าถึงระดับของสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นวิตก การคิดนึกตรึกอยู่ว่าจะภาวนา วิจาร กำหนดรู้อยู่ว่าตอนนี้ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้น เราใช้คำภาวนาว่าอย่างไร ปีติ มีความรู้สึกแปลก ๆ เกิดขึ้นกับเรา ไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งก็คือ ขนลุก น้ำตาไหล ร่างกายโยกโคลง บางทีก็ดิ้นตึงตังโครมคราม หรือว่าลอยขึ้นไปทั้งตัวก็มี หรือมีความสุขเยือกเย็นอย่างที่ไม่สามารถจะบอกกล่าวเป็นภาษามนุษย์ออกมาได้ จนกระทั่งอารมณ์ใจตั้งมั่น เข้าสู่สมาธิระดับนั้นอย่างแท้จริง

ท่านมีหน้าที่แค่ทำ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะค่อย ๆ เกิดขึ้นเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปศึกษาว่า ตอนนี้อยู่ในจิตดวงที่เท่าไร ? อยู่ในภวังคจิตแบบไหน ? จิตในลักษณะไหนจึงเป็นโลกียะ ? จิตในลักษณะไหนจึงเป็นโลกุตระ ?

ในลักษณะอย่างนั้น กระผม/อาตมภาพขอใช้ภาษิตจีนที่ว่า "ถอดกางเกงผายลม" ก็คือว่าจะตดทั้งที ไม่มีความจำเป็นที่ต้องเสียเวลาไปถอดกางเกง เราก็มีหน้าที่แค่ตดไปเท่านั้นเอง..! เพียงแต่ว่าท่านทั้งหลายไปทำอาการถอดกางเกงผายลม ตามที่สำนวนจีนเขาว่าเอาไว้ ทำให้เสียเวลาในการปฏิบัติไปโดยใช่เหตุ

การที่มัวแต่ไปเสาะหาอยู่ว่า สิ่งนั้นเรียกว่าอะไร ? สิ่งนี้เรียกว่าอะไร ? นั่นไม่ใช่หน้าที่ของเรา นั่นเป็นหน้าที่ของบุคคลที่เป็นครู ก็คือปฏิบัติเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ท่านจะต้องนำไปสอนคนอื่นเขา จึงต้องรู้ให้ละเอียดว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นว่า จะเข้าถึงได้แบบไหน ? อยู่ในภวังคจิตแบบไหน ? อยู่ในจิตดวงที่เท่าไร ? มีชื่อเรียกว่าอะไร ? แต่พระองค์ท่านก็ไม่ได้ไปบอกกล่าวเขาให้ละเอียดถึงระดับนั้น แค่บอกว่าควรที่จะทำอย่างไรเท่านั้นเอง

ถ้าหากว่าเราไม่ฉลาดจนเกินไป เราก็จะสามารถเข้าถึงมรรคถึงผลได้ง่าย หรือว่าทรงสมาธิสมาบัติได้ง่าย แต่ถ้าเราฉลาดจนเกินไปดังตัวอย่างที่กระผม/อาตมภาพได้กล่าวมา เราทั้งหลายก็จะเสียเวลาไปวันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า บางทีเราตายไปก่อนยังไม่มีโอกาสเข้าถึงความดีก็มี..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2022 เมื่อ 00:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว