กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-08-2020, 06:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default ปกิณกธรรม ช่วงวันงานพุทธาภิเษกพระกริ่งสะท้านไตรภพ วันที่ ๒๑-๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓

(ก่อนวันงานพุทธาภิเษก)

เจริญพรญาติโยมพุทธบริษัททุกท่าน อยากจะถามว่า ยังสบายกันดีอยู่ไหม ? วันพรุ่งนี้ตามหลักโหราศาสตร์ที่อาตมาคิดเองจะเป็นวันเสาร์ห้า แต่คราวนี้ทางด้านปฏิทินราชการใช้วิธีคิดอีกแบบหนึ่ง ก็เลยกลายเป็นว่าไม่ตรงกัน ซึ่งอาตมาได้ล็อกวันเอาไว้แล้วว่าเป็นวันไหว้ครูประจำปี ในเมื่อไม่ตรงกัน เพื่อความปลอดภัยในชีวิตก็อย่าไปใช้เลย เพราะว่าคนอาจจะสงสัยได้

พอดีทางด้านท่าน ดร.จักรกฤช ศีลาเจริญ ประธานมูลนิธิสามสมเด็จ ซึ่งรู้จักมักคุ้นกัน ท่านมาขออนุญาตสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพ และขอนำมาเสกวาระสุดท้ายที่วัดท่าขนุน อาตมาก็เหลือวันนี้วันเดียวให้ท่าน จึงบอกไปว่าเป็นวันที่ ๒๒ สิงหาคม และในเมื่อท่านจะสร้าง อาตมาเองเมื่อหล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินแล้ว ก็ยังเหลือเงินชนวนอยู่อีก ๘๓ กิโลกรัมเศษ จึงขออนุญาตท่าน ดร.จักรกฤชว่า จะสร้างพระกริ่งและขอใช้ชื่อว่าพระกริ่งสะท้านไตรภพด้วย แต่จะเป็นแบบของวัดท่าขนุน ท่าน ดร.จักรกฤชก็ตกลง

อาตมาจึงให้ช่างเอาเนื้อชนวนหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพร
เนื้อเงิน ไปหล่อเป็นพระกริ่งขึ้นมา ที่ท่านทั้งหลายกำลังจองกันอยู่ เป็นเนื้อชนวนล้วน ๆ ไม่ได้ผสมอะไรเลย ตอนหล่อบรรดาท่านผู้ไปควบคุมการหล่อเผ่นหนีจากวงตรงนั้นกันหมด บอกว่าพลังงานที่ลงมาแรงมากจนทานไม่ไหว โดยเฉพาะเวลาถ่ายรูปแล้วมีปรากฏการณ์พิเศษต่าง ๆ ขึ้นมาด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 26-08-2020, 06:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วด้วยความที่คณะผู้จัดทำอยากจะได้อะไรที่ดี ๆ มาก ๆ ตามประสาคนโลภ..! ก็ขออนุญาตนำไปเข้าพิธีที่มณฑปหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท อาตมาเองนั้นก็แล้วแต่คนสร้าง พูดง่าย ๆ ก็คือ ตามใจคนจัด ขัดใจคนดู อะไรประมาณนั้น

ปรากฏว่าตอนเข้าพิธีเสก หลวงพ่อกวยท่านบอกว่า “ไม่มีอะไรจะเติมให้แล้ว เต็มหมดตั้งแต่แรกแล้ว” เนื่องเพราะว่าตอนที่หล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงิน พระท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์ ตอนหล่อพระกริ่ง พระท่านก็เสด็จมาสงเคราะห์

และโดยเฉพาะพระรุ่นนี้ ตอนแรกอาตมาตั้งใจบรรจุเกศาของตนเองเป็นรุ่นแรกเลย ปกติแล้วไม่เคยเอาเกศาตัวเองไปทำพระ ก็ปรากฏว่ามีคำสั่งมาว่าให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย เมื่อกราบเรียนถามถึงเหตุผล พระท่านบอกว่า พระบรมสารีริกธาตุถ้านับเป็นวัตถุมงคล ก็เป็นวัตถุมงคลที่ใกล้ชิดองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นที่สุด เพราะว่าคืออัฐิของพระองค์ท่านเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 26-08-2020, 06:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อทราบเหตุผลเช่นนั้น ก็ไปบอกทางช่างว่า ให้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วย แล้วอาตมาก็ขนพระบรมสารีริกธาตุของตนเองไปให้ ปรากฏว่าพอช่างเห็นเข้าบอกว่า “ขออนุญาตไม่คืนนะครับ” พูดง่าย ๆ ก็คือ บรรจุเหลือเท่าไรเขาอมหมด..!

เหตุที่ช่างขออนุญาตไม่คืน เพราะว่าพระบรมสารีริกธาตุของแท้กับของเทียมต่างกันเหมือนฟ้ากับเหว ของแท้ถึงเหมือนเม็ดข้าวสารแตก ข้าวสารหัก เหมือนกับปลายข้าวก็จริง แต่จะมีรัศมีสดใสแวววาวมาก ส่วนของเทียมที่ทางท่าพระจันทร์ทำขึ้นมาเป็นคันรถ ๆ นั้นดูไม่ได้เลย เหมือนกรวดเหมือนทรายธรรมดา

ด้วยความที่ว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้วตามด้วยเกศา พระรุ่นนี้ร้อยละ ๙๙ เขย่าแล้วกริ่งจะไม่ดัง เพราะว่าเกศาอาตมาอุดแน่นไปหน่อย ...(หัวเราะ)... หลายท่านบอกว่า โบราณเขาถือเคล็ด พระกริ่งถ้าเขย่าไม่ดังแสดงว่าขลังมาก ระดับมหาอุดหยุดปืนเลยทีเดียว รุ่นนี้ไม่ได้ขลังอะไรมากมายหรอก แค่อัดเกศาเข้าไป กริ่งก็เลยไม่ขยับ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าของใครเขย่าแล้วดัง เอามาแลกองค์ที่ไม่ดังได้นะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 26-08-2020, 06:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คราวนี้การที่นำของเข้าพิธีในวันพรุ่งนี้ ก็ต้องดูคณะของท่าน ดร.จักรกฤชว่า ท่านจะนำวัตถุมงคลมาถึงเวลาไหน เพราะว่าท่านเป็นเจ้าของงาน อาตมาเองก็เป็นแค่ผู้อาศัยเหมือนกัน แต่ว่านัดแนะกันไว้แล้วว่าอย่างสายที่สุด ๐๙.๐๙ น. ต้องปลุกเสกได้ ถ้าช้ากว่านั้นจะจ่ายของไม่ทัน เพราะว่าญาติโยมมารอรับกันมาก

โดยเฉพาะวัตถุมงคลระยะหลัง ๆ ของวัดท่าขนุน ถ้าออกในเว็บ ก็มีการขนเอาลูกเด็กเล็กแดงมาช่วยกันจอง ถ้าให้จองนอกเว็บแบบวันนี้ ก็มีการจ้างคนมาเข้าคิวจอง คราวที่แล้วสมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตเนื้อทองคำกับเนื้อเงิน เขาไปกว้านเอามอเตอร์ไซค์วินมาหมดเลย แต่ละคนก็มายืนงง ๆ ว่านี่คืออะไร ? ทำไมเขาจ้างเราตั้งแพงให้มาช่วยจอง ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 26-08-2020, 06:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้ก็มีรายหนึ่งมาจากหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรีนี่เอง จ้างเด็กมา ๕๐ คน เหมารถมา ได้ยินเด็กบอกว่าเดี๋ยวต้องไปขึ้นค่าแรง..! ก็ดีเหมือนกัน คืออาตมาไม่ได้หวง ไม่ได้ห้าม ถือว่าใครเข้าคิวทันก็เป็นสิทธิ์ของคนนั้น เพราะว่ากติกาของวัดท่าขนุนชัดเจนมาก "ไม่มีเส้น..ใครมาก่อนได้ก่อน" ดังนั้น..ในเมื่อคุณมีความสามารถ หาเม็ดเงินมาได้ ๕๐ กิโลกรัม หาเด็กมาได้ ๕๐ คน ก็แล้วแต่คุณเถอะ จองแล้วจะเอาไปขายแพงเท่าไรก็เรื่องของคุณ เพราะว่าอาตมามีหน้าที่แค่ทำ

แต่ขอให้รู้ว่า ถ้าพระกริ่งสะท้านไตรภพของทางมูลนิธิสามสมเด็จอาจจะหน้าตาต่างกันไป แต่เป็นพระกริ่งรุ่นเดียวกัน ของวัดท่าขนุนนั้นมีการยิงเลเซอร์ที่ใต้ฐาน ตอนแรกอาตมาว่าจะตอกโค้ดเพิ่มด้วย แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า ขนาดนั้นก็ควรที่จะพอแล้ว เพราะว่าอันดับแรก...เป็นเนื้อชนวนหลวงพ่อเงินล้วน ๆ ที่อื่นเขาไม่ค่อยกล้าลงทุนกันหรอก กลัวขาดทุน ประการที่สอง...การบรรจุกริ่งของเรานั้น เมื่อบรรจุแล้วขัดฐานเรียบก่อนที่จะยิงเลเซอร์ ถ้าตาไม่ดีจะไม่เห็นเลยว่าบรรจุตรงไหน ประการสุดท้าย...ส่วนใหญ่กริ่งเขย่าไม่ดัง ถ้าดังให้ระแวงไว้ก่อนว่าเป็นของปลอม ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 26-08-2020, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(มีผู้ถวายวัตถุมงคล) ถ้าไม่ใช่คนที่เป็นแฟนโขนนี่จะไม่รู้เลยนะว่าเป็นรูปใคร รู้จักไหม ? ท้าวเวสสุวรรณ...เจ้าพ่อยักษ์ ถ้าพวกเราไม่ชินกับโขนนี่ดูไม่ออก ถ้าเป็นลิงก็ต้องดูว่าสีอะไร ใช้อาวุธอะไร เพราะว่าพญาลิง ๑๘ มงกุฎ ...นิลเอกนิลนนท์นิลขัน สุรเสนสุรกานต์ทหารใหญ่ อีกชามพูวราชฤทธิไกร มีอายุได้โกฏิปีปลาย... อันนั้นพวกเรามักจะแยกไม่ออกหรอก

ยกเว้นพญาลิงบางตัวใส่มงกุฎเพราะว่าเป็นเจ้าเมือง อย่างพญาสุครีพ พญาพาลี แต่คราวนี้ก็ยังต้องมาแยกกันว่า ถ้าเป็นพญาสุครีพจะผิวกายสีแดงเพราะว่าเป็นลูกพระอาทิตย์ พญาพาลีผิวกายสีเขียวเพราะว่าเป็นลูกพระอินทร์ หน้าตาก็เหมือน ๆ กันนั่นแหละ ดังนั้น..ในส่วนนี้ถ้าโยมไม่ได้จำแม่นขนาดอาตมาก็จะลำบากหน่อย

คราวนี้เราดูว่าพญายักษ์ แต่พอเขาปั้นมาก็คือเทวดาดี ๆ นี่เอง เพียงแต่ปั้นหน้าเป็นยักษ์ ถ้าตะบองเกลียวสั้นก็จะเป็นท่านท้าววิรุฬหก ท่านจะล่ำสัน ก็คือมีเนื้อมีหนังมากกว่านี้ ถ้าท่านท้าวเวสสุวรรณก็หุ่นอย่างนี้ และที่ถือเป็นตะบองยาว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 26-08-2020, 09:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ไม่รู้จะภูมิใจดีหรือเปล่า ? ก็คือระยะนี้เขาบอกกันว่า วัตถุมงคลที่พระอาจารย์เล็กเสกจะขายได้ คนอื่นเสกขายไม่ออก อาตมาก็ยังขำ ๆ อยู่เหมือนกันว่า พระอาจารย์เล็กเสกขายได้และขายแพงด้วย แต่ที่อื่นนี่เขาต้องไล่แจก ก็ต้องบอกว่าคนเราทำบุญมาต่างกัน

อาตมาสร้างวัตถุมงคลทุกครั้งวัตถุประสงค์ต้องชัดเจนมาก และโดยเฉพาะต้องได้รับอนุญาตจากพระท่านถึงจะทำ อย่างการสร้างพระพุทธลีลาประทานพรองค์เล็กที่เปิดจองเป็นการทำบุญกฐิน นั่นอาตมาไม่ได้สร้าง แต่ว่าท่านอาจารย์พระมหาเอเป็นคนสร้าง โดยไปขออนุญาตพระเองแล้วนำมาเข้าพิธี เพราะท่านเห็นว่าหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรนั้น เคยมีส่วนเนื่องกับอาตมาในอดีต ถึงเวลาท่านก็มักจะมาสงเคราะห์เป็นพิเศษ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 26-08-2020, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ท่านอาจารย์พระมหาเอก็เลยเสียดายแบบองค์ใหญ่ว่าสวยมาก จึงขอย่อลงมาเป็นองค์เล็ก ปรากฏว่าคนจองเกินไปเป็นจำนวนมาก แล้วส่วนใหญ่ก็จองเอาไปขาย จึงมีหลายท่านที่ทิ้งจองเพราะว่าถึงเวลาแล้วขายไม่ได้ ขายไม่ทัน เนื่องจากว่าไปตั้งราคาไว้สูงมาก แล้วของก็ยังไม่ได้อยู่ในมือตัวเอง เป็นลักษณะของการจับเสือมือเปล่า

อาตมาก็เลยแจ้งทางทีมงานเว็บวัดท่าขนุนว่า ถ้าใครทิ้งจองไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ให้จัดการแบนไปตลอดชีวิตเลย..! แล้วถ้าใครสมัครในยูสเซอร์เนมใหม่ แต่ไอพีเก่าก็แบนต่อไปด้วย..! ถ้าไม่มีบทลงโทษแบบนี้เขาก็จะไม่เข็ด เรียกง่าย ๆ ว่าหาประโยชน์จากคนอื่น โดยเอาวัดท่าขนุนเป็นเครื่องมือหากินประการเดียว และโดยเฉพาะไปตัดโอกาสของคนอื่นที่เขาจะจองเพื่อเอาไปบูชาด้วยความศรัทธา

เพราะฉะนั้น..ให้สังเกตว่าตั้งแต่การจองพระพุทธลีลาประทานพรก็ดี สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตก็ดี เจ้าหน้าที่เว็บวัดท่าขนุนจะลงเอาไว้ว่า ถ้าท่านทิ้งจองจะโดนแบนตลอดชีวิต จัดอยู่ในกลุ่มพิเศษ ต้องได้รับการดูแลต่างจากคนอื่นเขา..!

ดังนั้น..ใครยังมีความประพฤติเช่นนี้อยู่ ขอให้ทำไปเรื่อย ๆ จะดูว่าท่านสามารถหาเครื่องคอมพิวเตอร์มาเพื่อสร้างยูสเซอร์เนมใหม่ได้สักกี่เครื่อง ? เพราะว่าถ้าซ้ำเครื่องเดิมเมื่อไร ไอพีเดิมโผล่มาก็จะโดนแบนทันที..! อาตมาไม่ได้โหด แต่ไม่ชอบคนที่โกงไปโกงมา ชอบแต่คนตรงไปตรงมา ถ้าจะหากินกับทางวัดก็ควรเอาแค่พอประมาณ ไม่ใช่เล่นกันทีหนึ่งรวยไปเลย โบราณเขาบอกว่า ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน อาตมาเองก็ไม่ค่อยชอบคนที่เอาเปรียบ แล้วไปตัดโอกาสคนอื่นเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 26-08-2020, 09:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เหลือเวลาไม่กี่นาที ใครที่เอาเม็ดเงินมาแลกไม่ทันก็กลับไปนอนก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ที่วัดท่าขนุนของเราเอางานสงฆ์เป็นใหญ่ การสวดมนต์ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐานเป็นหลัก งานอื่นถือว่ารอได้ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าหากว่าถึงเวลาที่กิจกรรมของวัดมาถึงรอบ ก็จะดำเนินการไปเลย โดยทิ้งงานอื่นไว้ก่อน

ต้องบอกว่าไม่กลัวโยมจะไม่จอง หรือไม่กลัววัตถุมงคลจะขายไม่ออก วัตถุมงคลวัดท่าขนุนนี่สร้างสถิติอนาถใจให้เจ้าอาวาสมาตั้งแต่รุ่นแรก ๆ แล้ว คือถ้าเจ้าอาวาสอยากได้วัตถุมงคลรุ่นไหนก็ต้องบูชาเองด้วย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มี ออกมาเมื่อไรเป็นหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 26-08-2020, 09:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(กล่าวตักเตือนโยม) เวลาถ่ายรูปไปลงโซเชียลอย่ายก ๓ นิ้วนะ จะพาให้วัดซวยไปด้วย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 26-08-2020, 09:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เดี๋ยวพอพระทำวัตรค่ำเสร็จ ศาลาหลังนี้ก็จะปิดไปเลย ญาติโยมไม่มีโอกาสได้นั่งแช่ เหตุเพราะว่าทรัพย์สินในศาลานี้ราคาหลายร้อยล้านบาท มีระบบป้องกันทั้งสัญญาณภัย ทั้งวงจรปิด ทั้งคนเฝ้า โดยเฉพาะบางวันวิ่งกันหูตาเหลือก เพราะว่าสัญญาณภัยดังขึ้น สรุปว่าสาเหตุเกิดจากจิ้งจกไปตัดระบบพอดี...! ซึ่งความจริงถ้าคลานอยู่ตามปกติ ระดับจิ้งจกนี่สัญญาณจะไม่ดัง แต่ดันทะลึ่งไปคลานผ่านกล่องตรงจุดยิงสัญญาณพอดี ตำรวจเลยเดือดร้อนกันหมด เพราะคิดว่าวัดโดนปล้นแล้ว..!

ถ้าหากว่าญาติโยมดูที่มณฑปจะเห็นพระพุทธรูปเงิน ทองคำ และนากอยู่ ๓ องค์ พระพุทธรูปเงินหล่อจากเม็ดเงิน ๑๕๐ กิโลกรัม มูลค่าราว ๆ ๔ ล้านบาท พระพุทธรูปทองคำหล่อจากทองคำ ๙๗.๕๗๕ กิโลกรัม มูลค่า ๓๑๑ ล้านบาทเศษ นั่นตอนทองคำบาทละ ๑๘,๓๐๐ บาท ปัจจุบันนี้ถ้าคิดราคาใหม่ก็น่าจะแพงหูดับกว่านั้นอีก พระพุทธรูปนากหล่อจากทองคำ ทองแดง และเงินรวมกัน ๑๖๐ กิโลกรัม เป็นทองคำ ๓๗.๕ กิโลกรัม มูลค่า ๔๓ ล้านบาทเศษ

ส่วนหลวงพ่อพระพุทธลีลาประทานพรด้านขวามืออาตมาบนมณฑป หล่อจากเม็ดเงิน ๑๕๑ กิโลกรัม มูลค่า ๓ ล้านบาทเศษ ซึ่งถ้าหากว่าเป็นราคาตอนนี้ก็น่าจะขึ้นไปเกือบเท่าตัวแล้ว ยังดีที่รีบหล่อเสร็จก่อนที่ราคาจะแพงไปกว่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 26-08-2020, 09:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วัตถุมงคลวัดท่าขนุนที่เข้าพิธีงวดนี้ มีพระพุทธลีลาประทานพรองค์ขนาดบูชา ๙๙๙ องค์ มีเหรียญ มจร. หรือเหรียญในหลวง ร.๕ ที่งามสุด ๆ ฝีมือออกแบบของนายช่างปัทม์ บุณยรังค สำหรับหาทุนสร้างวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี มีเนื้อตะกั่ว ทองแดง และเงิน เป็นต้น

แล้วก็มีเบี้ยแก้สารพัดกันที่อาตมาเรียนวิชามาแล้วไม่อยากทิ้งไปเฉย ๆ ก็เลยทดลองทำดู แต่ว่าสิ่งที่บรรจุนั้นต่างจากสำนักอื่น เพราะว่านอกจากบรรจุน้ำปรอทหนัก ๑ บาทปกติแล้ว ก็ยังใส่ปรอทสำเร็จลงไปด้วย ปรอทสำเร็จเป็นปรอทที่เสกจนแข็งตัวเหมือนกับเม็ดทราย เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นเบี้ยแก้บรรจุปรอทของทางวัดท่าขนุน เวลาเขย่าจะมีเสียงเหมือนมีเม็ดทรายอยู่ข้างใน สามารถไปเอ็กซเรย์ดูได้ ไม่ใช่ทราย แต่เป็นปรอทที่เสกจนแข็งตัวแล้วปนอยู่ในน้ำปรอท
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 26-08-2020, 09:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเห็นว่าไม่ถึงคิวเราแน่แล้วก็กลับไปนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยมาใหม่ อาตมาเป็นคนคำนวณผลได้ผลเสียเร็วมาก แล้วตัดสินใจเด็ดขาด อะไรที่ตัดสินใจไปแล้วถ้าพลาดจะไม่เสียใจ เพราะถือว่าได้ ก็คือได้บทเรียน ตัดสินใจถูกได้กำไร ตัดสินใจผิดได้บทเรียน ไม่มีเสีย มีแต่ได้เท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-08-2020 เมื่อ 13:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 27-08-2020, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(หลังทำวัตรรอบค่ำ)

วัดนี้ทำวัตรสองรอบ รอบแรกถวายหลวงปู่อดีตเจ้าอาวาส รอบสองถวายพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โยมอาจจะไม่เคยเจอวัดที่ทำวัตร ๒ รอบ ๓ รอบ

การสวดมนต์ทำวัตร ถ้าเราทำเป็น แม้แต่จะไปพระนิพพานก็ได้ การสวดมนต์อันดับแรกเลยก็คือได้สมาธิ ให้สังเกตว่าถ้าวันไหนสมาธิไม่ดีเราจะสวดผิด เผลอสติเมื่อไรก็สวดผิด อันดับต่อไป ถ้าจะเอามากกว่านั้นที่ไม่ใช่สมาธิขั้นต้น ต้องการทรงฌานไปเลย ก็ใช้คำสวดมนต์แทนคำภาวนา ก็ถือว่าเป็นคำภาวนาที่ค่อนข้างจะยาวอยู่หน่อยหนึ่ง

ถ้าจะเอาให้มากกว่านั้นอีกก็ทำเป็นทิพจักขุญาณ ถึงเวลาสวดมนต์ก็นึกถึงตัวหนังสือคำสวดของเราขึ้นมาเป็นคำ ๆ อยู่ตรงหน้า ถ้าสามารถเห็นตัวหนังสือได้ชัดเจนเท่าไร เราก็เห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเจนเท่านั้น อันดับสุดท้าย ถ้าหากว่าใครสามารถยกจิตขึ้นไปสวดถวายพระบนพระนิพพานได้ ก็ให้ทำอย่างนั้น ตายตอนนั้นก็อยู่บนพระนิพพานไปเลย

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 27-08-2020, 23:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล (สะอิ้ง สิรินนฺโท) ท่านพูดถึงอานิสงส์การสวดมนต์เมื่อไร ท่านก็จะถามว่า รู้ไหมว่าคนเราที่ตาย ๆ กัน มีสาเหตุกี่อย่าง ? ท่านบอกว่า ในโลกนี้ที่ตายกันอยู่นะ สาเหตุแรกคืออดตาย..ไม่มีจะกิน ดูอย่างทางแอฟริกา ขนาดอีแร้งมายืนรอเลยว่าจะตายเมื่อไร อันดับที่สอง...ป่วยตาย อันดับที่สาม...อุบัติเหตุตาย อันดับที่สี่...แก่ตาย

ท่านบอกว่า อดตายเพราะว่าในอดีตไม่เคยให้ทานไว้ ขาดทานบารมี เพราะฉะนั้น..ถ้าให้ทานนี่ป้องกันการอดตายได้ ป่วยตายเพราะว่าเราฆ่าสัตว์ตัดชีวิตไว้บ่อย ดังนั้น..ถ้าหากว่าเรารักษาศีลเป็นปกติ โดยเฉพาะศีลข้อที่ ๑ จะป้องกันการป่วยตายได้

สำหรับอุบัติเหตุตาย ท่านบอกว่าขาดบุญรักษา ขาดเทวดารักษา วิธีแก้ก็คือ ขยันหมั่นสวดมนต์บ่อย ๆ นอกจากสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตัวเองแล้ว เทวดาท่านชอบใจยังตามรักษาอีกด้วย เพราะฉะนั้น..ให้สังเกตว่าถ้าวันไหนเราเผลอลืมสวดมนต์ไหว้พระ ออกรถไปอาจจะมีสิทธิ์โดนเฉี่ยวโดนชน ท่านบอกว่าที่แก้ไม่ได้มีอยู่อย่างเดียวคือแก่ตาย ธรรมะอะไรก็แก้ไม่ได้ จงยอมตายเสียเถอะ..!

เพราะฉะนั้น..จะเห็นว่าอานิสงส์ของการสวดมนต์สามารถป้องกันอุบัติเหตุได้ แต่คราวนี้เราต้องมอบกายถวายชีวิตต่อพระรัตนตรัยจริง ๆ ยึดท่านเป็นที่พึ่งเหมือนไม่มีอะไรในโลกนี้ให้เรายึดแล้ว ถ้าเปรียบไปก็เหมือนกับคนตกเหวแล้วไปคว้าเถาวัลย์เอาไว้ได้ ต้องยึดสุดชีวิตขนาดไหนก็ยึดแบบนั้นแหละ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 27-08-2020, 23:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมจะเห็นว่า ไม่ว่าจะอดตาย ป่วยตาย อุบัติเหตุตาย แก้ได้หมด แต่ถ้าแก่ตายนี่ปล่อยไปเถอะ เพราะว่าแก่แล้ว สมัยนี้อายุขัยของคนก็แค่ ๗๔ ปีครึ่ง นับจากไหน ? ก็นับจากอายุพระพุทธศาสนา กาลเวลาผ่านไป ๑๐๐ ปี อายุขัยของมนุษย์เสื่อมทรามลงไป ๑ ปี ตอนนี้ผ่านไปประมาณ ๒,๕๖๓ ปี ก็หายไป ๒๕ ปี ๖ เดือนกว่า ๆ ลบจากอายุขัยของมนุษย์ ๑๐๐ ปี ก็จะเหลือประมาณ ๗๔ ปีนิด ๆ ใครยังไม่ถึงให้พยายามหายใจไว้ ถ้าหากว่าใครถึงแล้วที่เหลืออยู่ก็เป็นกำไรล้วน ๆ

ที่บอกให้หายใจไว้นี่ไม่ได้พูดเล่นนะ คนเราตายเพราะอะไร ? อายุกขยะ คือหมดอายุ มีอยู่แค่นั้น...เกินนั้นไม่ได้ อาหารักขยะ หมดอาหาร อาหารนี้มีหลายอย่าง มีตั้งแต่กวฬิงการาหาร อาหารคือข้าวคือน้ำตามปกติ ผัสสาหาร อาหารคือลมหายใจเข้าออก คราวนี้เห็นหรือยังว่าถ้าหายใจไว้นี่จะไม่ตาย วิญญาณาหาร อาหารคือสิ่งที่ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ต้องการ ตาเห็นรูปสวย ๆ หูได้ยินเสียงเพราะ ๆ จมูกได้กลิ่นหอม ๆ ลิ้นได้รสอร่อย กายสัมผัสที่นุ่มนวลชวนสัมผัส รู้สึกชื่นใจก็อยู่ไปได้อีกหน่อยหนึ่ง

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าใครมีพ่อมีปู่แก่ ๆ เอาไปรักษาในโรงพยาบาล ก็ให้จ้างนางพยาบาลสวย ๆ ไว้ เผื่อจะได้อยู่ได้อีกหน่อยหนึ่ง..! แต่ถ้าหากว่าอยากให้ไปเร็ว ๆ ก็ต้องจ้างที่ตรงกันข้ามเอาไว้ ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 27-08-2020, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ปุญญักขยะ ตายเพราะว่าหมดบุญ หมดบุญก็ตายได้นะ กำลังส่งมาได้แค่นั้น กัมมักขยะ ตายเพราะหมดกรรม อ้าว...อันนี้ประหลาด ไม่ได้ประหลาดหรอก ให้ดูตัวอย่างพระภิกษุลูกศิษย์พระสารีบุตร ตั้งแต่เกิดมาจนพระสารีบุตรไปพบก็น่าจะอายุเกิน ๒๐ ปี สร้างกรรมหนักเอาไว้ วันหนึ่งกินอาหารเป็นข้าวได้ไม่เกิน ๗ เม็ด ถ้าเกินนั้นเมื่อไร อาหารทั้งหมดจะหายไปจากตรงหน้า ต่อให้กองอยู่ก็มองไม่เห็น จับต้องก็ไม่ได้ เพราะว่าอดีตชาติสร้างกรรมกับพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้หนักมาก กรรมรักษาจริง ๆ กินแค่ข้าววันละ ๗ เม็ด อยู่มาได้อย่างไร ๒๐ กว่าปี

จนกระทั่งพระสารีบุตรไปพบเข้าก็เลยชวนมาบวช บวชแล้วออกบิณฑบาตก็ไม่มีคนใส่บาตรให้ พระสารีบุตรต้องกล่าวว่า “อาวุโส เธอจงอยู่ที่วัดเถอะ เราจะบิณฑบาตเลี้ยงเอง” บิณฑบาตได้อาหารมา เอาไปส่งให้ ท่านก็มองไม่เห็น เห็นแต่บาตรเปล่า ๆ พระสารีบุตรต้องยืนจับบาตรไว้ ท่านจึงสามารถที่จะหยิบอาหารไปฉันได้

ในชีวิตได้ฉันอาหารอิ่มครั้งเดียวก็ตอนนั้นแหละ ร่างกายสบายขึ้นมาก็พิจารณาธรรมเห็นว่า ตลอดที่อยู่มา ๒๐ กว่าปีนี้ทุกข์เหลือเกิน ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาทุกข์เช่นนี้เราไม่เอาอีกแล้ว จิตปลดจากการยึดเกาะในร่างกาย เป็นพระอรหันต์ก็นิพพานเลย..หมดกรรมแล้ว

เราเองไม่ว่าจะหมดอาหาร หมดอายุ หมดบุญ หมดกรรม ก็ตายทั้งนั้น ความตายอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก เพราะฉะนั้น..วิธีที่ผู้ฉลาดเขาทำกันก็คือสั่งสมบุญ ไม่ได้สะสมบุญเพื่อให้อายุยืน เพราะว่าอย่างไรก็ต้องตาย สะสมบุญไว้เป็นเสบียงเพื่อเดินทางไกลข้ามวัฏสงสาร คนเราถ้าข้าวของเครื่องใช้เสบียงอาหารพร้อม เดินทางไกลเท่าไรก็ไม่ท้อ แต่ถ้าไม่ได้สะสมอะไรไว้เลย ถึงเวลาก็จะลำบากมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 27-08-2020, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ญาติโยมส่วนใหญ่มาวันนี้ได้นำเม็ดเงินมาแลกพระ โดยวัตถุประสงค์ก็คือเม็ดเงินนั้นจะได้หล่อพระปัจเจกพุทธเจ้าหน้าตัก ๔๐ นิ้ว ๑ องค์ พระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องความสูง ๑๕๕ ซม. อีก ๑ องค์ วันนี้ผู้ประสานงานแจ้งข่าวดีว่า ที่บอกว่าพระปัจเจกพุทธเจ้าใช้เม็ดเงิน ๗๐๐ กิโลกรัมนั้น ได้แค่องค์พระ ต้องมีฐานอีก ๓๐๐ กิโลกรัม เวรละกู..! เอาเถอะ...ญาติโยมก็จะได้สร้างฐานพระไปด้วย

การที่เราสร้างอาสนะก็ดี ฐานพระก็ดี ธรรมาสน์ก็ดี ตาลปัตรก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเผลอเกิดใหม่เมื่อไร จะมีอานิสงส์เหมือนกับอาตมา คือต่อให้ซ่อนอยู่ข้างหลังก็โดนเขาถีบออกไปข้างหน้า..! เพราะว่าเครื่องทั้งหลายเหล่านี้เสริมให้คนอื่นเด่น ถึงเวลาถ้าเราทำบุญแล้ว ต่อให้ต้องการหรือไม่ต้องการก็จะเด่นเอง เพียงแต่ว่าถ้าใครทำตอนนี้ก็ต้องรอชาติหน้านะ เขาบอกว่าทำบุญต้องรอชาติหน้า ถ้าทำหน้าจะได้ชาตินี้..! แต่ถ้าหากว่าทำหน้าก็อย่าเผลอไปให้ใครตบเข้า..เป็นเรื่องแน่ ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 27-08-2020, 23:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(สนทนาก่อนบวงสรวงพุทธาภิเษก)

การไหว้หนุมานที่แท้จริงก็คือ ไหว้ในส่วนของคุณความดี ปฏิบัติให้ดีได้อย่างท่าน หนุมานเป็นแค่เปลือก เพราะว่าฮินดูเขาเก่ง เขาตั้งเทวดาได้ การเคารพกราบไหว้เทวดานั้นจัดเป็นเทวตานุสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งสอนเอาไว้

ส่วนใหญ่แล้วฮินดูเขาขอเทวดาให้สงเคราะห์อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งลักษณะอย่างนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง เพราะว่าทุกอย่างในโลกนี้ที่เป็นไปนั้น เป็นไปโดยเหตุและผล ถ้าท่านสร้างเหตุเพียงพอ ผลก็จะเกิด ถ้าสร้างเหตุไม่พอนี่ ขอให้ตายก็ไม่ได้

เราอาจจะสงสัยว่า สถานที่นั้นเขาลือว่าศักดิ์สิทธิ์นักหนา ใครไปบนขออะไรก็ได้ ทำไมเราบนแล้วไม่ได้ ? ก็เพราะว่าเหตุที่เราสร้างยังไม่เพียงพอ ผลจึงยังไม่เกิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 27-08-2020, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,443
ได้ให้อนุโมทนา: 151,071
ได้รับอนุโมทนา 4,399,685 ครั้ง ใน 34,032 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ในเมื่อสิ่งที่ชาวฮินดูเขาทำ ก็คือการแสดงความเคารพซึ่งเทวดาเหมือนกัน จึงต้องเดือดร้อนถึง ๒ ท่าน ท่านแรกก็คือท้าวสักกะเทวราช หรือที่เราเรียกง่าย ๆ ว่าพระอินทร์ ท่านที่สองก็คือท้าวสหัมบดีพรหม ท้ัง ๒ ท่านก็ต้องจัดเทวดาหรือพรหมที่มีศักดานุภาพใกล้เคียงกับที่เขาจินตนาการเอาไว้ ให้มารับหน้าที่เทวดาองค์นั้น ๆ

ดังนั้นหลายท่านก็อาจจะไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร อาตมาเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านเป็นใคร ยกเว้นว่ามีเหตุจำเป็นต้องเกี่ยวข้องสัมผัสกัน ก็จะสอบถามท่าน แล้วด้วยความที่เป็นคนปากไม่มีหูรูด พวกฆ้องปากแตก ถึงเวลาทราบแล้วก็บอกต่อไปเรื่อย ขอให้โยมเข้าใจว่าสิ่งที่อาตมาบอกนี่ฝันเอาเองนะ ความฝันจะเป็นจริงหรือไม่เป็นจริงก็ได้

สรุปว่า...เทพหนุมานเป็นพรหมชั้นที่ ๓ ที่เราเรียกว่า มหาพรหมถ้าหากว่าจะบูชาท่าน ก็คือทำตัวให้ได้อย่างท่าน ประกอบด้วยพรหมวิหาร ๔ ทรงฌานสมาบัติได้ ถ้าอย่างนั้นท่านจะรักมากและตั้งใจสงเคราะห์ แต่ถ้าใครเอาแต่ขอให้ช่วยอย่างเดียวก็อาจจะโดนประเภทขอมาก ๆ กูก็เฉยซะ ฉะนั้น...ใครจะลองขอดูก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-08-2020 เมื่อ 02:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:00



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว