|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#81
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “เรื่องของเงินสงฆ์นี่ลำบาก พลาดบาทเดียวก็ซวยไม่รู้จบ อาตมาเองหมดอยากในเงินทองอย่างสิ้นเชิงก็ครั้งที่นับเหรียญที่วัดท่าซุงนั่นแหละ ตั้งแต่สี่ห้าโมงเย็นไปเสร็จเอาตีสอง..! ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ๓๐ กว่าปีนี่ไม่แลเงินเลย”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:06 |
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#82
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อากาศจะยังทรงตัวนิ่ง ๆ ไปอีกหลายวัน ใครที่ยังไม่คิดจะใส่เสื้อกันหนาวก็รีบเอาออกมา ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีโอกาสใส่..! บ้านเราฤดูกาลผีเข้าผีออก
สหรัฐอเมริกากับออสเตรเลียไฟป่าไหม้ หลายประเทศแผ่นดินไหว แม้กระทั่งลาวและบ้านเราก็แผ่นดินไหว แต่บางพื้นที่หิมะตกท่วมสูงเป็นเมตร เป็นลักษณะของโลกที่กำลังเยียวยารักษาตัวเองอยู่ ดังนั้น..อย่าทำร้ายโลกมากเกินไป คนรุ่นเก่า ๆ โดยเฉพาะชาวป่าชาวเขาให้ความเคารพแม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระเพลิง แม่พระพาย แม่โพสพ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล ในเมื่อเขาให้ความเคารพ ถึงเวลาปฏิบัติด้วยความเกรงใจ ก็ไม่ทำลายธรรมชาติมากจนกระทั่งเสียหายอย่างทุกวันนี้ สมัยนี้ไม่ไหว ประเภทบุกรุกป่าไม่รู้กี่ร้อยไร่ ส่งคืนเป็นอันว่าหมดความผิด ทุเรศมากเลย เอ๊ะ...เกี่ยวกันหรือเปล่าหว่า..!?”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:07 |
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#83
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าเจอธนบัตรรุ่นนี้ใหม่ ๆ ก็เก็บไว้บ้างนะ ข้างหลังเขาเขียนว่า โทษฐานปลอมแปลงธนบัตร คือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกอย่างสูง ๒๐ ปี และปรับอย่างสูงสี่หมื่นบาท เป็นรุ่นที่ออกมาแวบเดียวแล้วก็หมด เพราะข้อความที่ถูกต้องเขาบอกว่า การปลอมแปลงธนบัตรเป็นความผิด ต้องระวางโทษตามประมวลกฎหมายอาญา...แค่นี้ ถ้าใครเจอรุ่นนี้ก็เก็บ ๆ ไว้บ้าง เพราะว่าเป็นของหายาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:08 |
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#84
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้จะมีพยุหยาตราทางชลมารค เสด็จเลียบพระนคร ปกติการเสด็จเลียบพระนครส่วนใหญ่ไปทางสถลมารค...ทางบก ชลมารค...ทางน้ำ นี่น่าจะเป็นครั้งแรก เพราะว่าการเสด็จเลียบพระนครนั้นวัตถุประสงค์แต่ดั้งเดิม ๒ อย่าง อย่างแรกคือเหมือนกับตรวจพื้นที่ พื้นที่ภายใต้การปกครองมีกว้างยาวเท่าไร หน้าตาเป็นอย่างไร ประการที่สองก็เพื่อที่จะได้ดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน อยู่ดีกินดีหรือลำบากยากจนอย่างไร จะได้ให้การช่วยเหลือแก้ไขได้ถูก
สมัยก่อนพระราชาเสด็จ ต้องเรียกว่าปะปนกับชาวบ้านทั่วไปเพื่อไปดูงาน ลักษณะเดียวกับรัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้น แม้แต่ในพระไตรปิฎกก็ระบุเอาไว้ ที่กล่าวถึงบุคคลผู้นอนไม่หลับมีกี่ประเภท บุคคลผู้นอนไม่หลับ ประกอบไปด้วย ๑. ชายผู้ครุ่นคิดถึงหญิง ๒. หญิงผู้ครุ่นคิดถึงชาย พอกันทั้งคู่ ๓. โจรร้ายผู้ประสงค์ต่อทรัพย์ ตั้งใจจะขโมยเขา หลับไม่ได้ หลับก็ไม่ได้ขโมย ๔. พระราชาผู้ขยันเสด็จออกประกอบราชภารกิจ ตรวจงานกลางคืน กลางวันผู้คนมากหน้าหลายตา ไปไม่สะดวก อาจจะมีการปองร้ายกันด้วย ๕. ภิกษุผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ลุกขึ้นเจริญกรรมฐานหวังความหลุดพ้น เห็นมีข่าวตลก ๆ ของต่างประเทศหลายที่ เข้าไปขโมยของเสร็จแล้วนอนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งเจ้าของบ้านเรียกตำรวจมาลากตัวยังไม่อยากจะตื่น อย่างนั้นต้องบอกว่าเป็นขโมยแล้วไม่รุ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:10 |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#85
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "รอบนี้ไปภูเก็ต คณะของสตูลบอกว่านิมนต์แวะสตูลด้วย อื้อหือ...ภูเก็ต - สตูล ไม่รู้จะไปทางไหนดี เพราะว่าภูเก็ตวิ่งมาสตูล ก็นั่งรถอ้วกกันพอดี แต่ว่าโยมที่นั่นก็มาก...ในเมื่อจำเป็น ไกลก็ไกลวะ...!
ระยะหลังเวลามีน้อยลงไปเรื่อย ๆ ไม่เหมือนก่อนที่เลาะไปแทบทุกจังหวัดได้ ลงไปหาดใหญ่รอบนี้ ญาติโยมทางสตูล ภูเก็ต กระบี่ ยะลา ปัตตานี หรือแม้กระทั่งทางด้านบนอย่างนครศรีธรรมราช พัทลุง ก็แวะลงไป ถ้าไม่เช่นนั้นสมัยก่อนก็แวะลงนครศรีธรรมราชแล้วค่อย ๆ เลาะลงไปทีละจังหวัด สมัยนี้เวลามีน้อย จังหวัดไหนมีสนามบินก็ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าไม่มีสนามบินอาตมาก็ไม่ได้แวะ โดยเฉพาะโยมทางปัตตานีกับนราธิวาส น่าเป็นห่วงมาก เพราะว่าอยู่ในพื้นที่ล่อแหลม ปัตตานี ยะลา นราธิวาส นี่อย่างไรเขาก็จะเอาให้ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:12 |
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#86
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ปิดกระทู้ร่วมสร้างเมรุวัดปรังกาสี เพราะว่าได้เงินตามที่ต้องการแล้ว คือ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ปิดกระทู้สร้างพระจุฬามณีเจดีย์สวรรค์ เพราะว่ายอดที่ท่านระบุไว้ว่า ๒ ล้านบาท ตอนนี้ได้ล้านกว่า ๆ ลงยอดไป ๒ ล้านบาท ขอควักกระเป๋าเองนิดหนึ่ง
ส่วนที่เปิดใหม่ก็คือกฐินปลดหนี้ ตั้งใจว่าจะไปช่วยสร้างพุทธมณฑลปัตตานี แต่เจ้าคุณชรัชท่านยังสองจิตสองใจอยู่ ท่านขอไปเกลี้ยกล่อมเจ้าภาพ เพราะว่าวัดตานีนรสโมสรเป็นวัดหลวง ถึงเวลากฐินหลวงจะมาโดยหน่วยราชการ อาตมากำหนดวันเวลาตายตัวไป ถ้าเกิดว่าทางหน่วยราชการเขาไม่สะดวก มาไม่ได้ ก็แปลว่าแห้ว..! ก็เลยยังไม่ได้ลงไว้ว่ากฐินปลดหนี้จะไปที่ไหน เพราะว่ามีแต่เวลาคือ ๒๔ ตุลาคม ๒๕๖๓ วันที่ ๒๓ เป็นวันหยุด ถ้าหากไปปัตตานีเราเดินทาง ๒๓-๒๔ ไปถึงทอดกฐินเดินทางกลับ วันที่ ๒๕ จะกลับถึงกรุงเทพฯ ก็จะสะดวกกับคนที่วันหยุดมีน้อย แต่คราวนี้ของท่านก็ต้องไปลุ้นกัน หน่วยราชการพอเอากฐินหลวงไปก็มักจะใช้วันทำงานปกติ เพราะว่าจะได้อู้ไปวันหนึ่ง ส่วนวันหยุดเก็บไว้ใช้ตามปกติของตัวเอง จะได้ไม่เสียวันหยุด จึงตั้งใจเอาไว้แค่นั้นก่อน ถ้าหากว่าได้ตามที่ต้องการ งานทางปักษ์ใต้ก็จะได้สะดวกขึ้น แต่ถ้าไม่ได้ตามที่ต้องการ ยังไม่ได้ดูว่าคิวถัดไปคือวัดอะไรเพราะตอนนี้คิวยาวประมาณ ๓ กิโลเมตร น่าจะคิวยาวพอกับกฐินวัดปากน้ำ กฐินวัดปากน้ำเจ้าภาพจองล่วงหน้าไป ๓๐๐ กว่าปี มีเจ้าภาพทุกปี ทุกคนบอกเหมือนกันหมดว่า ถ้าตายก่อนก็จะสั่งลูกสั่งหลานรับเป็นเจ้าภาพต่อ พ.ศ.นั้น พ.ศ.นี้ กฐินปลดหนี้ของอาตมา ถ้าอาตมาตายก่อนก็จบเลย ไม่มีใครทำต่อ หรือถ้ามีคนทำต่อก็ขออนุโมทนาด้วย คราวนี้เราตั้งไปสร้างพุทธมณฑลปัตตานี ต้องเห็นกำลังใจท่านเจ้าคุณชรัช นอกจากท่านกล้าลงไปในพื้นที่ซึ่งช่วงนั้นกำลังเดือดแล้ว ท่านยังกล้าสร้างพุทธมณฑลปัตตานี ในพื้นที่ที่ซึ่งเป็นอิสลาม ๙๐ เปอร์เซ็นต์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:15 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#87
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมามั่นใจว่าประเทศไทยพัฒนาไม่ทันใคร เพราะว่าคนไทยไม่ชอบนั่งข้างหน้า ถึงเวลาก็ย่องอยู่แต่ข้างหลัง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้มีคำพูดติดปากว่า มาก่อนนั่งข้างหลัง มาทีหลังนั่งข้างหน้า ส่วนอาตมาตั้งแต่เด็กก็เป็นเด็กหน้าห้อง ไม่ใช่เด็กหลังห้อง เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่เป็นเด็กหลังห้อง แม้กระทั่งมาเรียนปริญญาก็เป็นเด็กหน้าห้อง ไปนั่งกดดันอาจารย์..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:15 |
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#88
|
||||
|
||||
พูดถึงการรับรางวัล "มาออกดอกออกผลช่วงนี้ ทุกหน่วยงานที่เคยร่วมงานกัน เขาเห็นว่าสมควรจะได้ พระที่วัดท่านถามว่าเหนื่อยมา ๓๐ กว่าปี คุ้มหรือกับรางวัลแค่นี้ ? ก็บอกว่ารางวัลที่ได้มาจะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ตาม ส่วนหนึ่งก็คือเขาเห็นแล้วว่าสิ่งที่เราทำเพื่อประโยชน์คนอื่นจริง ๆ เพราะว่าต่อให้เขาจะให้รางวัล หรือว่าไม่ให้รางวัล เราก็ต้องทำ
เรื่องของการทำดี ถ้าเราทำเพราะอยากทำจะทำได้ทน ทำได้นาน ถ้าทำดีเพราะอยากดี ถึงเวลาดีไม่ตอบเราก็จะหมดกำลังใจ รางวัลพวกนี้เอาไว้สำหรับพวกหมดกำลังใจง่าย ๆ แต่บังเอิญว่ามาลงตรงนี้ก็รับ ๆ ไปเถอะ อาตมาได้เยอะเกินไปจนเพื่อนเขาหมั่นไส้ ถามว่ามึงจะเอาตู้ที่ไหนมาเก็บ ? รางวัลหน่วยอบรมประชาชนดีเด่นได้มา ๓ ปี รางวัลสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดดีเด่น ๕ ปี ต้องสละให้เขาไป ๔ ปี เพราะว่าหลวงพ่อวัดพระแท่นดงรังท่านมาปรึกษา “อาจารย์เล็ก ขอให้วัดที่ยังไม่เคยได้บ้าง” อาตมากราบเรียนว่า “ได้ครับ...ก็เปลี่ยนชื่อให้ท่านไปเลย” จำได้ว่าให้วัดเหนือไป ให้วัดใหม่เจริญผลไป ให้วัดทุ่งมะสังไป ให้วัดอุดมมงคลไป มาปีนี้เขาบอกว่าอย่างไรอาจารย์เล็กต้องรับนะครับ เพราะว่ามาทีไรก็ชื่อวัดท่าขนุนทุกที เอ้า...รับก็รับ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:17 |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#89
|
||||
|
||||
"วัดท่าขนุนได้ระดับประเทศมาแล้ว ตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ เป็นรางวัลสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งระดับประเทศนี่ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดมี ๑,๕๐๐ เกือบ ๑,๖๐๐ แห่ง มีแค่ประมาณ ๒๐๐ กว่าแห่งภายใน ๕-๖ ปีที่เขาให้มา นี่ก็เลยว่าในเมื่อเป็นระดับจังหวัด เราก็สละให้วัดอื่นที่เขาทำงานอยู่ ปรากฏว่าปีนี้เขาบอกว่าไม่ได้ อย่างไรก็ต้องเอา
เรื่องของการทำงานได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล ด้วยนิสัยเฉพาะตัวอาตมาก็ทำ รางวัลได้มาไม่ใช่ตัวเองดีใจนะ กลายเป็นญาติโยมกระตือรือร้นกันขึ้นมาอีกเยอะเลย เพราะเห็นว่าทำแล้วได้ เดี๋ยวนี้งานชุมชนคุณธรรมคึกคักกันมาก ช่วงนี้สำรวจทางรถไฟสายมรณะ ผลงานออกมา ๔๐๐ กว่าหน้า มีทั้งสัมภาษณ์มีอะไรเต็มไปหมด บอกเขาว่า เฮ้ย...เดี๋ยวตอนเกลางานชุดสุดท้ายใส่ชื่อหลวงพ่อลงไปด้วย เดี๋ยวหลวงพ่อจะไปส่งเป็นงานวิจัยของตัวเอง อาตมาเป็นประธานคณะหาข้อมูลอยู่แล้ว พวกเขาที่กระตือรือร้นเพราะว่างานหลายส่วนต้องใช้งบประมาณ อย่างการเดินทางมาหาข้อมูลในกรุงเทพฯ พวก Documentary ก็ทำทางด้านนี้ ด้านโน้นก็ลงสำรวจพื้นที่ ไปสัมภาษณ์คนเก่าคนแก่ พอถึงเวลาตั้งเป็นคณะทำงานก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าพาหนะ ฯลฯ บางคนก็ทำด้วยใจจริง ๆ ให้อะไรก็ไม่เอา บอกว่าอยากทำ เกษียณแล้วนั่งเซ็ง ๆ เจอบุคลากรแบบนี้พอถึงเวลาทำงานแล้วได้รางวัลอะไรมา เขาก็ตื่นเต้นกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:20 |
สมาชิก 139 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#90
|
||||
|
||||
"อย่างรางวัลที่จะรับวันอาทิตย์นี้เป็นรางวัลหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบ แล้วก็รางวัลช่วงที่ผ่านมามีรางวัลชุมชนคุณธรรมต้นแบบ ต้องเป็นการร่วมมือทั้งหมดของบ้าน วัด โรงเรียน แล้วก็ราชการ มีมาตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าช่วงนี้พอเขาสรุปงาน เขาก็ว่างานของวัดท่าขนุนทุกภาคส่วนมาหมด
ทุกภาคส่วนมาหมด ก็คือทางส่วนราชการเขานำ อย่างผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอเป็นคนออกหนังสือเอง ออกหนังสือเรียกทั้งหมดไปรวมกันเลย ถึงเวลาประธานคณะกรรมการตรวจสอบถามผู้ว่าฯ งานตรงส่วนนี้เป็นอย่างไร ? ถามนายอำเภอ ถามนายกเทศมนตรี ถามกระทั่งหมอ มีคนไข้ติดเตียงกี่คน ? คนไข้ติดเตียงประเภทอยู่บ้าน ไม่อยู่วัดมีไหม ? เขาตอบได้หมดเพราะข้อมูลเขามี อาตมาไม่ต้องไปเสียเวลาไปเตี๊ยมกับเขาเลย เพราะว่าทำกันมานานแล้ว ถึงเวลาก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจเขา เพราะว่างานนี้ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอวัดหินแหลม ผ่านมาถึงเจ้าคณะอำเภอวัดเหมืองปิล็อก แล้วก็มาปัจจุบันนี้ ส่วนอาตมาทำมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้ว ท่านตั้งให้เป็นประธานการสาธารณสงเคราะห์คณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ก็ต้องไปดูไปแลเรื่องพวกนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:21 |
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#91
|
||||
|
||||
"มันแค่ถึงเวลาแล้วเขายืนยันผล ที่น่าปลื้มใจที่สุดก็คือปีใหม่ไม่มีคนกินเหล้า เข้าวัดสวดมนต์กันเกิน ๘๐% ที่เหลืออาจจะไปเยี่ยมญาติพี่น้องบ้างอะไรบ้าง หรือไม่ก็ดูงานที่อื่นบ้าง แต่ถ้าในพื้นที่นี่เข้าวัดสวดมนต์กัน
เดี๋ยวนี้พวกเราสู้คนพื้นที่เขาไม่ได้แล้วนะ อย่าลืมว่าจัดสวดมนต์ข้ามปีครั้งแรกประมาณปี ๒๕๕๒ - ๒๕๕๓ คนกรุงเทพฯ เกือบทั้งหมด คนพื้นที่มีน้อย แต่เดี๋ยวนี้ของเราคนกรุงเทพฯ เหลือน้อยกว่าคนพื้นที่เยอะ ทำไป ๆ พอชาวบ้านเขาเห็นว่าทำเพื่อเขาจริง ๆ ถึงเวลาเขาก็ไปวัดกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:23 |
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#92
|
||||
|
||||
"โดยเฉพาะงานตลาดชุมชนที่ตอนนี้กำลังจะซื้อเครื่องอัดวัสดุธรรมชาติที่ทำเป็นจานเป็นชาม ฯลฯ เขาจะใช้พวกใบสัก ใบตอง พวกกาบหมาก ฯลฯ มาทำเป็นวัสดุใช้งานที่ย่อยสลายได้ เครื่องหนึ่งประมาณ ๔๐,๐๐๐ บาท ตอนนี้ ๓ ชุมชนรอบวัด ไม่ว่าจะเป็นวังท่าขนุน พัฒนาทองผาภูมิ ริมฝั่งแควน้อย กะว่าจะเอาไปชุมชนละ ๑ เครื่อง
เสร็จแล้วคุณก็หาคนที่ยังไม่มีงานเป็นชิ้นเป็นอันมาสัก ๓ คนต่อชุมชน ไปอบรมเผื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำ แล้วตอนนี้สินค้าหมด เขาสั่งจนผลิตไม่ทัน ในเมื่อเขาสั่งจนผลิตไม่ทัน เขาก็บอกมาทางนี้ว่า ถ้าชุมชนของเราซื้อเครื่อง เขายินดีรับซื้อผลงานทั้งหมดเลย พูดง่าย ๆ คือยังไม่ทันจะทำเลยเขาจองซื้อกันแล้ว ก็จะช่วยให้ชุมชนเขามีงานทำ ถึงเวลามีรายได้ขึ้นมาก็รู้จักเข้าวัดกันเอง คนเราถ้าลำบากเรื่องการทำมาหากิน จะเอาเวลาที่ไหนไปเข้าวัด ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:24 |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#93
|
||||
|
||||
"ตอนนี้ก็เริ่มโครงการใหม่ เพิ่มเครื่องฟอกไตให้โรงพยาบาล แล้วคราวนี้บอกเขาจะเอาราคาแพงแล้ว เครื่องละ ๕๐๐,๐๐๐ กว่าบาท เขาบอกว่าฟอกไปแล้ว คนฟอกไตหมดเรี่ยวหมดแรงไปเกือบ ๒ วัน ส่วนเครื่องเป็นล้านเขาบอกว่าออกจากเครื่องมาทำงานต่อได้เลย
อาตมาบอกกับ ผอ. โรงพยาบาลว่า เต็มที่ไปเลย เดี๋ยวหลวงพ่อหาสตางค์ให้เอง เขาก็พยายามจะไปทำโครงการฟอกไตให้ใช้ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค เขาบอกว่ายื่นเรื่องไปตั้งแต่ห้องฟอกไตเรายังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน จนป่านนี้กระทรวงยังเงียบอยู่เลย จึงบอกว่าให้กระตุ้นซ้ำไปอีกหน่อยก็แล้วกัน เพราะว่าของเราถ้าเต็มที่ ๑๒ เตียงก็มีเท่ากับโรงพยาบาลใหญ่ ๆ เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 26-12-2019 เมื่อ 18:47 |
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#94
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้สงฆ์ติดหนี้อาตมาเยอะเลย เงินส่วนตัว ทองส่วนตัว เอาลงไปใช้งานสงฆ์จะหมดแล้ว ตอนนี้ที่รีบ ๆ อยู่นี่ก็คือเงินสร้างจุฬามณีเจดีย์สวรรค์ที่วัดเขาทำเทียม เพราะว่าหลวงพ่อท่านดูท่าสุขภาพไม่ดี
ช่วงนี้หลวงปู่แก่นมรณภาพ หลวงปู่พร้า วัดโคกดอกไม้ วันก่อนก็หลวงปู่ชุ้น วัดวังตะกู ระดับ ๙๔-๙๖ ปี หลวงปู่วัดป่าเลไลยก์ท่านเพิ่ง ๘๕ ปี ตอนแรกท่านบอกว่า "ข้าจะอยู่ ๑๒๐ ปี ต้องหางานทำเอาไว้ จะได้มีกำลังใจอยู่" งวดล่าสุดที่ท่านไปวัดท่าขนุน เห็นเดินแล้วหอบ กราบเรียนท่านว่า "หลวงพ่อ..ถ้า ๑๐๘ ปีนี่คงไม่มีปัญหาใช่ไหม ?" ท่านบอก “มีนิดหน่อยแล้วว่ะ..!" บอกว่าแค่ ๘๕ ก็เดินแล้วหอบ ศาลาวัดเราดูเหมือนกับไม่ใหญ่ แต่ความจริงแล้วใหญ่มาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:28 |
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#95
|
||||
|
||||
"พอถึงเวลาเดินเข้าไป กว่าจะถึงที่นั่ง...นั่งหอบเลย กราบเรียนท่านว่า จะรีบเอา ๒ ล้านไปถวายท่านก่อน ปกติแล้ววันเกิดท่านคือ ๔ มกราคม แต่คราวนี้ ๔ มกราคมเป็นวันรับสังฆทานที่นี่ คงจะต้องหาจังหวะไปถวายท่านก่อนหน้านั้น ก็คือพอถวายแล้วท่านเข้าบัญชีไปแล้วก็จบเลย เพราะว่าเวลาช่างเขาทำ คนอื่นเขาก็จ่ายเงินในบัญชีได้ แต่ถ้าท่านมรณภาพก่อนแล้วค่อยถวาย ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน
ตอนสร้างพระใหญ่ถวายท่านไปหนึ่งล้านบาท มางวดนี้ท่านเห็นสร้างวิทยาลัยสงฆ์ ท่านบอกว่า “เอ็งให้วิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรี ๑๐ ล้าน ข้าขอล้านเดียวว่ะ” ก็ถามท่านว่าหลวงพ่อจะทำอะไร ? “จะทำจุฬามณี” ท่านช่างคิดนะ จุฬามณีเท่ากับเป็นมงกุฎของพระใหญ่ เราคิดอย่างท่านไม่ได้ ยังกราบเรียนท่าน บอก "แบบหลวงพ่อผมทำไม่ได้" ท่านบอก “แกทำได้ พระใหญ่ข้าแค่ ๘๐ ล้าน แกสร้างพระทองคำไปตั้ง ๑๐๐ กว่าล้าน” “ผมทำไม่ได้จริง ๆ ครับ มีเงินแล้วไม่มีสถานที่ จะไปทำตรงไหน ?” ของหลวงพ่อท่านหาเงินได้ ท่านมีสถานที่ อาจจะเป็นเพราะว่าท่านไปเหนื่อยตรงนั้นมากก็เลยทำให้ร่างกายเสื่อมเร็ว..พักผ่อนไม่พอ เพราะว่าต้องวิ่งหาเงินให้เขาเดือนหนึ่ง ๒-๓ ล้านบาท ตอนแรกก็ยังกราบเรียนท่านว่า “หลวงพ่อ..จุฬามณีราคาแค่ ๒ ล้าน ๓ วันก็พังแล้ว” “เฮ้ย...คนของข้าเก่ง เขาทำดี เพียงแต่เขาคิดราคาถูก เพราะว่าเขาได้จากข้าไปเยอะแล้ว” ท่านก็ช่างคิด “ก็ในเมื่อเขาระเบิดพระใหญ่ที่บามิยันไป ข้าก็ต้องสร้างใหม่”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 04:31 |
สมาชิก 142 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#96
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวัง เพราะว่า รศ.ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี มาตรวจโครงการทุนเล่าเรียนหลวง ก็เลยพูดไปหลายเรื่อง บอกเขาว่า "อาตมาพูดแรงนะ โยมต้องทำใจ"
คำว่า หลวง ในความรู้สึกของชาวบ้านทั่ว ๆ ไปก็คือ ถ้าไม่ใช่ในหลวงก็ต้องเป็นราชการ แต่ปัจจุบันนี้โครงการทุนเล่าเรียนหลวงของคุณ พระทุกวัดต้องจัดทอดผ้าป่า เอาเงินเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวง นั่นใช่หรือ ? ก็กลายเป็นโครงการวัดช่วยวัดสิ ถ้าคุณจะจัดในลักษณะขอให้วัดช่วยก็ได้ แต่ต้องให้วัดหลวงเท่านั้น เพราะว่าวัดหลวงทุกวัดกว่าจะผ่านการพิจารณา ต้องบอกว่าสมรรถภาพเขามีเพียงพอที่จะช่วยเหลือตรงนี้ อย่างทองผาภูมิของอาตมา วัดสุดท้ายห่างจากจุดศูนย์กลางการปกครอง ๘๗ กิโลเมตร นั่งรถขับเคลื่อน ๔ ล้อเข้าป่าเข้าดงไปเป็นชั่วโมงกว่าจะถึง แล้วบางช่วงขนาดมีรถขับเคลื่อน ๔ ล้อยังติด เข้าไม่ได้ จัดเทศน์แต่ละทีมีโยมมา ๕-๑๐ คน คนทำบุญมา ๒๐๐-๓๐๐ บาท แทนที่จะเป็นค่าน้ำค่าไฟของวัด ต้องเอามาเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวง แบบนี้คุณว่าใช่ไหม ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 19:03 |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#97
|
||||
|
||||
"ตัวต้นโครงการคุณอยู่กรุงเทพฯ คุณเคยดูไหมว่าพวกอาตมาต่างจังหวัดอยู่ยากกันขนาดไหน ? ไม่ใช่เอาความสะดวกสบายของกรุงเทพฯ มาวัด แล้วก็ให้ทุกวัดช่วยกันจัดผ้าป่าเอาเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวง
เขาบอกว่าเขาไม่เคยมีข้อมูลตรงนี้เลย ก็บอกไปว่าคนอื่นเขาไม่กล้าพูด แต่ว่าอาตมาไม่ใช่ อาตมาไม่ได้หวังอะไรและไม่กลัวการถอดยศด้วย เพราะฉะนั้น..จึงกล้าพูด ให้เอาข้อมูลนี้ไป ถึงเวลาแล้วให้นำเสนอในที่ประชุมด้วย ประการที่ ๒ ถึงเวลารับทุนเล่าเรียนหลวง อาตมามีพระลูกศิษย์ได้รางวัลหลายรูป แต่ทุกรูปไม่รู้เรื่องเลย ในวันรับทุนเล่าเรียนหลวงทุกคนยังเรียนอยู่ แต่มีคนรับทุนไปเรียบร้อยแล้ว อย่างนี้หมายความว่าอย่างไร ? เขาก็เลยบอกว่าตรงนี้เขากำลังหาวิธีแก้ไขอยู่เหมือนกัน ใครก็ตามที่ได้ทุนเล่าเรียนหลวง จะให้ส่งหมายเลขบัญชีเฉพาะตัวเข้ามา แล้วทางโครงการฯ โอนเข้าตรงไปเลย ถ้าอย่างนั้นก็แก้ปัญหาได้ ก็เหลือฝากอยู่เรื่องเดียวก็คือเรื่องนี้ เรื่องที่ว่าให้พระช่วยกันทอดผ้าป่าเพื่อเอาเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวง อาตมาว่าไม่ใช่ คุณต้องเอาจากส่วนราชการทุกส่วน หรือไม่ก็เป็นทุนพระราชทานมาโดยตรง ถึงจะเป็นทุนเล่าเรียนหลวง ถ้าจะเอาจากวัดก็ต้องเอาจากพระอารามหลวงเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 19:05 |
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#98
|
||||
|
||||
"อาตมาเองอยู่ที่ไหนคนเขาก็ไม่ค่อยชอบหน้า เพราะว่าไปใส่เขาตรง ๆ เสียทุกที่ แต่ถ้าไม่พูดก็จะคาราคาซังอยู่อย่างนั้น จึงต้องเสียสละตัวเอง คนที่ไม่หวังยศไม่หวังตำแหน่ง ไม่กลัวผลกระทบ จะกล้าพูดกล้าทำ แต่ถ้าคุณหวังยศ หวังตำแหน่ง หรือกลัวผลกระทบ ว่าถึงเวลาจะมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเขา เขาก็จะไม่แตะกัน
จริง ๆ แล้วเขาบอกว่า ไม่เคยมีคนรายงานข้อมูลนี้ให้เขาเลย เขาไปตรวจงานมาหลายที่แล้ว ไม่มีใครบอกเรื่องนี้กับเขาเลย อาตมาเลยบอกเอง เพราะว่าคนอื่นเขาไม่กล้าพูด คิดดูว่าต่างจังหวัด พอถึงเวลาทางอำเภอรวบรวมเงินกันมาได้ ๓,๐๐๐ บาท แล้วก็เอาเข้ากองทุนเล่าเรียนหลวง น่าภูมิใจมากเลยหรือ ? ๓,๐๐๐ บาทนี่ในกรุงเทพฯ วัดเดียวก็ได้แล้ว แล้วคิดดูว่าทั้งอำเภอแต่ละอำเภอเฉลี่ยประมาณ ๕๐ วัด เงิน ๓,๐๐๐ พอหารดูแล้วเหลือเท่าไร ? ก็เหลือวัดหนึ่งแค่ไม่กี่สิบบาท แล้วเขาเองอยู่กันลำบากขนาดนั้น คุณยังไปเอาได้ลงคอ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 19:07 |
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#99
|
||||
|
||||
"รุ่นอาตมาอยู่นี่หลวงพ่อพรหมดิลก สมัยนั้นยังเป็นพระเทพสุธี ไปถึงไหนก็พูดถึงนั่นเลย บอกว่าผมไม่เคยรู้เลยว่าลูกน้องผมอยู่กันลำบากขนาดนี้ ท่านจะชี้มาที่อาตมาเสมอ "ถ้าไม่ได้ท่านเล็กนี่ผมไม่รู้จริง ๆ นะ ท่านพาไปอยู่ริมเขื่อนนั่งแพ โอ้โฮ...วิวสวยโคตร ผมก็ปลื้มใจ ที่ไหนได้..พอขึ้นจากแพ พานั่งรถขับเคลื่อน ๔ ล้อเขย่าไปอีกเกือบ ๒ ชั่วโมง เขย่าจนผมจะหลุดเป็นชิ้น ๆ" นั่นท่านไม่รู้จริง ๆ ว่าพวกเราอยู่กันลำบากขนาดนี้
กราบเรียนว่า "นั่นแหละครับ เป็นเจตนาของผมเลย ที่ผมจัดอบรมพระนวกะในที่ลึก ๆ เพื่อให้หลวงพ่อได้รู้ว่าพวกผมอยู่กันลำบากแค่ไหน ต่อไปจะได้ไม่เอาแต่สั่ง ๆ ๆ" เอาให้เข็ด..เจ้านายไปที่ไหนก็พูดถึงที่นั่น ปัจจุบันนี้หลวงพ่อพระธรรมโพธิมงคล หลวงพ่อเจ้าคุณสมควร เป็นเจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านอยู่วัดนิมมานรดี ท่านมีแนวคิดว่าท่านจะไปเยี่ยมวัดให้ครบทุกวัด ไม่ว่าพื้นที่จะลำบากแค่ไหน จนป่านนี้ท่านเป็นจนกระทั่งหมดวาระไปรอบกว่าแล้วยังไปได้ไม่ทั่วเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 19:09 |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#100
|
||||
|
||||
"อยู่ ๆ ท่านก็ไปเดินโย่ง ๆ อยู่ในวัดท่าขนุน อาตมาเองก็ เฮ้ย...เจ้านายมา ก็วิ่งเข้าไปถวายความเคารพ เรียกพระเณรมากราบ ท่านบอกว่า "ไม่ต้อง..ใครทำอะไรให้ทำไป ผมแค่มาดูว่าคุณทำอย่างที่ผมบอกไว้หรือเปล่า"
ท่านมาตรวจงานที่ท่านสั่งเอาไว้ พอถึงเวลาออกจากของเราไป ท่านไม่ได้ขึ้นสังขละบุรีนะ ถึงเวลาส่งไลน์บอกเจ้าคณะจังหวัดท่านไปดักรอ หลวงพ่อเจ้าคณะภาคท่านเลี้ยวไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ท่านบอกว่า "พวกคุณถึงเวลาก็โทรบอกกัน ส่งไลน์บอกกัน ถ้าผมขืนไปตามเส้นทางนี่ พวกคุณก็เอาผักชีมาโรยหน้าให้ผมดูเท่านั้นเอง" ท่านนึกจะไปทางไหนท่านก็เลี้ยวไปเลย ได้เจ้านายแบบนี้ต้องบอกว่าไม่รู้ว่าสร้างบุญมาแต่ชาติไหน ท่านไปเป็นประธานเปิดงานประชุมพระนวกะที่วัดท่าขนุน ถวายปัจจัยไทยธรรม ท่านบอกว่า “ไม่ต้อง..ผมมีมากแล้ว ถ้าคุณขาดอะไรให้บอก ไปเอาที่ผมได้” แล้วจะไปหาเจ้านายดี ๆ อย่างนี้ได้จากไหน ? เป็นที่รู้กันเลยว่านิมนต์ท่านมาไม่ต้องเสียสตางค์ ไม่ต้องถวายกระเช้า ไม่ต้องอะไรทั้งนั้น แล้วถ้าขาดอะไรให้บอกท่าน ถ้าขาดคนท่านหาคนมาช่วย ถ้าคุณบวชสามเณรภาคฤดูร้อนขาดผ้าไตรจีวร เดี๋ยวท่านส่งมาช่วย แล้วที่แน่ ๆ ถ้าขาดสตางค์ก็บอก เดี๋ยวท่านหามาให้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2019 เมื่อ 19:11 |
สมาชิก 135 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|