|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#121
|
||||
|
||||
"อาตมาไปสร้างวัดหนองบัวที่พม่า ไปเจอโยมแถวนั้นต้มยำเห็ดใส่ข้าว ใส่มากจนเป็นข้าวต้มเห็ด ทั้ง ๆ ที่อาตมารู้แต่แกล้งถามว่าใส่มาทำไม ? ไอ้นั่นก็ฉลาดมาก บอกว่าอร่อยดี
ถ้าเราไม่มั่นใจว่าเห็ดชนิดไหนกินได้หรือกินไม่ได้ เวลาต้มให้ใส่ข้าวสุกลงไปด้วย ถ้าข้าวเปลี่ยนเป็นสีดำ แปลว่าเห็ดมีพิษ...กินไม่ได้ พอผู้ใหญ่ใส่ไป ลูกหลานก็ใส่ตามไปเรื่อย จนไม่รู้ว่าเขาใส่เพราะอะไร ก็เลยใส่มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่ใส่หยิบมือเดียวก็พอ เมื่อใส่มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็เลยกลายเป็นข้าวต้มเห็ด พออาตมาแกล้งถามเลยตอบว่าอร่อยดี ถ้าตูไม่รู้ก็คงต้องอร่อยตามเขาแน่เลย ผักบางอย่างเขาใส่ผักบุ้งมาด้วยก็เป็นลักษณะเดียวกัน คือผักบุ้งเป็นยาถอนพิษโดยตรง ถ้าอาหารอะไรที่ไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ เขาจะใส่ผักบุ้งลงไปด้วย พูดง่าย ๆ ว่ากินรวมกันไปก็ถอนพิษได้พอดี แต่คนใส่ก็ไม่รู้เรื่องหรอก เขารู้แต่ว่าถ้าทำอย่างนี้ควรใส่ผักบุ้ง เขาก็ใส่ตาม ๆ กันมาเรื่อย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2016 เมื่อ 12:28 |
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#122
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "บทสวดอุทิศส่วนกุศล ‘อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา’ หลายวัดโดดไป ‘สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ’ ไม่มี ‘ปิยา มะมัง’ เพราะอาจารย์ลืม สวดข้ามไป พอข้ามไปจนเกิดความเคยชิน ก็ข้ามไปเรื่อย ลูกศิษย์ก็สวดตามไปเรื่อย จนปัจจุบันนี้หลายวัดก็ไม่มี ‘ปิยา มะมัง’ ว่าตามไปด้วย ตัวนี้แหละที่เขาเรียกว่าอาจริยวาท ก็คือถือตามคำอาจารย์เป็นใหญ่
ในสมัยสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งที่ ๓ คณะสงฆ์แตกออกเป็น ๑๘ นิกาย ๑๘ นิกายที่แตกออกไป ส่วนใหญ่ก็ถืออาจริยวาท ก็คืออาจารย์สอนมาอย่างนั้น ในเมื่ออาจารย์สอนมาแล้วมีส่วนต่างจากคนอื่นเขา ก็ไม่ได้ดูว่าส่วนต่างเข้ากันได้หรือไม่ ต่างก็ยึดของอาจารย์เป็นใหญ่ ไม่เอาของคนอื่น ถึงเวลาถ่ายทอดสืบ ๆ กันต่อไปก็เลยกลายเป็นนิกายใหม่ จึงทำให้คณะสงฆ์ในสมัยนั้นแตกกันวุ่นวายมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2016 เมื่อ 12:29 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#123
|
||||
|
||||
"ส่วนปัจจุบันบ้านเรามีมหานิกาย ธรรมยุติกนิกาย อนัมนิกาย จีนนิกาย นี่ชัด ๆ เลย ส่วนสันติอโศกนิกายนี่เขาไม่ถือว่าเป็นพระ ต่อไปก็จะมีพุทธอิสระนิกาย...! เพราะแกบอกแล้วว่าพร้อมที่จะออกจากคณะสงฆ์ ตอนนี้โดนสงฆ์ลงอุกเขปนียกรรม ก็คือ ประกาศไม่ร่วมกิน ไม่ร่วมนอน ไม่ร่วมสังฆกรรมด้วย ใช้สำหรับบุคคลที่ว่ายากสอนยาก ส่วนท่านเองก็บอกว่าท่านไม่ง้อ ท่านสามารถที่จะออกจากนิกายของคณะสงฆ์ไทยได้ทันที
ส่วนนิกายต่อไปที่มีแวว ก็คือ ธรรมกายนิกาย เพราะว่าธรรมกายเขาใหญ่โตจนไม่ต้องง้อคณะสงฆ์ไทยก็อยู่ได้ ถ้าไปบีบคั้นมาก ๆ เขาแยกนิกายได้เลย เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นในบ้านเราเมืองเรา ก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะแทนที่จะร่วมแรงร่วมใจกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวทำให้คณะสงฆ์มีความเจริญ ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา ก็แตกแยกกลายเป็นหลายนิกาย จีนนิกายกับอนัมนิกายตำหนิเขาไม่ได้ เพราะว่าเขาเองมาในรูปแบบอย่างนั้นเป็นพันปีแล้ว เวลามาในบ้านเราเมืองเรา ถึงจะเป็นลูกหลานไทยแต่ถึงเวลาบวชก็ต้องปฏิบัติตามแบบของเขา มีแต่ในส่วนใหม่ ๆ ที่ตั้งหน้าตั้งตาจะแยกนิกายเท่านั้นแหละที่น่าตำหนิ บางคนก็ "คนอื่นผิดทั้งหมดกูถูกคนเดียว ต่อให้กูเล่นการเมืองกูก็ถูก" ในลักษณะอย่างนี้ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-05-2016 เมื่อ 12:31 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#124
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนพฤษภาคม ปี ๕๙ หมดแล้วค่ะ ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า คะน้าอ่อน เถรี รัตนาวุธ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|