|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
![]() |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#101
|
||||
|
||||
![]()
เดี๋ยวนี้เขาเก็บภาษีทุกอย่างที่ขวางหน้าจริง ๆ เพียงแต่ว่าบ้านเราภาษีอัตราก้าวหน้าเขายังไม่กล้าเก็บ ถ้าภาษีอัตราก้าวหน้าใช้เมื่อไรจะยุติธรรมมาก เพราะว่าคนรวยจ่ายมาก คนจนจ่ายน้อย ทุกวันนี้กลายเป็นว่าเสียกันอย่างเสมอหน้ากัน คนรวยก็รวยตายชักไปเลย
อาตมาเป็นพระแท้ ๆ ยังเสียภาษีเลย ถามว่าเสียตรงไหน ? ภาษีเงินฝากโดนไปร้อยละ ๑๕ ได้ดอกเบี้ยมา ๑๐๐ บาท โดนเขาเอาไป ๑๕ บาทแล้ว ถึงเวลาจะทำบัญชีเป็นชื่อวัด ธนาคารก็ไม่ค่อยอยากทำให้ เพราะถ้าเป็นชื่อวัดแล้วไม่ต้องเสียภาษีเงินฝาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2017 เมื่อ 19:56 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#102
|
||||
|
||||
![]()
ส่วนใหญ่แล้วบ้านเราถ้ามีโอกาสก็มักเลี่ยงภาษีกัน จะว่าไปแล้วการเสียภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองที่มีต่อประเทศชาติ พอเราเสียภาษีก็เท่ากับเราได้ทำบุญใหญ่ เพราะรัฐบาลเอาภาษีไปพัฒนาประเทศ บุญใหญ่ประเภทนี้คล้าย ๆ กับบุญสังฆทาน เพราะว่าทำเพื่อประชาชนส่วนรวม พอบ้านเมืองเจริญขึ้นมาทุกสิ่งทุกอย่างก็สะดวกสบายตามไปด้วย
บ้านเรายังถือว่าเสียภาษีน้อยมาก อย่างยุโรปเสีย ๖๐ –๖๕ เปอร์เซ็นต์ เห็นว่าฝรั่งเศสจะเก็บภาษี ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือเปล่า ? แต่ว่าของเขาถ้าเก็บแล้ว ถึงเวลาคุณเกษียณเมื่อไร รัฐรับผิดชอบทุกอย่างในชีวิตให้ ไม่มีที่อยู่อาศัย จัดหาที่อยู่อาศัยให้ มีสวัสดิการรักษาพยาบาลพร้อม ถึงเวลาแต่ละรอบปี มีงบประมาณให้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่เท่าที่ได้ยินมาคือเขาซื้อตั๋วเครื่องบินให้เลย กันพวกเราอมเงินไว้เฉย ๆ เราจะเห็นว่าฝรั่งมาเที่ยวบ้านเราเยอะ ส่วนหนึ่งเขามาเพื่อใช้สิทธิ์ของตัวเอง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2017 เมื่อ 19:58 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#103
|
||||
|
||||
![]()
เราเองทำงานแทบตาย ขนาดไม่เสียภาษียังไม่มีเงินไปเที่ยวต่างประเทศสักเท่าไรเลย อาตมาเองตั้งแต่ทำงานมาและรับราชการมา เจอภาษี ณ ที่จ่ายมาตลอด เลยไม่มีประสบการณ์ในการไปจ่ายภาษี ตอนที่ทำงานอยู่ทางบริษัทก็ทำหัก ณ ที่จ่ายให้ พอรับราชการยิ่งง่ายใหญ่เลย ฝ่ายการเงินจัดการเสร็จสรรพ เราเหลือแต่รายรับล้วน ๆ
นึกว่ามาบวชพระจะพ้นจากเรื่องภาษี ปรากฏว่าไม่พ้น มีบัญชีเงินฝากในชื่อตัวเอง เป็นพระสังฆาธิการ คือเป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล ทางราชการมีนิตยภัตหรือเรียกว่าเงินเดือนก็ได้ สมัยก่อนได้รูปละ ๕๐๐ บาท เพิ่งจะมายุคคุณทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็น ๑,๕๐๐ บาท อาตมาเป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะตำบลได้ ๒,๒๐๐ บาท สมัยเก่าตอนที่เจ้าอาวาสได้ ๕๐๐ บาทนั้น หลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นเจ้าคุณสามัญ ชื่อพระสุธรรมยานเถระ ได้นิตยภัตเดือนละ ๔๔๐ บาท ตอนนั้นสมเด็จพระสังฆราชรับเดือนละ ๓,๕๐๐ บาท มายุคคุณทักษิณ ชินวัตร ถึงขยับขึ้นให้ ๑,๕๐๐ บาท จะไปพอยาขี้ฟันอะไร ขยับออกจากวัดก็ ๕๐๐ บาทแล้ว ยิ่งไปประชุมไกล ๆ ถ้าเขาไม่มีค่ารถให้ก็หมดเกลี้ยงเลย เดือนนั้นไม่ต้องไปไหนอีก แต่พระเราก็อยู่กันมาอย่างนี้แหละ อยู่ด้วยศรัทธาของพุทธศาสนิกชน ปีนี้อาตมาได้รับเลื่อน หากผลงานผ่าน เลื่อน ๕ ขั้นได้เพิ่มมาอีก ๒๐๐ บาท เยอะมาก จาก ๒,๕๐๐ บาท เป็น ๒,๗๐๐ บาท ทำงานเกินเงินเดือนแสนบาทนะ แต่ได้เงินเดือน ๒,๗๐๐ บาท
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2017 เมื่อ 20:00 |
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#104
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผมพอจะมีโชคมีลาภบ้างไหม ?
ตอบ : มีวิธี...แต่เหนื่อยหน่อยนะ ไปตั้งใจภาวนาพระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อวัดท่าซุง ถ้าตั้งใจทำจริง ๆ ต่อเนื่องสัก ๒ เดือน แล้วถ้าไหลมาเทมาก็อย่าบ่นว่ารับจนเหนื่อย ถาม : เป็นปริศนา ? ตอบ : ไม่ใช่ปริศนาแต่ให้ไปทำจริง ๆ ถาม : ที่ท่านบอกว่าเลี้ยงหลานมาเยอะ ไม่ทราบว่าจำนวนเท่าไร ผมจะได้จดไปเพื่อโชคลาภ ? ตอบ : บอกไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าจำไม่ได้ก็ไม่ต้องจด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-02-2017 เมื่อ 20:44 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#105
|
||||
|
||||
![]()
อาตมาเองโดนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านห้ามไม่ให้บอกหวย เลยกลายเป็นผู้สนับสนุนกองสลากที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่ก็เป็นเรื่องแปลก พออาตมาเปลี่ยนรถใหม่เมื่อไรหวยจะออก ไม่ต้องไปดู...เพิ่งจะออกไปงวดนี้เอง เพิ่งเปลี่ยนทะเบียนเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ต้นเดือนมา ๓ ตัวรวด ไม่ต้องไปหวังงวดใหม่ มักจะได้ทีเดียว
คนที่จ้องอยู่มักจะได้ รู้ไหมว่าใครจ้องอยู่ ? ท่านเจ้าคณะอำเภอบอก "อาจารย์...ป้ายขาวเมื่อไร ขับมาให้ดูด้วย" ตอนป้ายแดงไม่ออก ออกป้ายขาว ไม่รู้ว่าท่านเล่นหรือเปล่า ? แต่อาตมาไม่เล่น รู้สึกว่าพระเล่นหวยเป็นเรื่องที่น่าเกลียดมาก แต่มีโยมเอาล็อตเตอรี่มาถวายอยู่เรื่อย ปีที่แล้วถูกเลขท้าย ๒ ตัวด้วย ถามว่าหวยเป็นอบายมุขหรือไม่ ? ถ้าเราหมกหมุ่นอยู่ เล่นหัวไม่วาง หางไม่เว้น ก็เป็นอบายมุข แต่ถ้าเราคิดจะเสี่ยงโชคจริง ๆ ใช้วิธีซื้อไว้ ๑ คู่ เผื่อบุญพาวาสนาช่วย ทานบารมีในอดีตให้ผล มีโอกาสถูก จำกัด ๑ คู่ ห้ามเกินนั้น ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวไม่มีเงินกินข้าว พี่ชายอาตมาสมัยก่อนยอมกินบะหมี่แห้งซองละ ๓ บาท แต่เล่นหวยตัวละ ๒,๐๐๐ บาท นึกเอาก็แล้วกัน มีอยู่งวดหนึ่งหลวงพ่อวัดท่าซุงกำลังอยู่ในงานกฐิน บอกว่าขอเงินโยมคนละ ๘๖๓ บาท พี่ชายเอาไปเล่นเลย เพราะรู้เคล็ดลับว่าถ้าหลวงพ่อวัดท่าซุงพูดถึงตัวเลขท่ามกลางคนหมู่มาก โชคของคนไม่เท่ากัน ท่านบอกว่าให้ตาม ไม่เกิน ๑๒ งวดจะออก งวดแรกออก ๖๘ งวดสองออก ๘๓ คนอื่นเลิกตามหมด พี่ชายตามไปเรื่อย ปรากฏว่าไปถูกงวดที่ ๙ ตรง ๆ เลยสามตัวบน ได้มา ๙ แสนบาท ถามว่าถ้าตามมา ๑๑ งวดแล้วไม่ออกล่ะ ? แกบอกว่าจะขายบ้านเล่นเลย มั่นใจขนาดนั้น แต่อาตมาว่าเป็นการกระทำที่ค่อนข้างจะโง่ไปหน่อย เพราะเท่ากับฝากชีวิตไว้ที่ตัวเลขซึ่งจะออกอะไรก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-02-2017 เมื่อ 02:41 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#106
|
||||
|
||||
![]()
เซียนให้หวยในชีวิตของอาตมาก็คือ หลวงปู่เนื่อง วัดจุฬามณี หลวงปู่เนื่องให้หวยอยู่ ๓๐ กว่าปี ให้ได้ทุกงวด ไปแล้วไม่ต้องขอ ส่วนใหญ่ท่านจะเขียนขึ้นกระดานไว้ให้เลย พี่ชายอาตมาอีกคน ท่านเขียนยัดใส่มือมาให้ ๓ ตัว งวดที่หนึ่งไม่ออก งวดที่สองไม่ออก...เลิกเล่น งวดที่สามออกตรง ๆ เลย ท่านบอกว่าเวลาให้หวยไป คนรู้มาก บุญของคนไม่เท่ากัน เลขจะเลื่อน คนที่ไม่มีบุญก็เลิกเล่นไปก่อน คนมีบุญถ้าตามก็จะถูกเอง
พอสิ้นหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี พวกกรรมการวัดไปตรวจสอบในกุฏิท่านมีเงินอยู่ ๒๐ กว่าล้าน ใครถวายเงินท่านก็โยนกอง ๆ ไว้ ไม่เคยไปดูไปแลเลย บางปึกก็เก่าจนหมดสภาพ แต่ที่เสียดายที่สุดก็คือ พอหลวงพ่อเนื่องสิ้นไป หลวงพ่อฤๅษีท่านบอกว่าหลวงพ่อเนื่องเป็นพระทองคำ หลวงพ่อเนื่องเป็นพระอรหันต์ แต่ไม่มีใครไปขอหลักธรรมเลย มีแต่คนไปขอหวยจนพระอรหันต์มรณภาพไปทั้งองค์ น่าเสียดายมาก ใช้ทรัพยากรสิ้นเปลืองจริง ๆ มีพระอรหันต์ไว้ขอหวยอย่างเดียว ถ้าหากว่าให้หวยแบบหลวงพ่อเนื่อง เจ้ามือไม่โกรธหรอก เพราะว่าเจ้ามือได้หลายงวด เนื่องจากต้องตามไปเรื่อย แต่เคล็ดลับในการตาม หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า งวดที่หนึ่งแทง ๑๐ บาท ถ้าไม่ถูก งวดที่สองให้เพิ่มเป็น ๒๐ บาท งวดที่สามเพิ่มเป็น ๓๐ บาท พอไปถึงงวดที่ออก เราจะมีกำไร แต่ตอนนี้ถึงรู้เคล็ดลับไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะหลวงพ่อเนื่องมรณภาพไปแล้ว ถามว่าหลวงพ่อเนื่องเป็นใคร ? หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี เป็นศิษย์หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ถ้ายังไม่รู้เรื่องอีก ก็ท่านเป็นอาจารย์ของหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน สรุปว่าท่านเป็นหลวงปู่ของอาตมาเอง พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง โกวิโท) วัดจุฬามณี น่าเสียดายมาก มีพระอรหันต์ไว้ขอหวยอย่างเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-02-2017 เมื่อ 14:38 |
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#107
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเวรกรรมของใคร ไปยุ่งเมื่อไรตัวเองก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้น...คนไหนที่อธิษฐานมาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ จะทำอย่างนั้นอย่างนี้ ควรจะทำอย่างไร ขอให้หลวงพ่อบอกด้วย รอไปอีกหลายชาติเถอะ..!
โดยเฉพาะบรรดาท่านที่ตั้งใจอธิษฐานมา เพราะอยากจะรู้ว่าอาตมารู้จริงหรือเปล่า อยากจะคิดอะไรก็เรื่องของเอ็ง ข้าไม่เกี่ยวด้วยหรอก...! แค่ดูใจตัวเอง ระมัดระวังใจตัวเองก็แย่แล้ว ยังต้องไปไล่ดูคนอื่นเขาอีก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 09:56 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#108
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า “คนเรา...ถ้าสติไม่สมบูรณ์ก็ต้องทำอะไรผิดพลาดเป็นธรรมดา แต่โบราณท่านบอกว่าให้เอาความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนในการสอนตัวเราเอง จนกระทั่งใช้คำว่า ผิดเป็นครู
ฉะนั้น...ในส่วนของความผิดพลาดก็คือ สอนให้เรารู้ว่าต่อไปอย่าทำเช่นนั้นอีก แต่เราก็อาจจะไปพลาดเรื่องอื่นต่อไป เพราะว่าเป็นธรรมดาของคนที่สติสัมปชัญญะยังไม่สมบูรณ์ ปัญญายังไม่รู้เท่าทันกิเลส โอกาสผิดพลาดมีได้ แต่ว่ามีแล้วอย่าไปเศร้าหมองนาน ให้เริ่มต้นทำความดีใหม่ทันที พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า อย่ามัวไปคิดถึงความหลัง และอย่าไปฟุ้งซ่านกับเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ให้รักษาอารมณ์อยู่กับปัจจุบันจึงจะรู้เห็นธรรมที่แท้จริงได้”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 10:23 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#109
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราเกิดมาก็ต้องเล่าเรียนศึกษา หาการหางานทำ หวังมีชีวิตที่มั่นคง ถึงเวลาแต่งงานก็หวังว่าจะได้คู่ชีวิตที่ดีมีความซื่อสัตย์ รักเดียวใจเดียว พอมีลูกก็หวังให้ลูกเป็นเด็กดี มีความกตัญญู ขยัน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
อยากจะถามว่าความหวังเหล่านี้เป็นไปได้ไหมที่จะสำเร็จไปทุกเรื่อง ? ต้องบอกว่าถ้าได้สักเรื่องหนึ่งก็โชคดีมากแล้ว เพราะว่าเราเกิดมาในกองทุกข์ ยืน เดิน นั่ง นอนอยู่บนกองทุกข์ตลอดเวลา ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาแล้วที่จะไม่กระทบกระทั่งกับความทุกข์นั้นไม่มี พระพุทธเจ้าถึงได้บอกวิธีให้เราหนีพ้นจากกองทุกข์ ก็ขึ้นอยู่กับสติ ปัญญาของเราว่ามีมากเท่าไร ขณะเดียวกันก็ต้องขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ว่าทำดีทำถูกเท่าไร มีหลายท่านเกิดมาเพราะมีปุพเพกตปุญญตา คือ บุญที่สร้างสมมาดีแต่ปางก่อน ทำดีทำถูกตั้งแต่ยังไม่เข้าวัดเข้าวา ไม่รู้จักพระจักเจ้า ไม่รู้จักศีลจักธรรม แต่ด้วยบุญที่ตัวเองสร้างมาทำให้มีมโนธรรม รู้ว่าอะไรควรไม่ควร แต่ไม่ใช่ทุกคนจะโชคดีอย่างนั้น ฉะนั้น...พวกเราทุกคนมีโอกาสทำผิดพลาดทั้งนั้น เพียงแต่ว่าผิดพลาดแล้วต้องรีบแก้ไข จึงจะกลับจากเรื่องร้ายกลายเป็นดี แล้วก็เอาบทเรียนพยายามสร้างเสริมในสิ่งที่ดี ๆ ต่อไป สิ่งที่เราทำในวันนี้ เวลานี้ จะส่งผลต่อเราในวันหน้า เวลาหน้า ถ้าเราสามารถสร้างความดีได้ต่อเนื่องความยาวนานพอ ความชั่วไม่สามารถจะแทรกเข้ามาได้ ในวันหน้าเราก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดี ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 10:25 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#110
|
||||
|
||||
![]()
"ฉะนั้น...เมื่อคนเราเกิดมามีปัญญา รู้ว่าอะไรไม่ควร อะไรดีไม่ดี ก็ต้องเลือกทำแต่สิ่งที่ดี ละเว้นในสิ่งที่ชั่ว ต้องบอกว่าพวกเราเกิดมาในพระพุทธศาสนา ถือเป็นความดีที่หาได้ยากที่สุดแล้ว ถ้าหลุดไปอยู่นอกเขตพระพุทธศาสนา ยังไม่รู้ว่าต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในกองทุกข์อีกกี่ร้อยกี่พันชาติ
เมื่อเราได้พบพระพุทธศาสนา ความทุกข์นี้สามารถทำให้สิ้นสุดลงภายในชาติเดียว จึงสำคัญตรงที่ว่า หากเรามีความเพียรจริง ตั้งใจทำจริง ๆ เอาความผิดพลาดเป็นบทเรียน ท้ายสุดก็จะทำดีทำถูกไปเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 10:26 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#111
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวเตือนสติว่า "มีเรื่องน่าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ปัจจุบันนี้โรคเอดส์ไม่ได้เบาลงเลย แต่ทำไมเหมือนกับทุกคนลืมไปแล้ว หรือต้องรอให้เป็นเองถึงจะรู้ตัว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 20:57 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#112
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ตอนนี้หนูรู้สึกจิตตกค่ะ ?
ตอบ : มัวแต่ไปคิดอาศัยคนอื่นก็ยืนเองไม่ได้ทั้งชาติ ฉะนั้น...อยากตกก็ให้ตกต่อไป ไปดูเรื่อง "พ่อเฒ่ากับเจ้าหนู" หลานชายไปเรียนหนังสือกับครู ครูเป็นผู้หญิงประเภทที่เจองูก็ตีเอง เล่นเอาตาบอกว่าถ้าตาหนุ่มกว่านี้สัก ๒๐ ปี ตาจะไปขอครูคนนี้เอง ถ้าล้มก็หัดลุกเอง ไม่ต้องไปหวังให้ใครช่วย ครั้งนี้เขาช่วยเรา ครั้งหน้าเขาจะมีโอกาสช่วยไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 20:58 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#113
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "การเกิดมาผิดเพศไม่ใช่ความผิด เป็นเรื่องปกติธรรมดา ตั้งหน้าตั้งตาทำในสิ่งที่ดีไปก็จบ อะไรที่ทำอยู่ ถ้าแหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน ก็ทำไปเถอะ มัวแต่ไปสนใจว่าชาวบ้านเขาจะมองเราอย่างไรก็เครียดตาย...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-02-2017 เมื่อ 20:59 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#114
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : บ้านเราไม่ใช้กงล้อมนต์ ?
ตอบ : บ้านเราไม่มีความนิยมเรื่องของวัชระ ถาม : พระทางโน้นเขาใช้ทำอะไรคะ ? ตอบ : เขาใช้สวดมนต์เพราะว่าอยู่ในลักษณะของการเป็นตัวแทนของการรู้แจ้ง คือถ้าถืออยู่แล้วสวดมนต์อาจได้รับปัญญาบ่งชี้จากพระพุทธองค์ แต่ถ้ามาสายตันตระ ท่านเอาไว้ปราบผี ถาม : เคยไปเห็นที่ภูฏาน เป็นของที่พระใช้งานจริง ทำด้วยโลหะ สวยมาก แต่ไม่ได้ซื้อมา... ไปเจอที่เป็นคริสตัลทีหลัง กลับสวยสู้ไม่ได้ ? ตอบ : ของพวกนี้ไม่ว่าเป็นอะไร ถ้าจับ ๆ ถือ ๆ อยู่ตลอดก็จะดูดีไปเอง ขึ้นอยู่กับความขยัน ก็แบบเดียวกับกะเหรี่ยงศิษย์หลวงปู่วงศ์ ถึงเวลาภาวนาทุกวัน พุทโธ ๆ ถี่ยิบเลย ประคำใสเป็นแก้ว พวกเราไปตื๊อขอซื้อ ให้ ๒๐ บาท ไม่ขาย ๓๐ บาท ไม่ขาย ๔๐ บาท ไม่ขาย ไล่เป็นเรื่อยถึง ๘๐ บาท "ขายก็ได้" ค่าแรง ๔ วัน ของเขา สำหรับเขาอะไรก็ได้ ขอแค่ให้ใช้งานได้ ส่วนของเราเอาความสวยไว้ก่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-02-2017 เมื่อ 19:19 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#115
|
||||
|
||||
![]()
พระสังฆทานหล่น จนโยมตกใจร้อง "มีอะไรให้น่าตกใจ ? คนรับถวายยังไม่ตกใจเลย แต่คนอื่นช็อกไปแล้ว
อาตมาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเลิกตกใจตอนไหน เพราะว่ากว่าจะไปรู้ก็เป็นแบบนี้แล้ว ที่เคยเล่าให้ฟังว่าไปนอนที่บึงลับแลแล้วแคร่พังก็เฉย ๆ ภาวนาไปเรื่อย พอลุกขึ้นมาจะซ่อมแคร่ก็ดันเจอผีหลอก ก็เฉย ๆ อีก ตั้งแต่นั้นมาเหมือนกับตายด้าน ไม่ตกใจอะไรกับใคร ที่เราตกใจเพราะใจส่งออกไปไกล พอเกิดเหตุก็วิ่งกลับมาสู่ร่างกาย การวิ่งกลับมาเร็วเกินไปเรียกว่าตกใจ" ถาม : รู้สึกว่าเวลาที่เราทำใจได้ดี จะไม่ค่อยกลัวอะไร ? ตอบ : ไม่ค่อยกลัวก็ยังดี แต่นี่ไม่กลัวอะไรเลย ถ้าเกิดอะไรขึ้นอาตมาคงตายก่อนเพื่อน เพราะไม่กลัวก็เลยไม่หนี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-02-2017 เมื่อ 14:39 |
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#116
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผมมักจะภาวนาคาถาเงินล้านเวลาขับรถเป็นประจำ แต่ช่วงหลัง ๆ นี้จะภาวนาไปแล้วคิดเรื่องอื่นไปด้วย จะแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : ดึงความรู้สึกไว้ที่ลมหายใจจริง ๆ ถ้าหลุดจากลมหายใจเมื่อไรจะคิดถึงเรื่องอื่นไปด้วย ส่วนการภาวนาเวลาขับรถโปรดระวัง พอสมาธิทรงตัว จิตกับประสาทเริ่มแยกจากกัน เราจะควบคุมรถไม่ได้ เดี๋ยวจะเกิดอุบัติเหตุโดยไม่ได้ตั้งใจ เราไม่เป็นอะไรหรอก เพราะว่าสมาธิคุ้มกันได้ แต่คนอื่นจะซวยไปด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-02-2017 เมื่อ 22:12 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#117
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : ผมตั้งใจภาวนาคาถาเงินล้านวันละ ๑๐๘ จบ แต่บางทีนอนก่อนแล้วมาภาวนาหลังเที่ยงคืน จะถือว่าครบไหมครับ ?
ตอบ : ภาวนาให้ครบตามที่เราต้องการ จะเป็นเวลาไหนก็ได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2017 เมื่อ 19:36 |
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#118
|
||||
|
||||
![]()
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : นึกถึงนรกเข้าไว้ ให้นึกว่าถ้าสภาพจิตเศร้าหมองแล้วตายลงไปตอนนั้นนี่นรกแน่ ๆ ยังอยากจะลงไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#119
|
||||
|
||||
![]()
พระอาจารย์กล่าวว่า "ประเทศไทยได้รับเกียรติจากต่างชาติว่าเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการปฏิวัติรัฐประหารเป็นอันดับ ๒ ของโลก เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต่างชาติเขาใช้วิธีประเมินเอาจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงเห็นว่าบ้านเรามีความเสี่ยงในระดับนั้น
วิธีรับมือที่ดีไม่ใช่ไปตอบโต้ถกเถียงกับเขา เพราะสิ่งที่เราทำเขาเห็นหมดแล้ว ไม่ว่าคุณจะทำด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม คุณก็ปฏิวัติไปแล้ว ยึดอำนาจไปแล้ว ฉะนั้น...วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ ทำอย่างไรจะให้เขาเห็นว่าเราไม่ได้ยึดอำนาจเพื่อตัวเอง เราทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ก็คือต้องรีบคืนการเลือกตั้งให้ประชาชนใช้อำนาจเลือกคนที่เขาต้องการมาให้เร็วที่สุด มัวแต่ไปถกเถียงอยู่ไม่ได้มรรคไม่ได้ผลอะไรหรอก นอกจากจะกลายเป็นตัวตลกในสายตาของต่างชาติเขา เพราะว่าสิ่งที่เรากระทำไม่สามารถที่จะบิดเบือนได้ว่าเราไม่ได้ทำ เพียงแต่ว่าทำไปแล้วเพื่อประโยชน์ของหมู่มากจริงหรือเปล่า ? ตรงนี้ต้องรีบแสดงออกให้เขาเห็น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2017 เมื่อ 19:38 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#120
|
||||
|
||||
![]()
"ไปนึกถึงสมัยก่อน หลวงพ่อวัดท่าซุงมีคนกล่าวร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ ลูกศิษย์กราบเรียนท่านว่า “ทำไมหลวงพ่อไม่แก้ข่าว ?” ท่านบอกว่า “เสียเวลาไปเถียงกับมัน สู้เอาเวลามาช่วยเหลือชาวบ้านผู้ยากจนในถิ่นทุรกันดารดีกว่า”
อาตมาเลยนึกไปถึงคำสอนของหลวงปู่เจ้าคุณนรฯ ที่ท่านบอกว่า “คนเราดีแสนดี ถ้าเขาจะหาเรื่องติ ก็หาเรื่องมาติจนได้ คนเราจะชั่วแสนชั่ว ถ้าเขาจะหาเรื่องมาชม ก็หาเรื่องมาชมจนได้” ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีอยู่อย่างเดียว ก็คือ ทำความจริงให้ปรากฏ ถ้าความจริงปรากฏเมื่อไร ก็จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนที่สุด ว่าเราเป็นอย่างที่เขาว่าหรือไม่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-02-2017 เมื่อ 19:38 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
![]() |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|