|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#101
|
||||
|
||||
"เหตุที่รัฐบาลกลางต้องเอาใจขนาดนั้น เพราะกลัวว่าทหารจะรวมหัวกันปฏิวัติ เลยต้องปล่อยให้เขาหาประโยชน์ให้เต็มที่ เราจะสังเกตว่าถ้ามีการทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างไทย-พม่าเมื่อไร คุณต่อสายตรงรัฐบาลย่างกุ้งได้ เส้นใหญ่ขนาดไหนเรื่องก็ไม่จบ แต่ถ้าคุณสามารถเข้าถึงแม่ทัพภาค คุยกันรู้เรื่อง จะจบเดี๋ยวนั้นเลย เพราะว่าแต่ละภาคของเขาไม่จำเป็นต้องฟังรัฐบาลกลาง
ดังนั้น...ถ้าอาตมาเป็นแม่ทัพภาค ๓ ที่ดูแลทางเหนือ ก็โน่นเลย เดินข้ามท่าขี้เหล็กไปจับเข่าคุยกันเลย รับประกันว่าวันเดียวรู้เรื่อง เพราะว่าทหารเขาให้เกียรติกัน เป็นการสร้างเครดิตและเส้นสายข้ามประเทศ เผื่อว่าตัวเองโดนปฏิวัติจำเป็นต้องหนี จะได้อาศัยเส้นสายในต่างประเทศหนีไปพึ่งเขาได้ ถ้าหากว่าเดินข้ามฝั่งไปคุย การจับฆาตกรฆ่าหั่นศพนี่เรื่องเล็กเลย คุยตอนนี้จบ คาดว่าอีกไม่เกิน ๒ ชั่วโมงก็ส่งผู้ร้ายข้ามฝั่งมาให้แล้ว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2017 เมื่อ 02:42 |
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#102
|
||||
|
||||
มีโยมมาขอรับวัตถุมงคล พระอาจารย์กล่าวว่า "จะเล่นของแพงก็มีอยู่สองอย่าง อย่างแรกคือต้องรู้คุณค่าจริง ๆ เอาไปใช้เอง อย่างที่สองก็คือต้องมีที่ให้ผ่องถ่ายเพื่อเอากำไรได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2017 เมื่อ 02:44 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#103
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยที่อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ ประชุมลูกคณะสั่งว่าให้ตีกลองเพลทุกวัน ในช่วงเข้าพรรษาให้ตีกลองตีระฆังย่ำรุ่งย่ำค่ำทุกวัน เขาถามว่าทำไมต้องทำด้วย ? อาตมาตอบว่า “เป็นการประกาศพระศาสนาอย่างหนึ่ง คนได้ยินจะนึกถึงพระ นึกถึงวัด ต่อให้ไม่เข้าใจก็ยังคิดถึงวัดอยู่”
อย่างสมัยอยู่เกาะพระฤๅษีเปิดเสียงตามสายตามเวลา ไม่กี่วันเท่านั้นแหละ คนงานมอญพม่า ๓๐-๔๐ คนเอาเสียงตามสายของวัดเป็นหลักเลย พอเวลาเสียงตอนเที่ยงดัง เขาวางงานหมดเลย บางทีหัวหน้างานบอก “เฮ้ย...ยังไม่ได้เวลาพัก” เขาบอกว่า "เสียงหลวงพ่อดังแล้ว" เป็นเครื่องยืนยันให้เขาได้ โดยเฉพาะของเรารักษาเวลาตรงเป๊ะทุกวัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 10:31 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#104
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “วันก่อนที่วัด มีโยมคนหนึ่งไม่รู้ว่าได้เบอร์โทรศัพท์มาจากไหน โทรมาถามว่า “ท่านฉันเพลเวลาไหนเจ้าคะ ?” อาตมาได้แต่นั่งทำตาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร เลยตอบว่า “ก็เวลาเพลนั่นแหละ...โยม” ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี ?
บางคำถามทำให้รู้ว่าโยมห่างวัดมากเหลือเกิน ถามว่าฉันเพลเวลาไหน มีบางคนเห็นหลังเพลแล้วไปเดินตรวจวัดอยู่เขาก็ถามว่า “ท่านไม่จำวัดหรือ ?” ก็เลยบอกว่าจำได้นานแล้ว ความจริงฐานะของพระเขายกเอาไว้เท่ากับเชื้อพระวงศ์เลยนะ เพราะว่าเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เท่ากับเป็นลูกพระพุทธเจ้าที่เป็นเจ้าชาย ก็เลยมีศัพท์ต่างหากในลักษณะของราชาศัพท์ที่ใช้งานไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไป บางคนไม่เข้าใจ แย่งพระพูด อาตมาเจอกับตัวเอง วัยรุ่นผู้หญิงคนหนึ่งขับนิสสันมาร์ชมา น่าจะประมาณเรียนอยู่มหาวิทยาลัยหรือไม่ก็เพิ่งเรียนจบ ตั้งใจจะมาถวายสังฆทาน เจอเจ้าอาวาสพอดี เขาบอกว่า “ท่านเจ้าคะ ช่วยนิมนต์พระให้ ๕ รูปด้วยค่ะ อาตมาจะถวายสังฆทาน” เขาพูดแบบไม่มีเก้อเขินเลยนะ ท้ายสุดอาตมาก็เลยต้องเขินแทน...!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 10:33 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#105
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ญาติโยมที่อ่านบันทึกการเดินทางไปที่ต่าง ๆ จะเห็นว่า บรรดาเทวดาซึ่งจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มา ให้มาช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ จะบอกว่าการไปทิเบตในครั้งนี้ ไม่ได้อาศัยเจ้าที่ ไม่ได้อาศัยเทวดา แต่อาศัยหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ เพราะว่าเคยเกิดร่วมกับท่านที่ทิเบตมาหลายชาติ ซึ่งท่านเป็นครูบาอาจารย์ คอยฝึกสอน คอยอบรมมาตลอด ก็ถือว่าหลวงปู่ท่านเป็นเจ้าของพื้นที่
อาตมาเองก็ไปในฐานะลูกศิษย์ของท่าน จึงได้รับความสะดวกสบายอย่างที่นึกไม่ถึง โดยเฉพาะในเรื่องของอากาศ เพราะว่าถ้าดูอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงเดือนพฤษภาคมของทิเบตอยู่ที่ ๕ - ๗ องศาเซลเซียส แต่ว่าตอนที่อาตมาไปถึง อากาศ ๑๙ องศาเซลเซียส อากาศใกล้เคียงกับทองผาภูมิมาก ตลอดระยะเวลาที่อยู่ที่ทิเบต อากาศก็อยู่ที่ ๑๘ - ๑๙ องศาเซลเซียสทุกวัน ทันทีที่ลงมาซีหนิงโยมเปิดอินเตอร์เน็ตดู ปรากฏว่าอากาศที่ทิเบตลดลงไปเหลือ ๑๑ องศาเซลเซียสแล้ว ยังไม่รู้เลยว่าตอนที่กลับมาเมืองไทยแล้วเหลือเท่าไร ? มีญาติโยมบางท่านบอกอาตมาไปไหน ไปทำเขาเสียของอยู่เสมอ ขอยืนยันว่าอาตมาไม่ได้ทำ อาตมามีหน้าที่แค่ไป ที่ทำให้เสียของก็เป็นความเมตตาของบรรดาเจ้าที่หรือท่านที่มาสงเคราะห์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 10:34 |
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#106
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเรามีอะไรกับแฟน เราผิดศีลไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ผิดทุกรูปแบบ ถาม : มีลักษณะความผิดแบบหยาบ กลาง ละเอียด ไหมครับ ? ตอบ : ผิดทุกระดับ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 16:26 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#107
|
||||
|
||||
ถาม : คำว่า โสรัจจะ หมายความว่า เรามีหน้าตาแช่มชื่นแจ่มใสหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ได้เกี่ยว โสรัจจะ เป็นความสงบเสงี่ยมเจียมตน เหมือนเป็นผู้น้อยอยู่ใต้ชายคาบ้านเขา ไม่ก้มหัวให้เขาก็ไม่ได้ พูดง่าย ๆ คือมีความอดทนอดกลั้นจนเป็นปกติ ในเมื่ออดทนอดกลั้นจนเป็นปกติ ก็กลายเป็นบุคลิกลักษณะเฉพาะตน ถาม : อย่างขันติล่ะครับ ? ตอบ : ขันติ อดทนต่อความยากลำบาก โสรัจจะ ส่วนใหญ่จะอดทนต่อแรงกดดันที่มีต่อตัวเองหรือภายในใจ เอาเป็นว่าถ้าให้คุณสงบปากสงบคำได้ ก็เรียกว่าโสรัจจะ คุณต้องทนมากไหมล่ะ ? ถาม : ผมก็คิดว่าหน้าตาแช่มชื่นแจ่มใส ? ตอบ : โบราณเขาเรียกว่าน้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอก ทำไปแล้วเกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ถ้าไม่ไปชักสีหน้าใส่คนอื่นเขา ก็ไม่ต้องสร้างศัตรู
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 16:26 |
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#108
|
||||
|
||||
ถาม : การเจริญปัญญาจะมีหัวข้อที่ผมคุ้นเคย เช่น หลักไตรลักษณ์ การพิจารณาขันธ์ ๕ มีหัวข้อเยอะ ผมควรจะเอาอันไหนเป็นหัวข้อหลักครับ ?
ตอบ : ข้อไหนข้อหนึ่งก็ได้ ให้ทำจริง ๆ ละเอียดขึ้นไปถึงที่สุดก็จบได้เหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 20:49 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#109
|
||||
|
||||
ถาม : วิธีการตัดขันธ์ ๕ ในชีวิตประจำวัน หรือมีเหตุการณ์อะไรเข้ามา พอจะยกตัวอย่างได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่จำเป็นต้องยกตัวอย่าง เจออะไรไม่ดีก็ให้รู้ว่าที่มาเจอเพราะว่าเราเกิดมามีร่างกายนี้ ถ้าไม่เกิดมาอย่างนี้ก็ไม่ต้องเจอ ถาม : อย่างนี้การพิจารณาร่างกาย ก็คือพิจารณารูปขันธ์ ? ตอบ : ใช้คำว่ารูป คำว่าขันธ์เอาไปทำส้นอะไร ? ใช้ตัวมึงนั่นแหละ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 20:50 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#110
|
||||
|
||||
มีโยมเอารูปพระอาจารย์มาถวาย ท่านจึงกล่าวว่า "เอากลับไปแล้วอย่าทำมาอีก อาตมาไม่เคยอนุญาตให้ใครทำรูปตัวเอง มีประกาศไว้ชัดเจนในเว็บวัดท่าขนุน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 20:51 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#111
|
||||
|
||||
ถาม : การพิจารณาขันธ์ ๕ ?
ตอบ : ทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา ก็แค่นั้นเอง ถาม : แค่นี้หรือครับ ? ตอบ : แล้วจะเอาอะไรอีกวะ ? ถาม : แล้วรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ? ตอบ : รวมแล้วเป็นตัวเอ็งตัวนี้ไหม ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 20:51 |
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#112
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เราจะบรรลุธรรมได้ ถือศีลอย่างเดียวได้ไหมครับ ?
ตอบ : ศีล สมาธิ ปัญญา ไม่มีทางอื่น ไม่มีการต่อรอง ถาม : ไม่ว่าจะเป็นสายที่...? ตอบ : สายไหนก็ต้องผ่านตรงนี้ทั้งนั้น ไม่ครบไม่จบ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 20:52 |
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#113
|
||||
|
||||
ถาม : ผมไม่แน่ใจว่าเป็นกรรมอะไร มีปัญหากับ.... ?
ตอบ : ไปสนใจทำไมว่ากรรมอะไร ? ถาม : ต้องแก้ไขอย่างไรครับ ? ตอบ : เรื่องกรรมเก่าแก้ไม่ได้อยู่แล้ว ทำกรรมใหม่ให้ดีไว้ เดี๋ยวก็ดีไปเอง ถาม : ศีล สมาธิ ปัญญา หรือครับ ? ตอบ : ใช่...เป็นบุญใหญ่ที่สุด ที่จะช่วยให้กรรมบรรเทาลงได้ง่ายที่สุด
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-06-2017 เมื่อ 21:11 |
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#114
|
||||
|
||||
ถาม : ....(ไม่ชัด).....
ตอบ : ถ้าเอาเวลาที่นั่งคิดคำถามไปภาวนา ตอนนี้ถ้าไม่บรรลุก็ใกล้เคียงแล้ว...! ถาม : ถ้าเรายังขยันในพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ...(ไม่ชัด)... ตอบ : เหมือนกับคนอยู่กลางทะเล กูก็ลอยคออยู่เฉย ๆ ไม่คิดจะไปไหน ก็มีแต่จะจมตายไม่ช้าก็เร็ว เปลี่ยนความคิดไปเป็นการกระทำซะ จะได้เห็นผล
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-06-2017 เมื่อ 03:27 |
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#115
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าผมจะนำเงินในบาตรวิระทะโยมาบูชาวัตถุมงคลจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ผิดเจตนา เพราะว่าเงินวิระทะโยหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้เป็นค่าอาหารพระ แต่ถ้าตราบใดที่ยังเป็นเงินเราอยู่ก็เป็นสิทธิ์ของเราในการใช้ แต่ถ้าหากว่าไม่ทำผิดได้ก็จะดี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 01:34 |
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#116
|
||||
|
||||
ถาม : เฉโก แปลว่าอะไรคะ ?
ตอบ : เฉโกแปลว่าฉลาด แต่ว่าเป็นความฉลาดแบบแกมโกง ถาม : เป็นภาษาอะไรคะ ? ตอบ : เป็นภาษาบาลี เฉโก กุสโล โกวิโท แปลว่าฉลาดเหมือนกัน แต่ฉลาดคนละอย่าง กุสโลคือฉลาดในการทำความดี เฉโกคือฉลาดในการทำความชั่ว โกวิโทคือฉลาดในการใช้ปัญญามองเห็นเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างกระจ่างแจ้ง ฟังแล้วก็ไม่เข้าใจใช่ไหม ? ถาม : กำลังเลือกว่าอยู่สามอย่าง จะเป็นแบบไหนดีคะ ? ตอบ : ไม่ต้องเลือกหรอก ทุกคนมีทุกอย่างนั่นแหละ เพียงแต่จะเลือกใช้ในสถานการณ์ไหน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 08:46 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#117
|
||||
|
||||
ถาม : กราบลาครับ เดี๋ยวจะไปทำพิธีถอนอาถรรพ์เมรุครับ จะรื้อสร้างใหม่ ?
ตอบ : เป็นคนอื่นเขากลัวเผ่นกันหมดแล้ว ใช้คาถาถอนโบสถ์นะ ถ้าชอบแบบลำบากก็น้ำมนต์ธรณีสาร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 08:47 |
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#118
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ให้โอวาทพระที่ไปปฏิบัติศาสนกิจที่ต่างประเทศมา "มีอยู่ส่วนหนึ่งที่วัดไหน ๆ ก็มีเหมือนกันก็คือการกระทบกระทั่งกันเอง ตัวกระทบกระทั่งกันเองบางทีเจ้านายต้องไม่รู้ไม่ชี้ ต้องบอกว่า "แกล้งโง่ไม่เป็นก็เป็นใหญ่ไม่ได้" พอมีการกระทบกระทั่งก็เป็นหน้าที่ของ ๒ คน ต้องไปเคลียร์กันเอง ถ้าไม่ทำให้งานส่วนรวมเสีย คนเป็นเจ้านายก็ต้องทำไม่รู้ไม่ชี้
แต่บางทีเราอาจจะคิดว่าอะไรวะ ? ทำไมเจ้านายไม่ช่วยเราเลย...ไม่ใช่นะ ถ้าท่านลงมาจะกลายเป็นเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เรื่องแบบนี้ถ้าเราไม่เข้าใจก็กลายเป็นน้อยใจไปเลย จำไว้ว่า “ไม้สูงกว่าแม่ มักแพ้ลมบน” เด่นขึ้นมาเมื่อไรโดนทุกทีแหละ แต่จำเป็นต้องเสียสละ อย่างที่ภาษิตจีนเขาบอก “เราไม่ลงนรกแล้วใครจะลงนรก” ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีคนทำงาน ผมเองสมัยอยู่วัดท่าซุงผมเก็บของรอเลย วันไหนโดนไล่ออกก็พร้อมที่จะไปอย่างเต็มใจเลย แต่ตอนนี้ขอทำให้เต็มที่ก่อน ของบางอย่างต้องการคนเสียสละ ไม่อย่างนั้นมัวแต่ รักษาตัวเองอยู่ ไม่กล้าชน งานส่วนกลางก็ไปไม่ได้ ต้องไปชนเอง ไม่อย่างนั้นที่ผมพูดมาบางทียังไม่เข้าใจหรอก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 10:32 |
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#119
|
||||
|
||||
ถาม : ทำอะไรไม่ค่อยได้ดี จนรู้สึกว่าเราต้องเสียสละอย่างเดียว ?
ตอบ : ธรรมดา ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป เดี๋ยวสละมาก ๆ เข้าก็ได้ไปเอง แรก ๆ ก็ยัง “เสียสละ” อยู่ พอทำใจได้ก็เหลือแค่ “สละ” คำว่า “เสีย” หายไป พอทำใจได้มากกว่านั้นคำว่า “สละ” ส.เสือก็หล่นหายไปเหลือแต่ “ละ” อย่างเดียวแล้ว เหมือนกับผม พอถึงเวลาเจ้าคณะอำเภอก็บอก “เออ...เดี๋ยวอาจารย์เล็กจะให้เป็นตำแหน่งนี้นะ” ความจริงแล้วท่านบอกเพื่อให้ผมเฉย ไม่ให้ไปขัดขวางท่าน แล้วท่านก็ตั้งคนอื่นขึ้นไปแทน ผมก็หัวเราะ “เป็นเมื่อไรก็เหนื่อยตายห่... กูไม่ได้อยากเป็นสักหน่อย” จนทุกวันนี้ท่านก็สงสัยว่า อะไรวะ ? ไม่ค้านยังไม่พอ ยังสนับสนุนอีกต่างหาก ใช่...ดันคนอื่นไปเหนื่อยแทนเรา สบายกว่ากันตั้งเยอะ ต้องคิดแบบพระ ก็คือ เราเกิดมาไม่มีอะไร ไม่ได้มาก็เสมอตัว ได้มาก็เป็นกำไรทุกอย่าง ทำงานแบบนี้มีความดีอยู่อย่างหนึ่ง คือ เห็นกิเลสตัวเอง คราวนี้ก็อยู่ที่ฝีมือว่าเราจะควบคุมมันได้เท่าไร รัก โลภ โกรธ หลง เป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าคุมให้อยู่ในมือเรา อย่าให้มันนำเรา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 17:11 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#120
|
||||
|
||||
ถาม : อาวุโสมากขึ้น ภาระงานก็มากตามไปด้วย ?
ตอบ : อาวุโสได้ก็ต้องเป็นแบบนั้น ต่อไปมีอะไรก็ช่วยหลวงพ่อท่านดูแล ไม่ต้องให้สั่งหรอก โดยเฉพาะการดูแลพระใหม่ ๆ ทำไปเถอะ ตรงนั้นได้ใจคน คือเขาเห็นเราอนุเคราะห์สงเคราะห์ช่วยเหลือเขา ต่อไปเราลำบากอะไร ดีไม่ดีเขาก็ช่วยเราคืนมา ประเภทหนูช่วยราชสีห์ อีกอย่างคือ เป็นงานที่ทำเพื่อพระศาสนา เราไปสงเคราะห์พระใหม่ให้เขาทำตัวสมกับเป็นพระ คนเห็นก็มีศรัทธาเลื่อมใส ศาสนาก็เจริญรุ่งเรือง บางทีเราอาจจะเห็นว่าเป็นงานเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่หรอก...เป็นงานใหญ่มาก เพียงแต่ต้องระวังอยู่อย่างหนึ่งก็คือ อย่าไปยุ่งกับเขามากจนเขาเสียความเป็นส่วนตัว ถ้าเขาเสียความเป็นส่วนตัว คนจะเกลียดขี้หน้าเรามากกว่า
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-06-2017 เมื่อ 19:33 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|