|
เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
ถาม : ในเรื่องของการพุทธาภิเษก เราสามารถกำหนดจิตเลือกเทวดาองค์ใด หรือท่านใดให้ท่านมาดูแลหรือรักษาวัตถุมงคลที่สร้างได้ด้วยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ยังไม่เคยมี พอถึงเวลาพุทธาภิเษกแล้ว ส่วนใหญ่ท้าวสหัมบดีพรหมหรือพระอินทร์ จะเป็นผู้กำหนดว่าเทวดาองค์ไหนดูแลวัตถุมงคลชิ้นไหน ไม่ใช่หน้าที่เราเป็นผู้กำหนด เพราะเราไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งเทวดา จะลองสั่งท่านดูก็ได้ ตีนท่านใหญ่กว่าตัวเราหลายเท่า...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:44 |
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
ถาม : การบวชภิกษุณีหรือการบวชสามเณรี ถือว่าเป็นการปรามาสพระพุทธเจ้าไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าบวชถูกต้องตามพระธรรมวินัย จะเป็นการปรามาสไปได้อย่างไรเล่าพ่อคุณเอ๊ย..?!? ยกเว้นว่าไม่ถูกต้องตามพระธรรมวินัยก็กลายเป็นโทษแก่ตัวเราเอง การที่เขาบวชแสดงว่าเขามีศรัทธาปสาทะ คือความเชื่อ ความเลื่อมใส แล้วเป็นความเชื่อความเลื่อมใสที่ตรงต่อคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่แล้ว ฉะนั้น...ในเรื่องของโทษปรามาสพระรัตนตรัยสำหรับเขาก็คงจะไม่มี แต่ถ้าบวชไม่ถูกต้อง โทษเฉพาะตนนั้นหนักแน่ ถาม : ถ้าทำผิดไปแล้วจะแก้ไขอย่างไรคะ ? ตอบ : สึก...แต่จะสึกทำไม ในเมื่อไม่ถูกต้องแต่แรก ? เปลี่ยนสภาพเป็นแม่ชีดีกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะ ถาม : คนที่ตาบอดข้างหนึ่งสามารถบวชได้ไหมคะ ? ตอบ : ตามพระธรรมวินัยแล้ว บุคคลที่อวัยวะ ๓๒ บกพร่อง เขาไม่ให้บวช
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:45 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
ถาม : ได้ทำบุญปฏิบัติตามหลวงพ่อ ก็ปรารถนาจะขอพระนิพพานชาตินี้ พอเวลาผ่านไปเราเจออุปสรรคสิ่งแวดล้อมดึง ก็รู้สึกว่าไม่ไหว ท้อ ไม่ขอพระนิพพานชาตินี้แล้ว ไม่ทราบว่าคิดแบบนี้จะเป็นอย่างไร ?
ตอบ : ประหลาดดี เวลาปกติขอพระนิพพาน แต่ลำบากขึ้นมาดันไม่อยากไปพระนิพพาน ก็ทนลำบากต่อไปก็แล้วกัน ถาม : มีวิธีแก้พลิกกำลังใจไหมคะ ? ตอบ : พิจารณาให้เห็นว่า ชีวิตที่มีแต่ทุกข์ ยังอยากได้อีกไหม ? ถ้าอยากได้ก็เกิดต่อให้พอ ถ้าไม่อยากได้ก็ขอไปพระนิพพานแทน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:46 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
ถาม : การที่เอาจิตเกาะพระนิพพานเป็นอารมณ์ ควรใช้ระยะเวลาฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เคยชินต่อวันอย่างไรถึงขั้นเจโตวิมุตติ ?
ตอบ : เอานิดหน่อย แค่วันละ ๒๔ ชั่วโมงก็พอ..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:46 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
ถาม : การซื้อบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องดูเลขที่บ้าน ?
ตอบ : ดูเสียหน่อยก็ดี เพราะถ้าได้เลขที่ไม่ชอบ เดี๋ยวเดินเข้าก็ไม่พอใจ เดินออกก็ไม่พอใจ กำลังใจเสียเปล่า ๆ ไปหาหมอดูให้ทั่วประเทศไทยว่าเลขไหนเหมาะกับตัวเอง แล้วไปเลือกเอา แต่ต้องไปตั้งแต่เปิดโครงการนะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคนอื่นเลือกไปหมด ถาม : การซื้อรถจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องเลือกเลขทะเบียนรถที่เป็นมงคล ? ตอบ : ลักษณะเดียวกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:47 |
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
ถาม : กรณีบ้านพักอาศัยที่มีการตั้งศาลอยู่แล้ว แต่ไร่สวนอยู่ห่างไปอีกตำบล จำเป็นหรือไม่ที่ต้องตั้งศาลเพิ่ม ?
ตอบ : ถ้าไม่ใช่ที่อยู่อาศัยก็ไม่จำเป็น แต่ในแต่ละปีควรจะมีการเซ่นไหว้เขาบ้าง พูดง่าย ๆ ก็คือ เอาใจเจ้าของที่ไว้บ้าง มีอะไรที่ไม่เกินวิสัยท่านจะได้ช่วยเรา
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:47 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
ถาม : กรณีบางวัดมีการทำนายโดยให้ยกวัตถุมงคล ขึ้นหรือไม่ขึ้นตามคำอธิษฐานของตัวเรา ขอทราบว่ากรณีนี้มีความจริงเป็นเช่นไรคะ ?
ตอบ : ตามที่อาตมาพบมาเอง ตอนนั้นที่ศาลหลักเมือง น่าจะหลายสิบปีได้แล้ว มีพระพุทธรูปให้ยกเสี่ยงทาย หน้าตักพระพุทธรูปประมาณ ๑๒ นิ้ว ทำด้วยโลหะสีเงิน ๆ ไม่ทราบว่าโลหะอะไร ด้วยความรั้นอาตมาก็ตั้งใจอธิษฐานแล้วคิดว่า ต่อให้ไม่สำเร็จ พระองค์แค่นี้กูก็ยกขึ้น ว่าแล้วก็งัดเต็มที่เลย เกือบจะหงายท้อง...! เพราะว่าพระลอยติดมือขึ้นมา ไม่มีน้ำหนักเลย เหมือนยกกระดาษแผ่นเดียว ดังนั้น...ในบางสถานที่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ลองอธิษฐานดูก็มีผล แต่ถ้าในบางสถานที่ สักแต่ว่าเป็น ทำไปแล้วเสียกำลังใจด้วย เพราะดันยกไม่ขึ้น มีอยู่ที่หนึ่งที่ขลังแน่ ๆ คือวัดท่าขนุน ถ้าใครอธิษฐานยกหลวงพ่อ ๒๑ ศอกขึ้น รับรองว่าสำเร็จทุกเรื่อง...!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:48 |
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
ถาม : การที่ตัวเรามีพระธาตุไว้บูชา พระธาตุได้เพิ่มจำนวนและขนาดใหญ่ขึ้น ขอทราบว่ากรณีเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่ตัวเราคิดว่าเรายังไม่ดีพอ ?
ตอบ : อาตมาเป็นบุคคลที่บูชาพระธาตุแล้วเพิ่มเมื่อไรจะต้องระวังตัวสุดขีด เพราะมักจะไม่เหมือนชาวบ้านเขา ที่ระวังตัวสุดขีดเพราะรู้ตัวว่ายังทำไม่ดีพอ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะอย่างนี้ แสดงว่าพระท่านเตือนเราแล้วว่าต้องมี กาย วาจา ใจ บางอย่างบกพร่อง แต่ถ้าขณะไหนปฏิบัติได้ดีมาก ๆ เลย พระธาตุมักจะหดหายไป บางทีมีอยู่เป็นโถเลย หายไปจนเหลือแค่สองสามองค์ ท่านก็คงรู้ว่าอาตมาไม่หวง ใครขอก็เสด็จไปเรื่อยเหมือนกัน ฉะนั้น...ปัญหานี้ให้ถือลักษณะเดียวกัน ว่าถ้าพระธาตุมีการเปลี่ยนแปลง แสดงว่าท่านเตือนเราแล้วว่า เรามีข้อบกพร่องอยู่ ให้เร่งระวังให้มากขึ้น ถาม : บางทีเราได้กลิ่นหมาก หรือได้กลิ่นยานัตถุ์ ควรจะวางกำลังใจอย่างไรคะ ? ตอบ : อาจจะจมูกเพี้ยน ไปให้หมอตรวจเสียหน่อยก็ดี คนอื่นเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่สำหรับพระวัดท่าซุงถ้าได้กลิ่นยานัตถุ์ขึ้นมา ก็ขนหัวลุกตั้ง ไม่รู้จะโดนหลวงพ่อฟาดกบาลเมื่อไร ฉะนั้น...อยู่ ๆ ได้กลิ่นหมาก กลิ่นยานัตถุ์ รู้ว่าเป็นสิ่งที่ครูบาอาจารย์เคยใช้ เคยฉัน จนเคยชิน กลิ่นนั้นมาโปรดระวังให้ตัวลีบเลย เพราะว่าท่านมาอยู่ใกล้ ๆ แล้ว ทำดีทำชั่วอยู่ในสายตาท่านหมดแล้ว..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:49 |
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าฟังไฟล์เสียงธรรมะ แล้วอยู่ ๆ เผลอหลับไปพร้อมกับเสียงธรรม จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยไหม ?
ตอบ : ถ้าหลับไปพร้อมกับเสียงธรรมไม่เป็นไร เพราะช่วงแรกเราตั้งใจฟังอยู่
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:49 |
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
ก่อนกรรมฐาน ญาติโยมมากันเยอะจนด้านหลังห้องเนืองแน่น พระอาจารย์จึงให้ขยับมานั่งข้างหน้า "ด้านหน้ายังว่างอีกเยอะจ้ะ ถ้าด้านหลังแน่นก็ขยับมา เวลาไปไหนให้อยู่หน้า จะได้อะไรก็จะได้ก่อนคนอื่นเขา เวลาโดนอะไรก็จะได้โดนก่อนเขา..! ...(หัวเราะ)... ไม่ใช่มาถึงก็นั่งข้างหลัง หาภาวะผู้นำไม่ได้เลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:50 |
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "การทำบุญในปัจจุบันนี้ อาตมาสงสัยอยู่เหมือนกันว่า ตกลงว่าบุญจะได้มากขึ้นหรือน้อยลง ? เพราะมัวแต่คิดจะถ่ายรูปอยู่ กำลังใจจะไปกังวลกับเรื่องรูป ไม่ได้มุ่งมั่นกับบุญตรงหน้า แล้วก็ต้องรักษาอารมณ์ตนเอง ถ้ารักษาอารมณ์ได้ก็บุญเท่าเดิม รักษาอารมณ์ไม่ได้ มัวแต่ไปถ่ายรูปอยู่ ก็บุญน้อยลง คาดว่าจะไม่พูดอีกแล้วนะ เพราะฉะนั้น...ให้จำไว้แล้วก็นำไปประพฤติปฏิบัติเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:51 |
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "มีโยมหลายรายส่งวัตถุมงคลไปให้ที่วัดท่าขนุน ก็เลยไปนึกถึงการให้ทาน
ทาสทาน คือ การให้ของที่ต่ำกว่าที่ตนเองมี ตนเองใช้ สหายทาน ก็คือ ให้เท่ากับที่ตนเองมี ตนเองใช้ สามีทาน ก็คือให้ดีที่สุด เท่าที่ตนเองมีและใช้ หลายรายที่ส่งวัตถุมงคลไป อย่างกับส่งเศษขยะไปให้ ก็คือเป็นของที่ตัวเองเหลือเลือกแล้ว ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร ท้ายสุดก็ถวายพระดีกว่า น้อยคนที่จะเอาของดีที่สุดที่ตัวเองมีไปถวาย ถามว่ามีอานิสงส์ไหม ? มี...มีมากด้วย แต่อานิสงส์ก็เป็นไปตามที่ว่ามา ว่าอยู่ในทานระดับไหน อาตมาคงทำทาสทานมาเยอะเพราะชอบใช้ของเก่า ๆ เอาของใหม่มาให้นี่ไม่ค่อยใช้หรอก" ถาม : แล้วถ้าคนชอบใส่กางเกงยีนส์ขาด ๆ ? ตอบ : เขาตั้งใจ ก็น่าจะเกิดจากอานิสงส์ทาสทานเหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 03:51 |
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
งานพุทธาภิเษกรอบพิเศษ (ฝ่าวิกฤติ) ณ บ้านวิริยบารมี
"วันนี้ถือว่าเป็นงานพิเศษ ถ้าหากเป็นสำนวนของทิดกวางก็คืองานสัมภเวสี ก็คือร่อนเร่มาเองโดยไม่เจตนา ตุ๊พ่อสิงห์ท่านเตรียมวัตถุมงคลไว้เข้าพิธีงานเป่ายันต์เกราะเพชร แล้วโดนอาตมายกเลิก ...(หัวเราะ)... อาตมาไม่ได้ยกเลิกนะ เพียงแต่คำสั่งเจ้านายบอกว่า ให้พระอุปัชฌาย์ใหม่ไปเข้ากรรมฐานหน่อย ความจริงต้องบอกว่าคำสั่งเจ้านายให้ไปพักผ่อน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งานเป่ายันต์ฯ มีไม่ได้ วัตถุมงคลที่ท่านให้ลูกศิษย์จองอยู่ไม่สามารถเข้าพิธีได้ จำหน่ายไม่ได้ เงินก็ไม่เข้าวัด ถ้าเงินไม่เข้าวัดนี่ปัญหาใหญ่เลย เพราะว่าตุ๊พ่อท่านกำลังสร้างพระจุฬามณีอยู่ และในขณะเดียวกัน การสู้คดีเกี่ยวกับที่ดินวัด ก็จ่ายค่าทนายไปเยอะ แล้วส่วนที่จ่ายไปก็คือเงินสงฆ์ ทุกวันนี้ตุ๊พ่อพยายามหายใจเข้าไว้...ยังตายไม่ได้...เพราะเป็นหนี้สงฆ์อยู่ จึงโทรมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ? อาตมาก็ต้องช่วยแก้ปัญหาตามประสาน้องที่ดี เมื่อกราบเรียนถามครูบาอาจารย์ ถามพระท่านแล้ว ท่านก็บอกว่าทำได้ จัดงานพุทธาภิเษกขึ้นมาสิ ปรากฏว่าจัดไปจัดมาหน้าตาออกมาอย่างที่เห็น อาตมาเองก็งง ๆ อยู่เหมือนกัน คือคำสั่งมาทีละอย่างสองอย่าง ไปเรื่อย ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมท่านให้เอามีดหมอที่มีอยู่มาทั้งหมดเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 14:46 |
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
"อาตมาอมมีดหมอครูบาอาจารย์ไว้หลายสำนัก เอาที่อยู่รอบข้างกองวัตถุมงคลก่อนก็แล้วกัน
ด้านซ้ายล่างหรือทิศใต้ก็คือมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ต้องบอกว่าเป็นมีดหมออันดับหนึ่งของประเทศไทย เล่มนั้นเป็นรุ่นเก่าจริง ๆ มีลายมือจารของหลวงพ่อเดิมด้วย ถัดไปทางด้านซ้ายบน เป็นมีดหมอหลวงปู่ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ ใครไม่รู้จักไม่เป็นไรหรอก เพราะว่านานเหลือเกิน แล้ววนมาขวาบน เป็นมีดหมอที่ร้อยวันพันปีจะโผล่มาให้เห็นสักเล่ม คือ มีดหมอหลวงปู่ทบ วัดชนแดน แล้วก็ลงมาขวาล่างคือ มีดหมอหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ซึ่งท่านเป็นพี่ด้วยและเป็นอาจารย์ของหลวงปู่เดิมด้วย ส่วนตรงกลางที่เห็นในพานอยู่ใกล้กับแก้วอินทนิล พระขรรค์เล่มที่อยู่ตรงกลางนั่น เป็นของอาจารย์ของอาจารย์ของอาจารย์อีกทีหนึ่ง ก็คือหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ถ้าพวกเราไม่เคยได้ยินชื่อหลวงปู่ยิ้ม ก็ต้องเคยได้ยินชื่อหลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว, หลวงปู่ดี วัดเหนือ, หลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้, หลวงปู่สอน วัดทุ่งลาดหญ้า, หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ เหล่านี้เป็นต้น นั่นระดับปรมาจารย์เลย แต่เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้มทั้งหมด เรียกว่า พระขรรค์ปราบไตรโลก เล่นทีหนึ่ง ๓ โลกเลย เป็นพระขรรค์ที่หลวงปู่ศุข แนะนำเสด็จในกรมหลวงชุมพร ให้หามาเป็นของคู่พระหัตถ์ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลวงปู่ยิ้มท่านสร้างไว้สัก ๕ เล่ม ๑๐ เล่มหรือเปล่า ? แต่ว่าอยู่ที่นี่เล่มหนึ่ง แล้วที่เห็นอยู่จากด้านบนลงมาก็เป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์เล่มที่ ๒ นี้ถือว่าตลาดรู้จัก เพราะว่าเป็นฝีมือของช่างฉิม ซึ่งเป็นมาตรฐาน ๑ ในช่าง ๔ คนที่สร้างมีดหมอให้หลวงพ่อเดิม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 14:49 |
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
"เล่มถัดลงมาติดกับพระขรรค์ คือมีดหมอหลวงปู่บุญมี วัดเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี เรียกว่ามีดหมอปราบไพรี สมัยหลวงปู่บุญสร้างใหม่ ๆ คนไม่ได้อยากได้กันหรอก หลวงปู่แจกให้ เขาก็เอาไปทิ้งกอง ๆ ไว้แถวหน้าโบสถ์ คนสมัยก่อนนี่ดีจริง ๆ เลย...! ปรากฏว่ามีคนเมาเห็นกองมีดหมออยู่ ก็พูดว่า "หลวงพ่อมีแน่แค่ไหนวะ ? ถึงบังอาจทำมีดหมอออกมา" ว่าแล้วก็ชักปืนยิงเสียงเปรี้ยง...! สนั่น ยิงออก..แต่มือเละ ปืนแตกคามือเลย แล้วมีดหมอกองนั้นก็แสดงปาฏิหาริย์หายวับไปกับตา ไปขอใหม่หลวงปู่ท่านก็ไม่ให้แล้ว
เล่มถัดมาที่อยู่ใต้พระขรรค์ คือ มีดหมอหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตารามหรือที่ชาวบ้านเรียกวัดบ้านแค ชื่อมีดหมอมนต์พระกาฬ เล่มนี้วันเอามา หนีไปนอนที่ไหนก็ไม่รู้ ? จนอาตมาคิดว่าคนเอามาลืมหรือเปล่า ? ปรากฏว่าพอถึงที่แล้วก็นั่งยิ้มเผล่อยู่ตรงนั้น ไม่ได้ไปไหนหรอก ท่านล้อเล่นแค่นั้น วัตถุมงคลของหลวงพ่อกวยท่านห้ามด่าแม่เด็ดขาด ใช้วัตถุมงคลหลวงพ่อกวย ถ้าด่าแม่เมื่อไรบางทีวัตถุมงคลท่านแตกคามือเลย ก็คือไม่ให้ใช้ต่อ เพราะบังอาจด่าแม่ที่เคารพ ถามว่าหลวงพ่อกวยเป็นใคร ? ท่านเป็นเจ้าของคาถา "นะโมตาบอด" ที่อาตมาเรียนมา เล่มล่างสุดนี่ของพระอาจารย์โดยตรง มีดหมอดาบฟ้าฟื้น หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ห้ามจิ๊กนะ..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 14:53 |
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
"ส่วนพานล่างที่วางอยู่บนผ้าขาว ๓ เล่มนั่นของหลวงปู่รุ่ง วัดหนองสีนวล ทั้งหมดเลย แปลว่าอาตมามีมีดหมอของหลวงปู่รุ่งอยู่ ๔ เล่ม
ถัดมาด้านล่างก็คือมีดหมอเพชราวุธ แต่เล่มนี้พิเศษตรงที่ด้ามเป็นงากวัก ฝักเป็นงางอก เคยได้ยินไหม ? งากวักก็คืองาช้าง ซึ่งปกติแล้วงาช้างจะแหลมยาวออกไปเฉย ๆ แต่งากวักคือปลายจะงอกลับเหมือนตะขอ พอดีทำด้ามมีดเลย ส่วนงางอกคืองาช้างที่มี "คด" งอกอยู่ข้างในโพรงงา ส่วนด้ามตรงกลางเล่มใหญ่ ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกำลังหมายตาอยู่ คือ พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ที่อาตมาสร้างถวายในหลวงเพื่อประคองให้พระองค์ท่านอยู่มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนแก้วสีเขียว ๆ นั่น ท่านปู่พระอินทร์ประทานมาให้เรียกว่า "แก้วอินทนิล" ถามว่าทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย ? ท่านบอกว่าที่ต้องจัดพิธีขนาดนี้ เพราะอีก ๔ วัน ตามตำราโหราศาสตร์ ดาวมฤตยูจะทับดวงเมือง สยดสยองไหม ? ถ้าไม่ทำพิธีแบบนี้อาจจะมีเลือดนองท้องช้าง..! แล้วถามว่าประโยชน์ทางด้านอื่น ท่านบอกว่าปีนี้เศรษฐกิจแย่มาก ๆ ฉะนั้น...รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นฝ่าวิกฤติก็แล้วกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าพวกเราพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเองนี่เด่นเรื่องมหาลาภ มหาปราบ เรื่องนี้ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่าไปรอดแล้วยังต้องรวยอีกด้วย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 14:57 |
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
"ถ้าถามว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีวันนี้มีอะไร ? ก็มีขอสับช้างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่เป็นต้นเรื่องเลย มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ตุ๊พ่อท่านบอกว่าเหลือไว้ให้อย่างละ ๑๐๐ นอกนั้นเขาจองไว้แล้ว ขนาดเล็ก ๙๐๐ บาท ขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ บาท ขึ้นราคาหน่อยได้ไหม ? ...(หัวเราะ)... หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ กราบเรียนตุ๊พ่อท่านว่าเอาจำหน่ายตรงนี้เลย โยมที่ต้องการจะได้ไม่ต้องไปจองในเว็บ ไม่ต้องไปถึงวัด มีอย่างละร้อยด้ามเท่านั้น ห้ามจองคนเดียว ๙๙ ด้าม..!
ส่วนของวัดท่าขนุนมีพระขุนแผนเกราะเพชร ที่จะออกในงาน ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษี ขุนแผนรุ่นนี้ทำด้วยผงยานัตถ์ุของหลวงพ่อฤๅษีที่อาตมาเก็บสะสมไว้ ก็จะมี พิมพ์ใหญ่ ฝังตะกรุดหัวใจขุนแผน เนื้อทองคำ ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อนาก ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์ กำลังคิดว่าจะขูดรีดโยมเท่าไรดี ? ...(หัวเราะ)... ส่วนพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุด เพราะว่าขนาดตะกรุดถ้าฝังลงไปแปลว่าล้นองค์พระ พิมพ์เล็กมี ๑๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อผงยานัตถุ์อย่างเดียว แล้วก็มีวัตถุมงคลเก่าของวัด ก็มีเหรียญของขวัญปีใหม่ เนื้อตะกั่ว ๔,๐๐๐ เหรียญ ๔,๐๐๐ เหรียญนี่ตัวเล็กเอาไปออกในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีไปแล้ว ๑,๐๐๐ เหรียญ ใครจองไว้ถือว่าเฮงมากเลยเพราะตอนนั้นลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง พอเอาเข้าพิธีแล้วคงต้องเพิ่มราคาขึ้นครึ่งหนึ่ง..! แล้วก็มีเหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ เหรียญ ที่จองกันไป ๑,๐๐๐ เหรียญแล้ว เนื้อทองคำ ๓๐๐ เหรียญ จองกันไป ๑๐๐ กว่าเหรียญแล้ว ใครไม่ได้จองไม่ต้องเสียใจเพราะอาตมาตั้งใจขึ้นราคาอยู่แล้ว..! แล้วก็มีผงงาช้าง ๖๐ กิโลกรัม จะเอาไว้สร้างพระ ผงงาช้างได้มาจากงาน OTOP ที่จังหวัดสุรินทร์ ปกติเขาขายกันแพงมาก แต่คณะของคุณหญิง (ณญาดา) ไม่รู้ไปตีซี้อีท่าไหน ? ไปโกยมาหมดเลย บอกว่าเอามาให้หลวงพ่อไว้สร้างพระ ซึ่งอาตมายังไม่มีอารมณ์จะสร้าง ยังนึกลูกเล่นไม่ออกว่าจะสร้างเป็นอะไรดี"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 15:02 |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
"เมื่อวานนี้ท่านอานนท์ วัดบึงลาดสวาย เอาพระอุปคุตชัยวัฒน์มาเข้าพิธี พระอุปคุตชัยวัฒน์รุ่นนี้สร้างด้วยเนื้อแร่ขี้นกเขาเปล้า ซึ่งถือว่าเป็นโลหะอาถรรพ์อย่างหนึ่ง ท่านถวายไว้ ๑๐๐ องค์ แล้วอาตมานำเอามาเข้าพิธีใหม่ เดี๋ยวไปแอบ ๆ ดูกันในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีก็แล้วกัน จะให้ "ตัวเล็ก" เอาไปออกให้บูชาในนั้น ถ้าใครไม่รู้จักแร่ขี้นกเขาเปล้าก็ไปค้นหาดู ในกูเกิ้ลน่าจะมีรายละเอียดอยู่
ส่วนของอื่น ๆ ก็น่าจะไม่มีอะไรแล้ว เพราะว่าท่านไม่ให้รับวัตถุมงคลอื่นเข้าพิธี ตั้งใจจะสงเคราะห์ตุ๊พ่ออย่างเดียว เดี๋ยวตอนทำพิธีก็อธิษฐานกันเอาเองตามอัธยาศัย ใครจะฝ่าวิกฤติมาก ฝ่าวิกฤติน้อย ก็อธิษฐานกันเอา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 15:04 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
"เวลาพระหรือครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำงาน งานบางอย่างก็แปลก ๆ ในความรู้สึกของพวกเรา แต่ว่าต้องทำ เพราะคำสั่งนี้ห้ามสงสัยเด็ดขาด ทำไปเถอะ...แล้วจะมีคำเฉลยทีหลังทุกที พอเฉลยมา บางทีก็นั่งงง ๆ ว่า อ๋อ...ที่แท้อย่างนี้นี่เอง งานนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นคุณความดีที่ตุ๊พ่อสิงห์ท่านกระเป๋าฉีก จ่ายเกินตัว ทำให้มีงานนี้ขึ้นมา ไม่อย่างนั้นจะมีงานอีกทีก็โน่น ๙ กรกฎาคมเลย ก็คืองานเป่ายันต์เกราะเพชร
ในเมื่อเรามีงานนี้ขึ้นมาก่อน ตามที่ท่านบอกเอาไว้ก็คือ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยผ่อนสถานการณ์ของประเทศชาติ จากหนักให้เป็นเบา เมื่อวานก็ยังสงสัยว่า ตอนปลุกเสกพระอุปคุตชัยวัฒน์แร่ขี้นกเขาเปล้าให้ท่านอานนท์ ทำไมพระท่านเต้นระบำได้ ? ที่แท้ท่านเตรียมเอาไว้สำหรับงานนี้ นาน ๆ อาตมาจะปลุกของให้เต้นได้สักที เพราะปกติแล้วตัวเองมักจะหลับ ต้องรอพระท่านมาปลุก...! งานที่ปลุกของแล้วเต้นได้เห็น ๆ ก็คือ มีดหมอเพชราวุธ แล้วก็มางานนี้ เพราะว่าเรื่องพวกนี้ถ้าทำให้คนเห็นเป็นเรื่องที่ไม่ดีอย่างแน่นอน เพราะคนจะเห็นเป็นอัศจรรย์ แล้วต่อไปก็จะมากวนกันหัวไม่วางหางไม่เว้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 15:07 |
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
"เมื่ออาทิตย์ก่อน อาตมาสอนหนังสืออยู่ที่วัดไร่ขิง มีโยมคนหนึ่งเดินตัวเอียงมาเลย ถามว่า "เป็นอะไร ? " "รถชน...กระดูกไหปลาร้าหัก" "แล้วมาทำอะไร ?" "มาให้พระอาจารย์เล็กช่วย" "กระดูกหักแล้วทำไมไม่ไปหาหมอวะ ? " เขาบอก "พระอาจารย์เล็กเก่ง" นี่สมควรตายจริง ๆ...! ฉะนั้น เรื่องพวกนี้บางทีเราก็นึกไม่ถึงว่าศรัทธาโยมจะไปบังปัญญาเสียหมด เขาเรียกว่าอธิโมกขศรัทธา น้อมใจเชื่ออย่างเดียวโดยไม่มีปัญญาประกอบ เขาคงคิดว่าอาตมารักษาได้ทุกโรคจริง ๆ
แต่ถ้าโยมสังเกตเห็น แม้กระทั่งเรื่องของไสยศาสตร์ เรื่องของอะไรที่มา อาตมาจะให้รอไปเข้าพิธีงานเป่ายันต์ฯ เสมอ เพราะว่าอาตมาไม่ได้มีหน้าที่รักษาโรคทางไสยศาสตร์ ต่อให้ทำได้ก็ไม่รักษา ไม่เคยเรียนวิธีรักษามา วิธีรักษาโรคของอาตมาไม่มีอะไรมากหรอก ตบร่วงทุกราย...! เดี๋ยวก็หายเอง ทีนี้คนดันเห็นว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่รักษาได้ ในเมื่อไม่ได้มีหน้าที่รักษา ก็ให้โยมไปรอเข้าพิธีเป่ายันต์เกราะเพชรดีกว่า ฉะนั้น...งานนี้พอพุทธาภิเษกเสร็จพวกเราก็ช่วยกันบูชาขอสับช้างปลดหนี้ให้ตุ๊พ่อสิงห์ท่านหน่อย ราคา ๙๐๐ บาท ใครมีจะถวาย ๑,๐๐๐ บาทก็ไม่ว่า วิธีการใช้ขอสับช้างไปค้นหาหาในกูเกิ้ลเอานะ ท่านบอกไว้หมดแล้ว ถ้าหาไม่เจอก็ไปดูในเฟซบุ๊กวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-03-2016 เมื่อ 15:09 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|