|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#441
|
||||
|
||||
"อเมริกันชนทั้งหลาย กรรมในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอินเดียนแดง ตลอดถึงการใช้แรงงานทาสอย่างทารุณจนเสียชีวิตไปนับไม่ถ้วน และสงครามกลางเมืองระหว่างชาวเหนือกับชาวใต้ในอดีต ที่กำลังตามสนองพวกคุณอยู่นี้ ไม่ใช่ยอดผู้ป่วยตายในระดับหมื่นจะทดแทนได้..!
การล่าอาณานิคมของชาวอังกฤษ ชาวฝรั่งเศส ชาวสเปน ชาวเนเธอร์แลนด์ ชาวโปรตุเกส การปฏิบัติของพวกท่านทั้งหลายที่มีต่อชนชาวพื้นเมือง ตั้งแต่อาณาจักรโบราณระดับแอชแท็ก - อินคา หรือว่าในยุคหลังที่มุ่งหน้ามาทางตะวันออกไกล ความโหดร้ายหรือมีเมตตามากน้อยของบรรพบุรุษเหล่าท่านทั้งหลาย กำลังตอบสนองพวกท่านมากน้อยต่างกันไป สงครามของอาณาจักรออตโตมัน อาณาจักรคอร์เรซ (เปอร์เซีย) การรุกรานของเผ่าอินโดอารยันที่มีต่อมิลักขะ การแผ่ขยายอาณาจักรไปครึ่งโลกของเจ็งกิสข่าน - กุบไลข่าน การก่อสงครามกับอาณาจักรโชซอน ตลอดถึงสงครามโลกครั้งที่ ๒ กำลังแสดงผลแห่งการกระทำของท่านทั้งหลาย หนักเบามากน้อยแตกต่างกันไป"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2020 เมื่อ 12:18 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#442
|
||||
|
||||
"พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า กมฺมํ สตฺเต วิภชฺชติ สัตว์โลกย่อมเป็นไป (จำแนกได้) ตามกรรม (การกระทำ)
สพฺเพ สตฺตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรมีกรรมและเบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย จงพากันรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเถิด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2020 เมื่อ 12:18 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#443
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ทองผาภูมิเป็นเมืองที่เติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่ามีพื้นที่กว้างใหญ่มาก เป็นอำเภอแต่มีความใหญ่โตเท่ากับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ๓ จังหวัดรวมกัน
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วว่าทองผาภูมิเป็นเมืองท่องเที่ยว ส่วนสำคัญที่ช่วยให้การท่องเที่ยวเฟื่องฟูก็คือที่พัก บรรดารีสอร์ท เกสเฮ้าส์ บังกะโล โรงแรม แพท่องเที่ยว แม้ว่าจะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ก็กระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่รอบนอก แทบจะไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในตัวเมือง (ตลาด) เลย บ้านไหนเมืองไหนก็ตาม ถ้าหากว่าบ้านคนมาก่อนถนน ก็จะมีสภาพเช่นเดียวกับทองผาภูมิ คือขยายถนนไม่ออก สมัย ๓๐ ปีที่แล้วที่อาตมาได้มาถึงทองผาภูมิใหม่ ๆ ส่วนที่น่ารำคาญที่สุดก็คือถนนที่แคบมาก แล้วชาวบ้านก็ยังมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันอย่างดีเลิศ คือจอดรถคนละฝั่งถนนแล้วยื่นหน้ามาคุยกัน รถคันอื่นไม่สามารถที่จะไปต่อได้ ต้องรอจนพ่อเจ้าประคุณแม่เจ้าประคุณคุยจนหมดธุระแล้ว ทุกคนถึงจะสามารถเดินทางต่อไปได้..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:44 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#444
|
||||
|
||||
"ทางเทศบาลพยายามอย่างยิ่งที่จะปรับเปลี่ยนแก้ไข โดยการลดขนาดทางเท้าลงเพื่อเพิ่มพื้นที่ถนน การจัดให้วิ่งรถทางเดียวในบางส่วนของตัวเมือง (ตลาด) ก็ช่วยให้มีความสะดวกคล่องตัวขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว บางทีรถก็ติดตั้งแต่สี่แยกหน้าถนนใหญ่ไปยันตลาดสดด้านใน..!
สารวัตรจราจรของสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ไม่สามารถที่จะไปคุยงานอวดกับใครที่ไหนได้เลย เพราะว่าเพิ่งจะมีไฟแดงแห่งเดียวตรงสามแยกทองผาภูมิ - สังขละบุรี เมื่อประมาณ ๒๐ ปีมานี้เอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:45 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#445
|
||||
|
||||
"มาถึงวันนี้ (๒๔ เมษายน ๒๕๖๓) กำลังเริ่มก่อสร้างวงเวียน บริเวณสี่แยกหน้าถนนใหญ่ ที่ชาวบ้านเรียกกันง่าย ๆ ว่าสี่แยกปอมเป ซึ่งอาตมาได้ทักท้วงท่านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิไปว่า "การสร้างวงเวียนถ้าจะช่วยลดการติดขัดของจราจร คนขับรถต้องใช้วงเวียนเป็น คือถ้าเรามาถึงก่อนก็เข้าวงเวียนไปก่อน คนที่มาช้ากว่าก็แตะเบรกลดความเร็วลงนิดหนึ่ง แล้วไหลเข้าวงเวียนตามไป ทุกอย่างก็จะคล่องตัวดีมาก"
"แต่เท่าที่พบเห็นมาก็คือ คนที่มาช้ากว่ามักจะเบรกรถหยุดเลย ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย" นายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิตอบว่า "ผมขอไฟเขียวไฟแดงไปครับ แต่กลับได้วงเวียนมาแทน เขาออกแบบมาให้เสร็จสรรพ มีบริษัทก่อสร้างมาจัดการเองเลยครับ" เมื่อยกเอาเรื่องนี้เข้ามาคุยกันที่วัดท่าขนุน พระวัดท่าขนุนสรุปว่า "สร้างวงเวียนได้งบประมาณมากกว่าไฟเขียวไฟแดงหลายเท่า ได้ "เงินทอน" แบ่งกันเยอะดีครับ..!" พวกท่านจะมองโลกในแง่ร้ายเกินไปไหม ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:46 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#446
|
||||
|
||||
"ส่วนที่น่าเวทนาสงสารมากก็คือ เหล่ารุกขเทวดาที่ยืนตาปริบ ๆ มองวิมานตัวเองถูกริดถูกตัด และรอเวลาที่รถขุดจะมาล้มต้นไม้ใหญ่ลงทั้งต้น อาตมาประกาศเสียงดังฟังชัด ได้ยินตลอดแถวพระบิณฑบาต ๒๒ รูปว่า
"ถ้าบ้านพังก็เชิญทุกท่านที่วัดท่าขนุนนะจ๊ะ แม้ว่าจะเบียดเสียดกันหน่อยก็ดีกว่าไม่มีบ้านจะอยู่ ยินดีต้อนรับทุกท่านจ้ะ" บรรดาพระทั้งหลายมองหน้ากัน ประมาณว่า "หลวงพ่อเอาอีกแล้ว" ส่วนน้องเล็กที่ขับรถพาอาตมาไปดูโครงการข้าวกล่อง ๑๐ บาทเกือบทุกวันบอกว่า "เชิญพ่อปู่แม่ย่าทุกท่านที่วัดท่าขนุนนะคะ ไปตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ" แต่น้องเล็กประเมินการยึดมั่นถือมั่นของสรรพสัตว์ทั้งหลายน้อยเกินไป บรรดารุกขเทวดาหญิงชายตลอดจนเด็กเล็ก ยืนหน้าตาเศร้าหมองมองเขารื้อวิมานของตน ตราบใดที่ต้นไม้ยังยืนอยู่ ไม่ถูกขุดรากถอนโคน ก็ยังมีความหวัง จึงไม่ยอมขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ไปไหน ดูแล้วน่าสงสารมาก..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:47 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#447
|
||||
|
||||
"ส่วนความเจริญอื่น ๆ นั้น จากก่อนหน้านี้ที่บ้านเรือนทุกหลังแทบจะเป็นบ้านไม้ทั้งหมด หลังไฟไหม้ใหญ่เมื่อประมาณยี่สิบปีที่แล้ว ก็มีอาคารเป็นตึกขึ้นมาจำนวนหนึ่ง แต่สูงเต็มที่ก็แค่ ๔ ชั้น ธนาคารซึ่งแต่เดิมมีอยู่แค่ ๓ แห่ง ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารนครหลวงไทย ก็ได้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพิ่มขึ้นมาอีก ๑ แห่ง ส่วนธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกสิกรไทย ที่ได้ยินข่าวลือว่าจะมาตั้งสำนักงานสาขาทองผาภูมิตั้งแต่หลายสิบปีก่อน ก็ยังคงเป็นแค่ข่าวลือมาจนถึงทุกวันนี้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:48 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#448
|
||||
|
||||
"หลังไฟไหม้ใหญ่ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง โดยเฉพาะบรรดาร้านค้าต่าง ๆ ในตอนแรกก็มีแต่คนทองผาภูมิ เปิดร้านค้าสะดวกซื้อแบบชาวบ้าน หรือเรียกว่า "ร้านโชห่วย" ก็ได้ มีอยู่หลายแห่งด้วยกัน ที่เป็นหลักก็คือร้านสิริภัทร ร้านลัดดาวัลย์ ร้านเงินสมบูรณ์ เป็นต้น
แล้ววันดีคืนดีบริเวณข้างป้ายรถเมล์กลางตลาด ก็มีร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ขึ้นมาร่วมแย่งชิงลูกค้าอีก ๑ แห่ง ซึ่งตอนนั้นที่ขายดีที่สุดคือ "สเลอปี้" ที่เด็ก ๆ แข่งกันว่าใครจะกดได้สูงกว่ากัน ต่อมาก็มีผู้กล้าหาญ เปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แห่งที่ ๒ บริเวณใกล้สี่แยกปอมเป เยื้องกับธนาคารออมสิน แล้วก็มีร้านขายส่ง CJ Express เปิดขึ้นด้านข้างธนาคารนครหลวงไทย ซึ่งโดนควบรวมกลายเป็นธนาคารธนชาตไปในเวลาที่ใกล้เคียงกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:50 |
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#449
|
||||
|
||||
"เมื่อกิจการร้านขายส่งดีขึ้น เนื่องจากว่าลดราคาได้มากกว่า สามารถดึงลูกค้าที่เป็นพ่อค้าเร่ ซึ่งขนของไปขายตามหมู่บ้านต่าง ๆ ได้มากกว่า ก็มีการเปิดร้าน CJ Express แห่งที่ ๒ ข้างปากทางเข้ากองร้อย ตชด. ที่ ๑๓๕ เรียกว่าดักทั้งหัวทั้งท้ายถนน ลูกค้าจะเข้ามาทางไหนก็ต้องเจอร้านของฉันก่อน ส่วนเซเว่น อีเลฟเว่นก็ไปเปิดเพิ่มในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. (ใน) อีก ๑ แห่ง
ตอนนี้ก็มีนักเลงดี กำลังเปิดร้านสะดวกซื้อย่อส่วนอีก ๑ แห่ง อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งน่าจะเป็นร้าน Mini Big C สาขาทองผาภูมิ "เมื่อช้างสารชนกัน หญ้าแพรกย่อมแหลกกระจาย" บรรดาร้านโชห่วย ค่อย ๆ หายไปทีละร้านสองร้าน ที่เกิดขึ้นมาแทนก็คือ กิจการประเภท "เงินสดทันใจ" ถ้ามีบ้านมีรถสามารถจำนองได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งตอนนี้เป็นของศรีสวัสดิ์เงินสดทันใจ ได้ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายไปอาคารหลังใหม่ ให้ดูยิ่งใหญ่กว่าเดิม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-05-2020 เมื่อ 20:20 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#450
|
||||
|
||||
"ในส่วนของการศาสนานั้น ที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนที่สุดก็คือวัดท่าขนุน ที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑ ศอก ฉลอง ๒,๖๐๐ ปีพุทธชยันตี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๐ พรรษา
พร้อมด้วยการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ๓๖ องค์ เรียงรายตลอดแนวถนนสาย ๓๒๓ บริเวณหน้าวัด แล้วยังเทพื้นที่ด้วยคอนกรีต ๘,๐๐๐ ตารางเมตร เพื่อเปิดเป็นตลาดชุมชน การสร้างศาลาร้อยปีหลวงปู่สาย การหล่อหลวงพ่อเงิน หลวงพ่อนาก หลวงพ่อทองคำ การสร้างบันไดขึ้นสักการะรอยพระพุทธบาทวัดท่าขนุน การปรับปรุงบันไดขึ้นสักการะพระพุทธเจติยคีรี ทำให้วัดท่าขนุนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขาดไม่ได้ของทองผาภูมิ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:52 |
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#451
|
||||
|
||||
"ศาสนาคริสต์นั้นมีการเปิด "คริสตจักรแห่งพระผู้ไถ่" ที่ตอนแรกตั้งอยู่ข้างถนนสายหลักซึ่งจะวิ่งไปหน้าที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ ในปัจจุบันนี้คือบริเวณหลังร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แห่งที่ ๒ ไปเป็นตึกแถวบริเวณหน้าน้ำตกพุปูราชินี เยื้องกับปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่ชาวบ้านเรียกกันว่าปั๊ม ปตท.ใน
ช่วงปีที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมชุมชนคุณธรรมของชาวคริสต์ ซึ่งน่าจะได้รับงบประมาณจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี แต่พอหมดงบประมาณก็หมดงานไปด้วย กลับไปเงียบเหงาเหมือนเดิม"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:53 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#452
|
||||
|
||||
"ที่ขยับขยายจนกระทั่งสร้างสุเหร่าใหม่เด่นเป็นสง่าก็คือพี่น้องอิสลาม ซึ่งสร้างสุเหร่าแห่งที่ ๓ ของอำเภอทองผาภูมิอยู่ข้างปั๊ม ปตท.นอก ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อปีที่แล้วนี้เอง
โต๊ะอิหม่ามประจำสุเหร่าคือ "บังนิด" (นายนรินทร์ อายุบเคน) ซึ่งรู้จักคุ้นเคยกับอาตมาเป็นอย่างดี ตอนช่วงเปิดงานยังมายืม โต๊ะ เก้าอี้ และข้าวของต่าง ๆ จากวัดท่าขนุนไปใช้ พอดีกับทางวัดท่าขนุนมีงานเช่นกัน จึงต้อง "แบ่งกัน" คนละครึ่ง เมื่อมีสุเหร่าครบ ๓ แห่ง ทำให้อำเภอทองผาภูมิมีคณะกรรมการกลางอิสลามประจำอำเภอ และจังหวัดกาญจนบุรีมีคณะกรรมการกลางอิสลามประจำจังหวัดตามกฎหมาย ถือว่าเป็นความก้าวหน้าอย่างหนึ่งของพี่น้องอิสลาม ซึ่งสร้างความภูมิใจให้แก่เหล่าอิสลามิกชนเป็นอย่างยิ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:54 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#453
|
||||
|
||||
"สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นปกติ ทั้งเปลี่ยนไปในทางที่เจริญขึ้นและเสื่อมลง
อำเภอทองผาภูมิก็เช่นกัน เปลี่ยนจากเมืองท่าขนุน มาเป็นอำเภอทองผาภูมิ แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงจะค่อนข้างช้า เพราะว่าเฉลี่ยออกไปรอบด้าน ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในตัวเมือง (ตลาด) อย่างเดียว แต่ก็ยังเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ใครที่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรือยอมรับได้ยาก ก็ย่อมเกิดความทุกข์ใจ เครียด บางคนกลายเป็นโรคที่ฝรั่งเรียกว่า Future Shock กลัวความทันสมัย ไม่ว่าจะคนที่กลัวความเปลี่ยนแปลงมาก กลัวความเปลี่ยนแปลงน้อย หรือไม่กลัวความเปลี่ยนแปลงเลยก็ตาม ล้วนแต่ต้องศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไว้เป็น "ยารักษาใจ" ไม่ไหลตามความเจริญอย่างขาดสติ และไม่ปฏิเสธความเจริญที่มาถึง มีธรรมะคุ้มครองรักษาจิตอยู่ตลอดเวลา จึงจะสมกับการเป็นพุทธศาสนิกชนที่แท้จริง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-04-2020 เมื่อ 07:55 |
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#454
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันศุกร์ที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๓ ทางวัดท่าขนุนเปิดศาลาร้อยปีหลวงปู่สายตั้งแต่บ่ายสามโมง เพื่อรอรับคณะของ ผอ.โม้ย (นางสาวสุภาภรณ์ เจริญศิริโสภาคย์) ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี ที่จะมาถ่ายทำรายการ "บวร" ออนทัวร์
ไอ้ตัวเล็กมาเอาห้าโมงเย็น เพราะไม่คุ้นเคยกับสภาพงาน จึงแวะถ่ายทำรายการที่ไทรโยคก่อน อาตมาบอกไปว่า "มาไม่ตรงเวลาแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ปิดวัดอยู่ หลวงพ่อก็ทิ้งไปทำงานอื่นแล้ว..!" ฝ่ายถ่ายทำก็เกรงว่าหลวงตาบ้านนอกจะไม่เคยชินกับกล้อง นัดแนะขั้นตอนสารพัดสารเพ ก่อนที่จะตั้งกล้องนับเวลาถอยหลัง แล้วลงมือสัมภาษณ์ประโยคแรก ต่อจากนั้นหลวงตาบ้านนอกก็ฉายเดี่ยว คำถามเดียวแต่ตอบทุกปัญหาที่ต้องการทราบ ที่เหลือคุณเอาไปตัดต่อเอาเองก็แล้วกัน..! กลายเป็นว่าวัดใหญ่ที่สุด แต่ใช้เวลาในการถ่ายทำน้อยที่สุด เวลาออนทัวร์ที่บอกว่าให้ ๓ - ๔ นาที หลวงตาบรรเลงไปเกิน ๕ นาทีแล้ว แต่ก็มีเว้นระยะเพื่อให้ตัดต่อ ทางทีมงานจะได้แสดงฝีมือบ้าง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-04-2020 เมื่อ 20:35 |
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#455
|
||||
|
||||
"หลังจากนั้นก็มานั่งรอเวลา ด้วยการสนทนาธรรมกับพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งฆราวาสในวัด เนื่องจากได้ปรับเวลาการทำวัตรเย็นเหลือรอบเดียว ครั้นทำวัตรเสร็จแล้วฝนที่รอมานานก็ตกลงมาพอดี
ปกติฝนตกทีไรอาตมาจะเป็นไข้ทุกครั้ง แต่คราวนี้ที่ไม่เป็นไข้เพราะว่า อากาศที่ร้อนเหลือรับ ช่วงเช้า ๒๕ องศาเซลเซียส ช่วงบ่าย ๓๙ ถึง ๔๐ องศาเซลเซียส ทำเอาผดร้อนขึ้นเต็มตัว ลำพังแค่ผดร้อนก็ไม่มีปัญหา แต่นี่มีเคราะห์ซ้ำกรรมกระทืบ..! เนื่องจากว่าสมัยที่ยังเด็กอยู่ ได้เอาน้ำร้อนลวกตัวตุ่น ซึ่งความจริงก็คืออ้นเล็ก (แต่ชาวบ้านแถวนั้นเรียกตัวตุ่นกันทั้งนั้น) เพื่อทำเป็นอาหาร เป็นการลวกทั้งเป็น โดยใช้กรรมหนักไปแล้วตอนที่โดนยำด้วยฝีมือของพระเณรและแม่ชีในวัด ที่เอาผ้าขนหนูผืนใหญ่ชุบน้ำร้อนแล้วถูทั้งตัว จนหนังถลอกปอกเปิก เพื่อจะให้อาตมาฟื้น ทั้งที่เข้าสมาธิอยู่แท้ ๆ..! แต่เนื่องจากเคยทำกรรมแบบนี้มาหลายครั้งหลายหน จึงต้องโดนเศษกรรมตามทวง จังหวะไหนทวงได้เป็นต้องเอา มาจังหวะนี้จึงต้องใช้กรรมให้เขา ด้วยการเป็นผดมีอาการปวดแสบปวดร้อนไปทั้งตัว"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-04-2020 เมื่อ 20:37 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#456
|
||||
|
||||
"ในเรื่องของยถากัมมุตาญาณนั้น ความดีสูงสุดที่เห็นก็คือ เรารู้ว่าเคยทำอะไรมา จึงต้องมารับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ในปัจจุบัน ทำให้เห็นได้ชัดว่า เราทำกรรมหนักระดับล้าน แต่อาจจะชดใช้เขาแค่บาทแค่สลึงเท่านั้น จิตใจจึงยอมรับได้ง่าย เห็นว่าเป็นธรรมดา เพราะว่าเราทำ เราจึงต้องมารับกรรมนั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-04-2020 เมื่อ 20:37 |
สมาชิก 156 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#457
|
||||
|
||||
"อาตมาจึงต้องนั่งอ่านหนังสือจนสี่ทุ่ม รอให้อากาศที่เย็นด้วยฝนตก เย็นให้ทั่วถึงก่อนจึงเข้านอน เพื่อลดอาการปวดแสบปวดร้อนที่เกิดขึ้น
ขณะที่ส่งใจไปกราบพระ พุทธภาษิตที่ว่า กมฺมุนา วตฺตตี โลโก โลกนี้ย่อมหมุนไปตามกรรม หรือแปลเอาใจความว่า สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกฎของกรรม ได้ปรากฏขึ้นชัดในใจ "ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์เช่นนี้ เราไม่ขอมีอีกแล้ว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนเช่นนี้ ไม่มีสำหรับเราอีกแล้ว ตายเมื่อไรเราขอไปที่เดียวคือพระนิพพานเท่านั้น" กำลังใจสุดท้ายเกาะภาพสมเด็จองค์ปฐม องค์ใหญ่มหึมาสีขาวสว่างเจิดจ้า ครอบคลุมทั่วเขตวัดท่าขนุน อาทิสมานกายเป็นจุดเล็ก ๆ อยู่กึ่งกลางพระวรกายของพระองค์ท่าน เมื่อทุกอย่างชัดเจนแจ่มใส ก็ตัดกำลังใจทิ้งร่างกาย ไปอยู่ ณ จุดหมายที่ได้ตั้งใจไว้ ถ้าไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาทุกอย่างก็จบกันแค่นี้ คนที่รักไม่มี ของที่รักไม่มี ทรัพย์สมบัติไม่มี แม้แต่กายนี้ก็ไม่มี มีเหมือนกับไม่มี ไม่มีเหมือนกับมี มีแต่ไม่ยึดเกาะ ยึดเกาะก็รู้สึกว่าไม่มี ทุกอย่างจบสิ้นกันลงเพียงเท่านี้....สาธุ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-04-2020 เมื่อ 20:38 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#458
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนเมษายน ๒๕๖๓ หมดแล้วค่ะ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|