กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 06-08-2014, 14:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างวัตถุมงคลที่พระท่านพุทธาภิเษก มีทางที่จะเสื่อมอานุภาพไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มี...ยกเว้นว่าเราเสื่อมศรัทธาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 06-08-2014, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การเป็นพระอนาคามีควรเน้นการปฏิบัติตรงไหนคะ ?
ตอบ : ตั้งใจละสังโยชน์ ๕ ให้ได้ก่อน ไปเปิดตำราดูเลยว่ามีอะไรบ้าง แล้วหลังจากนั้นค่อยมาตัดสังโยชน์ข้อสุดท้าย

ถาม : เปิดอ่านและฟังอยู่ ?
ตอบ : ทำก็คือทำ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรคอยดูกันต่อไประยะยาว ๆ จำไว้ว่าถ้าก้าวถึงความเป็นพระอนาคามี ส่วนใหญ่จะอยู่บ้านไม่ได้ บ้านไม่ใช่สถานที่สำหรับเราแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 06-08-2014, 14:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีเด็กที่โรงเรียนทำข้อสอบ ให้นั่งสอบกับพื้น เขาก็นั่งสมาธิสวดมนต์ เพื่อน ๆ เขาก็ว่า เด็กเขาก็ทำอย่างนี้ทุกครั้ง คนเดินไปเดินมาเขาก็ดู เขาจะนั่งสมาธิ สวดอิติปิ โสฯ แผ่เมตตา ก่อนทำข้อสอบ ?
ตอบ : คนที่ทำอย่างนั้นได้กำลังใจต้องดีมาก ไม่หวั่นไหวกับคำพูดของคนอื่น บุคคลที่มีสิทธิ์จะบรรลุธรรมต้องเป็นอย่างนั้น เขาทำถูกแล้ว ถ้าเราห้ามจะกลายเป็นโทษของเรา

ถาม : ปล่อยเขาไปเลย ?
ตอบ : ปล่อยเขาเลยจ้ะ

ถาม : ว่าจะแนะนำคาถาท่านปู่พระอินทร์ให้เขาค่ะ
ตอบ : ถ้าได้ไปนี่จะกลายเป็นเสือติดปีกเลย เพราะว่าศรัทธาเขามีมากอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 06-08-2014, 14:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นักปฏิบัติจริง ๆ ต้องไม่แคร์สื่อ ถ้ามัวแต่ฟังคำชาวบ้านก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ใครจะว่าบ้า เราก็บ้าไปกับเขา นี่ยังดี สมัยหลวงพ่อฤๅษีฯ มีคุณยายท่านหนึ่ง มาจากทางชายแดนตาพระยา ไม่แน่ใจว่าทั้งหมู่บ้านหรือทั้งตำบลมีท่านปฏิบัติธรรมอยู่คนเดียว แล้วคนทั้งหมดเขาว่าคุณยายท่านบ้า คุณยายคนนี้ก็มาถามหลวงพ่อฤๅษีฯ ที่บ้านสายลม มาถึงแต่เช้ามืดเลย นั่งรถมา ๒ วัน สมัยนั้นเดินทางจากตาพระยามากรุงเทพฯ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะจ๊ะ เพราะว่าถนนสายใหม่ที่ออกทางจันทบุรี - สระแก้วยังไม่มี ต้องวิ่งไปนครนายกเข้าปราจีนบุรี กว่าจะถึงตาพระยาต้องหยุดกินข้าวกลางวันกลางทาง

อาตมาเองสมัยนั้นประจำการอยู่ที่นั่น ก็ต้องไปแวะกินข้าวที่ปราจีนบุรีก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อ นั่งรถมาเป็นวัน แล้วก็ไม่รู้คุณยายออกจากหมู่บ้านมาอย่างไร บอกว่ากว่าจะมาถึงนี่ ๒ วัน มาเพื่อจะถามปัญหากับหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่าสิ่งที่คุณยายทำนั้นบ้าหรือเปล่า ? หลวงพ่อฤๅษีฯ ก็บอกว่า "ยายปกติดี แต่พวกนั้นทั้งหมู่บ้านน่ะบ้า" คุณยายนุ่งขาวห่มขาว ถือศีลเข้าวัดสวดมนต์ ทุกคนก็หาว่าคุณยายบ้า

แต่ว่าคุณยายใช้ภาษาส่วยปนเขมรปนไทย ฟังยากอย่าบอกใครเลย พอดีว่าอาตมาเคยไปอยู่ชายแดนเขมรมาปีกว่า จึงพอฟังรู้เรื่อง พอคุณยายพูดมาทั้งบ้านสายลมมึนหมด หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านบอกว่า “เฮ้ย...ใครฟังออก ช่วยเป็นล่ามให้หน่อย” อาตมาก็บอกว่า "ผมพอได้ครับ" แล้วก็แปลให้ท่านฟัง ปรากฏว่าเพิ่งจะรู้ว่าจริง ๆ หลวงพ่อท่านฟังออก แล้วท่านเข้าใจด้วย เพียงแต่ว่า ท่านก็เกรงว่าถ้าไปรู้ทุกเรื่อง เดี๋ยวจะลำบากกันทีหลัง ท่านก็เลยหาคนแปล ที่รู้ว่าท่านฟังออกเพราะว่าพอแปล ๆ ไปแล้วอาตมาเหนื่อยก็หยุด คุณยายก็ถามต่อ แล้วหลวงพ่อตอบตรงคำถามเป๊ะ ถ้าคนฟังไม่รู้เรื่องจะตอบได้อย่างไร

สรุปว่าคนที่จะเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติต้องไม่แคร์สื่อ ว่าอย่างนั้นเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 236 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 06-08-2014, 14:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนลูกศิษย์ของคุณอารีรัตน์เมื่อครู่นี้ นั่นเขาไม่แคร์สื่อหนักว่านี้อีก เรียนอยู่ชั้น ม. ๕ พอถึงเวลาครูออกข้อสอบอัตนัย ต้องเขียนอธิบายกันยาว เพื่อน ๆ ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำ ส่วนเขาก็นั่งกราบพระกับพื้น สวดมนต์เสียนานเลยแล้วค่อยทำ ไม่แคร์สื่อจริง ๆ

เราลองไปนึกถึงเด็ก ๆ อยู่ชั้น ม. ๕ พอถึงเวลาคนอื่นทำข้อสอบ ก็นั่งกราบพระสวดมนต์ไปเรื่อย ไม่สนใจว่าเพื่อนจะมองอย่างไร สวดมนต์เสร็จค่อยทำข้อสอบ อย่างนั้นจริง ๆ แสดงว่าเขาตั้งใจทำสมาธิก่อน ต้องเป็นคนที่เห็นประโยชน์จริง ๆ ว่าสมาธิช่วยได้ เขาถึงได้ทำ

บุคคลที่เห็นประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม รู้ว่าสิ่งนี้ดีเขาก็ทำ จะไม่อายใคร แต่พอไปอีกระยะหนึ่งก็จะอยู่ในลักษณะที่ว่าปัญญาเริ่มมาก ก็รู้ว่าถ้าทำอย่างนี้บางคนจะมีโทษ เพราะตามที่เขาโดนมาก็คือ เพื่อนทั้งห้องทั้งโรงเรียนว่าเขาบ้า ฉะนั้น..คนที่ไปว่าผู้ปฏิบัติธรรมบ้า ชาติต่อไปก็มีหวังได้บ้า ๆ บอ ๆ กันบ้าง ถ้ารู้โทษแล้วเดี๋ยวต่อไปก็จะพยายามปิดบังตัวเอง จะเนียนขึ้น ตอนนี้ยังไม่แคร์สื่อ ใส่เต็มที่ไปก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-08-2014 เมื่อ 15:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 08-08-2014, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยอาตมายังวัยรุ่น คนโน้นก็หัดกินเหล้า คนนี้ก็หัดสูบบุหรี่ บางคนก้าวหน้าหน่อยก็สูบเฮโรอีนไปเลย สมัยก่อนเขาไม่เรียกเฮโรอีนนะ เขาเรียกว่า "ไอระเหย" ถึงเวลาเผาแล้วก็สูดควันเข้าไป สมัยนี้เรียกง่าย ๆ ว่า "ผงขาว" เพื่อนบางคนก็มาชวน แต่อาตมาไม่ได้ไปกับเขา เพื่อนก็ด่าเอา อาตมานึกขำ “ข้ารู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี ไม่ต้องเสียเวลาไปทดลองหรอก ถ้าผู้ใหญ่เขาห้ามแปลว่าไม่ดีแน่ ๆ”

ส่วนใหญ่เด็กสมัยนี้เขาชอบลอง ขาดศรัทธาคือความเชื่อในตัวของพ่อแม่หรือครูบาอาจารย์ ในเมื่อขาดตรงจุดนั้น พ่อแม่ครูบาอาจารย์บอกอะไรก็เลยไม่ฟัง ในเมื่อไม่ฟัง บอกว่าสิ่งไหนไม่ดีเขาก็จะทำ ในเมื่อทำแล้วเกิดโทษมากกว่าประโยชน์ ก็ไม่รู้จะไปโทษใครได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 09:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 08-08-2014, 09:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้การก่อสร้างศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ตัวเลขหลุดไป ๒๙ ล้านกว่าบาทแล้ว วันก่อนช่างเขามาขอเบิกค่าแรงในการทำโครงสร้างชั้นที่ ๑ กับชั้นที่ ๒ ไป ๕,๗๖๐,๐๐๐ บาท ค่าแรงทำโครงสร้างอย่างเดียว ไม่ต้องแปลกใจ ตัวเลขยังไหลไปอีกเยอะ เมื่อตอนที่ออกแบบใหม่ ๆ ประมาณปี ๒๕๕๔ ช่างเขาประเมินราคาไว้ที่ ๔๐ ล้านบาท แล้วมาทำปี ๒๕๕๖ ตอนนี้ปี ๒๕๕๗ แล้ว เพราะฉะนั้น..ยังไปอีกเยอะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 08-08-2014 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 08-08-2014, 09:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "คนจีนเขาเชื่อว่าพระสังกัจจายน์เป็นพระมหาลาภ ส่วนคนไทยถือพระสีวลีตามพระไตรปิฎก แต่ว่าพระมหากัจจายนะท่านก็เข้านิโรธสมาบัติเป็นปกติ ใครมีโอกาสทำบุญกับท่านก็รวยอยู่แล้ว พระสีวลีเป็นเจ้าชาย เป็นลูกของนางสุปปวาสาของโกลิยวงศ์

โกลิยะวงศ์ก็คือตระกูลทางฝั่งแม่ของพระพุทธเจ้า ก็ต้องนับว่าเป็นญาติ ๆ กัน ส่วนพระมหากัจจายนะเป็นมหาอำมาตย์ของพระเจ้าจัณฑปัชโชติ กรุงอุชเชนี แคว้นอวันตี สมัยนั้นแคว้นอวันตีก็ถือเป็นประเทศชายขอบ ถ้านับอย่างของเราก็คงประมาณบุรีรัมย์หรือสุรินทร์ไปโน่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 09:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 08-08-2014, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัตถุมงคลบางอย่างอาตมาทำจำนวนน้อย อย่างรูปหล่อหลวงปู่สายขนาด ๙ นิ้ว ทำแค่ ๓๐๐ องค์ เดี๋ยวคอยดู..พวกท่าขนุนจะบ่นอีก ตัดสินใจก็ช้า ทำอะไรก็ช้า ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สายมาได้อย่างไร กว่าจะขยับตัวคนอื่นกวาดไปหมดแล้ว แล้วก็มาบ่นว่าอยู่ที่นี่แท้ ๆ แต่ไม่ได้อะไรเลย ทุกครั้งจะเป็นอย่างนั้น

หลวงปู่สายท่านเป็นพระที่เด็ดขาด ทำอะไรค่อนข้างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว แต่ว่าลูกศิษย์ของท่านแต่ละคนยืดยาดอืดอาด เพราะฉะนั้น..มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หลวงปู่ท่านคงรำคาญ ท่านหนีออกธุดงค์ไปเกือบ ๗ ปี ทั้ง ๆ ที่เป็นเจ้าคณะอำเภอแล้วนะ หนีไปเกือบ ๗ ปีกว่าเขาจะไปตามกลับมาได้ อ้อนวอนกันแล้วอ้อนวอนกันอีก ไม่รู้ว่ารับปากกันอีท่าไหนท่านถึงยอมกลับมา แล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิม อาตมาก็ขี้เกียจไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะอับอายขายหน้ากัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-08-2014 เมื่อ 12:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 08-08-2014, 12:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตะกรุดกระดูกห่านเป็นตำราหลวงพ่อหรุ่น วัดอัมพวัน ต้นตำรับยันต์ ๙ ยอด ในเมื่อเหนียวนักเขาก็เล่นด้วยยาพิษ หลวงพ่อหรุ่นมีตำราแก้ยาพิษ โดยใช้กระดูกห่านขาวมาลงอักขระ นะโมพุทธายะ ๕ ตัวแก้พิษได้

ช่วงที่อาตมาอยู่วัดท่าซุงแล้วทำตะกรุดกระดูกห่านขาว บอกโยมที่เขาอยู่ใกล้ ๆ ร้านขายห่านพะโล้ ให้สั่งเจ้าของร้านเขาไว้ว่า ถ้ามีห่านขาวเข้ามาให้เก็บไว้ให้ด้วย เพราะว่าร้านเขาวัน ๆ หนึ่งเข้ามาเกือบร้อยตัวเห็นจะได้กระมัง ?

พอทำตะกรุดกระดูกห่านไปได้ระยะหนึ่ง พกติดตัวไว้ ออกธุดงค์สบายใจเฉิบ ไม่ต้องกลัวเลย ปรากฏว่าหลวงน้ามีชัยบอกว่า “ท่านเล็ก ผมว่าท่านจะต้องตายเพราะยาพิษแน่เลย” ถามว่าทำไม ? “ก็พระทั้งวัดไม่เห็นหลวงพ่อฤๅษีฯ ถ่ายทอดวิชานี้ให้ใคร มีแต่ให้ท่านคนเดียว” “นี่หลวงน้าแช่งผมนี่หว่า.!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 13:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 08-08-2014, 13:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อ ๑๐ ปีก่อนเห็นจะได้กระมัง ? ที่นิคมสหกรณ์ทองผาภูมิ มีผีที่เขาเรียกว่า "ผีโพลง" ไปกินกบ ชาวบ้านเขาเลี้ยงกบเป็นบ่อ ไอ้เจ้านี่มาถึงลงไปกินกบเขาแล้วก็กลับ ไม่รู้ลงไปได้อย่างไร เพราะว่าเขาเอาสแลนขึงปากบ่อไว้ ถึงเวลาผีลอยมาเป็นดวงไฟ ลงไปในบ่อ เขาส่องไฟดู ก็เห็นเป็นตัวนั่งยอง ๆ กินกบอยู่ พอกินอิ่มแล้วก็กลายเป็นดวงไฟลอยกลับไป

คราวนี้พอไปบอกตำรวจ ตำรวจเขาก็หาว่าอุปาทาน ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านก็บอกว่ากูไม่มีเวลาไปเฝ้าหรอก ท้ายสุดไม่รู้เจ้าของเขาทำอย่างไร ไปตามหัวหน้าคนงานที่หน่วยจัดการต้นน้ำ อาตมาก็ช่วยเขา ให้วัตถุมงคลไปเท่าไร แกพกไปหมด ปรากฏว่าไปเฝ้าเท่าไรผีก็ไม่มา ท้ายสุดเจ้าของบ่อก็เลยยืมเอาไปใช้ ตั้งแต่นั้นมาผีก็ไม่มากินกบ ไม่อย่างนั้นโดนกินจนหมดบ่อ ขาดทุนตายชัก

เพราะฉะนั้น..ถ้าเป็นเรื่องผีสาง ไสยศาสตร์ วัตถุมงคลของอาตมากันได้แน่นอน ไปนึกขำว่าผีลงไปได้อย่างไร คือผีโพลงนี่ลักษณะมาเป็นดวงไฟ แต่พอจะกินอะไร ก็กลับเป็นตัว ๆ เหมือนกับเรานี่แหละ น่าจะเป็นพวกอสุรกาย แต่คราวนี้เจ้าของบ่อจะยิงด้วยปืนก็กลัวกบตาย กลัวบ่อพัง ถึงเวลารอให้ผีกลับขึ้นมาก็เอาดาบไปไล่ฟัน อย่างนั้นเมื่อไรจะได้กิน เพราะผีไปเร็วกว่า ท้ายสุดไม่รู้จะแก้อย่างไร

ยังขำนายช่วย เจ้าของบ่อกบถามนายช่วยว่า “มึงไปได้ของขลังมาจากไหน ?” “อาจารย์ที่ต้นน้ำให้กูมา” “แล้วกูไปขอบ้างจะได้ไหม ?” “อาจารย์เขาย้ายวัดไปแล้ว” เขาไม่บอกว่าย้ายไปแค่วัดท่าขนุน พอดีช่วงนั้นอาตมาไปช่วยท่านอาจารย์สมพงษ์บูรณะวัดท่าขนุน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 13:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 08-08-2014, 14:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ฝนทองผาภูมิรังแกพระเป็นพิเศษ จะตกเฉพาะตอนบิณฑบาตทุกวัน จะมากจะน้อยก็ต้องเปียก เมื่อวันพุธเห็นว่าฟ้าก็โล่ง ๆ ดี ก็คิดว่าวันนี้โชคดีไม่เปียก ปรากฏว่าเดินไปถึงหน้าโรงเรียนทองผาภูมิวิทยาฝนก็ตก จนกระทั่งไปถึงหน้ากองร้อย ตชด. เปียกทั่วถึงดีแล้วก็หยุด เจตนาทดสอบกำลังใจ แสดงว่าพระใหม่รุ่นนี้ต้องมีพวกบารมีสูงเข้ามาบวช อยากรู้ว่าจะอึดสักแค่ไหน เพราะฉะนั้น..ใครที่ว่าบวชแล้วสบาย ไปบวชที่วัดท่าขนุนนะ อย่างน้อยได้อาบน้ำทุกเช้า เทวดาช่วยอาบให้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 08-08-2014, 14:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนสิงหาคมทางวัดมี ๒ งาน มีงานทำบุญวันแม่ ถ้ารวมปฏิบัติธรรมด้วยก็เริ่มตั้งแต่วันที่ ๙ ถ้าใครเวลาไม่พอก็ไปเฉพาะวันที่ ๑๒ ส่วนวันที่ ๓๐ สิงหาคม เป็นวันพุทธาภิเษกรูปหล่อหลวงปู่สายรุ่น ๑๐๐ ปี ไม่มีความจำเป็นไม่ต้องไปก็ได้ สงสัยเหมือนกันว่าจะห้ามอยู่ไหม บอกว่าไม่ต้องไปทีไร เห็นตะกายกันไปเยอะแยะทุกที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 08-08-2014, 15:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลวงปู่ครูบาบุญยังท่านโทรศัพท์มาจากวัดห้วยน้ำอุ่น บอกว่างานวันแม่ไปไม่ได้ เพราะว่าคนจะเอาผ้าป่ามาถวายวันแม่ แหม..วันอื่นตั้งเยอะตั้งแยะ จำเพาะต้องมาแย่งกับอาตมา ก็เป็นอันว่าหลวงปู่ไปไม่ได้ ๑ รูป

ครูบาอริยชาติท่านเป็นคนบอกให้นิมนต์เองแท้ ๆ ก็บอกไปไม่ได้ "ปีหน้าไม่ต้องหวังเลยนะ ผมจะไม่นิมนต์แล้ว" ว่าอย่างนั้น คือเป็นคนบอกกับท่านเอง ว่าวัดท่านมีงานทุกปี โดยเฉพาะเรื่องของงานวันแม่ เพราะฉะนั้น..จะไม่นิมนต์แล้วนะ ถ้ามีโอกาสจะนิมนต์งานอื่น ปรากฏปีนี้ครูบาอริยชาติให้เลขานุการโทรศัพท์มาบอกให้นิมนต์หน่อย อยากจะหนีงานซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทางด้านโน้น ปรากฏว่าส่งฎีกาไปแล้ว ท่านก็โดนล็อกคอ มาไม่ได้อยู่ดี แจ้งมาแล้วว่ามาไม่ได้ ก็เลยบอกท่านไปว่าปีหน้าไม่นิมนต์แล้วนะ หาทางมาเองแล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-10-2014 เมื่อ 06:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 08-08-2014, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความจริงอย่างหลวงพ่อชลอ หลวงตาวัชรชัย หลวงพ่อวิรัช หรือว่าพระครูองอาจของเรา อยากจะนิมนต์ท่าน แต่ว่าทุกคนมีงานหมด โดยเฉพาะแต่ละวัดเป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ซึ่งเขาบังคับว่า วันเฉลิมพระชนมพรรษาของทั้ง ๒ พระองค์ ต้องจัดงานถวาย ดังนั้นท่านก็มาไม่ได้ อาตมาก็ขี้เกียจเสียเงินอีก ๓๒ บาทลงทะเบียนฎีกานิมนต์ ก็เลยไม่ต้องหรอก

โดยเฉพาะปีนี้ของกาญจนบุรี ทางสำนักพุทธฯ ขอมาจัดงานปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัดท่าขนุน แต่การขอมาจัดงานปฏิบัติธรรมร่วมกับทางวัด ก็คือวัดจงจัดเสียดี ๆ เขาจะมาแขวนป้ายเท่านั้นแหละ พูดง่าย ๆ ว่าเป็นงานของเขา โดยที่เขาไม่ต้องเสียงบประมาณแม้แต่บาทเดียว ได้ยินว่าจะเอาผู้ว่าฯ มาเปิดด้วย ถ้าผู้ว่าฯ มาเปิดก็โน่นเลย สาย ๆ ค่อยมาเปิด เพราะว่าวันเริ่มงานของเราเป็นวันพระ มีทำบุญมีเทศน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-08-2014 เมื่อ 19:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 09-08-2014, 14:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สร้างเทวดาจะมีกำลัง ?
ตอบ : นั่นเป็นความเชื่อถือของพราหมณ์เขา อย่างเขาเชื่อว่าพระอาทิตย์สร้างขึ้นมาจากราชสีห์ ๖ ตัว ก็มีกำลังเท่ากับ ๖ เพราะฉะนั้น..เทวดาประจำวันแต่ละองค์จึงมีกำลังไม่เท่ากัน ความเชื่อของเขาไม่ใช่เรื่องปกติ เทวดาไม่ต้องไปเสียเวลาสร้างหรอก ถ้าทำความดีพอ ก็เกิดเป็นเทวดาเอง สร้างเทวดาได้จะสร้างคนทำไม ? ก็สร้างแต่เทวดาจะได้ไม่ยุ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2014 เมื่อ 16:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 10-08-2014, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านอาจารย์ รศ.ดร. สมพร แสงชัย ตั้งข้อสังเกตว่า "มวยจามดั้งเดิมเก่าแก่กว่ามวยไชยา"
ตอบ : ถ้าเราดูตามประวัติตั้งแต่ยุคพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ กองทัพจามต้องบอกว่าเกรียงไกรมากเลย ถ้าครั้งนั้นทางด้านพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แพ้นี่ รับประกันได้ว่าอาณาจักรขอมไม่เหลือแน่ เดี๋ยวอย่างไรลูกศิษย์ที่เขาสนใจมีหลายคน จะให้เขาศึกษาต่อหรืออาจจะไปครอบครูกับท่านอาจารย์เลยนะ เพราะว่าตอนนี้เขากำลังเรียนมวยไชยาอยู่ แต่กลายเป็นว่าเรื่องการที่จะฝึกปรือเพื่อจะให้เก่งจริง ๆ นั้นไม่มี กลายเป็นต้องไปโชว์อยู่ตลอด ก็ยังบอกกับเขาอยู่ว่า ถ้ามัวไปโชว์อยู่อย่างนั้นก็ไม่ค่อยจะได้อะไร

ถาม : มวยไชยาก็มีตั้งสามสี่สาย
ตอบ : ก็เพราะอย่างนั้นแหละ จึงเหมือนกับแย่งกันหากินแล้ว

ถาม : ถ้าถามผม ผมว่าของครูแปลงใกล้เคียงกว่า
ตอบ : พอหลุดจากรุ่นของท่านอาจารย์กิมเส็งกับครูเขตร์มา คนอื่นก็เบาลงไปเรื่อย ๆ เหมือนกับเข้าไม่ถึงจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 10-08-2014, 15:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครไปไหว้พระพุทธเจ้าที่เขมรหรือยัง ? โดยเฉพาะไอ้คุณเต้ย ผมว่าหน้าตาเหมือนคุณว่ะ..! พอดูแล้วรู้สึกสลดใจ สลดใจตรงที่ว่า ชาวบ้านเขาเชื่อง่ายยังไม่ว่า พระเองดันไปกราบไปไหว้ฆราวาสด้วย เพราะเชื่อว่าเขาเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด อาตมาก็สงสัยว่าบรรดาพระภิกษุสามเณรของทางด้านกัมพูชา เขาศึกษาพระไตรปิฎกกันอย่างไร พระพุทธเจ้าถึงเกิดใหม่ได้

ต้องบอกว่าบรรดากบฏ หรือผีบุญของเราสมัยก่อนยังเก่งกว่าเยอะ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านั้นมีความสามารถจริง ส่วนใหญ่อยู่ยงคงกระพัน ยิงไม่ออก ฟันไม่เข้า ก็กลายเป็นผู้นำคนขึ้นมาได้ อย่างนี้เขาแค่ประกาศตัวว่าเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด คนก็ดันเชื่อ คาดว่าอีกไม่นานบ้านเราก็คงจะมี

ในบ้านเราตอนนี้เอาแค่ในเว็บพลังจิต อาตมาเจอพระศรีอริยเมตไตรย ๓ คนแล้ว ตกลงคนไหนพระศรีใหญ่ พระศรีกลาง พระศรีเล็กก็ไม่รู้..! ต่างคนต่างบอกตัวเองเป็นพระศรีอริยเมตไตรย ตัวจริงนั่งหัวเราะอยู่ข้างบน ท่านคงอยากดูเหมือนกันว่าใครจะสวมบทบาทได้เหมือนกว่า

ที่กล่าวถึงตรงนี้อยากจะบอกกับทุกท่านว่า การปฏิบัติธรรมพอไปถึงระยะหนึ่งจะมีการทดสอบ คราวนี้การทดสอบเขาไม่บอกว่ามาแบบไหน บางท่านอยู่ ๆ มีความสามารถพิเศษ มีฤทธิ์ มีอภิญญา เกิดหูทิพย์ตาทิพย์ รู้โน่นรู้นี่ให้ยุ่งไปหมด แล้วเรื่องที่รู้ก็จริงบ้างไม่จริงบ้าง ก็ทำให้หลงผิด ออกนอกลู่นอกทางไปได้ง่าย

อาตมาเองก็ไม่อยากจะยุ่งหรอก แต่คราวนี้ไปมีส่วนอยู่ในเว็บพลังจิต ดังนั้น..อะไรที่นอกทุ่งนอกท่ามากก็ต้องไปลบทิ้ง ลบทิ้งก็โดนด่า ด่าเสร็จดันแช่งซ้ำ แช่งเสร็จตัวเองตาย..! โทษใครไม่ได้อีก ไม่กี่วันนี้ก็เพิ่งตายไปอีกคนหนึ่ง รู้จักไหม ? ใบไม้นอกกำมือ เขาไม่รู้ว่าคนลบคืออาตมา ก็แช่งเลย ขนาดมีคนเขาโพสต์เตือนแล้วนะว่าอย่าไปแช่ง เดี๋ยวจะเป็นเหมือนอาจารย์กุ๊กไก่ แต่ปรากฏว่าเขาฟังไม่ทัน ไม่เข้าใจ อาตมาก็ยังกลัวใจตัวเองเหมือนกันแหละ ว่าอะไรจะสะท้อนไปทุกเรื่องก็ไม่รู้

ไม่ได้ประสงค์ร้ายต่อผู้อื่นมานานแสนนานแล้วนะ นานจนชักลืมไปแล้วว่าความโกรธเป็นอย่างไร แต่ก็เล่นเอาคนประสงค์ร้ายเดือดร้อนไปตาม ๆ กัน จะว่าเขาทำตัวเองก็ยังรู้สึกสลดใจอยู่ ว่าตัวเราเองเป็นทุกข์เป็นโทษให้คนอื่นเขาเดือดร้อนได้เหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 10-08-2014, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนช่วงนี้กำลังทำหนังสือประวัติวัดท่าขนุนอยู่ ใช้เวลารวบรวมข้อมูลตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ - ๒๕๕๗ ไม่นานนะ คราวนี้มีหลักฐานอ้างอิงชัดเจนหมด สัมภาษณ์คนมาเป็นร้อยแล้ว รับรองว่าไม่มีประวัติวัดฉบับไหนชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ขอโทษ..ถ้าอ่านแล้วสนุกจะคิดเนื้อหามีนิดเดียว หนังสือหนาเป็น ๑๐๐ หน้า อ่านพักเดียวจบนี่คนอ่านหงุดหงิดหรือเปล่าไม่รู้ ? แต่คนทำเหนื่อยแทบตาย

บรรดาประวัติเจ้าอาวาสก็มีของหลวงปู่สายมากที่สุด เพราะว่าเป็น ๑๐๐ ปีของท่าน ส่วนของท่านอื่นอยากจะให้มากเหมือนกันแต่ค้นไม่เจอ ในเมื่อค้นไม่เจอก็เลยไม่สามารถที่จะหามาลงให้มากกว่านั้นได้ เพราะถ้าขืนลงมากก็ต้องโม้เอง ก็แปลว่าผิดแน่ ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 10-08-2014, 15:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,554 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีการทำงานไปพร้อมกับสมาธิ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเราสามารถจดจ่อกับงานได้ต่อเนื่องยาวนานขึ้นไหม ถ้าจดจ่อต่อเนื่องอยู่กับงานได้ยาวนานขึ้น สมาธิก็พัฒนาขึ้น แต่ว่าจริง ๆ แล้วการที่ทำอย่างนั้นเป็นเรื่องยากนะ ถ้าเป็นไปได้คือ เราควรที่จะหาเวลาแต่ละช่วงของวัน มานั่งสมาธิจริง ๆ จัง ๆ เอาสัก ๑๕-๒๐ นาทีก็ยังดี เพราะว่าจะทำให้กำลังใจทรงตัวได้ง่ายกว่าที่เราไปตั้งหน้าตั้งตารบอยู่กับงาน การที่เราตั้งหน้าตั้งตารบอยู่กับงานแรงกระทบจะมีมาก ในเมื่อแรงกระทบมีมาก สมาธิดี ๆ ยังพังเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-08-2014 เมื่อ 17:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว