|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#21
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนตั้งใจที่จะสร้างพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรเนื้อเงิน ก็นึกถึงครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็คือ หลวงปู่สรวง ที่หลายคนให้สมญานามท่านว่า เทวดาเล่นดิน
พระปางห้ามสมุทรนั้น มีเคล็ดลับอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือเรื่องของการห้ามภัยธรรมชาติจากน้ำ หลวงปู่สรวงท่านเคยให้คาถาเกี่ยวกับการป้องกันน้ำ หรือภัยธรรมชาติจากน้ำไว้ ก็เลยระลึกถึงท่าน ปรากฏว่าบุคคลที่มา กลายเป็นหลวงปู่ทองทิพย์ สองท่านไม่ได้มีรูปลักษณะใกล้เคียงกันเลย ถ้าหลวงปู่ทองทิพย์ไปเดินอยู่กลางทุ่งนา ขออภัยเถอะ...บางคนอาจคิดว่าท่านเป็นลิเกหลงโรง เพราะหลวงปู่ทองทิพย์ท่านใส่แหวนทุกนิ้ว แต่ว่าทั้งสองท่านก็มาสายพระโพธิสัตว์เก่า ถึงเวลาต้องมาสงเคราะห์โลกเช่นกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:47 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#22
|
||||
|
||||
"อาตมาเองใช้ประคำอยู่หลายสาย มีอยู่สายหนึ่งที่ติดพระกริ่งจักรพรรดิชัยวรมันของหลวงปู่สรวง ส่วนในย่ามมีพระพิทักษ์โลกของหลวงปู่ทองทิพย์อยู่ คือเรื่องของพระโพธิสัตว์บางอย่างต่อให้ท่านฝืนกฎของกรรมเพื่อความสุขของส่วนรวม ท่านก็ยอมทำ
ฉะนั้น...ในเรื่องของการสร้างพระปางห้ามสมุทรนั้น สาเหตุหลัก ๆ เลยก็คือว่า คนกาญจนบุรีกลัวเขื่อนแตก เคยมีอยู่ปีหนึ่ง...ก็ไม่นานเท่าไรหรอก เขาลือกันว่าเขื่อนเจ้าเณรแตกแล้ว เขื่อนเจ้าเณรก็คือเขื่อนศรีนครินทร์ ก็ทำเอาญาติโยมในเมืองกาญจนบุรีหนีไปอยู่บนยอดเขากันมาก แล้วด้วยความที่คนมากพื้นที่น้อย ก็มีการแย่งชิงพื้นที่ถึงขนาดต่อยตีทะเลาะเบาะแว้งกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:48 |
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#23
|
||||
|
||||
"ในเมื่อเห็นลักษณะนั้น ก็มาคิดว่ามีอะไรที่จะป้องกันเรื่องเหล่านี้ได้ ก็มานึกถึงพระพุทธเจ้าปางห้ามสมุทรที่ยกพระหัตถ์สองข้างเสมอพระอุระ แต่ความจริงพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรนั้น ก็คือห้ามทุกอย่างที่ไม่ดี
เนื่องจากว่าในเมื่อญาติโยมกลัวภัยทางน้ำ กลัวเขื่อนแตก ปางห้ามสมุทรก็เลยสมกับวัตถุประสงค์ตรงนี้ วัดท่าขนุนอยู่หน้าเขื่อนวชิราลงกรณหรือเขื่อนเขาแหลมเก่า ต้องบอกว่าประตูน้ำจ่อวัดอยู่เลย ถ้าเขื่อนแตกเดี๋ยวนั้นรู้เดี๋ยวนั้น ก็ยังหนีไม่ทัน ประมาณ ๓-๔ วินาที มวลน้ำจะถึงวัด จากการคำนวณด้วยคอมพิวเตอร์ ตูมแรกจะสูง ๓๖ เมตร แล้วหลังจากนั้นประมาณ ๒ ชั่วโมงครึ่งไปถึงกาญจนบุรี จะสูงประมาณ ๓ เมตร ๕ ชั่วโมงหลังเขื่อนแตก น้ำจะถึงกรุงเทพฯ สูงประมาณ ๒ เมตร ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ก็เลยตั้งใจว่า ถ้ามีโอกาสจะสร้างพระปางห้ามสมุทรสักองค์หนึ่ง ก็ได้บอกกล่าวกับทางด้านอาจารย์สุชาติ เลิศภูมิปัญญา ปฏิมากรผู้ปั้นสมเด็จองค์ปฐมเนื้อทองคำเอาไว้แล้ว ท่านก็ยินดีทำให้ อาทิตย์ที่แล้วท่านเพิ่งจะไปวัดขนาดบุษบกใหม่ บอกท่านว่าพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงิน ความสูง ๑๕๕ เซนติเมตร ทำเท่ากันก็หมดเรื่อง ท่านบอกว่าพระปางห้ามสมุทรทรงเครื่องมีพระมหาพิชัยมงกุฎด้วย ก็เลยต้องวัดกะขนาดกันใหม่ เอาให้แน่นอน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:49 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#24
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ มีงานพุทธาภิเษกใหญ่ที่วัด เสกพระกริ่งสะท้านไตรภพเป็นหลัก ส่วนที่เหลือก็จะเป็นพระพุทธลีลาประทานพรที่พวกเราจองทำบุญกฐินไป อาตมายังมีเหรียญ ร.๕ เพื่อสร้าง มจร. ไปเข้าพิธีเพิ่มด้วย
โดยเฉพาะพระกริ่งเนื้อเงิน จะเปิดให้แลกกันตรงนั้นเลย ใครเอาเม็ดเงินไป ๑ กิโลกรัม แลกพระกริ่งเนื้อเงินชนวนล้วน ๆ ได้ ๓ องค์ พระกริ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเกศาของอาตมาด้วย เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกที่บรรจุเกศา ความจริงไม่ได้คิดจะบรรจุหรอกนะ ก็ในเมื่ออาตมาทำแค่ตามคำสั่ง พระท่านสั่งแค่ไหนก็ทำแค่นั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:50 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#25
|
||||
|
||||
"ความจริงวันเสาร์ที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๓ เป็นวันเสาร์ ๕ ตามตำราที่อาตมาใช้ ปรากฏว่าปฏิทินหลวงไม่ตรง แล้วหลายคนที่คิดปฏิทินตำราเดียวกับอาตมา ก็คิดไม่ตรงกัน คราวนี้จะจัดงานบวงสรวงไหว้ครูเป่ายันต์เกราะเพชรก็ไม่ได้ เพราะว่าถ้าไม่ตรงกัน เดี๋ยวจะมีคนสงสัย ทำให้ต้องถกเถียงกันอีก
พอดี ดร.จักรกฤช ศีลาเจริญ จะสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพ เพื่อหาทุนสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บอกว่าขออนุญาตไปเสกเดี่ยวปิดท้ายที่วัดท่าขนุน อาตมาก็เลยยัดเยียดวันที่ ๒๒ สิงหาคมที่เป็นเสาร์ ๕ ของเราให้ไป แล้วก็ขออาศัยสร้างพระกริ่งสะท้านไตรภพร่วมกับเขาด้วย แต่ว่าเป็นแบบของวัดท่าขนุนเอง แต่ชื่อเดียวกัน ก็เลยมีพิธีเสกกันตรงนั้น ใครจองวัตถุมงคลไว้ จะไปรับกันตรงนั้น ก็ช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่เขาด้วย "
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:51 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#26
|
||||
|
||||
"พระกริ่งสะท้านไตรภพเนื้อเงินชนวนล้วน ๆ นั่นก็คือชนวนที่หล่อพระพุทธลีลาประทานพรเนื้อเงินกับสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงินของวัดท่าขนุน ไม่ได้ผสมอะไรเลย เอาชนวนอย่างเดียว สร้างได้กี่องค์ก็เอาแค่นั้น คาดว่าเปิดให้จองได้ประมาณ ๗๐๐ คน เพราะว่าจำนวนประมาณ ๒,๑๐๐ องค์ คนละ ๓ องค์ ก็น่าจะได้ ๗๐๐ คน เอาเม็ดเงินนอก ๑ กิโลกรัมไปแลก ได้คนละกิโลกรัมเดียว ไม่ใช่เอาไปคนละ ๗-๘ กิโลกรัม..!
อาตมาจะนำเม็ดเงินไปสร้างพระปางห้ามสมุทรเนื้อเงิน สูง ๑๕๕ เซนติเมตร ๑ องค์ และสร้างพระปัจเจกพุทธเจ้าเนื้อเงินหน้าตัก ๔๐ นิ้ว ๑ องค์ ก็แปลว่าใครที่เอาเม็ดเงินนอกไป ๑ กิโลกรัม ก็จะได้ร่วมสร้างพระ ๒ องค์"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:53 |
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#27
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่อง "ดราม่า" ของน้องชมพู่ เด็กที่โดนฆ่าตายบนเขา เกิดเพราะว่านักข่าวไปแย่งทำหน้าที่ตำรวจ เที่ยวไปสัมภาษณ์คนนี้คนนั้น เสร็จแล้วก็เอามาลงข่าว ทำให้ตำรวจทำงานยากขึ้นอีกมาก แต่ว่าตำรวจหลายท่านก็ฉลาด อาศัยนักข่าวเป็นเครื่องมือ อย่างการปล้นร้านทอง โดยอดีต ผอ.โรงเรียน ตำรวจแกล้งให้สัมภาษณ์ เหมือนอย่างกับหลงทางว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีออกนอกประเทศทางเส้นทางธรรมชาติ ส่งกำลังไปดักจับกุมแล้ว เพื่อที่ให้ผู้ร้ายตัวจริงเกิดความประมาท แล้วก็หลุดการกระทำของตนเองออกมา
ฉะนั้น...ในการที่สื่อมวลชนไปแย่งทำหน้าที่ตำรวจนั้น จะว่าไปแล้วก็ต้องตักเตือนกันเองในหมู่สื่อมวลชนด้วยกัน ไม่ใช่คิดแต่จะขายข่าวอย่างเดียว เพราะว่าหลายครั้งไปฟันธงก่อนศาลว่าใครถูกใครผิด แล้วพอถึงเวลาเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็ไม่มีการขอโทษผู้เสียหาย ยกเว้นว่าฟ้องร้องแล้วแพ้คดี ตรงนี้ทำให้เราเห็นชัดว่า สื่อมวลชนบ้านเรานั้น ส่วนใหญ่ยังไร้จรรยาบรรณ ตั้งใจแต่จะขายข่าวอย่างเดียว จนกระทั่งเขาบอกว่า ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีต้องเสียเงิน แสดงให้เห็นคุณภาพในการเสพสื่อของประชาชนบ้านเราเหมือนกันว่าห่วยแตกสิ้นดี เพราะว่าถ้ามีคุณภาพในการเสพรับสื่อต่าง ๆ เขาก็จะไม่กล้าทำเรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เนื่องจากทำแล้วขายไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:55 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#28
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่ได้เจอกันตั้ง ๔ เดือน มาบ้านเติมบุญได้พักเดียว "น้ำตาจิไหล"..! เขาเรียกว่าฝึกวิปัสสนาญาณ ต้องตัดใจให้ได้ วิปัสสนาญาณข้อไหน ? ก็สังขารุเปกขาญาณ ตัดใจได้ ต่อไปก็ตัดได้ทุกเรื่อง ตัดไปตัดมา คนข้างตัวก็ไม่เอาแล้ว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:56 |
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#29
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้สมเด็จองค์ปฐมพลิกชีวิตที่หมดไป มีเนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อชินตะกั่ว เนื้อทองเหลือง เหลืออีก ๒ เนื้อ คือ เนื้อทองแดงกับเนื้อทองทิพย์ รอเจ้าหน้าที่หายใจก่อน เจ้าหน้าที่อยู่ข้างล่าง ยังไม่ได้หายใจเลย ไม่รู้ว่าตายไปแล้วหรือยัง ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 03:56 |
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#30
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าขีดวงล้อมด้านนอก กันไม่ให้พวกเทวดาหรือผีมารบกวน ใช้คาถาอะไรครับ ?
ตอบ : อิติปิ โสฯ ไม่ต้องคิดมาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:07 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#31
|
||||
|
||||
ถาม : ผมถวายปัจจัยตุ๊พ่อไป แต่ทีนี้มีส่วนเกินที่เขาทำบุญมาทีหลังด้วย จะจัดการอย่างไรครับ ?
ตอบ : ส่วนเกินมาก็มาทำบุญต่อสิวะ..! เขาเรียกว่าจัดการไม่เป็น ไม่ได้ให้อมไว้รับประทานคนเดียว ถาม : เพราะเราทำบุญในนั้นด้วย ก็คือมีส่วนหนึ่งในนั้นด้วย ? ตอบ : เอามาก็มาทำบุญต่อ เท่ากับสร้างบุญให้เขาด้วย ทำหลาย ๆ ยก หลาย ๆ ประเภท อย่าไปเอาอย่างเดียว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:08 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#32
|
||||
|
||||
ถวายสังฆทานแล้วให้รีบลง เพราะมีเวลาไม่กี่นาที "ไม่ต้องอาลัยอาวรณ์แล้ว ต้องฝึกการตัดให้ได้ หัดตัดทุกอย่าง โดยเฉพาะตัดใจ ขึ้นชื่อว่าตัด ทำท่าจะขาดใจ จะได้รู้ว่าตัดยากจริง ๆ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:08 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#33
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่าประมาทนะ เชื้อโควิดพัฒนาไปถึงรุ่นที่ ๖ แล้ว วัคซีนตามไม่ทันหรอก วัคซีนนี่ขั้นแรกยังทำไม่ได้เลย นี่เชื้อโรคพัฒนาไป ๖ ขั้นแล้ว ถามว่ารู้ได้อย่างไร ? เจอหน้าก็เลยคุยกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-07-2020 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#34
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "กฐินปลดหนี้ปีนี้ยอด ๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับสร้างพุทธมณฑลปัตตานี โอ๊ย...สงสารท่านอาจารย์ชรัช ท่านเจ้าคุณเพื่อนของอาตมา...ผอมตากลวงเลย ประเภทมหาหนุ่มน้อย ปริญญาโทสมัยก่อนนี่ไม่ต้องเจอกันแล้ว ท่านเป็นคนจริงจังมาก แล้วไปอยู่พื้นที่ซึ่งมีอิสลามหนาแน่นที่สุด อาตมาตั้งใจว่าเอาเงินไปให้เสร็จแล้วก็ลากลับเลย จะไม่อยู่นาน เดี๋ยวลำบากท่าน..ดูแลยาก"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:45 |
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#35
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เร่งให้โยมรีบ "รู้สึกว่าชีวิตจะกระตือรือร้นขึ้น ใครที่ทำอะไรเชื่องช้า ก็จะได้รู้ว่าการไปพระนิพพานต้องเร็วกว่านั้น ถ้าหากว่าช้าก็ไปไม่ถึงพระนิพพาน ช่วงชีวิตเหลือน้อย ต้องเร่งสร้างกุศลให้มากไว้ ให้พอมีแรงเหวี่ยงส่งเราไปให้ถึง
พวกเราต้องนึกดูว่า จากโลกของเราถ้าจะส่งจรวดขึ้นไปในอวกาศ ต้องมีไฮโดรเจนเหลวเป็นพันตัน มูลค่ากี่ร้อยล้านก็ไม่รู้ ? ปรากฏว่าส่งไปด้วยจำนวนเงินมหาศาลและพลังงานมหาศาลขนาดนั้น หลุดพรวดไปอยู่อวกาศ แต่ติดอยู่แค่ในสุริยจักรวาล ถ้าสมมติว่ามีพลังงานเพียงพอ ส่งตัวเองหลุดจากสุริยจักรวาล ก็ไปติดอยู่ในกาแล็กซี่ทางช้างเผือก อุตส่าห์หาสารพัดเชื้อเพลิงต้นทุนมหาศาลจนประมาณไม่ได้ ดีดตัวเองหลุดจากทางช้างเผือก ก็ไปติดอยู่ในเอกภพ..ยูนิเวิร์สของฝรั่ง เพราะว่าพวกกาแล็กซี่ เนบิวลาต่าง ๆ รวมกันเป็นเอกภพ ต้องหาพลังงานที่มหาศาลมากกว่านั้นอีกประมาณไม่ได้ ดีดตัวเองหลุดพ้นเอกภพไปแตะขอบสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช โอ้...หมดไปเท่าไร แต่ไปได้แค่นั้นเอง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:46 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#36
|
||||
|
||||
"แล้วเราเองลงทุนด้วยทานกับศีล ก็ไปตรงนั้นได้แน่นอนแล้ว ขอให้ทำอย่างมั่นคงจริงจังเท่านั้น ถ้าหากว่าภาวนาเพิ่มไปอีก แทนที่จะไปแค่ชั้นจาตุมหาราช ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัตตี ถ้าภาวนาทรงตัว ก็หลุดไปพรหมชั้นที่ ๑-๒-๓-๔-๕-๖-๗-๘-๙-๑๐-๑๑ ใช้ปัญญาเพิ่มเข้าไปด้วย ตัดกิเลสได้ หลุดพ้นไป เป็นพรหมชั้นที่ ๑๒-๑๓-๑๔-๑๕-๑๖ แล้วต้องใช้พลังงานมหาศาลขนาดไหน ถึงจะดีดให้หลุดพ้นชั้นที่ ๑๖ ไปพระนิพพาน ?
ฉะนั้น...เราจะเห็นว่า ทำไมพระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ เปรียบกับเราแล้ว พลังงานของท่านมหาศาลไม่มีที่สิ้นสุด บาลีถึงได้กล่าวว่า พุทโธ อัปปมาโณ ธัมโม อัปปมาโณ สังโฆ อัปปมาโณ เพราะว่าเราไม่สามารถจะคำนวณได้ว่า กำลังในการตัดกิเลส ละกิเลส เหวี่ยงตัวเองให้หลุดพ้นวงโคจรของกิเลสนั้น ต้องใช้กำลังที่แข็งแกร่งมหาศาลขนาดไหน ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#37
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกอะไร พวกเราก็มักจะหูทวนลมกัน ท่านบอกว่า "หลวงพ่อไหลมาเทมา" เราก็ไปเอา "หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา" ตกลงว่าทองเทิงอะไรก็ไม่เอาแล้ว
ไหลมาเทมา ของท่านคือทุกเรื่องทุกอย่าง เรียกว่าในสิ่งที่ดี ๆ ทั้งหมด แต่คนเอาแค่หลวงพ่อเงินไหลมาเทมา จะเอาแค่เงินอย่างเดียวก็ตามใจ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:50 |
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#38
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาเรารีบทำรีบตัดสินใจ จะแสดงถึงบารมีที่เข้มข้นขึ้น ถ้าบารมีไม่เข้มพอ ก็จะไม่เด็ดขาด ประมาณว่าตัดบัวแล้วยังเหลือใย ก็จะยืดเยื้อไม่รู้จักจบ จำไว้...อย่าไปอาลัยอาวรณ์ หลังมือผัวะเดียว..จบเลย..!
เวลาก้าวพ้นมาแล้ว เห็นคนอื่นอยู่ในสภาพอย่างนั้นก็สงสารเขา แต่เพราะสงสารนั่นแหละ ถึงต้องหลังมือให้ ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะยืนหยัดไม่ได้สักที"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:50 |
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#39
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "สิทธัตโถ อสโมโลเก แปลว่า พระพุทธเจ้านามว่าสิทธัตถะ กำจัดความมืดในโลก ความมืดทางนี้คืออวิชชา ความไม่รู้ รู้ไม่ทั่ว รู้ไม่หมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:50 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#40
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมารู้สึกดีใจมากที่ได้รับการฝึกมาแบบทหาร งานทุกอย่างต้องเสร็จภายใน ๓ นาที จึงเคยชินกับความเร็ว ทันทีที่เสียงนกหวีดดัง ต้องเก็บมุ้งหมอนที่นอนจัดเข้าที่ อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัว ลงไปจัดแถวให้เรียบร้อย ทั้งหมดนี้ภายใน ๓ นาที..!
ถามว่าทำได้อย่างไร ? ทำได้..เพราะว่าถ้าทำไม่ได้ก็โดนซ่อม คำว่าซ่อม เป็นศัพท์ทางทหาร แปลว่าเสียแล้วก็ต้องซ่อม เสียอะไร ? เสียระเบียบ ต้องซ่อมให้เข้าที่ โดนวิดพื้นบ้าง นั่งกระโดดบ้าง สัก ๑๐๐ - ๒๐๐ ยก เดี๋ยวก็ดีไปเอง เพราะฉะนั้น..ของตั้งหลายอย่าง ยังทำได้ภายใน ๓ นาที ถวายสังฆทานอย่างเดียว ๑๕ นาที จึงต้องเสร็จแน่นอน โดยเฉพาะตอนกินข้าว ทหารเขาให้เวลา ๑ นาที หรือไม่ก็นับ ๑ ถึง ๑ ต้องอิ่ม..! ก็คือถ้า ๑ ปุ๊บต้องอิ่มปั๊บ ได้กี่คำก็เท่านั้นแหละ ที่บอกว่าให้ ๓ นาที เป่านกหวีดครั้งแรกกับครั้งที่สอง ส่วนใหญ่ห่างกันแค่ ๑๐ กว่า ๒๐ วินาที ครูฝึกบอกว่าหมดเวลาแล้ว ที่เขาฝึกเอาไว้อย่างนั้น เพราะว่าถ้าเวลาออกรบจริง ข้าศึกจะมาตอนไหนไม่รู้ มัวแต่อ้อยอิ่งอยู่จะไม่ได้กิน บางทีรบติดพัน ๓ วัน ๓ คืน ไม่มีเวลากินอะไรเลย"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2020 เมื่อ 02:53 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|