|
เส้นทางพระโพธิสัตว์ การท่องไปในเมืองพม่า โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
|||
|
|||
เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๑๒
เมื่อวานเปิดโต๊ะจีนมาดีนัก เมื่อคืนยุงเลยช่วยกันรุมสกรัม ยังดีที่มีพัดลมเพดานให้ จึงบรรเทาลงไปได้มาก แต่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่ม ๕๐ จั๊ต...แฮ่...หาเงินได้ทุกทางเหมือนกันนะพรรคพวก...
ตีสี่ครึ่งยกขบวนหนียุงออกจากเมืองแปร หนึ่งชั่วโมงต่อมาก็ออกพ้นมณฑลปะโก เข้าสู่มณฑลมะกูย นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ ไปอีกชั่วโมง ถึงเมืองเอาลัน (ธงชัย) ท่านนาวินชี้ให้ดูรถเมล์ ซึ่งกระโดดขึ้นบาทวิถีไปตะแคงหมดฤทธิ์อยู่ริมรั้ว ตำรวจจราจรยืนจับกลุ่มวิจารณ์กันอยู่ใกล้ ๆ... ลำโพงกาสลัก ของแท้ต้องดอกซ้อนและเป็นสีม่วง ฟ้าสว่างเริ่มมองเห็นสภาพแห้งแล้งทั้งสองฟากถนน ลุงขาววิ่งกระเด้งกระดอนไปตามทางที่สภาพดีกว่าโลกพระจันทร์นิดหนึ่ง ถึงขนาดท่านป๊อปเมารถอ้วกแตกไปเลย..! แปดโมงเช้ามาถึงเมืองต่องวินจี ห่างจากเมืองปีราว ๑๑๔ ไมล์ หยุดพักฉันเช้ากันก่อน... จ่ายค่าอาหารไป ๑,๒๐๐ จั๊ต แล้วข้ามสี่แยกไปยังวัดชุยวินต่อง ทางขวามือเป็นต้นลำโพงกาสลักขนาดยักษ์ สูงประมาณ ๓ เมตร ออกดอกสีม่วงสะพรั่งไปทั้งต้น ปากทางเข้าวัดมีร้านขายหมากพลู มีลูกสาวแฝดน่ารัก เห็นพระเข้าก็เดินมาเกาะจีวรเลยทีเดียว เพิ่งจะขวบเดียวเองแท้ ๆ
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2011 เมื่อ 02:51 |
สมาชิก 82 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
พระเจดีย์ชุยวินต่อง สร้างโดยเจ้าเมืองอมรปุระ ชื่อพระเจ้ามหาเอกราช สร้างแล้วอธิษฐานปรารถนาพระโพธิญาณ นี่ก็เป็นพระโพธิสัตว์แท้อีกท่านหนึ่ง ที่องค์เจดีย์ปั้นใบหน้าของผู้สร้างเอาไว้ด้วย...
ลาเด็กแฝดแล้วฝ่าแดดที่จ้าขึ้นทุกขณะ ไปตามทางที่ขรุขระ สองข้างแห้งแล้งเช่นเดิม ๕๑ ไมล์ผ่านไปด้วยความปวดระบม ก็มาถึงตัวเมืองมะกูย เลี้ยวซ้ายหน้ามหาวิทยาลัย แล้วลงขวามาริมฝั่งแม่น้ำอิระวดี เตรียมข้ามฝั่งไปเมืองมินบู... แพขนานยนต์ที่จะพาข้ามไปเมืองมินบู โซยุนท์บอกว่าต้องฉันเพลก่อน เพราะกว่าจะข้ามแพไปคงจะเลยเที่ยง ของเก่ายังไม่ทันย่อย ของใหม่เลยฉันไม่ลง เจอลวดลายแม่ค้าซ้ำเข้าไปอีก พอพระฉันเสร็จเล่นเก็บอาหารเก่าไปเกลี้ยง จัดของให้ฆราวาสโต๊ะหนึ่งอีกต่างหาก มื้อนี้เลยเจอเข้าไปสองโต๊ะ ๑,๗๐๐ จั๊ต..! ซื้อตั๋วแพขนานยนต์ ๕๐๐ จั๊ต แล้วนั่งรอจนตูดด้านกว่าแพจะข้ามมารับ ยัง...ยังไม่ได้ลงแพหรอก มารดามันบิดตะกูดจนบ่ายโมงครึ่ง จึงยอมให้รถลงแพ แทนที่จะลงให้เรียบร้อยก่อน ถึงเวลาจะได้ออกเลย ตกลงมันแกล้งโง่หรือโง่จริง ๆ ก็ไม่รู้..? แพวิ่งตั้ง ๔๕ นาที พวกเราจึงสั่งน้ำอ้อยสดที่คั้นขายกันอยู่บนแพมาฉันกันก่อน...
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2011 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
|||
|
|||
ขึ้นจากแพวิ่งไปตามเตาขนมครกแคบ ๆ ข้างทางเป็นป่าเต็งรังแคระแกร็นเหลืองซีด ผ่านไปราวยี่สิบไมล์ คราวนี้เลี้ยวขวาลงทางฝุ่น ดันไปวิ่งตามรถหกล้อ ทำอย่างไรโซยุนท์ก็ไม่กล้าแซง พวกเราจึงถึงแก่การชราภาพ ผมหงอกขาวโพลนไปตาม ๆ กัน..!
เลี้ยวขวาอีกทีต้องข้ามสะพาน เจอราคาโหดครั้งละ ๑๕๐ จั๊ต สองสะพานหมดไปสามร้อย..! มาถึงจุดหมายปลายทางคือ รอยพระพุทธบาทเมืองมินบู ร้านค้าและที่พักปลูกใหม่ ๆ ยาวสุดลูกหูลูกตา อีกห้าวันถึงจะเริ่มงาน หลายแห่งกำลังก่อสร้างอย่างขะมักเขม้น ปลูกเป็นเพิงเลาะไปกับชายแม่น้ำเลย... ยอดเขาพระพุทธบาทมองไปอีกฝั่งแม่น้ำจะเห็นเพิงพักเป็นทิวแถว ถามราคาแล้วสะดุ้งแปดตลบ ห้องไม่พอแมวดิ้นตายคืนละสองพัน มันปล้นกันชัด ๆ..! ให้ท่านนาวินไปต่อรอง เขายืนยันว่าราคานี้ ทางการเป็นผู้กำหนดเอง ไอ้สุดโหด..! หมดท่าขึ้นมาก็ต้องยอมมัน กำลังจะขนของลง ทิดจิตรก็วิ่งมาห้ามไว้ บอกว่าตอนพาท่านชาไปห้องน้ำ เจ้าของบ้านยินดีแบ่งห้องให้เช่า คิดคืนละห้าร้อยเท่านั้น พวกเราหอบข้าวของเฮละโลไปทันที ทิ้งพวกที่แบกเสื่อมา ให้ยืนมองทิป ๕๐ จั๊ตในมือตาปริบ ๆ อีก ๑,๙๕๐ จั๊ตลอยตามพวกเราหายวับไปกับตา..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2011 เมื่อ 03:01 |
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
|||
|
|||
เข้าที่พัก สรงน้ำ ผลัดกันปลงผม ซักผ้าเสร็จตากเรียบร้อยแล้ว ก็ครองจีวรเดินขึ้นไปรอยพระพุทธบาทบนเขา ซุ้มทางขึ้นมหึมา ผลงานของอูคันตีมหาฤๅษีโพธิสัตว์อีกนั่นแหละ...
ทางชันเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน ทำเอาท่านชาที่กำลังจับไข้แทบหายไข้เลยทีเดียว...กราบหลวงพ่อพระมหามุนีจำลอง แล้วไปกราบรอยพระพุทธบาทที่เขาทำกรงเหล็กกันไว้ ๒ ๓ ชั้น สวดประกาศอุโบสถบอกบริสุทธิ์ต่อกัน จากนั้นอุทิศส่วนกุศล... บันไดชันมากจนต้องพักเหนื่อยถ่ายรูปกันเป็นระยะ เจ้าหน้าที่กรุณามาเปิดกรงให้เข้าไปจนถึงชั้นในสุด ได้กราบทำบุญอย่างใกล้ชิด มีญาติโยมโชคดีได้ตามเข้าไปอีกหลายคน อธิษฐานเสร็จก็ออกมาเดินดูของที่เขาขายกัน มีแต่ของซ้ำ ๆ กันทั้งนั้น มาถึงสองผัวเมียไทยใหญ่ มีของป่าสารพัดมาขาย... ทั้งสองพอพูดไทยได้บ้าง พวกเราซื้อน้ำมันเลียงผา ที่เขาเคี่ยวจนแข็งเป็นเนยกับเลือดผา ต่อราคากันอย่างสนุกสนาน รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ห้าร้อยป้าแกเรียก ห้าบัท..! ทำไปทำมาของราคา ๔๕๐ จั๊ต อาตมาจ่ายแค่ ๒๐๐ จั๊ต แกก็ตกลง..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2011 เมื่อ 03:03 |
สมาชิก 82 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
|||
|
|||
กลับลงมากราบรอยพระพุทธบาทข้างขวาที่มณฑปข้างล่าง เรียบร้อยแล้วเข้าที่พัก คุณตาเจ้าของบ้านหอบน้ำร้อน น้ำเย็นมาถวาย อาตมาจ่ายค่าที่พัก ๕๐๐ จั๊ต แล้วนั่งตรวจสอบบัญชีรายรับ รายจ่าย พักเดียวอีกเตียงที่สุมหัวรวมกันอยู่ก็แตกฮือ..!
เรือด ครับท่าน..! เป็นฝูง ๆ เลย หอบผ้าหอบผ่อนเผ่นกระเจิง ไอ้เรือดระยำ..! มันนัดกับคุณตาไว้หรือเปล่าวะ..? ร้อยวันพันปีมันไม่กัด พอจ่ายเงินไปเรียบร้อยมันกัดทันที...หนีลงมาเรือนข้างล่าง โยมเจ้าของบ้านเช่าสงสาร ยกห้องพักให้ ๑ ห้อง... เรือดหน้าตาแบบนี้แหละครับท่าน กัดสะเด็ดนักแล..! เขาบอกว่าเรือนพักด้านโน้นแพงเพราะเป็นของทหาร ด้านนี้ของชาวบ้านถูกกว่าเยอะ เขามีแต่ห้องที่ยังไม่เรียบร้อย ต้องหาเช่าเสื่อต่างหาก ท่านตู่ควักหมับให้ไป ๕๐๐ จั๊ต ไอ้ระยำพอกับเรือด..! รายจ่ายจากกองกลาง เอ็งขืนจ่ายแบบนี้บ่อย ๆ มีหวังหมดตูดเอาง่าย ๆ..! กว่าจะหาเสื่อได้หายไปเป็นชั่วโมง ต่างคนต่างไม่มีใครอยากให้ลูกค้าคนอื่น ขนาดรับเงินไปแล้ว เจ้าของยังต้องตามมาดู กลัวของจะหาย เขาบอกว่าคนแถวนี้ไว้ใจยาก ขนาดผ้าตากไว้ยังหายเลย..!
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2011 เมื่อ 00:53 |
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
|||
|
|||
ที่นอนมันเอียงตามเนินเขา ถ้านอนดิ้นมีหวังลงไปกองรวมกันที่มุมห้อง พื้นลั่นออดแอดทุกครั้งที่ขยับ ห้องมันเล็กจนท่านนาวินออกปากว่า “อย่างกับซ่องแน่ะ..!” ทำให้โซยุนท์ ตันอู ทิดจิตร ต้องไปนอนหนาวอยู่ที่รถแทน เบียดกันเป็นปลากระป๋องคงจะอุ่นขึ้นมาบ้าง
ท่านชากับท่านป๊อปที่ทดลองน้ำมันแก้ปวดเมื่อยจากร้านของป่า เห็นสรรพคุณทันตา เกิดอยากได้ไว้ใช้สักขวด ท่านชาท้องเสียซ้ำทำท่าจะเดินไม่ไหว ท่านป๊อปก็มือเติบต่อของไม่เป็น ทำให้อาตมาต้องไปแทน... มาเป็นกาละมังเลย แต่ที่คุณตาคุณยายขายเขาใส่ขวดเอาไว้ สองผัวเมียดีอกดีใจที่ลูกค้ารายใหญ่ย้อนกลับมาอีก ต่อรองราคากันใหม่ น้ำมันว่านขวดละ ๕๐๐ จั๊ต อาตมาต่อเหลือสามขวด ๖๐๐ จั๊ต..! ขยับขึ้นขยับลง จนเขาขอสามขวดเจ็ดร้อย “ขอนะ..มาไกล..” สองผัวเมียมาจากตองยี รัฐฉานโน่นแน่ะ... “หกบาท..มาไกลกว่า..มาจากชาน โยดะยาโน่นแน่ะ..” คำว่าชาน โยดะยา คือสยาม อยุธยา พวกเขาทนลูกตื๊อไม่ได้ จึงยอมให้สามขวดหกร้อย เห็นการเทแบบประณีต หยดเดียวก็ปาดเก็บแล้ว อาตมาก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน... คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คิมหันต์ : 04-10-2011 เมื่อ 23:40 |
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|