|
พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#1
|
||||
|
||||
บวชแล้วสึก
ตอนนี้พระวัดท่าขนุนที่เหลืออยู่ติดวัดจริง ๆ ไม่ได้นับพวกที่ไปเรียนข้างนอก เหลือประมาณ ๑๙ รูป ส่วนหนึ่งออกมาเรียน ที่เหลือบวชแล้วสึก
ความจริงบวชแล้วสึกนั้นมีเหตุผลหลายอย่างด้วยกัน ประการที่หนึ่ง ก็คือ มีความจำเป็นจริง ๆ กำหนดเวลาบวชไว้แค่นั้น ส่วนใหญ่ก็ติดด้วยเรื่องของอาชีพการงาน ประการที่สอง กำลังใจสู้กิเลสไม่ได้ รู้ว่าอยู่ต่อไปอาจจะเกิดโทษขึ้นก็เลยสึก ประการที่สามคล้ายกับประการที่สอง กำลังของกิเลสแรงกว่า ชวนให้สึก แล้วก็เชื่อ ตามกิเลสไป ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพระที่บวช ๆ สึก ๆ มีประวัติความเป็นมาคล้ายคลึงกันอยู่สองรูปด้วยกัน ก็คือ พระจิตตหัตถเถระ กับ พระนังคละกูฏะเถระ พระจิตตหัตถ์จำไม่ได้ว่าท่านประกอบอาชีพอะไร ส่วนพระนังคละกูฏะเถระท่านเป็นชาวนา ทำมาหากินด้วยความเหนื่อยยาก เห็นว่าพระสงฆ์สาวกของพระสมณโคดมไม่ต้องลำบากอะไร ถึงเวลาออกไปบิณฑบาต ชาวบ้านก็ถวายอาหารให้ จึงบวชเข้ามา ท่านจิตตหัตถ์ก็คล้าย ๆ กัน คราวนี้ทั้งสองท่าน พออยู่สบายกินสบายไประยะหนึ่ง รู้สึกว่าร่างกายเริ่มดี ก็เลยสึก แสดงว่าไม่ได้รับรู้และปฏิบัติในเรื่องของธรรมะเลย พระอุปัชฌาย์อาจารย์อาจจะสั่งสอน แต่ว่าไม่ได้ทำให้เกิดผล พอสึกแล้วก็ออกไปทำมาหากิน ผอมจนหัวโตก็เข้ามาบวชใหม่ ท่านทำอย่างนี้อยู่ถึง ๗ ครั้งด้วยกัน ปรากฏว่าครั้งสุดท้ายกลับบ้านไป จะไปหาผ้ามาสึก ประวัติตอนนี้ของทั้งสองท่านเหมือนกันเลย เหมือนกันตรงที่ว่า พอกลับไปแล้วเจอเมียนอนหลับอยู่ ภรรยาคงจะอ้วนท้วนน่าดู ท่านเห็นภรรยาเหมือนศพที่กำลังขึ้นอืด ก็เลยตัดใจ บวชใหม่ดีกว่าพระ อุปัชฌาย์อาจารย์ก็เบื่อ บ่นว่า "นี่อยากจะเอาหัวมาเป็นหินลับมีดหรืออย่างไร? บวช ๆ สึก ๆ เดี๋ยวก็โกน..เดี๋ยวก็โกน" ทั้งสองท่านให้คำมั่นเหมือนกันว่า คราวนี้บวชไม่สึกแน่ พระอุปัชฌาย์ทนอ้อนวอนไม่ได้ ก็เลยบวชให้ ปรากฏว่าท่านจิตหัตถ์เจริญกรรมฐานแล้วกลายเป็นพระอรหันต์ ส่วนพระนังคละกูฏะเถระนั้น ท่านเอาผ้าของท่านไปแขวนไว้เป็นเครื่องเตือนใจ ว่าสึกออกไปเมื่อไรก็เหนื่อยอย่างนี้ ท่านไปยืนพิจารณาธรรมอยู่ในป่า เพื่อนก็เห็นว่าท่านพอฉันภัตตาหารเสร็จก็เดินหายเข้าป่า..ฉันแล้วก็หายเข้าป่า เพื่อนเลยถามว่า "ท่านนังคละไปไหนหรือ ?" ท่านตอบว่า " อ๋อ..ผมไปหาครูบาอาจารย์ครับ" ก็คือ ท่านถือว่าผ้าเก่านั้นเป็นครูบาอาจารย์ ก็ไปพิจารณาธรรมจนกระทั่งหลุดพ้นเป็นพระอรหันต์เหมือนกัน พอหลุดพ้นท่านก็ไม่ได้ไปอีก เพราะใจหยุดดิ้นรนจนสุดแล้ว เพื่อนพระก็ถามว่า "ท่านนังคละ วันนี้ท่านไม่ไปหาอาจารย์ของท่านหรือ ?" พระนังคละกูฏะเถระบอกว่า "ขึ้นชื่อว่ากิจในการหาอาจารย์ของกระผมไม่มีอีกแล้วครับ" นักบวชสมัยนั้นแสบใช้ได้เลย ฟ้องว่าพระนังคละพยากรณ์ตัวเองว่าเป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้าต้องทรงยืนยันให้ว่า พระนังคละกูฏะเถระเป็นพระอรหันต์ หมดกิเลสแล้ว จบพรหมจรรย์แล้ว พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ช่วงบ่ายสอง หลังพิธีสึกพระ ณ บ้านอนุสาวรีย์ วันศุกร์ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-06-2019 เมื่อ 08:18 |
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีพระที่วัดท่าขนุนสึกไปประมาณ ๔ รูป ช่วงก่อนสึก พระอาจารย์ท่านบอกว่า
"พระกับฆราวาสต่างมีความกดดันอยู่ด้วยกัน พระ...ถูกกดดันด้วยกรอบของศีล ฆราวาส..ถูกกดดันด้วยการทำมาหากิน ดังนั้น ไม่ว่าจะพระหรือฆราวาส ควรตั้งใจพยายามในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด อย่างพระก็ตั้งใจปฏิบัติธรรมให้ถึงที่สุด ฆราวาสก็ตั้งใจทำมาหากินให้ร่ำรวยไปเลย อย่างพวกเราที่สึกออกไป ก็ยังมีศีลห้าคอยคุ้มครองอยู่" เท่าที่เถรีจำมา ก็น่าจะครบถ้วนกระบวนความดังนี้แล
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-06-2019 เมื่อ 08:18 |
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
Tags |
บวช, พระจิตตหัตถ์, สึก |
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|