กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 09-03-2010, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๓

ถาม : เวลาภาวนาคาถาโสตัตตะภิญญา เมื่อจิตนิ่งมากแล้ว รู้สึกอึดอัดข้างในมากเหมือนจะระเบิด ไม่ยอมคลายสักที หนูไม่รู้จะทำอย่างไร ก็เลยเปลี่ยนอิริยาบถ เพื่อให้คลายออกไป หนูติดอยู่ตรงนี้ค่ะ ไม่ผ่านตรงนี้เสียที

ตอบ : เลิกกลัวตายเสียก่อนแล้วจะผ่าน ถ้ายังกลัวตายอยู่ก็ไม่ผ่าน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 16:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 09-03-2010, 13:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่โยมท่านหนึ่งกำลังสั่งสอนลูกหลานตัวเองอยู่ พระอาจารย์ท่านเมตตาบอกว่า "ถ้าโยมยังไม่เปลี่ยนวิธีการ ชาตินี้สอนเด็กไม่ได้หรอก

การสอนเด็กมีอยู่สองอย่าง อย่างแรก คือ ชี้ให้เขาเห็นโทษแล้วเขาจะเลิกทำ อย่างที่สองก็คือ ชี้ให้เขาเห็นประโยชน์ จูงใจให้เขาอยากทำ

โยมจะเอาให้เด็กเขาทำตามใจเราอย่างเดียว เป็นวิธีการแข็งขืน ซึ่งเด็กเขาไม่ชอบ เพราะฉะนั้นทำไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะยิ่งทำ..เด็กก็ยิ่งดื้อ เราใช้ผิดวิธีการ ที่เรากำลังพูดอยู่เป็นวิธีที่เด็กเขาไม่ชอบที่สุด "


ถาม : อีกสองวัน เขาก็ไปโรงเรียนแล้วครับ ทางโรงเรียนเขาจะอบรม
ตอบ : เขาไปดีที่โรงเรียน กลับมาก็จะเสียเพราะเรา..!

จำไว้ว่า..ความหวังดีเกินไปของเรา อาตมาเคยใช้คำว่า หวังดีแต่ประสงค์ร้าย เด็กเขาไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตเท่ากับเรา เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาทำเป็นอย่างไร ? เราต้องค่อย ๆ ชี้แจงให้เขา ไม่ใช่ไปบังคับว่า ต้องเป็นอย่างนั้นต้องเป็นอย่างนี้


ถาม : พ่อแม่เขาบังคับ ผมเป็นแค่อา
ตอบ : ถ้าอาขนาดนี้ ยืนยันได้เลยว่าพ่อแม่แย่กว่านี้เยอะ..! ในเมื่อเป็นอย่างนั้นไม่ต้องไปหวังหรอก โรงเรียนก็เอาไม่อยู่ เพราะกลับบ้านมาก็เละใหม่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 09-03-2010, 13:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยนี้น่าสงสารมาก พ่อแม่ยังคิดว่าลูกเป็นดินน้ำมัน จะปั้นให้เป็นอะไรก็ได้ ซึ่งไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะว่าใจคนไม่เหมือนกัน

อ่านประวัติศาสตร์จีนดูสิ กษัตริย์จีนท่านหนึ่ง พยายามจะช่วยเหลือประชาชนที่โดนอุทกภัยทุกปี เพราะตายกันปีหนึ่งไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร กษัตริย์ท่านนั้นก็พยายามจะสร้างเขื่อนกั้นน้ำ แต่ยิ่งสร้างเท่าไรอุทกภัยก็ยิ่งรุนแรง เพราะว่าพอไปกั้นน้ำเอาไว้ น้ำพอสะสมรวมตัวกันมากเข้า ถึงเวลาที่น้ำพังเขื่อนแล้วกลายเป็นหนักกว่าเดิม

คราวนี้มีคำล่ำลือว่า ที่ภูเขาเซียนมีถ้ำอยู่ ในถ้ำนั้นมีคัมภีร์วิเศษ ถ้าใครสามารถดั้นด้นไปถึง เปิดคัมภีร์ออกมา ถามอะไรก็จะได้คำตอบ กษัตริย์ท่านนั้นก็เลยพยายามไปจนถึง พอเปิดคัมภีร์ขึ้นมา ได้คำตอบก็รีบจัดการแก้ไข และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอุทกภัยที่เคยท่วมหนัก คนตายปีละมาก ๆ ก็กลายเป็นบรรเทาเบาบางลง เพราะว่าคำตอบที่ได้มา เขาบอกเอาไว้แค่บรรทัดเดียวว่า ไม่ใช่กั้นแต่ให้ระบาย เท่านั้นท่านก็สามารถที่จะเอาไปใช้งานได้เลย

เนื่องจากทุกวันนี้ที่ท่านพยายามไปขวางกั้นธรรมชาตินั้นผิดวิธี มีอยู่ทางเดียว คือทำอย่างไรที่จะให้น้ำไปให้เร็วสุดและคล่องที่สุด ดังนั้น..พระองค์จึงขุดคลองซอยให้ได้มากที่สุด และก็ประสบความสำเร็จขึ้นมา

ฉะนั้น...เรื่องของการขวางธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แม้แต่พระพุทธเจ้าสอนธรรมเขาท่านก็คล้อยตาม ไม่เคยขัดใคร ท่านบอกว่าของเขาดีอยู่แล้ว แต่วิธีที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่ และก็ชี้แจงไปตามนั้น

คนเราพอรู้สึกว่าตัวเองทำดีอยู่แล้ว ทำถูกอยู่แล้ว พอรู้สึกว่าของเรายังมีดีอยู่ ก็จะไม่คัดค้าน เปิดใจรับฟังได้ แต่ถ้าไปบอกว่าไม่ดี เราพูดอะไรเขาไม่ฟังหรอก ฉะนั้น..ก็ลักษณะเดียวกัน เรื่องของการสอนเด็กเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก เด็กจะดีจะเสียอยู่ที่พ่อแม่เลย ขอร้องไว้อย่างหนึ่งว่า ถ้าไม่มั่นใจว่าสอนเด็กให้ดีได้ อย่าแต่งงานเลย จะกลายเป็นว่าสร้างปัญหาให้กับสังคมทีหลัง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 09-03-2010, 13:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าให้เด็กเขาเรียนดนตรี เพื่อฝึกสมาธิ ?
ตอบ : ให้เขาชอบเอง เราอย่าไปบังคับ เราอาจจะนำเขาไปฟังคนที่เล่นดนตรีเก่ง ๆ ก่อน แล้วถามเขาว่าอยากเป็นอย่างนั้นไหม ? หรือไม่ก็ถามเขาว่าสนใจไหม ? อยากจะทำอย่างนั้นได้บ้างไหม ?

ถ้าเขาให้ความสนใจเอง เราก็ค่อย ๆ ให้ ไม่ใช่อยู่ ๆ พาไปเรียน เหมือนกับคนที่ชอบขุดดินฟันหญ้า แล้วเราพาไปเย็บปักถักร้อย เดี๋ยวก็คลั่งตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 09-03-2010, 13:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกเขาอยากเป็นแบบธาราทิพย์ (นักยิมนาสติกทีมชาติ) แต่จะไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? เพราะลูกตัวใหญ่ หนัก หุ่นหนา
ตอบ : ไม่เป็นไร ถ้าถูกครูฝึกเขาติ เดี๋ยวเขาก็พยายามที่จะลดหุ่นเอง

ถาม : เขาชอบกินขนม พวกพิซซ่า
ตอบ : ชี้ให้ลูกเขารู้ ว่าที่เขากินนั้นมีโทษอย่างไร ? ไปขัดขวางในสิ่งที่เขาต้องการอย่างไร ? เช่น ถ้าหากหนูทำอย่างนี้ หนูไม่มีทางที่จะเป็นธาราทิพย์ได้ เพราะว่าพอเราอ้วนแล้วจะยกขาไม่ไหว เป็นต้น

บอกแล้วว่ามีอยู่สองอย่าง ก็คือ เห็นโทษอย่างหนึ่ง และเห็นประโยชน์อย่างหนึ่ง เห็นโทษแล้วเขาจะหลีกหนีเอง ถ้าเห็นประโยชน์เขาจะทำเอง หลักการมีง่าย ๆ แค่นี้


ถาม : แต่ต้องพูดมากนะคะ
ตอบ : อย่าลืมว่าเขาเป็นเด็ก เด็กเขาความจำสั้น จึงต้องจ้ำจี้จ้ำไช อย่างที่โบราณเขาบอกว่า ต้องปากเปียกปากแฉะ

ถาม : หนูไม่คิดเลยว่าตัวเองต้องพูดมากอย่างนี้ หนูเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่เขาพูดมากกับเรา
ตอบ : บอกแล้วว่าอะไรที่เคยเจอมาตอนสมัยเป็นลูก ถ้าได้เป็นแม่คนเมื่อไรแล้วจะรู้ ถ้าไม่เป็นพ่อเป็นแม่ไม่รู้หรอก ว่าทำไมท่านทำอย่างนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 28-01-2019 เมื่อ 18:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 09-03-2010, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บอกเด็กเขา บางทีเขาก็ไม่ฟัง
ตอบ : เด็ก ๆ เขามีตัวกูของกูของเขาอยู่ ผู้ใหญ่ก็มีตัวกูของกูเป็นของตัวเอง เขาจะรู้จักรักหน้า คือ กิเลสจะสอนให้เขารู้ตั้งแต่วินาทีแรกเลย เพราะฉะนั้น..ถ้าเขาทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ต้อง ถ้าเป็นไปได้ก็คือ สอนเขาแค่สองคน อย่าไปพูดในลักษณะประจานความผิดต่อหน้าคนอื่น เด็กเขาจะรับไม่ได้ เรื่องพวกนี้ฝังรากลึกข้ามชาติข้ามภพ

เขาบอกว่า อย่าตำหนิต่อหน้า ให้ชมต่อหน้า แต่ถ้าด่าต้องลับหลังบุคคลที่สาม เขาจะได้ภูมิใจว่าที่เขาทำดีแล้ว..ถูกแล้ว ให้ชมต่อหน้าแต่ว่าด่าลับหลัง อย่างน้อย ๆ ก็ไม่มีคนมาร่วมเห็นการเสียฟอร์มของเขา ถ้าอย่างนั้นเด็กจะพอรับได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-08-2014 เมื่อ 16:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 09-03-2010, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาบอกว่า ลูกคนเดียวจะมีปัญหา เพราะไม่มีเพื่อนคุย
ตอบ : ไม่มีหรอก เพราะแม่สามารถเป็นเพื่อนลูกได้ เพียงแต่ว่าแม่จะยอมเป็นเพื่อนลูกไหม ? ส่วนใหญ่แม่มักจะเป็นแม่ และแม่ที่เป็นครูมักแย่ที่สุดเลย เพราะความเคยชินที่ปากเปียกปากแฉะกับเด็กมาจากโรงเรียน พอกลับบ้านมา แทนที่จะเป็นแม่ก็ดันเป็นครูอีก เด็กจะเบื่อสุด ๆ เลย

ถาม : บางคนเขาบอกว่า พอมีลูกคนเดียว โตขึ้นมาเขาจะต้องมาดูแลพ่อแม่สองคน เขาดูแลไม่ไหว
ตอบ : นั่นฟุ้งซ่านเกิน พ่อแม่อาจจะตายเสียก่อน ไม่ต้องให้เขาดูแลก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 09-03-2010, 13:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกไม่ยอมทานข้าว
ตอบ : ก็ปล่อย ถ้าหิวแล้วเขาจะกินเอง ส่วนใหญ่พวกเราไม่ยอมปล่อยให้ลูกอด ไปยัดให้เขาทั้งวัน แล้วเขาจะกินอะไรไหว

เด็กที่เขาดื้อไม่ยอมทำตามที่เราต้องการ จริง ๆ กำลังใจลึก ๆ ของเขาก็คือ พอเขาไม่ทำแล้ว เราต้องไปง้อเขา เขาจะรู้สึกดี เพราะฉะนั้น..ปล่อยให้เขาอดเสียให้เข็ด อย่างเก่งก็ครึ่งวัน เดี๋ยวก็ตะกายมากินเอง

"ได้เวลาจะกินหรือไม่กิน ถ้าไม่กินก็อดไปเลย" หลังจากนั้นอีกสี่ชั่วโมง ค่อยเอามาให้ ถ้ารู้จักให้เขากินตามเวลา เขาจะจำ ต่อไปเขาจะรู้ว่า ถ้าไม่กินแล้วเขาจะอด


ถาม : แม่พอทำใจได้ แต่พ่อเขาคงทำใจไม่ได้
ตอบ : ไม่เป็นไร ถ้าอย่างนั้นก็เลี้ยงลูกให้เป็นบรรพบุรุษน้อย ๆ ไปก็แล้วกัน ถึงเวลาก็จะสั่งสอนเขาไม่ได้ เพราะเขารู้ว่าจะจัดการกับพ่อแม่อย่างไร โบราณเขาบอกว่า รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี มือหนึ่งต้องถือขนม มือหนึ่งถือไม้เรียว

ถาม : ถ้าเด็กไม่อึมาสี่วัน ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ? ปกติเขาอึทุกวัน แต่พอพี่เลี้ยงกลับไปแต่งงาน เขาไม่อึมาสี่วัน
ตอบ : อ๋อ...เป็นเพราะเครียด วิธีที่ดีที่สุด คือ หายาถ่ายขม ๆ มาให้กิน บอกว่าถ้าหากไม่อึอีก ก็จะโดนอย่างนี้ เขาจะหายเครียดทันทีเลย ยาดี ๆ ก็มีให้กิน แต่อย่าไปเอา เอาที่มันขม ๆ บีบจมูกให้กินไปเลย บอกว่าเพราะไม่อึก็เลยต้องกิน เดี๋ยวเขาก็วิ่งไปส้วมเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 09-03-2010, 13:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาไม่ค่อยกินอะไร
ตอบ : ไม่ให้กินเสียอย่าง เดี๋ยวก็วิ่งมากินเอง ปล่อยเอาไว้ เดี๋ยวเขาก็ร้อง รอบแรกเขาร้องผ่านไปเราก็เฉย ๆ ร้องจนเพลียหลับไป รอบที่สองร้องใหม่อีก ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ พอรอบที่สามแล้วค่อยถามว่าจะกินใช่ไหม ? หลังจากนั้นเดี๋ยวเขาวิ่งเข้าใส่อาหารเอง

อาตมาเลี้ยงลูกไม่ได้ คนอื่นเขาเห็นอาตมาเลี้ยงหลานแล้วจะหัวใจวายตาย แต่หลานแต่ละคนที่อาตมาเลี้ยง ถ้าหลุดจากมือเราไปแล้ว รับรองได้ว่าเข้าสู่ยุทธจักรได้ ไม่ตายแน่ คนสุดท้ายที่เลี้ยง น่าจะเป็นลูกของพี่อรวรรณ คนนี้เราต้องปั่นจักรยานทีละหลายกิโล อุ้มเขาไปด้วย เพราะว่าอาตมาสามารถขี่จักรยานโดยไม่ต้องจับแฮนด์ได้ ก็เลยอุ้มหลานไปด้วย ปั่นไปด้วย

อาจจะเป็นเพราะเลี้ยงหลานเยอะเกินไป ก็เลยหมดอารมณ์กับพวกวานรน้อย แต่ก็แปลกนะ..ช่วงพรรษาที่ ๕ - ๖ เห็นเด็กน่ารักทุกคนเลย ไม่ว่าลูกเต้าใครมา เห็นแล้วน่ารัก อยากได้ไปหมด ก็เลยมาคิดว่า นี่ถ้าไม่ได้บวช ต้องมีลูกแน่ ๆ เลย เพราะว่าอยากได้ แสดงว่าอารมณ์พวกนี้มาเป็นพัก ๆ เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-03-2010 เมื่อ 14:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 10-03-2010, 14:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าของวันศุกร์ท่านตื่นขึ้นมา แล้วเดินเซ เลือดไม่พอเลี้ยงสมอง เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอ ท่านกล่าวถึงเรื่องของมารว่า "มารเขาทดสอบเราอยู่ตลอดเวลา เขาใช้คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือ

วันพุธมีเรียนช่วงเช้า กะว่าตอนบ่ายจะได้พักผ่อนสักครึ่งวัน ปรากฏว่าโยมเขามีปัญหา เขาก็เลยต้องพาเราตะลอน ๆ ไปถึงวัดท่าขนุน เวลาพักผ่อนก็หายไป ไปถึงวัดท่าขนุนจัดการแก้ปัญหาให้เขาเสร็จเรียบร้อย ก็ว่าจะพักผ่อน พอนอนลงเท่านั้นแหละ หมาเห่ากันสนั่นหวั่นไหวไปหมด เราก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ลุกขึ้นมาดู ปรากฏว่าแม่ชีเขาจะมาจัดสวนให้ ตรงตึกแดง

ปกติแล้วเวลาแม่ชีไปไหน บรรดาหมาจะแห่ตามประมาณ ๑๐ ตัวขึ้นไป ทีนี้พอหมาไปข้ามเขตแดนของหมาตัวอื่นเข้า หมาทางด้านตึกประจวบดีและตึกเตชะไพบูลย์ก็ไปลุยกับเขา พอแม่ชีเขาเห็นอาตมา "อ้าว..หลวงพ่ออยู่หรือ ?" เขาก็ตัดสินใจกลับ ไม่จัดสวนแล้ว เราก็คิดว่า "เออ..จะได้นอนแล้ว"

พอนอนลงไป คราวนี้ไก่ตัวหนึ่งไข่ พวกนี้พอไข่แล้วต้องประกาศให้ตัวอื่นรู้ว่าไข่แล้ว ก็ร้องกระต๊ากขึ้นมา ไก่ที่เหลือประมาณ ๒๐๐ กว่าตัวก็ช่วยกันแห่ร้อง สนั่นไปหมด เราก็เปิดประตู "กูทำงานก็ได้วะ..!" เพราะรู้ว่าไม่ได้นอนแน่ ถึงนอนต่อเขาก็หาวิธีอื่นมาจัดการอีก

จนกระทั่งทำวัตรเย็นเสร็จ กะนอนตอนหัวค่ำ พอเสียงตามสายรอบสองทุ่มดังขึ้นก็นอน พอสี่ทุ่มก็สะดุ้งตื่น เสียงอะไรดังสนั่นหวั่นไหว ? ตอนแรกคิดว่ามีหนูอยู่ในห้อง พอเปิดไฟดู ก็เงียบ พอปิดไฟจะนอนต่อ เสียงก็ดังอีก คราวนี้เลยรีบลุกขึ้นมาตั้งใจฟัง ปรากฏว่าเสียงดังอยู่ข้างหลังตึก ไม่ได้ดังอยู่ในห้อง ก็เลยลุกไปเปิดหน้าต่างดู โดยไม่เปิดไฟ เลยเห็นพวกหมาวัยรุ่น ไปวิ่งไล่กันบนกองสังกะสี และอาตมาเป็นคนที่ตื่นแล้วจะไม่หลับอีก ก็แปลว่าได้นอนแค่สองชั่วโมง..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2010 เมื่อ 18:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 10-03-2010, 15:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"รุ่งเช้าบิณฑบาตเรียบร้อยก็โทรตรวจสอบถึงรถที่จะมารับ เขาบอกว่าเพิ่งจะถึงแคมป์หินตก ก็เหลือระยะเวลาอีกประมาณ ๑ ชั่วโมง เราก็คิดว่าคราวนี้ได้นอนแน่ ๆ

อากาศเช้านั้น ๑๗ องศา เราก็มุดเข้าใต้ผ้าห่มกำลังนอนสบาย โทรศัพท์ก็ดังกริ๊ง.... "หลวงพ่ออยู่ทางไหนคะ ? หนูจะเอาบัญชีมาคืน" พวกธนาคารเขาเอาบัญชีไปตั้งหลายวันไม่คืน ดันเอามาคืนตอนเรานอน เราก็คิดว่า "ก็ได้วะ" พอรับบัญชีจากเขาเสร็จ ไล่ตะเพิดไป ปิดประตูจะนอน

โยมมาอีกชุดหนึ่ง เขาจะมาลากลับ เราก็ต้องมุดจากผ้าห่มมาให้เขาลา อวยชัยให้พรเสร็จ มุดกลับเข้าไปนอนอีก โทรศัพท์กริ๊ง... "มาถึงแล้ว.." ไม่ได้นอนอีกตามเคย

เมื่อวานวิ่งมาก็ต้องมาคุมสอบต่อ คุมสอบจนกระทั่ง ๕ โมงเย็นจึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มา และก็ไม่รู้ว่ารถติดอะไร กว่าจะมาถึงที่นี่ก็เกือบสองทุ่ม...

เราก็มานั่งคิดว่า "จะเจอเหมือนเดิมหรือเปล่า ?" เพราะว่าพอร้านก๋วยเตี๋ยวข้างล่างเลิกงาน เขาจะเล่นคาราโอเกะกัน เขาร้องเพลงกันข้างล่างนี่ พื้นสะเทือนเลยนะ...

ปรากฏว่าคาดผิด เพราะสงบกว่าที่คิด อาจจะเป็นเพราะว่าเราเตรียมรับไว้แล้ว กะจะแผ่เมตตาให้สุด ๆ เลย ดันไม่โผล่มาเลย ก็เลยหลับยาว แต่ร่างกายเราไม่พอ เพราะขาดทุนมาหลายวัน ลุกขึ้นมานี่เดินเซเลย รู้ว่าเลือดไม่เลี้ยงสมอง ก็มานั่งคิดว่าขนาดเรายังไม่คิดจะเว้นเลย ไหนคุยว่าพวกกัน

งานอะไรก็ตามที่เราทำเพื่อส่วนรวมโดยเฉพาะในส่วนของความดี เขายิ่งต้องขวางให้มากเป็นพิเศษ ก็เลยกลายเป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เจอเข้านี่อย่าเป๋นะ ถ้าไปเสียหลัก หลุดจากอารมณ์เฉพาะหน้าเมื่อไร รัก โลภ โกรธ หลง จะเข้าได้ ทีนี้ยาวเลย นั่นเขาแค่แหย่ให้เราขุ่น พอเราขุ่นเขาก็สามารถที่จะจูงเราไปทางไหนก็ได้ ต้องระวังให้ดี ๆ นะ

ถ้าจู่ ๆ คุณลูกสุดที่รักงี่เง่าขึ้นมาเฉย ๆ จากนางฟ้าน้อย ๆ ก็กลายเป็นลูกปิศาจขึ้นมาเฉยเลย นั่นแหละ..วิธีทดสอบ มันสอบได้แสบมาก ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2010 เมื่อ 18:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 10-03-2010, 15:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังถึงผลสอบปริญญาตรี ปรากฏว่าท่านได้ที่หนึ่งของเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ท่านจึงได้ถามต่อว่า "รู้ไหมว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เบอร์ ๒ คือใคร ?"

"คือหลวงอาแสงชัย คราวนี้เชื่อหรือยังว่าเขาแพ้เราอยู่คนเดียว เป็นคนที่เกิดผิดยุค เพราะดันมาเกิดรุ่นเดียวกัน ถ้าเขาไปเกิดยุคอื่น จะดังมากเลย ตั้งแต่เด็กเขาจะเรียนชนะคนอื่นหมด แต่แพ้เราอยู่คนเดียว ตอนมาเรียนปริญญาตรี เขาถามว่า "แล้วผมจะเรียนไหวไหม ?" ต้องบอกว่า "เอ็งจำไว้เลยว่า เอ็งแพ้ข้าคนเดียว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-03-2010 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 10-03-2010, 15:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ถามว่า "พวกเราที่อ่านพระไตรปิฎกกันมาบ้าง ได้ฟังเนื้อหาเรื่องราวมาบ้าง ใครสามารถวิเคราะห์ได้บ้างว่า พระฉันนะ ท่านตัวใหญ่หรือตัวเล็ก ?"

ถาม : ตัวใหญ่
ตอบ : เนื่องจาก ?

ถาม : เนื่องจากพระฉันนะบอกว่า จะอุ้มม้ากัณฐกะและเจ้าชายสิทธัตถะข้ามกำแพงไป
ตอบ : อันนั้นก็มีส่วน ตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะจะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ นายฉันนะมหาดเล็กตั้งใจว่า ถ้าประตูเมืองปิด เขาจะแบกม้ากัณฐกะพร้อมกับพระลูกเจ้ากระโดดข้ามกำแพงไป

ประการที่สองก็คือว่า หลังจากพุทธปรินิพพานแล้ว คณะสงฆ์ต้องไปแจ้งข่าวกับนายฉันนะว่า พระพุทธเจ้าสั่งลงพรหมทัณฑ์ พระอานนท์เป็นผู้ไปแจ้ง ยังต้องขอการอารักขาจากหมู่สงฆ์จึงกล้าไป

ประการที่สาม อันนี้วิเคราะห์จากสภาพแวดล้อมว่า นายฉันนะเป็นมหาดเล็กคนสนิท จะว่าไปก็คือองครักษ์ เขาต้องคัดประเภทสุดยอดมาเลย


ถาม : ตัวก็ต้องใหญ่มากนะคะ
ตอบ : ก็ต้องพิเศษหน่อย ประเภทคนอื่นเห็นแล้วต้องคิดไว้ก่อนว่า ถ้าลงมือแล้วจะคุ้มไหม ?

พระฉันนะพอบวชเข้าไปแล้วไม่มีใครสอนท่านได้ ครูบาอาจารย์ท่านไหนว่า พระฉันนะไม่ฟังทั้งนั้น ท่านใช้คำพูดที่ถอดออกมาเป็นไทยว่า "พระลูกเจ้ายังไม่กล้าว่าอะไรผม แล้วท่านเป็นใคร" ก็เลยกลายเป็นตัวป่วนอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งพระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน ก็ตรัสกับพระอานนท์ว่า ให้สงฆ์ลงพรหมทัณฑ์กับฉันนะ พระอานนท์ก็ถามว่า "พรหมทัณฑ์ลงอย่างไร ?" ท่านบอกว่า "ไม่ร่วมกิน ไม่ร่วมนอน ไม่ร่วมสังฆกรรม ไม่พูดคุยด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 07-02-2011 เมื่อ 19:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 11-03-2010, 13:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โลกธรรมที่กล่าวไม่จริง ทำไมนักปฏิบัติจึงไม่ต้องไปแก้ตัว ?
ตอบ : ถ้ายังโง่ไปสนใจอยู่และไปแก้ตัว แสดงว่ายังปล่อยวางไม่ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2010 เมื่อ 15:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 11-03-2010, 14:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนเราจริง ๆ แล้วมีปัญญา เพียงแต่ว่าใช้ปัญญาในทางที่ถูกหรือเปล่า ถ้าใช้ปัญญาในทางสัมมาทิฏฐิ ก็ปฏิบัติในเรื่องที่ช่วยเสริมให้กาย วาจา ใจ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าเป็นปัญญาของมิจฉาทิฏฐิ ก็จะปฏิบัติในสิ่งที่ทำให้กาย วาจา ใจ ของตัวเองเสื่อมลงเรื่อย ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 01:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 12-03-2010, 12:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การฝึกมโนมยิทธิกับการจินตนาการเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไรคะ?
ตอบ : การจินตนาการเราคิดอย่างไรก็ได้ การฝึกมโนมยิทธิต้องใช้กำลังของสมาธิ ต่างกันไหมละจ๊ะ? ไม่มีสมาธิไปไม่รอดหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 12-03-2010, 12:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ท่านเล่าว่าในเรื่องการสอบนั้น ถ้าคนอื่นเขาจะลุ้นว่าสอบผ่านหรือไม่ แต่สำหรับพระอาจารย์แล้วท่านจะลุ้นว่าได้ที่หนึ่งหรือไม่

ท่านกล่าวว่า "สิ่งนี้ต้องบอกว่าเกิดจากสัญญาเดิมของตัวเอง สัญญาเดิมที่เราตั้งความปรารถนาในพระโพธิญาณมาก่อน ในเมื่อตั้งความปรารถนาในพระโพธิญาณมา ก็คือเจตนาที่จะเป็นครูสอนคนอื่นต่อ เพราะฉะนั้นเรียนเรื่องอะไรก็ต้องรู้ให้จริง พร้อมที่จะไปสอนคนอื่นเขา ถ้ายังไม่รู้จริงก็ยังไม่เลิกค้น เลยกลายเป็นนิสัยว่า ถึงเวลาแล้วไม่ว่าเรียนวิชาอะไรก็ตาม ต้องรู้ขนาดสอนเพื่อนได้

เพราะฉะนั้น..ในส่วนของพื้นฐานเดิมช่วยได้เยอะ เพราะว่าพื้นฐานเดิมที่ปรารถนาพระโพธิญาณมา ทำให้อยากจะรู้จริงในทุกเรื่อง รู้แล้วต้องเอาไปสอนคนอื่นเขาได้ในฐานะที่เป็นครู เรียนอะไรต้องให้รู้เป็นครูเขา ถ้ายังเป็นครูเขาไม่ได้ อย่าเพิ่งเริ่ม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2010 เมื่อ 15:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 14-03-2010, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาหนูไปอยู่คนเดียว อยู่ห่างไกลครูบาอาจารย์ จะมีวิธีไหนที่จะรู้ตัวว่ายังเดินถูกต้องตามอริยมรรค อริยผล ไม่ออกนอกทาง ?

ตอบ : เอาศีลเป็นเครื่องวัด ถ้าตราบใดที่ยังไม่ละเมิดศีลก็ยังไม่ออกนอกทาง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2010 เมื่อ 18:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 14-03-2010, 12:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปลาอานนท์มีจริง ๆ ไหมคะ ? อยู่ใต้โลกเราจริง ๆ ไหมคะ ?
ตอบ : พวกนี้เขาอยู่กึ่งทิพย์ ไปดูในปหาราทสูตร ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ในพระธรรมวินัยนี้ ประกอบไปด้วยบุคคลที่เป็นใหญ่ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ เหมือนในท้องทะเลที่ประกอบไปด้วยปลาใหญ่ ๆ อย่างเช่น ปลาติมิงคละ ปลาติมิรมิงคละ มีอสูร มีนาค มีคนธรรพ์ เป็นต้น

ถ้าหากว่าไม่มี พระพุทธเจ้าท่านคงไม่เอ่ยถึง เพียงแต่เราต้องเข้าใจว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านเอ่ยถึง บางอย่างเขาอยู่ในสภาพกึ่งทิพย์ ไม่ใช่คนทั่ว ๆ ไปจะเจอได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2010 เมื่อ 18:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 14-03-2010, 12:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในงานเป่ายันต์ ใครทำบุญทั่วไปแจกพระปิดตาฯ เนื้อผง ถ้าใครทำบุญ ๕๐๐ บาทขึ้นไป แจกพระปิดตาฯ เนื้อชุบทองพ่นทราย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว