#1
|
||||
|
||||
ปกิณกธรรมสัปดาห์วันวิสาขบูชา ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๖
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
คนที่เหลือหายไปไหนกันหมด ? พอบอกว่าแปดโมงพวกเราก็มากันตรงเวลาเลย พวกเราไม่จำเป็นต้องรอจนกระทั่งวินาทีสุดท้าย โดยเฉพาะพระเณรต้องเป็นผู้นำเขา ต้องมีแต่มาก่อนไม่ใช่มาทีหลัง..!
แม้กระทั่งการเรียนหรือการสอนหนังสือ อาตมภาพก็ไปนั่งในห้องเป็นคนแรกเสมอ เป็นอาจารย์ที่ไปนั่งรอลูกศิษย์ทุกชั่วโมง ลูกศิษย์บางคนสอนไปจนถึงท้ายชั่วโมงเพิ่งจะมาถึง มาถึงก็รายงานตัว "ผมมาแล้วครับ" ก็เลยบอกไปว่า "เออ..กูเช็คขาดไปเรียบร้อยแล้ว..!" เรื่องของกำลังใจ ขอย้ำเป็นครั้งที่ ๑๐๘ ว่ายิ่งทำก็ยิ่งเร็วขึ้น แต่เป็นความเร็วในลักษณะผิดพลาดน้อย หรือไม่ผิดพลาดเลย เพราะว่ามีสติสมบูรณ์ โดยเฉพาะพระใหม่ อะไรที่ยังไม่เคยชิน อย่างเช่นว่าการพับจีวร ห่มจีวร ก็ต้องซักซ้อม ไม่ใช่รอจนถึงเวลาจะใช้งาน ค่อยมานั่งงง ๆ ว่า "กูจะเริ่มจากตรงไหนวะ ?" ไม่ต้องใครหรอก กระผม/อาตมภาพนี่เอง พับจีวรครั้งแรก "ทำไมจีวรกูยาวแท้วะ ?" ก็คือแทนที่จะพับด้านกว้าง ดันไปพับด้านยาว ก็ต้องรื้อออกมาแล้วพับใหม่ ทั้ง ๆ ที่เพื่อนทั้งรุ่น ๓๐ กว่ารูปมอบความไว้วางใจให้อาตมาเป็นคนห่มผ้าให้ ทุกวันนี้ก็ยังงงอยู่ว่า "กูก็เพิ่งจะบวชเหมือนมึงนี่แหละ แล้วมึงเห็นอะไรหรือถึงให้กูช่วยห่มจีวรให้ ?" ที่น่าสงสารที่สุดก็หลวงพ่อวัดวังหิน เจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่นเขต ๒ ทำอะไรไม่เคยที่จะสะดวกราบรื่นกับใครเลย ไม่รู้ว่าไปเอาช่างฝีมือห่วย ๆ ที่ไหนมาหล่อพระประธาน อาตมภาพเห็นเขาเททองปุ๊บ บอกเลยว่าเจ๊งแน่นอน..! เพราะเหมือนอย่างกับโลหะหลอมไม่ละลายดี ไหลลงไปเป็นก้อน ๆ เลย..! แล้วก็จริง ๆ พระหล่อเสร็จ ออกมาเป็นรูโบ๋ทั้งองค์ มีแต่รอยแผลแหว่ง ๆ วิ่น ๆ จนต้องหล่อใหม่ พอมาตั้งใจปิดทองฝังลูกนิมิต ติดต่อเครื่องเสียง ติดต่อไฟ วางมัดจำวางเงินอะไรเรียบร้อย เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระเบิดตูม เงินสักบาทก็ไม่ได้ แต่จ่ายค่ามัดจำไปแล้ว แล้วมัดจำพวกนี้ไม่ใช่บาทสองบาทเสียเมื่อไร อย่างหนึ่งก็เป็นแสน ๆ บาท..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2023 เมื่อ 18:35 |
สมาชิก 14 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
ปกติแล้วอาตมาภาพเป็นเจ้าภาพมีดตัดหวายลูกนิมิตวัดละเล่มเดียว คราวนี้สงสารท่านก็เลยรับมาสองเล่ม จนป่านนี้ยังไม่รู้เลยว่าท่านขาดทุนเท่าไร เพราะว่าไปจัดตัดหวายลูกนิมิตพร้อมกับวัดอู่ล่อง
หลวงพ่อวัดอู่ล่องท่านเป็นหมอดู ลูกศิษย์เยอะ แล้วก็เป็นคนมอญเหมือนกับท่านนั่นแหละ แล้วเป็นมอญที่เข้มข้นกว่า บรรดาคนมอญก็เลยแห่กันไปวัดอู่ล่องหมด วัดวังหินแทบไม่มีใครโผล่หน้าไปเลย จนป่านนี้ไม่รู้ว่านับเสร็จหรือยังว่าขาดทุนเท่าไร ? เรื่องพวกนี้เราสามารถแก้ไขได้ ก็คือสร้างความดีใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้เข้มข้นขึ้นไปเรื่อย ๆ ยิ่งทำมากเท่าไรความสะดวกยิ่งมีมากเท่านั้น เพราะว่าอานิสงส์ทั้งสามอย่างนี้สูงมาก เมื่อถึงเวลาก็สามารถที่จะทานวาระกรรมที่มาสนองได้ เรื่องของการภาวนาพระคาถาเงินล้านนั้น ต้องการความจริงจังสม่ำเสมอ โดยเฉพาะต้องมีการให้ทานเป็นปกติ ไม่อย่างนั้นแล้วอานิสงส์ที่จะมาเสริมให้เกิดความคล่องตัวก็จะพร่องไป เพราะว่าเรื่องของลาภผลเงินทองทุกอย่าง มีพื้นฐานมาจากทานบารมี ที่บางคนใช้คำว่า "ยิ่งให้ก็ยิ่งได้" แต่ท่านไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่าให้ชาตินี้ได้ชาติหน้า เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นอปราปรเวทนียกรรม คือกรรมที่ให้ผลในชาติต่อ ๆ ไป ยกเว้นอย่างเดียวว่าเราทำต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลาย ๆ ปี สิ่งที่เราทำในอดีตก็จะส่งผลให้ทันในชาติปัจจุบัน เรื่องพวกนี้จึงต้องการความจริงจังและสม่ำเสมอเป็นอย่างมาก หาไม่แล้ว ทำแล้วได้ผลน้อยหรือว่าไม่เกิดผล เพราะว่าทานบารมีของเรายังไม่มากพอ ที่จะส่งผลให้เกิดความคล่องตัวในระดับนั้น เราก็อาจจะไปบ่นว่า "คาถาไม่ได้ผล" หรือว่า "ทำแล้วไม่เห็นเป็นไปอย่างที่หลวงพ่อบอกเลย" แน่ใจนะว่าทำอย่างที่หลวงพ่อบอกแล้ว ?
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2023 เมื่อ 18:36 |
สมาชิก 13 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ช่วงเดือนที่ผ่านมาอาตมภาพจะเปิดตู้เซฟ เพื่อเอาทองคำไปให้เขาหล่อเหรียญมหาลาภเงินล้าน เปิดเท่าไรก็เปิดไม่ออก เมื่อวานนี้ขอให้โยมไปช่วยเปิด ก็เปิดวิธีเดียวกัน เพียงแต่ผิดกันตรงที่ว่า พอถึงเวลาเขาโยกมือจับขึ้น ส่วนอาตมาโยกลง..! มิน่า..ถึงเปิดไม่ออก โดยสัญชาตญาณของคนจะเปิดอะไรก็ต้องกดลงทั้งนั้น แต่เซฟนี่ดันยกขึ้น สรุปว่าหลวงพ่อก็ "สะเหร่อ" ได้เหมือนกัน
อาจจะเป็นไปได้ว่าเหรียญมหาลาภเงินล้าน ท่านให้สร้างแต่ชนวนเงินอย่างเดียว ไม่ให้สร้างทองคำ ก็เลยทำให้เซฟที่เปิดอยู่บ่อย ๆ อยู่ ๆ ก็ลืมไปเฉย ๆ ลืมได้อย่างไรก็ไม่รู้ ? เพราะว่าโดยปกติครั้งก่อน ๆ ที่เคยเปิดก็ใช้วิธีเดียวกัน แต่พอมาถึงตอนนี้ดันไปลืมว่าต้องยกขึ้น มิน่าว่าทำไมกดเท่าไรไม่ลงสักที เปิดรหัสกี่ครั้งก็กดไม่ลง เพราะฉะนั้น..เราจะบอกว่าทำทุกอย่างตามที่หลวงพ่อบอกก็ไม่น่าจะใช่ เพราะว่าถ้าตามที่หลวงพ่อบอกจะต้องได้ผล จะต้องมีอะไรบกพร่องที่เราคิดไม่ถึง โดยเฉพาะในส่วนของความสม่ำเสมอและการสร้างทานบารมี ถ้าเป็นพระวัดท่าขนุนก็สบาย บิณฑบาตกลับมาเสร็จ เทลงกองกลาง ตั้งใจทำบุญเลี้ยงพระทุกรูปไปเลย..หมดเรื่อง ก็เท่ากับว่าใส่บาตรทุกวัน แต่ถ้าเป็นที่อื่นบางที่เขาก็แยกไป กุฏิใครกุฏิมัน บิณฑบาตได้มากได้น้อยไม่รู้ ต่างรูปต่างฉันกันเอง ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไรได้ ยกเว้นว่าจะไปหาทางสร้างทานบารมีกันเอง สมัยก่อนต้องการมีลูกหลายคน นอกจากเอาไว้เป็นแรงงานในครัวเรือนแล้ว เวลารบทัพจับศึกจะได้มีกำลังพลไปสู้กับเขา สู้ได้หรือสู้ไม่ได้อยู่ที่การฝึกฝน ต่อให้สู้ไม่ได้ มีคนเยอะก็ยังไปข่มชาวบ้านเขาได้บ้าง แบบเดียวกับโยมคนหนึ่งขับรถตู้ ชื่อจริงอย่าไปรู้เลย ชื่อเล่นเรียกกันว่า "ไอ้โส" ไอ้โสไว้หนวดไว้เครา หน้าตาเหี้ยมหาญน่ากลัวมาก โดนหลวงพ่อเล็กตวาดแว้ดเดียว ลงไปนั่งร้องไห้ หน้าตาขู่คนอื่นได้ แต่กำลังใจห่วยแตกสุด ๆ..! พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วิสาขบูชา ๒๕๖๖ ณ วัดท่าขนุน ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2023 เมื่อ 18:40 |
สมาชิก 17 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|