#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๖
__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด (-/\-) (-/\-) (-/\-) |
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพได้ไปร่วมงานฉลองสมณศักดิ์ของพระครูกาญจนวัชรธรรม วัดเขาแดง ตำบลช่องด่าน อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งท่านเป็นอาจารย์ประจำในวิทยาลัยสงฆ์กาญจนบุรีศรีไพบูลย์ วัดของท่านเข้าจากถนนสายหลักไปลึกมาก แต่เมื่อไปถึงก็ต้องทึ่ง เพราะว่าทั้งโบสถ์ ทั้งศาลา สร้างได้งดงาม แข็งแรง ผิดจากสภาพพื้นที่รอบข้าง ซึ่งแทบจะไม่มีบ้านคน แห้งแล้ง หาต้นไม้ไม่ได้เลย
ตรงนี้ทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ถ้าหากว่าเจ้าอาวาสวัดใดวัดหนึ่งมาทางสายกรรมฐาน ก็คือเน้นในเรื่องของการปฏิบัติธรรมแล้ว ย่อมมีญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา ไปให้การอุปถัมภ์ค้ำชูด้วยตนเอง จึงเป็นเรื่องที่พระสังฆาธิการทั้งหลายควรที่จะตระหนักอย่างยิ่งว่า ธุระในพุทธศาสนานั้น แม้จะแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ก็คือคันถธุระ การศึกษาพระไตรปิฎก ซึ่งความจริงแล้วในสมัยก่อนนั้น เป็นการศึกษาเพื่อที่จะได้ทราบถึงพระพุทธวจนะที่แท้จริง ว่ามีเนื้อหาใจความอย่างไร จะได้นำมาบอกกล่าวแก่ญาติโยมผู้มีจิตศรัทธาได้โดยไม่ผิดพลาด แล้วขณะเดียวกัน ก็นำมาปฏิบัติให้เกิดผลเองด้วย อีกส่วนหนึ่งก็คือวิปัสสนาธุระ เร่งรัดการปฏิบัติเพื่อมรรคเพื่อผล ให้สมกับที่ได้ปฏิญาณตนไว้ตอนที่เข้ามาขอบรรพชาอุปสมบทว่า นิพพานัสสะ สัจฉิกะระณัตถายะ เอตัง กาสาวัง คะเหตวา แปลเป็นใจความว่า ข้าพเจ้าขอรับเอาผ้ากาสาวพัสตร์นี้มา เพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ดังนั้น..ในฝ่ายของวิปัสสนาธุระจึงเป็นฝ่ ายที่ได้รับความเคารพนับถือจากญาติโยมทั้งหลายมากกว่า เพียงแต่ว่าเราต้องไม่ลืมในสิ่งที่พระพุทธเจ้าท่านสอนอีกส่วนหนึ่งว่า เมื่อมีปริยัติแล้ว ก็ต้องนำมาปฏิบัติ จึงจักเกิดปฏิเวธ เป็นผลดีเฉพาะตนขึ้้นมาได้ ซึ่งผลดีนั้น มีทั้งในส่วนที่เป็นประโยชน์สุขในปัจจุบัน ส่วนที่เป็นประโยชน์สุขในอนาคต คือชาติต่อ ๆ ไป และส่วนที่เป็นประโยชน์สูงสุด คือการหลุดพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2023 เมื่อ 02:11 |
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
เมื่อเสร็จจากพิธีการงานฉลองสมณศักดิ์ของพระครูกาญจนวัชรธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้กลับเข้าสู่ที่พัก มาเข้าระบบ Zoom Meeting Online เพื่อที่เข้าร่วมการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ระดับเจ้าคณะภาค รองเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รองเจ้าคณะตำบล และเลขานุการทุกระดับ
ในส่วนนี้การประชุมก็เป็นไปด้วยดี พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ ได้ปรารภขอบคุณถึงงานที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการปฏิบัติธรรมของเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ซึ่งกระผม/อาตมภาพไปทำหน้าที่รองประธานวิปัสสนาจารย์ แล้วก็สร้างความฮือฮาเป็นที่กล่าวขวัญไปทุกสำนักในเรื่องที่ว่า บุคคลไม่ต้องอาศัยนาฬิกาปลุก แต่สามารถตื่นได้อย่างที่ตั้งใจไว้ทุกครั้ง..! ทั้ง ๆ ที่บรรดาเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหลายเหล่านั้น อาศัยนาฬิกาปลุกก็แล้ว พยายามวางกำลังใจว่าจะเป็นผู้ตื่นก็แล้ว แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำตามได้อย่างที่กระผม/อาตมภาพทำให้เห็นตลอดทั้ง ๗ วัน ตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกกล่าวว่า ท่านทั้งหลายนั้นขาดความคล่องตัวในการออกจากสมาธิ เพราะว่าความคล่องตัวในการเข้าสมาธิมีแล้ว ต้องพยายามฝึกฝนให้เกิดความคล่องตัวในการออกจากสมาธิ ความคล่องตัวในการเข้าสมาธิตามลำดับ ความคล่องตัวในการเข้าสมาธิสลับกันไปมา และความคล่องตัวในการเข้าสมาธิแบบกำหนดเวลา ซึ่งภาษาบาลีเรียกว่า "วสี" คือความคล่องตัวและความชำนาญทั้ง ๕ ประการ ถ้าอธิบายตามภาษาบาลีก็จะฟังยาก กระผม/อาตมภาพจึงแปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ตามแบบที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงท่านได้แปลเอาไว้ ให้พวกเราได้ฟังแล้วเข้าใจได้โดยง่ายเลยว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องทำอย่างไรบ้าง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2023 เมื่อ 02:14 |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
อีกส่วนหนึ่งก็คือการที่พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. ท่านได้จัดโครงการประชุมอบรมเพิ่มศักยภาพเจ้าคณะตำบล ซึ่งเป็นเจ้าคณะปกครองที่ใกล้ชิดเจ้าอาวาสที่สุด ตรงส่วนนี้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ถูกจุดเป็นอย่างยิ่ง
ในช่วงที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๒ นั้น ต้องดูแลพื้นที่ซึ่งนอกจากจะใหญ่โตมโหฬารมากแล้ว ยังต้องเดินทางเข้าไปด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะหน้าฝน ต่อให้มีรถขับเคลื่อนสี่ล้อ บางทีก็ยังต้องขุดต้องเข็น..! กว่าที่จะผ่านไปได้ในแต่ละจุด เมื่อเข้าไปถึงวัดทุ่งเสือโทน ซึ่งชื่อเป็นทางการว่าวัดคลีตี้ผลธรรมมารามนั้น ตอนนั้นหลวงปู่ไกโพ่ท่านเป็นเจ้าอาวาสอยู่ พอกระผม/อาตมภาพเข้าไปกราบรายงานตัวว่าเป็นเจ้าคณะตำบลดูแลเขตนี้ ท่านถึงกับน้ำตาไหล บอกว่า "เป็นเจ้าอาวาสมา ๒๐ กว่าปีแล้ว เพิ่งได้เห็นหน้าเจ้าคณะตำบลเป็นครั้งแรกวันนี้แหละ..!" พื้นที่ตรงนั้นนอกจากใหญ่โตกว้างขวางยังไม่พอ ส่วนใหญ่แล้วยังเป็นพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เขตของอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นต้น ซึ่งอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นก็มาทีหลังผู้คน เมื่อมาประกาศเป็นพื้นที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือว่าอุทยาน ก็ได้ทำการอพยพโยกย้ายประชาชนต่าง ๆ ออกมา สร้างความลำบากเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส จนกระทั่งความไปทราบถึงพระเนตรพระกรรณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งในขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านได้เข้าไปเยี่ยมเยือนทุกหมู่บ้าน ท้ายที่สุดก็ให้ทำสัญญาในการปฏิบัติ ในลักษณะที่เรียกว่า MOU ก็คือกำหนดให้ว่า บรรดาชาวบ้านทั้งหลายสามารถตั้งบ้านเรือนอยู่ในเขตอุทยานนั้นได้ แต่ว่ากำหนดเขตพื้นที่การเคลื่อนไหวและใช้ประโยชน์จากป่าว่าไปได้ถึงแค่แนวไหน จึงทำให้เรื่องทั้งหลายจบลงด้วยดี แต่คราวนี้การมีหมู่บ้านที่ไหนก็มีวัดที่นั่น เมื่อเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตลอดจนเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมก็ดี ทำให้ไม่สามารถที่จะตั้งหอรับ - ส่ง กระจายสัญญาณโทรศัพท์ได้ จึงไม่สามารถที่จะใช้การติดต่อด้วยโทรศัพท์
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2023 เมื่อ 02:17 |
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
||||
|
||||
เมื่อใช้สัญญาณโทรศัพท์ผ่านดาวเทียม ซึ่งต้องอาศัยไฟฟ้า โดยใช้แผ่นโซล่าร์เซลล์ ก็อาศัยได้เฉพาะช่วงที่มีแดดเท่านั้น ถ้าไม่มีแดดก็ไม่มีไฟฟ้า ไม่สามารถที่จะติดต่อการงานใด ๆ ได้ทั้งสิ้น เพราะว่าในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติ ไม่อนุญาตให้ปักเสาเดินสายไฟผ่าน ในส่วนที่ทำเอาไว้แล้วก็จำเป็นต้องยกเลิกไป เป็นต้น
กระผม/อาตมภาพจึงต้องวิ่งเข้าไปส่งหนังสือคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ท่านทั้งหลายเหล่านั้นด้วยตัวเอง กว่าที่จะครบทั้ง ๕ วัดและ ๗ สำนักสงฆ์ เคยจับไมล์รถดู เป็นระยะทางถึง ๑๔๒ กิโลเมตร..! โดยวัดที่อยู่ไกลที่สุดก็คือสำนักสงฆ์คลิตี้ล่างนั้น อยู่ห่างจากวัดท่าขนุนถึง ๘๗ กิโลเมตร..! เป็นต้น ดังนั้น..เจ้าคณะตำบลซึ่งเป็นเจ้าคณะปกครองที่ใกล้ชิดเจ้าอาวาสที่สุด จึงควรที่จะได้รับการอบรมเพิ่มศักยภาพ ว่าต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างไรบ้าง เพราะว่าบรรดาเจ้าอาวาสต่าง ๆ นั้น บางทีก็แทบจะโดนทอดทิ้งให้อยู่ในป่าในดง อยู่กันอย่างเงียบเหงา ห่างไกลจากเจ้าคณะปกครอง ถ้าหากว่าไม่ใช่มีกำลังใจเข้มแข็ง คิดที่จะอยู่เพื่อรักษาสภาพวัดเอาไว้ ก็คาดว่าอาจจะต้องสึกหาลาเพศ หรือหนีไปอยู่ในที่เจริญกันหมดแล้ว..! บรรดาเจ้าคณะปกครองระดับตำบล จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องออกตรวจการคณะสงฆ์เป็นประจำ อย่างน้อย ๆ ถ้าไม่ได้ทุกอาทิตย์อย่างที่กระผม/อาตมภาพทำเป็นตัวอย่างให้ท่านทั้งหลายได้ดู ในระยะเวลาที่เป็นเจ้าคณะตำบลชะแลเขต ๒ ก็ให้ท่านทั้งหลายทำตามหน้าที่ที่ได้ระบุเอาไว้ว่า เจ้าคณะตำบลอย่างน้อยต้องออกตรวจการณ์ปีละ ๓ ครั้ง ก็คือต้องเข้าถึงพื้นที่ ต้องไปรับรู้ปัญหาต่าง ๆ ต้องช่วยเจ้าอาวาสแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้หมดสิ้นไป แล้วขณะเดียวกัน ถ้าหากว่ามีปัญหาการขาดแคลนในด้านใด ก็ต้องสนับสนุนปัจจัยทั้ง ๔ ให้กับเจ้าอาวาสด้วย เพื่อที่เขาทั้งหลายเหล่านั้นจะได้ไม่อยู่กันลำบากมากนัก พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. นั้น ท่านเดินทางไปถึงทองผาภูมิแล้ว ก็ยังวิ่งเลยขึ้นไปเหมืองปิล็อก บอกว่าไปจนไม่มีทางให้รถวิ่ง เห็นแล้วก็สะท้อนใจว่า "แบบนี้ถึงเวลาเรียกประชุมแล้วท่านจะไปประชุมกันได้อย่างไร ?" เพราะว่าอยู่กันไกลเหลือเกิน ถนนหนทางเดินทางยากลำบากอีกต่างหาก กระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็นพระสังฆาธิการตัวอย่าง ที่ทุกครั้งมีการประชุมของส่วนกลางก็มักจะไปถึงเป็นรูปแรกเสมอ เพราะถือคติที่ว่า ตำแหน่งต้องมาพร้อมกับหน้าที่ เมื่อมีหน้าที่ เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด การทำหน้าที่นั่นก็คือการปฏิบัติธรรม ก็คือการตรงต่อเวลา การแสดงออกซึ่งสัจจบารมี ขันติบารมี วิริยบารมี ตลอดจนกระทั่งปัญญาบารมี ก็คือเราต้องใช้ปัญญาว่า ระยะทางที่ไกลขนาดนั้น ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเท่าไร จึงจะไปประชุมได้ตรงเวลา เป็นต้น สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-03-2023 เมื่อ 02:21 |
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|