กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนมีนาคม ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-03-2023, 19:55
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,635
ได้ให้อนุโมทนา: 216,842
ได้รับอนุโมทนา 747,099 ครั้ง ใน 36,393 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 29-03-2023, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ ทางคณะสงฆ์หนกลางมีการจัดงานพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร สำหรับพระครูสัญญาบัตร ทั้งที่ได้รับพระราชทานตั้งและได้รับพระราชทานเลื่อน ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนกลาง จังหวัดกาญจนบุรีก็ได้รับพระราชทานเลื่อนหลายรูปด้วยกัน และมีที่ได้รับพระราชทานตั้งใหม่อีกหลายรูปเช่นกัน

ของอำเภอทองผาภูมินั้น ที่ได้รับพระราชทานตั้งผ่านพ้นไปแล้ว
ส่วนที่ได้รับพระราชทานเลื่อนก็มี พระครูวรกาญจนโชติ เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ เลื่อนขึ้นเป็นเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก พระครูกาญจนปัญญาวุฒิ รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ วัดเขื่อนวชิราลงกรณ เลื่อนขึ้นเป็นเทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก แต่เนื่องจากว่าน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) พลขับของกระผม/อาตมภาพนั้น มีอาการเจ็บหัวเข่าเนื่องจากเอ็นอักเสบ กระผม/อาตมภาพจึงไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่จัดพิธี ซึ่งก็คือวัดไร่ขิง (พระอารามหลวง)

แต่ปรากฎว่าอยู่สบายได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง พรรคพวกเพื่อนฝูงก็คือพระครูดิลกสุตคุณ (ทองดี วราสโย ป.ธ.๔) เจ้าอาวาสวัดตรีมิตรประดิษฐาราม เจ้าคณะตำบลรางหวายเขต ๑ ก็โทรศัพท์มาหา เนื่องจากว่าท่านเป็นทั้งเพื่อนร่วมรุ่นพระธรรมทูต เป็นทั้งเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ บอกว่ากระผม/อาตมภาพที่เป็นประธานรุ่น ขอให้มาเป็นตัวแทนของเพื่อนทั้งรุ่นด้วย จึงกลายเป็น "ไฟต์บังคับ" ที่มิอาจจะปฏิเสธได้ ต้องให้น้องเล็กกัดฟันขับรถมาให้ทั้ง ๆ ที่หัวเข่าอักเสบ..!

มาถึงวัดตรีมิตรประดิษฐาราม ตำบลรางหวาย อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณบ่าย ๓ โมงเศษ เนื่องจากได้รับนิมนต์ว่าจะมีพิธีการฉลองสมณศักดิ์ตอน ๔ โมงเย็น แต่ปรากฏว่ารอไปจน ๖ โมงครึ่ง ถึงจะได้ขึ้นเจริญชัยมงคลคาถา ในพิธีฉลองสัญญาบัตร พัดยศและผ้าไตร พระครูดิลกสุตคุณ ที่ได้เลื่อนจาก
พระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท ขึ้นเป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก

เรื่องเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำสำหรับบุคคลทั่ว ๆ ไป ก็คือเมื่อจัดงานแล้วก็หาความตรงเวลาไม่ได้ หลังจากนั้น งานอื่น ๆ ก็จะต้องเสียเวลาทยอยไล่กันไป ไม่ทราบว่าจะมีผู้ใดผู้หนึ่งเสียหายในเรื่องทั้งหลายหรือไม่ ? แต่ว่าเรื่องเหล่านี้ก็ปรากฏเป็นที่ประจักษ์กันอยู่ทั่วไป

มีแต่กระผม/อาตมภาพเท่านั้น ที่บรรดาชาวทองผาภูมิเขาบอกว่า "ตรงเวลาจนน่าเกลียด" เพราะว่าการคำนวณเวลาทุกอย่างนั้น ถ้าหากว่าไม่สามารถที่จะทำงานได้ทันตามกำหนดเวลา กระผม/อาตมภาพจะไม่ตั้งเวลากำหนดการเลย ถ้าหากว่าตั้งเวลา แปลว่าทุกอย่างต้องไปเป็นตามกำหนดการนั้น ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2023 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 29-03-2023, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในส่วนนี้ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ในเรื่องของความตรงต่อเวลาของคนไทยเรานั้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก บุคคลที่ตรงต่อเวลากลายเป็นบุคคลที่ต้องเสียเวลา ไปรอบุคคลที่ไม่ตรงต่อเวลาเสมอ ซึ่งการตรงต่อเวลานั้น เป็นการวัดบารมีที่ชัดเจนที่สุด ก็คือทำให้เห็นว่า ท่านทั้งหลายมีสัจจบารมีเต็มแล้วหรือไม่ ? ถ้าหากว่าเป็นบุคคลที่มีสัจจบารมีเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ ทุกอย่างจะเป็นไปตามเวลา "มีแต่ก่อน ไม่มีหลัง" แต่ถ้าหากว่าสัจจบารมียังบกพร่องอยู่ ก็จะมีความผิดพลาด ไม่ตรงเวลากันเป็นเรื่องปกติ

กระผม/อาตมภาพนั้นมีนิสัยตรงต่อเวลาตั้งแต่ฆราวาสแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตของฆราวาสทั่วไป หรือตลอดจนกระทั่งชีวิตของความเป็นทหารก็ตาม ในชีวิตฆราวาสนั้น กระผม/อาตมภาพจะไปถึงงานก่อนเวลาอย่างน้อย ๑๕ นาทีเสมอ และจะรอจนเลยเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ถ้าหากว่าเกินครึ่งชั่วโมงเมื่อไร กระผม/อาตมภาพก็จะไปทำธุระของตนเองต่อทันที ถือว่าบุคคลที่ผิดในครั้งนี้ไม่ใช่เรา..!

ส่วนในขณะที่เป็นทหารนั้น วัน ว. เวลา น. เป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเป็นการเข้าตีข้าศึก ถึงเวลาแล้วปืนใหญ่ของฝ่ายเราก็จะยิงปูพรมเข้าไปก่อน ถ้าเราไม่สามารถที่จะเคลื่อนกำลังไปสู่จุดนัดพบได้ตรงเวลา อาจจะต้องตายด้วยอาวุธหนักของฝ่ายเดียวกัน..!

ดังนั้น..ในเมื่อตนเองก็เป็นคนตรงต่อเวลา แล้วยังได้รับการฝึกฝนอบรมมาจากวิชาทหารอีก จึงทำให้กระผม/อาตมภาพโดนชาวบ้านต่อว่าในเรื่องที่ว่าตรงเวลาจนน่าเกลียด แต่ก็ยินดีที่จะให้ญาติโยมต่อว่าต่อไป เพราะว่าทุกคนที่มางานวัดท่าขนุนนั้น สามารถที่จะคำนวณได้เลยว่า ตนเองจะรับงานต่อไปได้หรือไม่ ? เพราะว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามกำหนดการทั้งสิ้น

สำหรับในเรื่องของสมณศักดิ์ พัดยศ ผ้าไตรพระราชทานต่าง ๆ นั้น ถ้าหากว่าจะว่าไปแล้ว ในทางด้านพระภิกษุสงฆ์ของเราก็ต้องใช้คำว่า "ยศช้างขุนนางพระ" ก็คือต่อให้แต่งตั้งยศให้กับช้างเป็นคุณพระหรือว่าเป็นพระยาก็ตาม ช้างก็ยังคงกินกล้วย กินอ้อย กินหญ้าอยู่เหมือนเดิม

ส่วนพระของเรานั้นจะต้องเป็นผู้มีจิตใจที่มั่นคง ไม่หวั่นไหวไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือว่าความ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ในโลกธรรมทั้ง ๘ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงไม่ควรที่จะทำให้เรายินดียินร้ายมากจนเกินไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2023 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-03-2023, 00:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่ว่าในส่วนที่ยินดีมาก ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นลูกศิษย์ลูกหา หรือญาติโยมที่มาให้การอุปถัมภ์ค้ำชูวัดวาอาราม ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่หลวงพ่อท่านนั้น ๆ เมื่อเห็นหลวงปู่หลวงพ่อของตนได้ยศได้ตำแหน่ง หรือว่าเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ก็มักจะยินดีมากกว่าทางผู้ที่ได้รับเลื่อนรับแต่งตั้งเสียอีก แต่ว่าก็เป็นเรื่องปกติของปุถุชนทั่ว ๆ ไป เนื่องเพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดี

เพียงแต่ว่าพระภิกษุสงฆ์ของเรานั้น ควรที่จะรักษากำลังใจของตนให้มั่นคง ถ้าหากว่าไม่หวั่นไหวไปกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่หวั่นไหวไปกับการเสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ก็แปลว่ากำลังใจของท่านทั้งหลายนั้นอยู่ในด้านที่ดี มีความมั่นคงเพียงพอที่จะฝ่ากระแสกิเลสไปสู่จุดหมายปลายทางได้ ก็คือการบวชเข้ามาเพื่อความพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ถ้าหากว่าท่านไม่สามารถที่จะไปให้พ้นทุกข์ได้ในชาตินี้เลยทีเดียว อย่างน้อยท่านทั้งหลายก็ยังมีเกาะ ก็คือที่มั่นของตนเองอยู่กลางกระแสแห่งโอฆสงสาร หรือถ้าหากว่าก้าวขึ้นเหยียบฝั่ง แม้ว่าจะไม่เต็มเท้านัก แต่อย่างน้อย ๆ ท่านก็ไม่ต้องลอยคออยู่ในทะเลทุกข์เนิ่นนานเหมือนอย่างกับคนอื่นเขา

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายควรที่จะต้องฝึกฝนกำลังใจของตนเอง เมื่อประสบกับสิ่งที่ดี ก็อย่าให้ยินดีฟูฟ่องจนเกินไป เมื่อประสบกับสิ่งที่ร้าย ก็อย่ายินร้ายจนกระทั่งห่อเหี่ยวฟุบแฟบ ถึงขนาดหมดกำลังใจท้อแท้ไปเลย

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน ว่าจะได้รับการฝึกฝนขัดเกลามามากน้อยเท่าไร เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า
ครูบาอาจารย์แต่ละรูปแต่ละท่านนั้น นอกจากมีความสามารถไม่เสมอกันแล้ว ยังมีแนวทางในการสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาพระภิกษุสามเณรต่าง ๆ กันไป ท่านใดที่มีครูบาอาจารย์เข้มงวดกวดขัน พระอุปัชฌาย์อาจารย์ก็จะบ่มเพาะ ขัดเกลาท่านทั้งหลาย ให้ไปอยู่ในกระแสด้านที่มีโอกาสจะล่วงพ้นจากกองทุกข์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 30-03-2023 เมื่อ 01:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-03-2023, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,415,141 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนท่านใดที่พระอุปัชฌาย์อาจารย์ขัดเกลาให้ท่านไปทางคันถธุระ ท่านทั้งหลายก็จะต้องทำหน้าที่ในการศึกษาเล่าเรียน เพื่อรักษาพระพุทธวจนะอันถูกต้องเอาไว้ จะได้สืบทอดอายุพระศาสนาต่อไป แต่ว่าโอกาสที่ท่านจะล่วงพ้นจากกองทุกข์ทีเดียวก็จะมีน้อยกว่าคนอื่นเขา เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะตำหนิใครได้ว่า "คุณยินดียินร้ายจนเกินไป" หรือว่า "คุณสามารถทำใจปล่อยวางได้ดีแล้ว" เป็นต้น

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นอยู่กับตนเองและคนรอบข้าง ว่าจะช่วยกันบริหารจัดการอย่างไร ถึงจะให้ออกมาในลักษณะที่ดีที่สุด ไม่ได้ "เว่อร์วังอลังการ" ถึงขนาด จัดขบวนแห่กันทีหนึ่งเป็นที่เลื่องลือกันไปทั้งประเทศ..! ถ้าลักษณะอย่างนั้นก็เป็นการสิ้นเปลืองจนเกินไป

โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดงานฉลองนั้น สมัยที่พระเดชพระคุณพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม ป.ธ.๙, Ph.D.) ที่ปรึกษาคณะสงฆ์วัดสามพระยา วรวิหาร ท่านยังเป็นเจ้าคณะภาค ๑๔ อยู่ ในสมณศักดิ์ที่พระเทพสุธี กระผม/อาตมภาพฉลองตำแหน่งเจ้าคณะตำบล พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านก็ถามว่า "แกจะฉลองให้เปลืองตังค์ไปทำไมวะ ?"

กระผม/อาตมภาพกราบเรียนว่า "พระเดชพระคุณหลวงพ่อขอรับ กินของพรรคพวกเพื่อนฝูงเขามามากต่อมากแล้ว ถึงคิวตัวเอง ถ้าไม่จัดงานฉลอง มีหวังบาทามารอบทิศแน่นอนเลยครับ..!" พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพรหมดิลกในสมัยนั้น พอได้รับฟังเหตุผลก็พยักหน้าอนุญาต บอกว่า "เออ..ถ้าคิดอย่างนั้นก็แล้วไป แต่ข้าไม่อยากให้ทุกคนต้องมาสิ้นเปลืองกับเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เลย"

เราจะเห็นได้ว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านนั้น มีความมั่นคง ไม่ได้หวั่นไหวไปกับเรื่องของ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข หรือว่าการ เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ดังนั้น..เมื่อโดนข้อหา โดนคดีเงินทอน ท่านก็มิได้หวั่นไหว ปล่อยให้เขาดำเนินการไปตามพิธีการทางโลก จนกระทั่งผ่านพ้นมาด้วยดี ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์กลับคืนมาเป็นพระพรหมดิลกเหมือนเดิม ท่านเองก็ไม่ได้ยินดียินร้ายมากมาย แถมยังทำองค์ท่านเอง ตลอดจนกระทั่งว่ากล่าวสั่งสอนลูกศิษย์อยู่เสมอว่า "เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องของ "ยศช้าง ขุนนางพระ" ได้มาก็ไม่ควรดีใจเกินไป เสียไปก็ไม่ควรยินร้ายจนเกินไป รักษาใจเอาไว้ได้ เราก็จะมีความสุข มีความทุกข์น้อยกว่าคนอื่นเขา"

สำหรับวันนี้ ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-03-2023 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:35



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว