|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#141
|
||||
|
||||
โยมนำน้ำข้าวโพดมาถวายช่วงบ่าย “พระฉันหลังเพลไม่ได้ ข้าวโพดเป็นอาหาร ถ้าจะถวายพระ โดยเฉพาะพระธรรมยุต ให้ไปถวายก่อนเพล ถวายหลังเพลท่านไม่รับหรอก
ระยะหลังนี้หลายแห่งเขาถวายน้ำข้าวโพด น้ำฟักทอง น้ำเผือก น้ำถั่วเขียว..นี่เป็นอาหารทั้งนั้น ไม่ใช่ปานะ อะไรที่เป็นอาหาร พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ถึงเป็นทำเป็นปานะก็ไม่ควร ดังนั้น..ให้ถวายก่อนเพล แต่ว่าบางท่านรู้ทั้งรู้ ก็กูอยากกิน กูก็กินไปเรื่อย ก็เลยผิดจนเป็นถูกไปแล้ว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2019 เมื่อ 02:53 |
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#142
|
||||
|
||||
ถาม : ทำบุญผ่านระบบ e-donation กับมาทำบุญที่นี่ บุญที่ได้จะเท่ากันไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่กำลังใจของเรา ถ้ากำลังใจของเราตั้งใจสละออก กำลังใจตอนนั้นบางทีอาจจะบุญมากกว่าตอนนี้ เพราะว่าตอนนี้เราต้องเสียเวลาในการเดินทาง ถ้าไปเจออุปสรรคอะไร เกิดอารมณ์เสียขึ้นมา ดีไม่ดีบุญก็น้อยกว่า ถาม : แล้วถือเป็นสังฆทานไหมครับ ? ตอบ : ก็เป็นเหมือนกัน คุณตั้งใจอะไรก็เป็นอย่างนั้นแหละ หรือไม่ก็ระบุไปเลย เพราะว่าเขามีช่องให้ติ๊กว่าทำอะไร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2019 เมื่อ 02:53 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#143
|
||||
|
||||
ถาม : ถ้าเราสร้างพระพุทธรูป ๒ องค์ไว้ที่เดียวกัน แต่องค์หนึ่งคนบูชามาก อีกองค์หนึ่งไม่ค่อยมีคนมาบูชา บุญเราได้เท่ากันไหมครับ ?
ตอบ : บุญเราได้เต็มตั้งแต่แรกแล้ว เราคิดจะทำก็เป็นบุญแล้ว ส่วนที่เหลือว่าคนบูชามากบูชาน้อยเป็นอานิสงส์เพิ่มเติม อย่างเช่นว่าเราสร้างโบสถ์ เราได้อานิสงส์วิหารทานเต็มที่แล้ว แต่ถ้าพระท่านลงทำสังฆกรรมกี่ครั้ง เราก็ได้อานิสงส์เพิ่มไปตามจำนวนนั้น เพราะฉะนั้น..ต้นทุนเราได้ครบแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นกำไร กำไรมากกำไรน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพตอนนั้นแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2019 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 152 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#144
|
||||
|
||||
ถาม : ในเรื่องของกฎแห่งกรรม ถ้าเราเคยถูกต่อยมาในชาติก่อน พอมาชาตินี้เราต้องต่อยเขาใช่ไหมครับ ?
ตอบ : แล้วทำไมเราต้องต่อยเขา ? ถาม : ก็จะต้องมีเหตุให้เราเป็นคนทำครับ ? ตอบ : แล้วอภัยให้เขาไม่ได้หรือ ? ใจคิดเป็นมโนกรรม ปากพูดเป็นวจีกรรม ร่างกายทำเป็นกายกรรม ถ้าทำอย่างไรก็ต้องเป็นกรรม ก็เท่ากับว่าเป็นการผูกกรรมสืบเนื่องกันต่อไป เขาเตะฟุตบอลมาแทนที่เราจะหยุด เรากลับไปเตะต่อ..ก็ไปเรื่อยสิ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2019 เมื่อ 02:54 |
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#145
|
||||
|
||||
พระอาจารย์ภาสกร มาบ้านเติมบุญ "พวกเราส่วนหนึ่งอาจจะไม่รู้จักท่านอาจารย์ภาสกร ภูริวฑฺฒโน ก็ต้องบอกว่าลูกของศาสตราจารย์ด็อกเตอร์ระวี ภาวิไล ท่านบวชมานานแล้ว พรรษาใกล้เคียงกับอาตมาเลย ส่วนใหญ่ประจำธรรมสถานวัดฝายหินที่เชียงใหม่ วันนี้ออกจากถ้ำมาได้
โยมบางคนบอกคุ้น ๆ แต่นึกไม่ออก อ๋อ...ท่านอ้วนขึ้นมานิดเดียว เจ้าของสถิติหนังสือที่ตีพิมพ์มากที่สุดในประเทศไทย อาจจะถึงมากที่สุดในโลกไปแล้วกระมัง ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:04 |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#146
|
||||
|
||||
สนทนากับพระอาจารย์ภาสกร "ตอนนี้ผมรับตำแหน่ง ๒๐ กว่าตำแหน่งครับ เจ้านายเขาเคยใช้ใครได้ เขาก็ใช้แต่คนนั้นแหละ กลายเป็นว่าแค่ประชุมอย่างเดียวก็หมดเวลาแล้ว โดยเฉพาะคณะกรรมการปฏิรูปพุทธศาสนา ปกติเขาก็เป็นแค่ฝ่ายละตำแหน่ง ผมโดนไป ๒ ฝ่าย โดนฝ่ายการศึกษาในฐานะที่คุณจบปริญญาเอก แล้วก็โดนฝ่ายการเผยแผ่ ในฐานะที่สอนธรรมชาวบ้าน
พอถึงเวลาบางทีเขาประชุมพร้อมกัน เขาบอกเอาอย่างนี้แล้วกัน นั่งโต๊ะนี้ให้ผมถ่ายรูปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยไปโต๊ะโน้น ถึงเวลาเขาจะเรียกประชุมเพื่อที่จะวางแนวทางวางยุทธศาสตร์อะไร แต่บางอย่างผมก็เห็นว่าไปไกลเกิน อย่างที่ไปกำหนดกฎเกณฑ์ว่าชาวบ้านต้องถวายอาหารอย่างนั้นอย่างนี้กับพระ..ไม่ใช่ครับ ของจริงคือ พระเราต้องมีโภชเนมัตตัญญุตาเอง..ใช่ไหม ? อันนี้ไปกำหนดว่าอาหารอย่างนั้นถวายพระไม่ได้ อาหารอย่างนี้ถวายพระได้ ญาติโยมเขาลำบากตายชัก..! ผมเองเข้าไปกลายเป็นฝ่ายค้าน ผมบอกว่าหลงประเด็นไปไกล ไปกำหนดธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ จะต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ มีการเซ็นเอ็มโอยูอย่างโน้นอย่างนี้ ผมบอกว่าไปไกลเกิน พระเราถ้ามีโภชเนมัตตัญญุตา ก็ไม่ป่วยแหง็ก ๆ ขนาดนั้นหรอก" ถาม : โชคดีที่พระอาจารย์ไปขวางไว้ ? ตอบ : ขวางไม่อยู่ครับ เพราะว่าเสียงท่านเยอะกว่า ท่านจะเอาอย่างนั้น แต่ให้ท่านรู้ว่ามีคนค้าน ผมก็เหมือนท่านอาจารย์นั่นแหละ ถึงเวลาก็ค้านไว้ก่อน เห็นไม่เข้าท่าก็ใส่ไว้ก่อน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:07 |
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#147
|
||||
|
||||
ถึงเวลาก็กำหนดว่าตอนนี้พระสังฆาธิการจะต้องมีวุฒิ มจร.ห้อยท้าย ไม่อย่างนั้นไม่แต่งตั้งนะ สอนพระเราให้ละอายชั่ว กลัวบาป รักศีลของตัวเองก็จบแล้ว จะต้องเอาวุฒิอะไร ?
ถาม : นักธรรมเอกก็เหลือเฟือแล้ว ต้องไปสร้างเงื่อนไขอะไรมากมาย ? ตอบ : ผมค้านจนเขาเหม็นขี้หน้ากันหมด พูดง่าย ๆ ว่า พอถึงเวลายืนขึ้นมา เดี๋ยวก็ได้เรื่องละ เดี๋ยวต้องมีคนค้าน ถาม : พวกหน้าใหญ่ แต่ไม่มีศีล มีจำนวนเยอะ ? ตอบ : ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ผมก็ในฐานะที่ไปคอยกระตุกให้เขาได้สติ ผมถือว่าผมได้ทำหน้าที่แล้ว ส่วนจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ปัจจุบันนี้มหาวิทยาสงฆ์ของเรากลายเป็นว่าสะดุดขาตัวเอง คือเราตั้งขึ้นมาตอนแรกเพื่อเพิ่มความรู้ให้พระสงฆ์ แต่ปัจจุบันนี้กลายเป็นเตะสกัดพระสงฆ์ ปริญญาโทคุณต้องได้โทเฟิล ๓๐๐ คุณต้องมีคะแนนคอมพิวเตอร์ ๑๗๐ ปริญญาเอกต้องมีโทเฟิล ๕๐๐ ต้องมีคะแนนคอมพิวเตอร์ ๒๒๐ พระเราส่วนใหญ่บวชมาพื้นฐานแค่ ป.๔ ป.๖ แล้วคุณจะเอาคะแนนขนาดนั้นที่ไหนมา ? ตอนแรกเขาตั้งวิทยาลัยสงฆ์ขึ้นมาเพื่อที่จะสนับสนุนพระ ตอนนี้กลายเป็นตั้งขึ้นมาเพื่อตัดโอกาสพระ ผมเองก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร มีประชุมเมื่อไรก็เหมือนกับไปด่าเขา เพราะว่าเขาเองเหมือนกับว่ากลายเป็นการค้าเต็มรูปแบบ ไม่ใช่ธรรมทานแล้ว รุ่นผมเรียนปริญญาตรี เทอมไหนถึง ๑,๘๐๐ บาท นี่บ่นแล้วนะ เดี๋ยวนี้ปริญญาตรี ๕,๐๐๐ กว่าบาท แค่ ๘ หน่วยกิตนะ กลายเป็นว่าเล่นเต็มรูปแบบเหมือนอย่างกับภายนอก ถาม : วันก่อนมีประชุมที่กองทัพอากาศ ของธรรมยุต ผมจงใจไปป่วน ไปนั่งฟังอยู่พักหนึ่งแล้วขอพูดบ้าง ปรากฏว่าวงแตก ? ตอบ : พวกเราอยู่ที่ไหนก็วงแตก ผมว่าพวกเรานี่โดนขึ้นบัญชีดำไปนานแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:09 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#148
|
||||
|
||||
พวกที่บอกว่าปรัชญาพระพุทธศาสนานี่ผมด่าเลย ศาสนาพุทธไม่ใช่ปรัชญา เป็นอริยสัจ เกินปรัชญาไปเยอะ ปรัชญาคือเรื่องที่คุณเถียงกันไม่จบ เถียงจบก็กลายเป็นศาสตร์ ดันเอาพระพุทธศาสนาไปเป็นปรัชญา บ้าหรือเปล่า ? ของเรานี่เกินทฤษฎีครับ เพราะทฤษฎีเขายังค้านได้ ของพระพุทธเจ้ามีใครค้านได้บ้าง ? ถ้าหากว่าเป็น theory บอกว่าเป็นทฤษฎีเป็นปรัชญา ของพระพุทธเจ้า ผมหาได้คำเดียวคือ theorem ทฤษฎีสัมบูรณ์ ไม่มีใครค้านได้ ไม่รู้จะว่ากันอย่างไร เหมือนอย่างกับว่ายิ่งเรียนยิ่งพาให้ต่ำไปเรื่อย ความรู้เยอะขึ้นนะครับ แต่กลายเป็นว่าเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนาน้อยลง
ถาม : ยิ่งรู้ยิ่งออกห่าง ? ตอบ : ก็ที่เขาไปนั่งวิเคราะห์กันว่าพระพุทธเจ้าเทศน์พระสูตรนี้ ระหว่างนั้นพระองค์ท่านคิดอะไร บ้าหรือเปล่า ? ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ยังไม่สามารถจะคำนวณความคิดของพระพุทธเจ้าได้เลย แล้วจะมานั่งวิเคราะห์ว่าพระพุทธเจ้าคิดอะไร เหมือนอย่างกับเท่นะ เรามานั่งวิเคราะห์ว่าพระพุทธเจ้าคิดอย่างไร มีพระประสงค์อะไรถึงเทศน์พระสูตรนี้ บางอย่างก็พอได้อยู่ แต่ประเภทท่านคิดอะไร เราไม่ทันแน่ เพราะว่าสัพพัญญุตญาณ ใครจะไปคำนวณทันพระองค์ท่าน ต่อให้ "เทียนกง" ซูเปอร์คอมพิวเตอร์เจ๋งที่สุดในโลกก็ไล่พระองค์ท่านไม่ทันหรอก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:11 |
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#149
|
||||
|
||||
ท่านอาจารย์ภาสกรเป็นคนมั่นคงกับแนวคิดตัวเอง ก็เลยต้องชนกับเขามาตลอด ท่านเองก็อ่อนไหว เพราะว่าบวชแบบธรรมยุต พอถึงเวลาก็ขยับยาก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:12 |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#150
|
||||
|
||||
จริง ๆ ฝ่ายค้านอย่างพวกเราจำเป็นต้องมี เพียงแต่ว่าฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ชอบใจหรอก ค้านได้ตะบันราด ค้านได้ทุกเรื่อง เห็นออกไปไกลก็ต้องค้าน ไม่ค้านได้อย่างไร อยู่ ๆ คุณก็ตั้งธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์ขึ้นมา อาหารแบบนั้นโยมเหมาะที่จะถวาย แบบนี้ไม่เหมาะที่จะถวาย ชาวบ้านเขาลำบากตายเลย
ถ้าหากว่าพระเรามีโภชเนมัตตัญญุตา รู้ประมาณในการกินก็จบแล้ว แล้วก็ไปโทษว่าญาติโยมถวายมาแต่อาหารที่ทำให้พระอ้วน บ้า...! จะขึ้นภาษีน้ำตาลขึ้นอะไรอาตมาไม่ค้านหรอก เพราะว่าน้ำตาลทำร้ายคนไทยมาเยอะแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ให้ทหารมีเงินไปซื้อเรือดำน้ำเพิ่มขึ้นอีกหน่อย อาตมาก็ขำ ๆ ถ้าใช้สำนวนอาตมาตอนเด็ก ๆ บอกว่า "น้ำไม่ทันจะท่วมหลังเป็ด" ดันเอาเรือดำน้ำลงไป แล้วจะไปหลบใครได้ ถึงเวลาชาวบ้านขอให้ช่วยพยุงราคายาง บอกว่าไม่มีเงิน ขายในประเทศไม่ได้ก็ไปขายที่ดาวอังคารโน่น พูดจบก็ซื้อเรือดำน้ำ บ้า...! ไม่มีเงินพยุงราคายาง แต่มีเงินซื้อเรือดำน้ำ...ตลก บางทีไม่รู้จะพูดภาษาไทยว่าอย่างไร ก็ต้องอุทานเป็นภาษาอังกฤษว่า "You are boss." มึงเป็นเจ้านาย มึงก็ทำไปเถอะ กูไม่ว่าหรอก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:13 |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#151
|
||||
|
||||
ปัจจุบันนี้เสียงปืนไม่ดัง กฎหมายรับใช้ผู้มีอำนาจ โดยเฉพาะบางท่านที่ถือว่าเป็นเซียนกฎหมาย อยู่มา ๗ - ๘ รัฐบาลแล้ว น่าผิดหวังมาก เพราะว่าการใช้อำนาจตุลาการ ใช้ในนามพระมหากษัตริย์ ใช้ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณต้องสำนึกอยู่เสมอว่าทำอะไรต้องตรงไปตรงมา จะต้องไม่ทำให้พระองค์ท่านเสื่อมพระเกียรติ
แต่ปัจจุบันนี้ใช้กฎหมายเล่นงานฝ่ายหนึ่ง แต่อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีเลย ฟ้องกี่คดีก็หลุดหมด แล้วลักษณะอย่างนี้ไปใช้ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณไม่ละอายใจบ้างหรือ ? อาตมาขวางคลองเขามาเรื่อย จนกว่าเราจะเบื่อแล้วถึงไป สมัยรับราชการอยู่ก็บอกกับเจ้านายว่า "เหม็นขี้หน้าผมก็ไล่ผมออกสิ ผมไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" ก็ไม่มีใครกล้าไล่ออก เพราะว่าไม่ได้ผิดระเบียบอะไรเลยสักอย่าง ผิดอยู่อย่างเดียว คือเถียงเจ้านาย ซึ่งไม่ได้เขียนไว้ในระเบียบ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:15 |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#152
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ปีที่อาตมาไปเป็นเลขานุการหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี วัดท่ามะขาม ไปเห็นเขาคุมทหารมาช่วยทำความสะอาดวัด พอเจอหน้าจำได้ว่านี่รุ่นพี่ทหารนี่หว่า ถามว่า "พี่รวยใช่ไหม ?" เขาบอกว่า "ใช่ครับ" "แล้วพี่มาได้แค่นี้เองหรือ ?" "ก็ใครจะเก่งเหมือนกับท่านล่ะ" แล้วกัน..มีการสวนคืนด้วย ตอนนั้นใคร ๆ ก็ว่าอาตมาไม่เอาเพื่อนไม่เอาฝูง สอบเมื่อไรก็ได้เมื่อนั้น ก็หนีพวกไปไกล
แล้วถามว่าเรียนเก่งทำไมไม่ไป จปร. ? เชื่อไหมว่าสมัยนั้นอาตมาไม่รู้ ? ไม่รู้ว่าทหารเรียนฟรี บ้านอยู่ต่างจังหวัดไกล ๆ ไม่มีการแนะแนวเลย คราวนี้พอแม่บอกว่าไม่มีเงินส่งเรียน อาตมาเองก็หมดสภาพแล้ว ปีนั้นพาณิชยการบ้านโป่งเปิดเป็นปีแรก เพื่อน ๆ หลายคนก็ไปสมัคร เขาชวนอาตมาไปด้วย ไปถึง ผอ.โรงเรียนเขาก็ขอดู สมัยนั้นเขาเรียกว่าใบสุทธิก็คือ รบ.สมัยนี้แหละ พอเขาเห็นเขาบอกว่ารับเลย คุณจ่ายค่าเทอมแล้วเข้าเรียนได้เลย ไม่ต้องสอบ ค่าเทอม ๑,๒๐๐ บาท อาตมาไม่มีให้เขา เพราะว่าขนาดตอนที่เรียนมัธยม ค่าเทอม ๒๒๐ บาท ยังต้องผลัดจนกระทั่งเทอมสุดท้ายกว่าจะหามาจ่ายได้ ทุกวันนี้ที่อาตมาให้ทุนการศึกษาพระเณรและเด็กนักเรียน ให้ปีละหลายล้าน เกิดจากสมัยโน้นตัวเองอยากเรียนแล้วไม่มีเงิน สมัยนี้ก็เลยเห็นความสำคัญ ในเมื่อเราไม่มีโอกาส เราต้องให้โอกาสคนอื่นเขา"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:17 |
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#153
|
||||
|
||||
ถาม : พระอาจารย์เคยบอกว่าเดือนสิงหาคมจะเกิดเหตุร้ายแรง จะมีแรงกว่านี้อีกไหมคะ ?
ตอบ : อย่างนี้ยังไม่แรงใช่ไหม ? ถ้าอย่างนี้ยังไม่แรง เดี๋ยวหาให้แรงกว่านี้ได้ ไม่เป็นไรหรอก...อย่างน้อยเป่ายันต์เกราะเพชรไปแล้ว ก็ผ่อนหนักเป็นเบาได้ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ตูมแค่ ๕ - ๖ ลูกหรอก แล้วก็อย่ามาโทษอาตมาอีกนะ ว่าเพราะอาตมาพูดเขาก็เลยทำ อุตส่าห์บอกให้ระวังภัยแล้ง ให้เตรียมพร้อม หาว่าเป็นเพราะหลวงพ่อพูดก็เลยแล้ง บอกล่วงหน้ามาตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคมมาจนป่านนี้ ตอนนี้ก็คงไม่แล้งไปกว่านี้แล้วแหละ แต่ว่าแล้งในที่ ๆ ไม่ควรแล้ง แล้วก็ท่วมในที่ ๆ ไม่ควรท่วม ตอนนี้เป็นกรรมของประเทศชาติเลย สังเกตไหม ? ตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ สวรรคต ภัยธรรมชาติก็แรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าบุคคลที่ต้องเกรงใจไม่อยู่แล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2019 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#154
|
||||
|
||||
ถาม : พระพุทธเจ้าจำเป็นต้องมีคู่ไหมคะ ?
ตอบ : เขาเรียกว่าคู่บารมี คือพระพุทธเจ้าไม่มีคู่บารมี แต่พระโพธิสัตว์มี บวชแล้วจะมีได้อย่างไรเล่า ? ถาม : ตอนเป็นพระโพธิสัตว์มี ? ตอบ : ตอนเป็นพระโพธิสัตว์มี เพราะว่าส่วนใหญ่จะอธิษฐานตามกันมา ถาม : มีไหมที่พระโพธิสัตว์ท่านจะไปของท่านโดยไม่ต้องมีคู่บารมี ? ตอบ : ยกเว้นชาติที่เป็นเนกขัมมะบารมี ถ้าหากว่าไม่ใช่ชาติที่เป็นเนกขัมมะบารมี อย่างไรก็ต้องมี
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:19 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#155
|
||||
|
||||
ถาม : ท่านแม่จันทนาที่หลวงพ่อวัดท่าซุงสร้างขึ้นที่มณฑปหลวงปู่ปาน เกี่ยวเนื่องอะไรกันคะ ?
ตอบ : คุณโยมสุวรรณกับคุณโยมจันทนา วีระผล เป็นอุปัฏฐากใหญ่ของวัดท่าซุง แล้วตอนที่ตายท่านก็ไปดีด้วย หลวงพ่อวัดท่าซุงก็เลยสร้างรูปเอาไว้ให้ลูกหลานได้กราบ ได้ระลึกถึง จะได้รู้ว่าคนธรรมดาก็ไปพระนิพพานได้
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2019 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#156
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ที่วัดท่าขนุนมีอยู่อย่างหนึ่ง ถึงเวลาออกพรรษาโยมเขาจะมาขอน้ำมนต์ เขาเรียกว่าน้ำมนต์ออกพรรษา เขาว่าอย่างนั้น เขาบอกว่าเป็นเคล็ด ถ้าใครท้องกินแล้วจะคลอดลูกง่าย ก็เลยบอกกับพระทุกรูปเลยว่า ถ้าใครมาขอน้ำมนต์เสาร์ ๕ ใครมาขอน้ำมนต์หลวงปู่สาย ใครมาขอน้ำมนต์ออกพรรษา ชี้ไปตรงนั้นแหละ บาตรใบนั้นแหละ ทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดแล้ว พวกเราเองเสกอยู่ทุกวันยังไม่พอ วันพระยังมีพิเศษอีกต่างหาก ที่ชาวบ้านเขาเอาไปใช้แล้วได้ผลมาก เพราะว่าพระทั้งวัดทำวัตรสวดมนต์ตรงนั้นอยู่ทุกวัน
แม้กระทั่งทางด้านฝรั่งเขาก็ทำวิจัยแล้วว่า น้ำมนต์หรือน้ำที่ผ่านการสวดหรือเสกด้วยพุทธมนต์มา พอถึงเวลาเขาเอาไปแช่แข็งแล้ว รูปทรงผลึกสวยงามกว่าปกติ แล้วก็สมบูรณ์ ขณะที่น้ำจากแหล่งน้ำเดียวกัน แต่ไม่ได้มาเข้าพิธี ถึงเวลาแช่แข็งแล้วผลึกก็ขาด ๆ วิ่น ๆ ของบางอย่างเขาก็ต้องทดสอบทางวิทยาศาสตร์ เพราะว่าเขาไม่เชื่อ ในเมื่อทดสอบแล้วเห็นความต่าง เขาถึงจะเชื่อ ฝรั่งเขาเรียกน้ำมนต์ว่า Holy water ถึงเวลาพรมน้ำมนต์ก็ Shower holy water ศัพท์ทางศาสนาเป็นศัพท์เฉพาะ จุดเทียนว่าอะไรนะ Light the candle"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:22 |
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#157
|
||||
|
||||
ถาม : เวลาที่เราพูดถึงใคร ใจเราสามารถจะไปได้ทันที อันนี้เป็นจินตนาการหรือคะ ?
ตอบ : อันนั้นแหละที่เขาเรียกว่ามโนมยิทธิ ถาม : เร็วขนาดนั้นเลยหรือคะ ? ตอบ : ถ้าพูดถึงดวงอาทิตย์ ตอนนี้ก็ถึงดวงอาทิตย์เลย ขนาดแสงเดินทางเร็ว ๑๘๖,๐๐๐ ไมล์ต่อวินาที ใช้เวลา ๘ นาทีกว่าจะมาถึง ของเราต้องใช้เวลาที่ไหน ? ปรื๊ดเดียวถึงเลย มโนมยิทธิไม่จำกัดด้วยสถานที่ ไม่จำกัดด้วยเวลา แวบเดียวถึงเลย ถึงได้บอกว่า คนที่บอกว่าถ้าต้องมาภาวนานะมะพะธะแล้วค่อยไป ไม่ทันรับประทานหรอกเอ็ง ไม่ทันกิน คนอื่นเขาไปนานแล้ว
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:23 |
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#158
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนมีโยมโทรมาว่า “จะบูชาแผ่น ๆ ยังเหลือไหม ?” ก็เลยถามว่า “ตกลงโยมไม่รู้หรือว่าเรียกว่าอะไร ?” เขาก็บอกว่า “ไม่รู้หรอก แล้วช่วยพูดเร็ว ๆ หน่อย เพราะว่าโทรจากต่างประเทศ” ก็เลยบอกว่ามีคนรู้จักอยู่เมืองไทยนี้ไหม ? บอกเขาให้ไปบ้านเติมบุญช่วงวันที่ ๒ - ๓ - ๔ สิงหาคม เขาเปิดบ้าน แล้วก็ไปถามหาเอา มีขายแน่ “แล้วจะเหลือถึงไหม ?” อ้าว...ใครจะไปรับรองได้วะ ?"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:24 |
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#159
|
||||
|
||||
พระอาจารย์แนะนำอาหารสำหรับผู้หญิงวัยทอง "พวกยาเพิ่มฮอร์โมนอย่ากินมาก อันตราย เอาแค่พออยู่ได้ พวกเม็ดบัว ลูกเดือย ถั่วเหลือง ทดแทนฮอร์โมนได้ กินอาหารเป็นยาดีกว่า อย่าไปกินยาเป็นอาหาร
ผู้หญิงพอถึงวัยทอง แล้วขาดฮอร์โมน บางคนไปตัดมดลูก ตัดรังไข่ออกหมด หมอต้องให้ฮอร์โมนทดแทน ทีนี้หมอสมัยใหม่มักง่าย แทนที่จะแนะนำอาหารที่กินแล้วทดแทนได้ เขาไปให้ฮอร์โมนเลย โดยเฉพาะน้ำถั่วเหลืองเหมาะกับผู้หญิงมาก กินแล้วทดแทนฮอร์โมน คราวนี้ผู้ชายถ้ากินไปเยอะ ๆ เดี๋ยวก็ได้เรื่อง ถึงเวลาอยู่ ๆ ทำไมเซ็กส์เสื่อม..! อาหารทุกชนิดเป็นยา เพียงแต่ว่าเลือกให้เหมาะกับอาการตอนนั้นเท่านั้น คนเรายุคนี้มักง่าย กินยาเป็นอาหาร โน่นก็อาหารเสริม นี่ก็อาหารเสริม ยุ่งไปหมด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:25 |
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#160
|
||||
|
||||
โยมมารับวัตถุมงคล "หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน อาตมากำลังจะเรียกคืนอยู่ โดยปกติของท่านแกะด้วยงาช้างหรือไม่ก็รากพุดซ้อน ตนนี้เขาใช้เหง้าไผ่ตันแกะ ถ้าไม่ได้ความเก่าอย่างนี้ อาตมาก็ไม่เชื่อว่าเป็นของหลวงพ่อสุ่น แต่คราวนี้ความเก่าชัด ฝีมือแกะก็ใช่
อาตมาส่งพีเอ็มหา "ตัวเล็ก" ตั้งแต่ก่อนสิ้นเดือน บอกว่าถ้าสิ้นเดือนแล้วขอเก็บของพวกนี้คืนหมด ถึงคนจะสู้ราคาไม่ไหวหรือไม่รู้คุณค่า ก็จะเก็บไว้เข้าพิพิธภัณฑ์ โยมดันมาสอยไปวันนี้เลย ส่วนพระปิดตาสามเกลอยอดบายศรี หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ในตลาดราคาถึงเลข ๘ หลัก อาตมาคิดแค่ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ยอดบายศรีคือความสุดยอด แล้วความที่เป็นสามเกลอ ก็ล้มไม่เป็น เพราะว่าค้ำไว้ทุกด้าน ฉะนั้น...บรรดาผู้นำส่วนใหญ่เขาจะแสวงหามา แพงขนาดไหนก็สู้ แต่บางทีก็ต้องบอกว่าบุญไม่ถึง ไม่ใช่หาง่าย เพราะว่าถ้าหลวงปู่ท่านไม่มีพิธีอะไร ท่านก็ไม่ปั้นขึ้นมาใช้ พอถึงเวลามีพิธีขึ้นมา ท่านก็ปั้นขึ้นมา เพื่อที่จะเอาไว้ติดบนยอดบายศรี ก็แปลว่านาน ๆ ถึงจะมีสักองค์หนึ่ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-09-2019 เมื่อ 18:28 |
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|