|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#221
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "พระเรามีธรรมนูญสุขภาพของพระสงฆ์เกิดขึ้นแล้ว พยายามรณรงค์ให้ญาติโยมถวายอาหารที่ไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพพระ ความจริงเรื่องนี้ทำผิดจุด สิ่งที่ควรเน้นคือให้พระพิจารณาในอาหาเรปฏิกูลสัญญา และให้รู้จักในโภชเนมัตตัญญุตาก็จบแล้ว
อาหาเรปฏิกูลสัญญา พิจารณาอาหารว่ามาจากปฏิกูล คือ พื้นฐานของความสกปรก พอพิจารณาเห็นก็หมดอยากแล้ว โภชเนมัตตัญญุตา รู้ประมาณในการกิน แบบที่ทางด้านสายวัดป่าบอกว่า พอรู้สึกว่าจะอิ่มก็ให้หยุด ดื่มน้ำตามลงไปก็อิ่มพอดี แต่ส่วนใหญ่เราในปัจจุบันพอรู้สึกว่าจุกก็จะหยุด ถึงได้สุขภาพเจ๊งกันไปหมด เวลาพระวัดท่าขนุนไปฉันรวมกับพระวัดอื่นจะรู้สึกว่าทุกข์ทรมานมาก เพราะว่าเราอิ่มไปสี่รอบแล้ว เขายังไม่อิ่มกันเลย แล้วจะลุกก่อนก็ไม่ได้ เพราะว่าในงานต้องให้พรโยมก่อน ถึงเวลานิมนต์พระมาก ๆ ระดับร้อยรูป พระวัดท่าขนุนต้องลงนั่งทีหลังสุด ของเราไม่เกิน ๑๕ นาทีก็อิ่มแล้ว ส่วนเขานี่ส่วนใหญ่ไม่เที่ยงก็ไม่เลิกฉัน โภชเนมัตตัญญุตาก็เลยสำคัญตรงที่ว่า ถ้าเรากินล้นกินเกิน ก็มีแต่โทษมากกว่าประโยชน์ พระพุทธเจ้าตรัสว่า มัชฌิมาปฏิปทานี้มีประโยชน์ทั้งทางโลกและทางธรรม ต้องรู้จักความพอเหมาะพอดี พอควร ทีนี้ไปตั้งธรรมนูญสุขภาพพระขึ้นมา ดึงหน่วยงานโน้นมาช่วย หน่วยงานนี้มาช่วย แทนที่จะให้เรื่องจบลงที่พระ ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร ก็ดันไปทำให้ยุ่ง แล้วก็ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนตรงที่ว่า ต้องไปหาอาหารให้เหมาะกับพระ ตัวเองก็ลำบาก อาตมาไม่ได้ตำหนิ เพราะว่าพระเรามีโครงการ มีอะไรดี ๆ ก็ควรจะเอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้เกิดรูปธรรม แต่พอเห็นเขาแก้ปัญหาของพระผิดจุดแล้วรู้สึกว่าชวนให้เหนื่อยมาก อาตมาก็เลยบ่นเท่านั้น"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:54 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#222
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "ท่านใดที่นั่งน้ำตาเล็ด เพราะกลัวว่าไม่มีเหรียญทำน้ำมนต์พุทธบารมีสุริยันทรงกลด อาตมาอ้อนวอนพระจนกระทั่งได้มา ๓,๐๐๐ เหรียญ ยังพอให้แย่งกันได้อยู่ แต่ถ้าใครจองครอบน้ำมนต์ก็จะได้เหรียญเนื้อนาก ถ้าไม่ได้....นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเนื้อชิน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:55 |
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#223
|
||||
|
||||
"ชิน หรือ ชินะ เป็นภาษาบาลี แปลว่าตะกั่ว อย่างเจ้าเมืองท่าตะกั่ว เจ้าเมืองท่านนามสกุลชินติฏฐบดี ฉะนั้นลูกหลานที่นามสกุลชินดิษฐ์ ให้รู้ตัวว่าตนเองเป็นเชื้อสายเจ้าเมืองเก่า
เจ้าเมืองท่าขนุน เชื้อสายนามสกุลเสลคุณ เสลาภรณ์ ฉะนั้นเราจะเห็นว่าหลวงปู่สาย เป็นพระครูสัญญาบัตร ก็คือพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ เสละตัวนี้ก็คือหิน จะแปลว่าภูเขาก็ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:55 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#224
|
||||
|
||||
โยมมารับวัตถุมงคล "หลวงพ่อพ่วง วัดกก คนไม่ค่อยรู้จักกัน เขาไม่รู้ว่านั่นระดับพระอาจารย์ของหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพงเลยนะ สมัยก่อนวัตถุมงคลของหลวงพ่อไปล่พวกนักเลงจะหากันมาก เพราะว่าเหนียวสุดยอด"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:56 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#225
|
||||
|
||||
"วัตถุมงคลของหลวงพ่อไปล่นี่เน้นเรื่องเหนียว ลูกศิษย์หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ กับหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง เจอกันเมื่อไรก็ฟันหัวกันเล่น มั่นใจว่าอาจารย์ของตนเก่ง....(หัวเราะ)... อาตมามีตะกรุดหลวงพ่อพ่วงอยู่ ๑ ดอก ไม่กล้าเอามาออกเว็บ เพราะว่ายังไม่เจอดอกที่ ๒ เลย ถ้าขืนออกไปเดี๋ยวหาคืนไม่ได้"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:57 |
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#226
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการอดอาหารให้ผอมนั้นไม่ยั่งยืน พออดไปร่างกายขาดสารอาหารมากก็จะเบรกแตก กินกระจาย ต้องใช้วิธีออกกำลังด้วย
อาตมาประเภททำงานเยอะเข้าไว้ ทำมากกว่ากิน อย่างไรก็ต้องน้ำหนักลง บางทีเพื่อนพระบอกว่า "อาจารย์เล็กรักษาหุ่นอย่างไร ? รู้จักกันมา ๒๐-๓๐ ปี ไม่เห็นว่าหุ่นเปลี่ยนไปเลย" ก็บอกว่าไม่ได้รักษาหรอก ทำให้มากกว่ากินไว้ก็พอ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:58 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#227
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า “ไม้ครูชุดหลังสุด หัวกับปลายไม้บางทีก็มั่วไปหมด คืออะไรเหลือก็ใส่อันนั้นลงไป จะได้รู้ไว้ว่าไม่เหมือนกันหรอก แล้วมีอยู่อันหนึ่งอนาถมากเลย เพราะว่าปลายโลหะคด อาตมาต้องเอากาวอีพ็อกซี่โปะลงไปแล้วพยายามดัดให้ตรงไว้ จะเป็นอันที่หน้าตาดูเละที่สุด ใช้เวลาในการทำนานที่สุด ไปคุยทับเขาได้เลย ว่าอันที่หน้าตาเละที่สุดนี่แหละพระอาจารย์ใช้เวลาทำนานที่สุด คือทำอย่างไรจะให้ตรงที่สุดเท่าที่ตรงได้
เจอไม้ครูหน้าตาพิลึกพิลั่นให้ดูรอยตอกจะมีจุดกลม ๆ อยู่ รอยตอกนั้นแหละคือโค้ดนะโมตาบอด เป็นจุดเล็ก ๆ นิดเดียว จุดโตไม่ถึงกระเบียด ตอกให้รู้ไว้ว่าเป็นรุ่นพิเศษที่พระอาจารย์พยายามปลุกปล้ำขึ้นมา มาจากของเหลือ”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 15:59 |
สมาชิก 149 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#228
|
||||
|
||||
"สมัยอยู่วัดท่าซุงอาตมาไปรื้อกุฏิหลวงตาผ่อง เอาถังสังฆทานเก่า ๆ กรอบ ๆ ไปชั่งกิโลขาย เอาพวกดอกไม้ธูปเทียนไปผูกมัดให้เป็นชุดสวย ๆ ไปเข้าพิธีหลวงพ่อวัดท่าซุง แล้วก็ไปวางขาย หลวงพ่อท่านบอกว่า “ไอ้นี่สันดานเศรษฐี” ถามว่าทำไมครับ ? “รู้จักเก็บของเก่ามาขาย”
ตอนแรกที่ทำตั้งใจว่า ถ้าใครจับผิดว่าไปทำลายของสงฆ์ก็จะใช้หนี้คนเดียว ปรากฏว่าพอไปชั่งกิโลขายเข้าจริง ๆ หลวงพ่อท่านกลับชมว่านิสัยเศรษฐีต้องอย่างนี้ เก็บของเก่าขาย ของเต็มกุฏิไปหมด ถังสังฆทานไม่ถึงพันใบก็ใกล้เคียง แต่ว่าหมดสภาพ พอไปจับนี่หลุดติดมือเป็นชิ้นเลยเพราะว่าพลาสติกกรอบหมดแล้ว ตั้งแต่ยุคหลวงตาผ่องยังอยู่ คนอื่นเขาไม่กล้าแตะเพราะเห็นว่าเป็นของสงฆ์ ส่วนอาตมาไม่ได้สนใจหรอก รื้อกระจายขายเกลี้ยง ถ้าใครคิดว่าติดหนี้สงฆ์ อาตมาจะค่อย ๆ ชำระเอง ตึกนั้นจริง ๆ เรียกว่าตึกโรงเรียนทหารอากาศสงเคราะห์ ก่อนหน้านี้หลวงพ่อท่านตั้งใจทำโรงเรียนพระปริยัติธรรม แต่ปรากฏว่าพระเณรไม่สู้ พอเจอบาลียากก็ไม่ยอมเรียนกัน"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2019 เมื่อ 16:00 |
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#229
|
||||
|
||||
เก็บตกเดือนธันวาคม ๒๕๖๑ หมดแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และนายกระรอก
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม |
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|