|
เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป |
|
คำสั่งเพิ่มเติม |
#41
|
||||
|
||||
ถาม : การวางกำลังใจในด้านการบริจาคค่ะ ?
ตอบ : ต้องถามว่าบริจาคอะไร ? ถาม : ถ้าให้คนทั่วไป ? ตอบ : ถ้าเป็นทรัพย์สินเงินทอง ก็อยู่ในลักษณะว่าเมื่อมีคนต้องการเราจะให้ อย่าไปเลือกที่รักมักที่ชัง ใครก็ได้ แต่ถ้าเกี่ยวกับร่างกายของเรา เช่น บริจาคเลือด บริจาคอวัยวะ ก็ให้ตัดใจว่าสภาพร่างกายธรรมดาที่เกิดมาทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีก ถ้าสามารถสร้างประโยชน์ให้คนอื่นมากเท่าไร เราก็จะทำ
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-12-2017 เมื่อ 20:58 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#42
|
||||
|
||||
ถาม : อย่างพระพุทธรูปเป็นเหมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้า ทำไมแต่ละที่ที่ไปกราบท่าน มีเทวดาที่ดูแลคนละองค์กันคะ ?
ตอบ : ตัวแทน ไม่ใช่พระพุทธเจ้า ก็บอกอยู่ว่าเป็นตัวแทน ในเมื่อเป็นตัวแทน พรหมเทวดาที่รักษาก็คนละองค์กัน ถาม : คำบูชาของแต่ละองค์มาได้อย่างไรคะ ? ตอบ : คนอยากได้แบบไหนก็แต่งไปเรื่อย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2017 เมื่อ 03:08 |
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#43
|
||||
|
||||
พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนที่อาตมาเอาวัตถุมงคลไปให้เขาหลอมทำเป็นชนวน ถึงขนาดขอขมาแล้วขอขมาอีก มีดหมอหลายสำนักหลอมอย่างไรก็ไม่ละลาย ที่ยอมละลายแต่โดยดีมีของหลวงปู่รอด วัดบางน้ำวน เป็นพระขรรค์เล่มหนึ่ง นอกนั้นนี่ขอซ้ำขอซาก จนกระทั่งเหลือท้าย ๆ อยู่ ๗-๘ เล่มขอเท่าไรก็ไม่ยอมละลาย ก็เลยเอามาให้เขาบูชาไปทั้ง ๆ ที่ไม่ละลายอย่างนั้นแหละ
ช่างหลอมเขาหลอมเสียจนกระทั่งหมดอารมณ์แล้ว เขาบอกว่าหมดถ่านหินไปหลายกระสอบก็ไม่ยอมละลาย ขนาดเขาใช้เหล็กข้ออ้อย ๘ หุน ก็คือ ๑ นิ้วฟุต กระทุ้งมีดหมอลงไปในเบ้า จนเหล็กข้ออ้อยละลายแล้วมีดหมอยังไม่ยอมละลายเลย ต้องบอกว่าของท่านดีจริง..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2017 เมื่อ 03:09 |
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#44
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาจะแยกวัตถุมงคลเป็นส่วน ๆ ตะกรุดส่วนหนึ่ง ผ้ายันต์อยู่ส่วนหนึ่ง ลูกอมอยู่ส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้น...ถ้าเปิดออกมาไม่เจอก็แปลว่าต้องไปหาที่อื่น ที่ต้องแยกละเอียดเพราะว่าของมีมาก ถ้าบอกแล้วคนไม่รู้จักจะหาไม่เจอ นอกจากว่าแยกประเภทแล้ว ยังต้องเขียนชื่อติดไว้ด้วย
อย่างลูกอมหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค บางลูกสีออกคล้าย ๆ ของหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะว่าเขาผสมซีเมนต์แล้วก็เอาไว้อุดพระ พอถึงเวลาเหลือแล้วอุดไม่ทันก็ปั้นเป็นลูกอมขึ้นมา คราวนี้ถ้าส่วนผสมซีเมนต์มีมากสีก็จะออกไปทางลูกอมหลวงปู่พริ้ง แต่ถ้าผงวิเศษมากก็จะออกขาวอมเหลือง หรือเหลืองแก่ก็มี เพราะฉะนั้น...ต้องดูเนื้อเป็น ดูสีเป็น ไม่เขียนชื่อติดไว้นี่ได้หลงกันตาย อย่างลูกอมขนมโคของหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน คล้ายกับของหลวงปู่ปานมากเลย เพียงแต่สีเข้มกว่านิดเดียว ของหลวงปู่ปานถึงเวลาเราจะเห็นเนื้อผง พูดง่าย ๆ ก็คือว่ามีความหยาบกว่า แต่ว่าลูกอมขนมโคของหลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จะละเอียดผิวลื่นไปเลย มีของพวกนี้ถ้าตาไม่ถึง ตายอย่างเดียว..!"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2017 เมื่อ 03:10 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#45
|
||||
|
||||
"มีลูกอมหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งจะทำด้วยชินตะกั่วเหมือนกับหลวงปู่เนียม วัดน้อย ถ้าคนดูของไม่เป็นก็จะแยกไม่ออก ชินตะกั่วของหลวงปู่เนียมจะอายุเป็น ๑๐๐ ปีแล้ว จะขึ้นสนิมที่เขาเรียกว่าเกล็ดกระดี่ ของหลวงปู่เนียมท่านมักจะมีสนิมแดงแทรกอยู่
ส่วนของหลวงปู่ศุขเนื่องจากว่าเป็นรุ่นหลัง อายุนานไม่ถึง เรื่องของไขหรือว่าสนิมจึงปรากฏน้อยกว่า หรือบางลูกถ้าเจ้าของใช้งานติดตัวก็ไม่ปรากฏเลย ก็เลยต้องดูความเก่าของชินตะกั่วให้เป็น แบบเดียวกับตะกรุดของหลวงปู่ภู วัดดอนรัก กับหลวงปู่เนียม วัดน้อย มักจะทำด้วยชินตะกั่วเหมือนกัน แต่ของหลวงปู่เนียมจะขึ้นเกล็ดกระดี่หรือว่าสนิมแดงหมด แต่ว่าของหลวงปู่ภูท่านยังไม่ถึงระดับนั้น ถึงเวลาถ้าไม่ได้มาเป็นชุด ก็ต้องมาดูกันว่าเนื้อของใครเก่ากว่า"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2017 เมื่อ 03:11 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#46
|
||||
|
||||
สนทนากับพระ "สมัยอยู่วัดท่าซุงผมจะเป็นขาประจำบิณฑบาตสายใต้ บางทีก็ไปแทนหลวงตาวัชรชัยที่สายหลังวัด บางทีก็ต้องไปแทนสายเรือด้านหน้าวัด แต่ว่าหลัก ๆ แล้วจะอยู่สายใต้ตลอด"
ถาม : สายเรือพระอาจารย์พายเองหรือครับ? ตอบ : ผมพายเรือตามพวกเรือหาปลาอยู่ทั้งปี มีอยู่เที่ยวหนึ่งฝนตก แล้วมีผมกับพระอาจารย์สมปอง ๒ คนเท่านั้นที่ออกบิณฑบาต นอกนั้นเขาไม่ไปกัน ปรากฏว่าไปถึงหัวสะพาน คุณยายอายุ ๘๐ กว่าปี ผมขาวทั้งหัวแล้ว ยืนถือใบกล้วยบังหัวถือขันข้าวอยู่ เวรเลยกู...ถ้าไม่มานี่เสียหมาเลย..! ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมไม่เคยขาดบิณฑบาตเลย คิดดูว่าคนแก่รอ กลัวลูกพระจะอด ส่วนลูกพระดันไม่ไป..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-12-2017 เมื่อ 10:09 |
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#47
|
||||
|
||||
พูดถึงการเป็นทหาร "สมัยก่อนข่าวคราวเกี่ยวกับทหารไม่เหมือนกับยุคนี้ สมัยนั้นอาตมาอยู่บ้านนอกสุดกู่ ไม่รู้ว่าสามารถไปสอบที่ไหนได้บ้าง พรรคพวกบ้านเดียวกันเห็นว่าใกล้ที่ไหนก็คว้าที่นั่น ถ้าเป็นอย่างสมัยนี้หาอ่านข่าวทางอินเตอร์เน็ตได้ ก็คงเข้าโรงเรียนเตรียมทหารเรียนนายร้อยกันหมดแล้ว
แต่ก็ดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ทำให้อาตมาผ่านตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไป เข้าใจเลยว่าชีวิตล่าง ๆ เป็นอย่างไร แบบที่ดราม่ากันอยู่เรื่องน้องเมยนักเรียนเตรียมทหารตาย จริง ๆ แล้วครูฝึกเขาไม่มีความผิดนะ ทหารนี่โดยกฎกระทรวงซึ่งเป็นกฎหมาย เขาระบุไว้เลยว่าตายในการฝึกได้ร้อยละ ๕ เขาไม่มีความผิด ถ้าคุณเป็นทหารไม่เข้มแข็งพอ ผ่านหลักสูตรโหดไม่ได้ ถ้าสมรรถภาพสู้เขาไม่ได้ คุณจะไปเป็นรั้วของชาติป้องกันข้าศึกได้อย่างไร ? ดังนั้นเขาก็เลยจำเป็นฝึกโหดเอาไว้ก่อน แต่สิ่งที่เขาเอามาฝึกนี่อยู่ในอัตราเกณฑ์เฉลี่ยรับไหว ถ้าคนที่ต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยก็ไปไม่รอดหรอก ยิ่งไปเจอพวกรุ่นพี่กลั่นแกล้งด้วย อย่างของอาตมานี่โดนสั่งนั่งกระโดด ๑๗๕ ยก เจ้าประคุณเอ๋ย ๑๗๕ ยก เกือบ ๑,๐๐๐ ครั้งนะ เพราะยกหนึ่ง ๔ ครั้ง บางคนนี่กล้ามเนื้อขาเสีย เดินไม่เป็นไปเป็นเดือนเลย นั่นโดนรุ่นพี่เขาแกล้ง"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 19:26 |
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#48
|
||||
|
||||
ถาม : ต้องยอมรับว่าหลักสูตรนี้ต้องไปเจอกับความตาย ต้องทนได้ ?
ตอบ : เขาต้องฝึกเราให้หนักที่สุด ไม่อย่างนั้นสมรรถภาพจะสู้เขาไม่ได้ คราวนี้ร่างกายที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานก็จะรับไม่ได้ ยิ่งไปเจอพวกรุ่นพี่หรือครูฝึกบ้าอำนาจด้วย บางทีก็กลั่นแกล้งกัน มีอยู่รุ่นหนึ่งให้กินน้ำ ๔๐ ลิตร ก็ตายสิวะ...ใครจะกินลงไปได้หมด ส่วนใหญ่แล้วกินต่อกันไปเป็นรุ่น ๆ ภาษาทหารเขาเรียกว่า "แดกต่อ ๆ กันไป" ในรุ่นผมมาหยุดอยู่ได้เพราะว่าผมเป็นหัวหน้าตอนนักเรียน ผมสั่งเพื่อนในรุ่นเลย ปกติแล้วตอนเรียนจบ รุ่นพี่จะขโมยของรุ่นน้อง ทดสอบว่าวิชาที่ตัวเองเรียนมาใช้ได้จริงหรือเปล่า ? รุ่นน้องก็โดนขโมยหมดตูดทุกที ผมก็เลยมาคิดว่าทำอย่างไรที่เราจะให้การกระทำตรงนั้นหยุดลงได้ ผมก็เลยสั่งในรุ่นเลย บอกว่าขอให้วงจรอุบาทนี้หยุดที่รุ่นของเราเถอะ พวกเราเองกำลังจะไปรับราชการมีเงินเดือนแล้ว รุ่นน้องเขายังไม่มี มีแต่เบี้ยเลี้ยง มีอะไรให้น้องได้ก็ให้ไปเลย เพราะฉะนั้น...พวกเราทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ข้าวของเครื่องใช้อะไร สละให้รุ่นน้องไปหมดเลย ยกเว้นว่าเสื้อ ถ้าใครติดป้ายชื่อถาวรอยู่ให้ตัดออก ไม่อย่างนั้นแล้วรุ่นน้องนักเรียนนายสิบก็คงจะขโมยต่อ ๆ กันไปอีกทุกรุ่น
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 19:29 |
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#49
|
||||
|
||||
ถาม : ทำไมเขาต้องขโมยของรุ่นน้องครับ ?
ตอบ : เนื่องจากว่ากูโดนมา มึงก็ต้องโดนด้วย..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 19:29 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#50
|
||||
|
||||
ถาม : เลี้ยงหมาไว้ตัวหนึ่ง ตัวขาว ๆ เมื่อเช้าตัวแข็งไปแล้วครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่หมาที่พระเลี้ยงมักจะไปดีครับ ถาม : เมื่อเช้าผมฝังหมาที่เลี้ยงไว้ ยังนึกว่ามันโชคดีที่ได้พบพระ มาเกิดไม่นานก็ตาย ? ตอบ : แสดงว่ามาอยู่แค่ไม่กี่ปี สมัยที่อยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อท่านสงสัยว่าทำไมลงมาเกิดเป็นหมากันเยอะ เขาบอกว่าเกิดครั้งหนึ่งก็ชาติหนึ่ง เท่ากับว่าตัดชาติภพไปเยอะเลย ลงมาทำความดี เฝ้าวัดเฝ้าสมบัติของพระสงฆ์ ถึงเวลาก็ขึ้นไปข้างบน สะสมบุญไปเรื่อย ๆ ตัดชาติตัดภพไปเรื่อย ถาม : ไวจริง พักเดียวก็ไปกันแล้ว ก็เลยถวายสังฆทานให้ ? ตอบ : ที่วัดผมมีเยอะเหลือเกิน ทั้งที่เกิดเอง ทั้งที่เขาเอามาปล่อย เป็นร้อย ๆ ตัว ต้องหุงข้าวเลี้ยง ถาม : ผมดูพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเมตตาหมามาก ท่านนั่งกับเสื่อ หมาล้อมรอบ ? ตอบ : มีบางตัวก็หวงลูก ให้แต่หลวงพ่อจับ ผมไปจับนี่โดนกัดเลยนะ เขาหวงลูกมาก ถาม : ท่านเมตตาจริง ๆ ? ตอบ : ในตึกท่านนั่นตึกเดียว ๒๐๐ กว่าตัว แล้วออกมาข้างนอกไม่ได้ กัดกันแหลกเลย เขตใครเขตมัน ถาม : มูลนิธิที่เขาทำให้สุนัขก็มีเยอะอยู่นะครับ ? ตอบ : แบบลุงเพชร แกเป็นตังเกเก่า ไปซื้อพวกปลามาทอดให้หมากิน ก็เรียกเอานักเรียนโรงเรียนสุธรรมยานเถระมาทอด ปรากฏว่านักเรียนกินเองเสียเยอะ ทอดปลาให้หมาก็กินเองไปด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 19:32 |
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#51
|
||||
|
||||
สนทนากับพระ "ตำรามุมเศรษฐีในการสร้างกุฏิเจ้าอาวาส ของตำราอื่นที่เขาใช้กันทั่วไปนั้นเป็นมุมมหาทุคตะ แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านยืนยันว่า พระท่านบอกว่านั่นเป็นมุมเศรษฐี เพราะฉะนั้น...ผมเชื่อหลวงพ่อ แล้วผมตามทำตามหลวงพ่อก็รุ่งทุกวัด แต่คนอื่นไม่ทำ เขาว่าเป็นมุมมหาทุคตะ กลายเป็นมุมจนไป
หลวงพ่อท่านไม่ได้อยู่เองนะ แต่ท่านสร้างกุฏิเจ้าอาวาสให้อยู่ตรงมุมนั้น ท่านบอกถือเคล็ดหน่อย คือตรงที่ต่อจากกุฏิ ๑๐ ห้อง มุมสุดท้ายนั่นคือกุฏิมุมเศรษฐีหลังใหญ่ ด้านหลังชนศาลา ๑๒ ไร่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 20:09 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#52
|
||||
|
||||
ถาม : มหาสะท้อนของพระอาจารย์นำมาด้วยหรือเปล่า ?
ตอบ : มหาสะท้อนที่หลวงพ่อท่านจารให้ ผมให้โยมไปแล้ว ส่วนที่ผมทำนี่ไม่รู้ว่าที่นี่มีเหลือหรือเปล่า ? เป็นอะไรที่ฮิตมาก วัตถุมงคลทั่ว ๆ ไปผมออก ๒ รุ่นก็เก่งแล้ว มหาสะท้อนปาไป ๕ รุ่น ฮิตเหลือเกิน เพราะว่าคนเอาไปใช้แล้วเห็นผลจริง ๆ โดยเฉพาะใครคิดร้ายกับเรานี่พังเองทุกราย ตอนแรกผมไม่รู้ครับว่าเป็นเพราะอะไร หลวงลุงสุนทรท่านเอาดวงผมไปถอดแล้ว ปรากฏว่าอริลงมรณะ ในเมื่ออริลงมรณะนี่ ใครเป็นศัตรูกับเราก็ตายเอง พอมาทำเรื่องพวกนี้จะขึ้นมากเป็นพิเศษ ผมก็ไม่รู้ว่าดวงชะตาเป็นอย่างไร ยังสงสัยทำไมหลวงพ่อสอนวิชานี้ให้ อีกอย่างหนึ่งก็คือ ตะกรุดกระดูกห่านที่กันยาพิษยาสั่ง แต่ต้องใช้ห่านขาว แล้วผมไม่กล้าทำ เพราะว่าถ้าสั่งก็คือเขาต้องไปฆ่าห่านกัน หลวงอามีชัยท่านฟันธงว่า “ท่านเล็ก...ผมว่าท่านต้องโดนวางยาแน่เลย คนอื่นหลวงพ่อไม่สอนให้ ทำไมสอนแต่ท่านองค์เดียว”
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2017 เมื่อ 20:11 |
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#53
|
||||
|
||||
ถาม : ถวายแผ่นทองครับ ผมขอปิดทองหลวงพ่อได้ไหมครับ ?
ตอบ : ปิดทำไม ? ถาม : ปิดในฐานะลูกศิษย์ครับ ? ตอบ : ไปปิดพระพุทธรูปแทน อานิสงส์มากกว่าเยอะเลย อย่าเริ่มทำอะไรที่เป็นตัวอย่างไม่ดี ตูขี้เกียจนั่งให้เขาปิดทอง สมัยก่อนเขาปิดทองหลวงปู่ดู่กัน หลวงปู่ดู่ท่านบ่นว่าคันจะตาย ไปเจอหลวงปู่ดู่ท่านฟุบอยู่หน้าประตูกุฏิ ก็ตกใจรีบไปประคองท่าน ”หลวงปู่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ ?” “อือ...เขามาตอนตี ๒ มากัน ๓ คันรถบัส บอกว่าจะรีบไปวัดอื่นต่อ ทุบประตูเรียกข้าออกมา ข้าก็เพิ่งจะเข้ากุฏิไปตอนเที่ยงคืนกว่านี่เอง” ผมบอก “หลวงปู่เมตตาเขาจนกระทั่งร่างกายจะไม่ไหวแล้วนะครับ” “เออ...สมน้ำหน้าตัวเอง ตอนหนุ่ม ๆ ข้าอยากดัง ตอนนี้ดังแล้วก็ให้ดังเสียให้เข็ด” โอ๊ย...เห็นแล้วสงสารท่าน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-12-2017 เมื่อ 10:22 |
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#54
|
||||
|
||||
ถาม : พระอาจารย์ไปกราบหลวงปู่ดู่บ่อยไหมครับ ?
ตอบ : สมัยก่อนไปบ่อยเพราะว่าหลวงน้าสุทินอยู่ สมัยก่อนงานที่วัดมีกี่ครั้งหลวงน้าสุทินท่านก็มาทุกครั้ง แล้วท่านเป็นทหารด้วย คอเดียวกัน คุยกันถูกคอ แต่ที่สนิทกับท่านที่สุดก็คือหลวงพี่สามารถ เวลาหลวงน้าสุทินมาจะพักที่กุฏิของท่านเลย ถาม : ท่านอยู่วัดไหนครับ ? ตอบ : อยู่กับหลวงปู่ดู่นั่นแหละ ถาม : เดี๋ยวนี้ยังอยู่ไหมครับ ? ตอบ : มรณภาพไปนานแล้ว หลวงน้าสุทินเท่ากับตายแล้วเกิดใหม่ ท่านไปรบที่ลาวแล้วโดนระเบิด พวกคิดว่าตายหมดแล้ว หัวแหว่งไหล่แหว่ง สลบไป ๒ วัน หนอนขึ้นเลย แล้วฟื้นขึ้นมาก็โซซัดโซเซกลับมาที่ฐาน ปรากฏว่าพอเรียกหา พรรคพวกแตกตื่นกันหมดทั้งค่ายเลย คิดว่าผีหลอก จนกระทั่งยืนยันได้ว่าไม่ตายจริง ๆ ปรากฏว่าเขา "จำหน่าย" ทิ้งไปแล้ว ทางการเลื่อนยศให้เป็นพันตรีเพราะว่าตายในการรบ พอตัวเองกลับไปเจ้านายไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร ก็บอกว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทำเรื่องเกษียณอายุให้แล้วก็กินบำนาญไปเลย จากยศจ่าท่านก็เลยกินบำนาญยศพันตรีมาตลอด ถาม : ตอนนั้นอายุเท่าไรครับ? ตอบ : ตอนนั้นแก ๕๐ กว่าปี เป็นจ่าแล้วก็ขึ้นเป็นพันตรีโดยไม่ได้คิดจะเป็น ใคร ๆ ก็คิดว่าตายในการรบ บำเหน็จบำนาญอะไรก็คงให้ทางบ้านเขาไป ท่านก็เลยมาบวชดีกว่า เก็บชีวิตคืนมาได้ หลวงปู่ดู่ตั้งฉายาให้ว่า อายุวฑฺฒโก ผู้มีอายุยืน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 02:43 |
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#55
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงปู่ดู่เป็นพุทธภูมิหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : หลายท่านยืนยันว่าท่านเกิดแล้วเกิดอีก แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงยืนยันว่าท่านไปพระนิพพานแล้ว ปีที่หลวงปู่ดู่มรณภาพ พอลงปาฏิโมกข์ ปกติถ้าหลวงพ่อท่านลงก่อนเวลา ท่านก็จะคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ “เออ...วันนี้มีอะไรจะคุยกันวะ ? เอาเรื่องหลวงตาดู่ วัดสะแก ก็แล้วกัน ปฏิบัติธรรมมาทั้งชีวิต เทวดายังไม่ได้เป็นเลย” แล้วท่านก็ปล่อยให้พวกเรานั่งเหวออยู่พักหนึ่ง “ตายแล้วดันไปพระนิพพานเสียนี่”...(หัวเราะ)... หลวงพ่อท่านแกล้งพวกเรา เพราะว่าพวกเราไปกันบ่อย ตายแล้วเทวดายังไม่ได้เป็นเลยว่าอย่างนั้น ดันไปพระนิพพานเสียนี่ หลวงปู่ดู่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระแล้วมีพระธาตุเสด็จมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา พระธาตุเสด็จทุกรุ่น บางองค์นี้ขึ้นเต็มแน่นพรืดเลย ท่านว่าผงจักรพรรดิของท่านได้รับพรจากพระท่านมา ผมเองโชคดีได้ลูกอมผงจักรพรรดิของท่านมาหลายลูก เป็นแบบใหญ่พิเศษที่ท่านเมตตาปั้นให้เองแล้วร้อยเป็นประคำ มีคนมาขอแบ่งหลายครั้งแล้ว จึงเหลืออยู่ ๗ - ๘ ลูกเท่านั้น ก็ไม่มีอะไรหรอก ดูก็เหมือนกับปูนขาวปั้น ๆ ขึ้นมา แต่จริง ๆ แล้วสุดยอดเลยนะ ถาม : ท่านปฏิบัติอยู่สายไหนครับ ? ตอบ : หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่น หลวงพ่อกลั่นบวชให้เลยนะ แต่ท่านมาอยู่กับหลวงปู่สี วัดสะแก เท่ากับว่าเป็นรุ่นอาจารย์เหมือนกัน เหมือนท่านเจ้าคุณอนันต์กับผม คือท่านเจ้าคุณอนันต์ก็ลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงเหมือนกัน แต่ท่านเป็นคู่สวดให้ผม หลวงปู่สีก็ประเภทเป็นรุ่นระดับอาจารย์ของหลวงปู่ดู่เหมือนกัน ถาม : หลวงปู่สีที่หลวงพ่อวัดท่าซุงพูดถึง...? ตอบ : ไม่ใช่ อันนี้หลวงปู่สี วัดสะแก หลวงปู่สีเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่นรุ่นอาจารย์ หลวงปู่ดู่นี้เป็นรุ่นลูกศิษย์ พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อกลั่นเหมือนกัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 02:48 |
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#56
|
||||
|
||||
ถ้านับวิชาชาตรีที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำ บุคคลที่ทำวิชาชาตรีแล้วได้เห็นผลชัดที่สุดคือ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านมีวิชาลูกเบาหรือหินเบา เอาก้อนหินลูกใหญ่ ๆ เท่าลูกแตงโมหรือลูกฟุตบอล โยนแล้วโหม่งเล่นกัน ถึงได้เรียกว่าวิชาหินเบา
ถาม : ท่านเรียนวิชาน้ำมันชาตรีใช่ไหมครับ ? ตอบ : ไม่ใช่...ของหลวงพ่อกลั่นท่านทำเป็นตะกรุด ตะกรุดชาตรี วิชานี้หลวงพ่อกลั่นเรียนมาจากอิสลาม คือสมัยอยุธยา กองอาสาอิสลามที่ช่วยรบให้เรา ช่วยสร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติมีเยอะมากเลย พอมาถึงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น บรรดาอิสลามเป็นสมเด็จเจ้าพระยาถึง ๓ ท่านด้วยกัน ต้นตระกูลบุนนาคนั่นแหละ...อิสลามแท้เลย แล้วเราลองคิดดูว่า สมัยก่อนท่านสร้างคุณสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติ ถ้าคิดจะยึดประเทศไทยจริง ๆ เสร็จไปหมดตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ แล้ว เพราะว่าท่านเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน แต่นี่ท่านซื่อสัตย์ซื่อตรงจริง ๆ สมัยหลังนี้ไปเรียนจากตะวันออกกลางมา ไปโดนเขาล้างสมองมา กลายเป็นว่าคนอื่นมาแย่งทรัพยากรที่พระอัลเลาะห์ประทานให้กับอิสลามิกชน ก็เลยไม่อยากอยู่ร่วมกับใคร
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 02:49 |
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#57
|
||||
|
||||
พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาไปญี่ปุ่นเพื่อไปใช้หนี้เขา พวกเขาเอาอานิสงส์การปล่อยสัตว์ตลอด ๓๒ ปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่ากี่ชีวิตที่ต้องคืนให้เขาไป เป็นประเทศที่ไม่คิดอยากจะไปเลย เพราะว่าติดหนี้เขาเอาไว้เยอะ"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 10:11 |
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#58
|
||||
|
||||
ถาม : หลวงปู่ปานท่านมรณภาพตอนอายุ ๖๑ ท่านทำงานหนักหรือครับ ?
ตอบ : ผมมารู้ที่หลังว่าหลวงปู่ท่านไม่ได้แค่รักษาโรคให้คนอื่นอย่างเดียวนะ ท่านสอนบาลีด้วย นักเรียนตั้ง ๓๐๐ กว่ารูป..! ถาม : ท่านแปลประโยค ๙ ได้อย่างไร ผมงงมาก ? ตอบ : ท่านไม่ไปสอบ ท่านเรียนเพื่อที่จะแปลวิสุทธิมรรคเท่านั้น วิสุทธิมรรคนี่เป็นหลักสูตรประโยค ๘ ท่านเป็นคู่หูกับท่านอาจารย์เกี้ยวที่สึกไป ท่านแปลบาลีตั้งวิเคราะห์ได้ทุกตัว โอ้โฮ...อะไรจะสุดยอดปานนั้น..!
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 20:15 |
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#59
|
||||
|
||||
ถาม : จัดหิ้งพระ ?
ตอบ : ให้หันหน้าพระไปทางทิศเหนือหรือตะวันออก ถาม : จะเอาโต๊ะหมู่ ที่ไม่พอ พอจะทำเป็นหิ้ง แต่ก็กว้างครับ ? ตอบ : อย่าทำเป็นหิ้งใหญ่สิ ทำเป็นหิ้งเล็กติดผนัง จะได้สะดวกหน่อย ถาม : ผมควรวางด้านไหนครับ ? ตอบ : ด้านไหนก็ได้ แต่ให้หน้าพระหันไปทางทิศเหนือหรือตะวันออก ถ้าเราเอาชุดโต๊ะหมู่เข้าไปบางทีก็เกะกะมาก เอาแค่หิ้งเล็กติดผนังก็พอ วางได้สักองค์ ๒ องค์อะไรก็แล้วแต่ เคยเห็นบางบ้านเขาวางสามหิ้งเลย ใหญ่ตรงกลาง เล็ก ๒ ข้าง แล้ววางพระไว้ตามความสบายใจ ติดผนังลอยไว้แล้วหมดเรื่อง ต้องบอกว่าโยมมีความคิดอนุรักษ์ไปหน่อย คิดแต่จะตั้งโต๊ะหมู่ ในเมื่อตั้งลำบากก็เอาหิ้งพระติดผนัง...ง่ายจะตายไป หรือไม่ก็ทำอย่างอาตมา เอาตู้หนังสือวางชิดผนัง ใส่หนังสือก็ได้ หลังตู้ก็ตั้งพระได้ด้วย
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 20:17 |
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#60
|
||||
|
||||
ถาม : เวลาที่เราสวดพระคาถาเงินล้าน ปกติเราก็จะใส่เงินหยอดเหรียญ แต่ถ้าเราไม่มีเวลาหยอดเหรียญ เราก็เอาเงินมาถวายสังฆทานทีเดียวเลยได้ไหม ?
ตอบ : ตั้งใจไว้สิ จริง ๆ แล้วเรื่องของพระคาถาเงินล้านท่านตั้งใจให้เราทำบุญอย่างสม่ำเสมอ ในเมื่อเราตั้งใจ สมมติว่าจะทำบุญเดือนหนึ่ง ๓๐ บาท หยอดวันละบาท พอถึงเวลาเราภาวนาครบเดือน ก็เอา ๓๐ บาทมาถวายสังฆทานก็จบแล้ว ถาม : จะเหมือนกันไหมคะ ? ตอบ : ลำบากน้อยกว่า ไม่ต้องเสียเวลาไปหยอดทุกวัน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-12-2017 เมื่อ 20:17 |
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|