กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 14-05-2013, 20:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,626 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๖

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ที่เรามีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๖ วันนี้ลูกสาวคนหนึ่งก็คือลูกบัว เอาเงินเดือนเดือนแรกมาถวาย แม้ว่าอาตมาเองจะไม่ได้ยินดียินร้ายกับเรื่องเงินทองมานาน แต่ก็ยอมรับว่าดีใจที่เห็นลูกประสบความสำเร็จ ถึงเวลาก็ยังระลึกถึง นำเอาเงินเดือนเดือนแรกมาถวายหลวงพ่อของเขา ขณะเดียวกันก็ยังพาพ่อแม่ไปเลี้ยงอาหารด้วย เชื่อว่าตัวพ่อแม่ตลอดจนกระทั่งลูกเองก็คงจะดีใจ และดีใจมากกว่าอาตมาหลายเท่า

ที่กล่าวถึงตรงจุดนี้นั้น เพื่อที่จะบอกกับพวกเราว่า การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ต่อให้เราเป็นคนเดียวในครอบครัว คนเดียวในหมู่บ้าน เราก็ไม่ใช่โดดเดี่ยว การปฏิบัติธรรมของเรานั้น บรรดาญาติพี่น้องทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วในอดีต ตลอดจนกระทั่งเทวดา นางฟ้า พรหมทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่พลอยปีติ พลอยยินดีกับเราไปด้วยทั้งนั้น ยิ่งถ้าเราประสบความสำเร็จ สามารถทรงฌานสมาบัติได้ สามารถรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ หรือสามารถทรงความเป็นพระอริยเจ้าได้ ท่านทั้งหลายเหล่านั้นก็ยิ่งปีติยินดีไปกับเราอีกหลายเท่านัก

ดังนั้น..การที่เราทำความดี บางทีอาจจะมีกระแสที่เข้ามากระทบหูของเราว่าบ้าบ้าง ทำไปแล้วได้ประโยชน์อะไรบ้าง จนกระทั่งเรารู้สึกว่าโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่มีใคร..เหมือนเราอยู่ในโลกนี้คนเดียว ถ้าเป็นดังนั้นอาตมาเองขอยืนยันว่า เราไม่ได้โดดเดี่ยว มีบุคคลที่รอคอยความสำเร็จของเราอยู่มากต่อมากด้วยกัน

ในแต่ละวันพระ เมื่อภุมมเทวดานำเอาบัญชีความดีความชั่วของมนุษย์ทั้งหลาย ส่งต่อท้าวจาตุมหาราช ท้าวจาตุมหาราชนำไปส่งให้ปัญจสิกขเทพบุตร เพื่อที่จะได้ประกาศคุณความดีในท่ามกลางเทวสภา ถ้ามีคนทำความดีเป็นจำนวนมาก เทวดานางฟ้าทั้งหลายก็รื่นเริงเบิกบานใจ บางทีระงับอาการดีใจไม่อยู่ ก็ถึงขนาดร้องรำทำเพลงกันเลย

ขณะเดียวกันหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ก็เฝ้ารอความสำเร็จจากพวกเรา โดยเฉพาะหลวงปู่หลวงพ่อที่ท่านล่วงลับไปแล้ว ล้วนแล้วแต่รอดูว่าเมื่อไรลูก ๆ หลาน ๆ ของท่านจะประสบความสำเร็จ จะรักษาศีลได้บริสุทธิ์บริบูรณ์ จะทรงฌานสมาบัติระดับใดระดับหนึ่งได้ จะพยายามศึกษาแล้วก้าวเข้าสู่ความเป็นโสดาบันได้ เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-05-2013 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 79 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-05-2013, 21:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,626 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อเป็นเช่นนั้นแสดงว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายทำ เราไม่ได้เดินคนเดียว เราเดินอยู่บนเส้นทางพระโยคาวจร ซึ่งประกอบไปด้วยพ่อแม่พี่น้อง ตลอดจนกระทั่งครูบาอาจารย์ ปู่ย่าตายายทั้งหลายทั้งปวง
แม้กระทั่งพระที่ท่านเป็นองค์ต้นในการนำคำสั่งสอนมาสู่พวกเราทั้งหลาย ก็ล้วนแล้วแต่ก้าวเดินไปพร้อมกับเรา รอยินดีในผลสำเร็จของพวกเรา สิ่งที่เราทำไม่ใช่ไม่มีใครรู้เห็น แต่ว่าท่านที่รู้เห็นนั้น เราเองไม่สามารถที่จะรู้เห็นท่านได้ชัดเจน ทำให้บางทีเราก็หมดกำลังใจ

อาตมาจึงนำมากล่าวไว้ในที่นี้ เพื่อบอกให้ทุกท่านได้ทราบว่า จริง ๆ แล้วการที่เราปฏิบัติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ล้วนแล้วแต่มีบุคคลที่พลอยยินดีและสนับสนุนเราจำนวนนับไม่ถ้วน การอุทิศส่วนกุศลของเราแต่ละครั้งหลังจากการปฏิบัติธรรม หลังจากการบำเพ็ญกุศล ไม่ว่าจะเป็นทานในสังฆทานก็ดี ในวิหารทาน ในธรรมทานก็ดี บุคคลที่โมทนาของเรามีจำนวนครั้งละหลายพัน บางครั้งก็ถึงหลายหมื่น แล้วแต่วาระ แล้วแต่โอกาส

ถ้าตรงกับวาระตรงกับโอกาสที่พระยายมราชท่านหยุดการตัดสิน บรรดาท่านทั้งหลายที่มาโมทนาบุญ บางทีรายล้อมกันจนสุดลูกหูลูกตา ดังนั้น..การที่เราปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา หรือศีล สมาธิ ปัญญา เราไม่ใช่โดดเดี่ยว แต่เรามีบุคคลที่ก้าวพร้อมไปกับเรา พลอยยินดีในความสำเร็จของพวกเรา หรือรอคอยความสำเร็จของพวกเรา เพื่อที่ประโยชน์ความสุขที่เราได้รับจะได้ตกถึงเขาทั้งหลายเหล่านั้นบ้าง

เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้วจะได้มีกำลังว่า ที่เราปฏิบัติอยู่นั้น แม้ว่าคนจำนวนหนึ่งจะเห็นว่าเราผิดปกติ อาจจะถึงขนาดออกปากตำหนิติเตียนว่าบ้าบ้างอะไรบ้าง ก็ถือว่านั้นเป็นบุคคลส่วนน้อย บุคคลส่วนมากล้วนแล้วแต่พลอยยินดีในความดีของเราทั้งสิ้น เราจึงควรที่จะตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติในศีล ในสมาธิ ในปัญญาทั้งหลายให้เต็มสติ เต็มกำลังของเรา บุคคลที่รอคอยความสำเร็จของเรา ก็คือบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันมาในอดีต จำนวนมากเหลือเกิน เพราะว่าเราเกิดมาจนนับชาติไม่ถ้วน

ขณะเดียวกัน หลวงปู่หลวงพ่อที่นำเอาพระธรรมคำสอนมาเผยแพร่ต่อเราก็ดี องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เป็นต้นทางของพระธรรมคำสอนนั้นก็ดี ล้วนแล้วแต่รอคอยอยู่ ว่าเมื่อไรเราจะก้าวถึงจุดของความสำเร็จ เมื่อไรเราทั้งหลายจะล่วงพ้นจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2013 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 17-05-2013, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,586
ได้ให้อนุโมทนา: 151,727
ได้รับอนุโมทนา 4,411,626 ครั้ง ใน 34,176 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..สิ่งที่เราทำในแต่ละวัน สิ่งที่เราทำในแต่ละครั้ง นอกจากเราไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายแล้ว เรายังต้องแบกเอาความหวังของบุคคลที่รอรับความดีจากเรา หรือว่าบุคคลที่คอยยินดีกับความสำเร็จของเรา หรือบุคคลที่รอให้เห็นว่าสิ่งที่ท่านทั้งหลายเหล่านั้นแนะนำสั่งสอน มีผู้ที่ปฏิบัติตามแล้วได้ผลจริง มีจำนวนมากมายมหาศาลจนประมาณไม่ได้

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะได้เป็นกำลังสนับสนุนการทำความดีของเราให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เราจะได้รู้ว่าทุกครั้งที่ลมหายใจเข้าออกของเราพร้อมกับคำภาวนาได้กำหนดขึ้น ก็คือก้าวเข้าสู่พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ทุกครั้งที่หายใจเข้าคือก้าวใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง ทุกครั้งที่หายใจออกคือก้าวใกล้พระนิพพานไปก้าวหนึ่ง เราก้าวใกล้จุดหมายแห่งความสำเร็จมากขึ้นทุกที ๆ ตามระยะเวลาที่เราปฏิบัติ

หลายคนอาจจะคิดว่า “ไม่รู้ว่าปฏิบัติไปเมื่อไรจะได้ผล” ไม่ต้องไปสนใจตรงจุดนั้น การก้าวข้ามวัฏสงสารเป็นระยะทางที่ยาวไกล ไม่ต้องไปมองถึงความสำเร็จ แต่เราจดจ่ออยู่กับแต่ละฝีก้าว แต่ละลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้าคือก้าวหน้าไปก้าวหนึ่ง หายใจออกคือก้าวหน้าไปก้าวหนึ่ง ถ้าเป็นดังนี้เราจะเห็นความก้าวหน้า เห็นความก้าวเข้าไปใกล้ความสำเร็จของเราที่เกิดขึ้นทุกลมหายใจ

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราต้องพึงสังวรเอาไว้ว่า การกระทำของเรานั้น ใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกขณะแล้ว จึงขอให้ทุกคนตั้งอกตั้งใจกำหนดการภาวนาและพิจารณาให้เต็มที่ เต็มสติกำลังในทุกครั้งที่ได้เริ่มปฏิบัติ ให้เราเกิดความปีติยินดีที่มีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้น ได้เป็นความหวังที่ญาติพี่น้องตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ หลวงพ่อ และองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่รอคอย คอยที่จะดูความสำเร็จของพวกเราทุกคน

ลำดับต่อไปก็ขอให้ทุกท่านตั้งใจกำหนดการภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันอาทิตย์ที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธและเถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-05-2013 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว