กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๖ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนกันยายน ๒๕๖๖

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-09-2023, 17:30
ตัวเล็ก's Avatar
ตัวเล็ก ตัวเล็ก is offline
กรรมการเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10,624
ได้ให้อนุโมทนา: 216,927
ได้รับอนุโมทนา 747,731 ครั้ง ใน 36,412 โพสต์
ตัวเล็ก is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๖

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๖


__________________
มารใช้ คนทุกคน ของทุกชิ้น สัตว์ทุกตัว เป็นเครื่องมือในการขวางเรา โดยเฉพาะคนที่เรารักมากที่สุด
(-/\-) (-/\-) (-/\-)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวเล็ก ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-09-2023, 23:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,240 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพเดินทางออกจากที่พักไปยังสำนักสงฆ์ปรียนันท์ธรรมสถานตั้งแต่ตี ๕ เมื่อเดินทางไปถึง ปรากฏว่ามีพระเถรานุเถระมาแล้วเป็นจำนวนมากด้วยกัน

เมื่อได้ตั้งวงฉันข้าวต้มกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็มาจับไมค์ทักทายและสนทนาธรรมกับญาติโยมที่มานั่งรอเวลา ๖ โมงเช้า ซึ่งเป็นเวลาที่กระผม/อาตมภาพจะต้องเข้าไปรับครูบาวิฑูรย์ ชินวโร ออกจากนิโรธกรรมที่เข้ามา ๙ วัน ๙ คืน ซึ่งคาดว่าถ้าใครบันทึกเสียงเอาไว้ ก็น่า
ที่จะ "ได้น้ำได้เนื้อ" เลยทีเดียว เนื่องจากว่ามาแค่ปีละครั้ง จึงควรที่จะบอกกล่าวอะไรให้เกิดประโยชน์แก่ญาติโยมทั้งหลายผู้มีจิตศรัทธาบ้าง

เมื่อได้เวลา กระผม/อาตมภาพก็เปิดประตู ๙ ชั้น ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าจะทำประตูไปมากมายทำอะไร เนื่องเพราะว่าถ้าคนเราตั้งใจที่จะฝึกฝนขัดเกลาตนเอง ต่อให้ไม่มีประตู ก็ยังคงตั้งใจทำอยู่ดี เมื่อเข้าไปถึงด้านใน ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว ครูบาวิฑูรย์ท่านก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อถึงเวลานอนภาวนาอยู่ ปรากฏว่ามีบุคคลผู้ไม่หวังดีตั้งใจที่จะทำร้าย..!

ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแปลกว่า คนเรามักจะเห็นใครดีกว่าไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องของการเข้านิโรธกรรมนั้น มักจะมีผู้ที่อยากลองของอยู่เสมอ ดังนั้น..ไม่ว่าการเข้าหรือว่าการออก จึงต้องมีพระเถระที่เขาไว้วางใจได้ รับนิมนต์มาเป็นประธานในการนำเข้านำออกทุกครั้ง เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นการประกันความเสี่ยง

ปีนี้เมื่อนำครูบาวิฑูรย์ออกมาถึงด้านนอกแล้ว ไม่มีการใช้เสลี่ยงคานหาม หากแต่ว่านั่งรถไฟฟ้า หรือที่หลายคนเรียกว่า "รถกอล์ฟ" โดยที่กระผม/อาตมภาพนั่งทางช่วงกลาง คอยขนาบครูบาวิฑูรย์ไว้เผื่อว่าท่านจะล้ม ครูบาหน่อแก้วฟ้า จากลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา นั่งทางด้านหน้าคู่กับคนขับ แล้วพระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธมฺโม หรือว่าหลวงพ่อนิล นั่งคู่กับพระอธิการสมมาศ คุณาธิโก หรือพระอาจารย์ติงลี่ ทางด้านเบาะหลัง

เมื่อส่งเข้าถึงศาลาเอนกประสงค์ ซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งท่านจะรับศรัทธาญาติโยม กระผม/อาตมภาพก็ทำการบวงสรวง บอกกล่าวครูบาอาจารย์ เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาอารักษ์ทั้งหลาย ขอความสะดวกสำหรับงานสืบชะตา
หลวง ๓๙ ปีครูบาวิฑูรย์ ชินวโรด้วย เสร็จสรรพเรียบร้อย ครูบาท่านก็ขอไปเข้าห้องน้ำ ช่วงเวลานั้น กระผม/อาตมภาพจึงต้องจับไมค์บอกกล่าวแก่ญาติโยมอีกรอบหนึ่ง ใครบันทึกเสียงไว้ก็ถือว่าเป็นคุณแก่ตัว

เมื่อครูบาวิฑูรย์ออกมาแล้ว ญาติโยมทั้งหลายที่รออยู่ก็แห่กันเข้าไปถวายสังฆทาน ข้าวของปัจจัยไทยธรรมต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ปีนี้มีความคล่องตัวขึ้น เนื่องเพราะว่าผู้รับข้าวของต่อจากครูบาวิฑูรย์นั้น โดนกระผม/อาตมภาพ "เฉ่ง" มาหลายปีแล้ว ก็คือถ้าไม่ใช่ช้าจนกระทั่งแถวญาติโยมต้องสะดุด ก็จะกลายเป็นว่าสติหลุด ถึงเวลาไปสนใจเรื่องอื่นแล้วทำให้งานตรงหน้าติดขัด ปีนี้สามารถหาคนที่มีความคล่องตัวในการรับของจากครูบาอาจารย์ได้ ถือว่า "ใช้ได้" รอดตัวไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2023 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-09-2023, 23:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,240 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้นญาติโยมเข้ามาทำบุญกันหมดแล้ว ก็มีการแสดงถวายเพื่อเป็นพุทธบูชา ปรากฏว่านางรำทั้ง ๕ รายนั้น มีอยู่ ๓ รายที่ "แม่ให้มา" มากเป็นพิเศษ ทำเอาครูบาเหนือชัยหันมาปรารภว่า "อสุภกรรมฐานครับ เพิ่งตายใหม่ ๆ เลย" กระผม/อาตมภาพบอกว่า "คิดอย่างนั้นไม่ทัน ต้องหยุดคิดให้ได้ ถ้าหากว่าเราเห็นเป็นอสุภกรรมฐาน แปลว่าข้าศึกเข้ามาตีถึงประตูบ้านแล้ว ตั้งรับไม่ทันแน่นอน..!"

"ทำอย่างไรที่เราจะสักแต่ว่าเห็น ก็คือไม่ใช่เห็นเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย หากแต่สักเห็นว่าเป็นรูปเท่านั้น หรือถ้าคิดมากกว่านั้นหน่อยก็คือมหาภูตรูป ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบขึ้นมาเป็นเรือนร่างให้เขาอาศัยแค่ชั่วคราว หรือไม่ก็มองเห็นทุกข์เห็นโทษแล้วหยุดการคิดปรุงแต่งไปเลย ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะเสียท่า แค่เห็นว่าเป็นหญิงเป็นชายก็เตรียมตัวแพ้ได้แล้ว..!"

ครูบาเหนือชัยอึ้งไปพักหนึ่งแล้วก็ปรารภว่า "พระพุทธเจ้าของเรานี่รอบด้านจริง ๆ สอนอะไรก็ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาใช้ต่อสู้กับกิเลสได้ทุกอย่าง ทุกประเภท เพียงแต่ว่าจะต้องใช้ให้ถูก ไม่เช่นนั้นแล้ว เราอาจจะแพ้แล้วแพ้อีก โดยที่ไม่รู้ว่าแพ้อะไร..!"

เมื่อบรรดานักแสดงทำการแสดงเสร็จสรรพเรียบร้อย กระผม/อาตมภาพก็แจกรางวัลตามระเบียบ ปรากฏว่าพระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายก (จำรัส ทตฺตสิริ ป.ธ.๗) เจ้าคณะจังหวัดลำพูน ประธานขับเคลื่อนโครงการหมู่บ้านศีล ๕ ระดับหน (เหนือ) มาถึงพอดี กระผม/อาตมภาพก็ถวายการต้อนรับ ทักทายพูดคุยกันอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะส่งท่านเข้าอาสนะของตน

หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าสู่พิธีกรรม ก็คือพระเดชพระคุณพระเทพรัตนนายก ท่านเป็นผู้ "ฮ้องขวัญ" ซึ่งก็คือร้องเรียกขวัญของภาคกลางนั่นเอง เหลือเชื่อว่าเจ้าคณะจังหวัดระดับนั้นจะมาเป็นผู้ร้องขวัญให้ ต้องบอกว่าเป็นเกียรติเป็นศรีแก่ครูบาวิฑูรย์เป็นอย่างยิ่ง..!

เมื่อร้องขวัญเสร็จเรียบร้อย ท่านเดินผ่านอาสนะที่กระผม/อาตมภาพขึ้นนั่งเพื่อเตรียมที่จะอธิษฐานจิต พอเหลือบเห็นป้าย ท่านถึงกับร้อง "เฮ้ย..วัดท่าขนุน" กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะทราบว่า ท่านเองแค่คุ้นเคยมาก แต่นึกไม่ออกว่า
กระผม/อาตมภาพเองอยู่วัดไหน เมื่อท่านถลาเข้ามาจับมือถึงได้เปิดหน้าให้ดู บอกท่านว่า "กราบขออภัยครับพระเดชพระคุณ กระผมนึกว่าจำได้ เห็นคุยกันเป็นอย่างดี ไม่นึกเลยว่าแค่คุ้นเคยเท่านั้น แต่นึกไม่ออกว่าเป็นใคร" ท่านก็บอกว่า "ถ้ารู้ว่าเป็นวัดท่าขนุนตั้งแต่แรกก็คงจะคุยนานกว่านี้อีก แต่นี่เริ่มงานแล้ว ขอให้เข้าสู่งานไปก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2023 เมื่อ 02:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-09-2023, 23:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,240 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กระผม/อาตมภาพเมื่อส่งท่านกลับสู่อาสนะแล้ว ก็ไปจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดเทียนสัตตบริภัณฑ์ จุดเทียนค่าคิง หรือว่าเทียนที่ความสูงเท่าตัวของเจ้าของงาน ซึ่งถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็ลำบากหน่อย เพราะว่าเทียนสูงตั้ง ๑๗๒ เซนติเมตร..! เมื่อเสร็จสรรพก็เข้าสู่ที่ภาวนา ปล่อยให้ท่านอื่นเป็นผู้ทำหน้าที่ของตนกันต่อไป จนกระทั่งบรรดาพระเถรานุเถระเจริญพระพุทธมนต์ถึงบทสุดท้าย กระผม/อาตมภาพก็เข้าไป "ผูกขวัญ" ถวายครูบาวิฑูรย์

เมื่อกลับสู่ที่นั่ง บรรดาพระเถระที่นั่งปรกอธิษฐานจิตก็ทยอยกันไปผูกขวัญให้ เมื่อเสร็จแล้วครูบาวิฑูรย์ก็มาถวายพานขอขมา และถวายปัจจัยไทยธรรม กระผม/อาตมภาพขออนุญาตลากลับก่อน เนื่องเพราะว่าเป็น "คนบ้านไกล" แต่เมื่อเดินอ้อมมาทางด้านหลัง ปรากฏว่าเจอพระครูมนูญกิจจาทร (จรัญ กิตฺติปญฺโญ) วัดทากาศ รองเจ้าคณะอำเภอแม่ทา เมื่อกราบทักทายพูดคุยกันแล้ว เพิ่งทราบว่าท่านเป็นเจ้าคณะอำเภอแล้ว จึงต้องขออภัยที่ไม่ได้แสดงความยินดีด้วย

หลังจากนั้นก็เป็นการเดินทาง ทำให้ญาติโยมส่วนหนึ่งวิ่งกันตีนพลิก เพราะว่าอยากจะทำบุญกับพระครูวิลาศกาญจนธรรม อาตมภาพต้องบอกว่าให้ทำบุญไว้ที่นี่ เนื่องเพราะว่าญาติโยมทั้งหลายก็เห็นอยู่ว่ากระผม/อาตมภาพ นอกจากมอบเงินทำบุญที่ญาติโยมทั้งหลายใส่ขันไว้ตรงหน้าจำนวนหลายหมื่นบาทให้แก่ครูบาวิฑูรย์ ยังควักกระเป๋าของตนเองเพิ่มเติมไปอีก
"การที่เราไปยังวัดใดวัดหนึ่ง ถ้าหากว่าไปทำบุญกับวัดอื่น ถือว่าเสียมารยาท" ไม่ทราบเหมือนกันว่าญาติโยมฟังเข้าใจหรือไม่ ?

ระหว่างที่เดินทางกลับ มีญาติโยมโทรศัพท์เข้ามาเป็นระยะ สร้างความปวดหัวให้กับน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ผู้ทำหน้าที่พลขับอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่ใช้บลูทูธหูฟังแล้ว ก็ยังต้องระมัดระวังว่าจะเสียสมาธิหรือเปล่า ญาติโยมแต่ละท่านก็มักจะถามหาว่ากระผม/อาตมภาพจะเข้ากรรมฐาน ๓ วันหรือไม่ ? กฐินวัดท่าขนุนเป็นวันไหน ?

กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ถอนใจ เนื่องเพราะว่าวัดท่าขนุน อย่างน้อย ๆ ที่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสมาก็ ๑๕ ปี ขึ้นปีที่ ๑๖ แล้ว ทุกครั้งก็ทอดกฐินสามัคคีในบ่ายวันตักบาตรเทโว คือ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ โดยช่วงเช้านั้นเป็นการตักบาตรเทโว ช่วงบ่ายเป็นการทอดกฐิน ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย จนกว่ากระผม/อาตมภาพจะล้มหายตายจากไป ข้อมูลทั้งหลายเหล่านี้ ท่านสามารถหาได้ในอินเตอร์เน็ตทั่วไป แต่ก็
มักง่าย ขี้เกียจหาข้อมูล ใช้วิธีโทรมาถาม โดยที่ไม่ได้คิดว่าอีกฝ่ายหนึ่งขับรถอยู่ จะเกิดอุบัติเหตุหรือไม่..!?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2023 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 24-09-2023, 23:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,700
ได้ให้อนุโมทนา: 152,038
ได้รับอนุโมทนา 4,418,240 ครั้ง ใน 34,290 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ แสดงออกถึงความมักง่าย ก็คือความขี้เกียจมีมากกว่าความขยัน จึงทำให้ท่านใช้วิธีโทรถาม แล้วพอเขาตัดสายเนื่องจากขับรถอยู่ ยังมีการโกรธกันอีกด้วย..!

ส่วนนี้กระผม/อาตมภาพไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร บางทีก็ยุน้องเล็กไปเลยว่า "บล็อก" ท่านทั้งหลายถ้าได้ยินคำนี้ แล้วอยู่ ๆ โทรศัพท์ไปไม่มีใครรับสาย โปรดรู้ว่ากระผม/อาตมภาพเป็นต้นเหตุเอง ในฐานะที่ท่านเป็นคนพูดภาษาคนไม่รู้เรื่อง จึงสั่งให้ผู้รับบล็อกไปเลย แล้ว
โทรศัพท์ไปวัดท่าขนุน ไม่ต้องหวังว่าจะได้คุยกับหลวงพ่อเล็ก เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพเลิกรับโทรศัพท์เองมาหลายปีแล้ว..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าดึกดื่นเที่ยงคืน ตี ๑ ตี ๒ ถ้าท่านไม่หลับ ท่านก็คิดว่าคนอื่นไม่หลับ แล้วก็โทรมา กระผม/อาตมภาพเองเป็นคนที่หลับแล้ว ถ้าโดนปลุกตื่นขึ้นมาก็จะไม่นอนอีก บางที ๓ ทุ่มครึ่งเพิ่งจะหัวถึงหมอน หลับไป ๓๐ นาที ๔ ทุ่มญาติโยมโทรมา ก็เป็นอันว่าเวรกรรม ก็เป็นอันว่าวันนั้น
กระผม/อาตมภาพได้นอนแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น จะนอนอีกทีก็ต้องรอคืนต่อไปแล้ว..!

ในเมื่อสุขภาพชำรุดลงไปเรื่อย จึงต้องเลิกรับโทรศัพท์ ท่านสามารถที่จะติดต่อเบอร์ไหนได้ก็ติดต่อไปเถิด แต่ถ้าติดต่อแล้วไม่ได้คำตอบอย่างที่ต้องการ ก็โปรดอย่าใส่อารมณ์ ไม่เช่นนั้นแล้ว คำว่า "บล็อก" ก็บอกชัด ๆ แล้วว่าท่านจะเจออะไรบ้าง..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2023 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 13:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว