#1
|
||||
|
||||
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖
|
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
||||
|
||||
วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร มาสอบถามแต่เช้าว่ากระผม/อาตมภาพฝันอะไรบ้าง ? ซึ่งเรื่องแบบนี้ ต้องบอกว่าตั้งใจลองของกันชัด ๆ..!
เนื่องเพราะว่าท่านจัดให้ไปนอนอยู่ในห้องของหลวงปู่บุญรวม (พระธรรมรัตนดิลก) อดีตเจ้าอาวาส และเป็นเตียงที่หลวงปู่บุญรวม อดีตเจ้าอาวาสท่านใช้มาโดยตลอดด้วย แต่บังเอิญว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมีครูบาอาจารย์ดี สอนว่าไปอยู่ที่ไหน ควรจะทำตัวอย่างไร จึงจะทำให้ผีนิยม พรหมเทวดาก็รัก จึงไม่สามารถที่จะบอกได้ว่ามีอะไรฝันหรือเปล่า ? เนื่องเพราะว่าหลับสนิท..หมดสภาพจริง ๆ..! หลังจากที่ฉันภัตตาหารเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินไปดูโรงเรียนสุวรรณรังสฤษฎิ์วิทยาลัย แผนกอนุบาล และประถมศึกษา ซึ่งกระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพในการทอดผ้าป่า เพื่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่แทนหลังเก่าที่หมดสภาพลง เมื่อไปเดินดู ปรากฏว่าบรรดาคุณครูต่าง ๆ สอนเด็กได้น่าชื่นใจมาก โดยเฉพาะในส่วนของการสอนภาษาไทย ยังเป็นการสะกดแบบเก่า ซึ่งจะใช้การสะกดแบบประกอบตัวอักษรกับสระ และตัวสะกด ซึ่งไม่เหมือนกับเด็กสมัยนี้ ที่กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็เกิดอาการปวดตับ อย่างเช่นว่าคำว่า "เสือ" รุ่นของกระผม/อาตมภาพก็สะกดว่า "ส - เอือ - เสือ แต่ว่ารุ่นใหม่นี่เขาสะกดว่า เอ - ส - อือ - ออ กระผม/อาตมภาพฟังแล้วก็ยังเครียดว่า "ตกลงเด็กเขารู้เรื่องกันหรือไม่ ?" แต่ว่าในด้านวิชาคณิตศาสตร์นั้น เห็นว่าเด็กบางคนไม่เข้าใจโจทย์ที่ถาม จึงทำให้ตอบคำถามนั้นผิด แล้วขณะเดียวกัน บรรดาเด็ก ๆ เมื่อเห็นกระผม/อาตมภาพ ก็ใช้คำว่า "สวัสดีครับ - สวัสดีค่ะคุณครู" ก็อาจจะเกิดจากการที่พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร.ท่านเป็นผู้อำนวยการ ผู้ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงเรียนเอกชน จึงเหมือนกับเป็นครูคนหนึ่ง ทำให้เด็ก ๆ ก็รู้สึกว่ากระผม/อาตมภาพ เป็นครูไปด้วย แม้ว่าครูบาอาจารย์จะสอนว่าให้ใช้คำว่า "นมัสการ" แต่สำหรับเด็กเล็กในระดับอนุบาลไม่เข้าใจและพูดไม่ถูก ดู ๆ แล้วก็น่ารักน่าขำปนกันไป หลังจากที่ดูกิจการแล้วก็ซักถามคุณครูว่า ถ้าหากต้องรื้อโรงเรียนออกเพื่อสร้างใหม่ แล้วจะเอาเด็ก ๆ ไปไว้ที่ไหน ? คุณครูบอกว่าต้องไปเรียนกันที่วิหารคตรอบองค์มหาธาตุเพชรบุรีนั่นเอง เมื่อได้คำตอบเป็นที่พอใจ กระผม/อาตมภาพก็กลับมายังที่พัก ซึ่งพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. นำเอาท่านผู้อำนวยการปิยวัน เครือนาค มากราบ โดยที่เกริ่นล่วงหน้ามาแบบได้ยินก็สะดุ้งว่า "พาท่าน ผอ.มาขอสตางค์หลวงพ่อ" เล่นเอา "หัวร่อไม่ออก ร่ำไห้มิได้" ตามสำนวนยุทธจักรบู๊ลิ้ม ความจริงท่านผู้อำนวยการปิยวันขอมาเป็นเจ้าภาพอาหารเช้า แต่กระผม/อาตมภาพแจ้งไปว่าตัวเองฉันเร็วมาก พอได้อรุณก็มักจะฉันเลย เนื่องเพราะว่าถ้าฉันช้าแต่เวลาไปใกล้ชิดติดกับมื้อเพล บางทียังไม่ทันรู้สึกหิวก็ถึงเพลแล้ว ท่านผู้อำนวยการก็เลยตั้งใจที่จะถวายอาหารเพลแทน
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2023 เมื่อ 01:05 |
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
แต่ปรากฏว่าทางหลวงพ่อเสน่ห์ (พระครูวิธานวัชรพงศ์) เจ้าอาวาสวัดหุบกระพง ซึ่งเป็นวัดที่เราจะต้องไปตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบในวันนี้ ประกาศขอเป็นเจ้าภาพถวายเพลเสียก่อน จึงทำให้ท่านผู้อำนวยการปิยวันออกอาการ "แห้ว" ทั้งมื้อเช้าและมื้อเพล ซึ่งกระผม/อาตมภาพบอกว่า "ไม่ถือว่าผิดหวัง" เหตุที่ไม่ถือว่าผิดหวังก็เพราะว่า กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ถือว่าท่านผู้อำนวยการติดหนี้ อาตมภาพสองมื้อ ถ้าหากว่าต้องการจะฉันเมื่อไร แวะผ่านมาก็จะมาขอข้าวฉันเลย" ซึ่งท่านผู้อำนวยการก็บอกว่ายินดี
เมื่อกระผม/อาตมภาพหมดธุระแล้วก็เข้าสู่ที่พัก ภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ซึ่งพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. บ่นว่า "ผมอยากทำได้อย่างหลวงพ่อจังเลย ก็คือเก่งมันไปทุกเรื่อง" กระผม/อาตมภาพยืนยันไปว่า "อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน ขนาดผมยังต้องภาวนาอยู่ทุกวัน เพื่อความไม่ประมาทในชีวิต" ท่านบอกว่าท่านพยายามแล้ว แต่ใจไม่เอาเรื่องภาวนาเลย ซึ่งความจริงตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ใครก็ตามที่เริ่มภาวนาใหม่ ๆ จะมีอาการนี้กันทุกคน ต้องเป็นคนค่อนข้างดื้อ สู้ไม่ถอย เมื่อกำลังใจเริ่มทรงตัว คราวนี้ก็จะภาวนาได้ไปเอง แต่เนื่องจากว่าท่านไม่เข้าใจว่าต้องสู้ขนาดไหน เมื่อรู้สึกว่าไม่ไหวก็ทิ้งไปเสียอย่างนั้น หลังจากนั้นแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินทางไปยังครัวไร่ศรีแพร ซึ่งทำเป็นร้านอาหารด้วย แต่ว่าอยู่ค่อนข้างจะลึก ถ้าหากว่าไม่ใช่ได้รับนิมนต์มาจริง ๆ ก็คงไม่ตะเกียกตะกายมา ปรากฏว่ามาถึงแล้ว ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์มาก โดยเฉพาะกุ้ง มีทั้งต้มย้ำกุ้ง มีทั้งกุ้งทอดซอสมะขาม มีทั้งกุ้งฉู่ฉี่ แล้วก็มีทั้งกุ้งผัดหน่อไม้ฝรั่ง ยังไม่ต้องพูดถึงกับข้าวอย่างอื่น โดยเฉพาะหลวงพ่อเสน่ห์ท่านขออนุญาตมาแปะอยู่ด้านข้าง ทั้ง ๆ ที่ท่านเองฉันมังสวิรัติ ดังนั้น..เมื่ออาหารมังสวิรัติลงมาถึง กระผม/อาตมภาพก็ปล้นต่อซึ่ง ๆ หน้า เนื่องเพราะว่าตนเองก็ถนัดอะไรที่เป็นผักผลไม้มากกว่า ทำให้คนอื่นค่อนข้างจะสบายใจว่า ไม่มีใครไปแย่งอาหารทะเลของท่านแน่..! เมื่อฉันเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็เดินทางไปอีกแค่ ๑ กิโลเมตรเท่านั้น เพื่อไปยังโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย หมู่ที่ ๘ ตำบลเขาใหญ่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดงานตรวจประเมิน โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนในพระดำริของสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ได้ดำริให้นำเด็กเก่งทางด้านวิทยาศาสตร์มาเรียนรวมกัน เพื่อที่จะสร้างนักวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของเรา ให้มีผลงานในระดับโลกให้ได้ สถานที่กว้างใหญ่พร้อมเพรียงทุกอย่าง แต่เนื่องจากว่าเมื่อวานนี้ไปเจอการ "จัดเต็ม" มาที่วัดตาลเจ็ดยอดแล้ว จึงทำให้ทางด้านนี้ดูจืดไปนิดหนึ่ง
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2023 เมื่อ 01:10 |
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ครั้นถึงเวลา พระเดชพระคุณพระวชิรธรรมคณี (ผ่อง สุวีโร ป.ธ.๕) เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคุ้นเคยกันมาถึง พวกเราก็เริ่มทำการตรวจประเมิน เพื่อยกหมู่บ้านหุบกระพงขึ้นเป็นหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบ โดยบรรดาพระเถรานุเถระ เจ้าคณะพระสังฆาธิการที่เดินทางมาร่วมงานนั้น มีพระครูวัชรสุวรรณาทร, ผศ.ดร. (ลูกชุบ ธมฺมโชโต) เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก
มีหลวงพ่อพระครูวัชรชลธรรม หลวงพ่อญา เจ้าอาวาสวัดท่าซิก เจ้าคณะอำเภอท่ายาง ซึ่งกระผม/อาตมภาพไปทอดกฐินปลดหนี้มาให้เมื่อปีที่แล้ว ตลอดจนกระทั่งเจ้าอาวาสอีกหลายรูปที่คุ้นเคยกัน โดยมีพระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอกรับหน้าที่เป็นพิธีกรตลอดงาน กระผม/อาตมภาพ ได้สอบถามท่านผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยว่า บรรดาเด็กเก่ง เมื่อมาอยู่รวมกันแล้วมักไม่ประสบความสำเร็จ เพราะว่าเก่งต่อเก่งมักจะไม่ยอมลงให้กัน แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาก็เคยทำโครงการไอน์สไตน์น้อย นำเด็กที่มีไอคิวตั้งแต่ ๑๑๐ ขึ้นไป มาเรียนรวมกัน แล้วโครงการก็พังไม่เป็นท่า เพราะว่าคนเก่งมักไม่ยอมรับคนอื่น ท่านผู้อำนวยการมีวิธีการอย่างไร ในการที่จัดการให้เด็กทั้งหลายเหล่านี้ มีการยอมรับคนอื่น และสามารถพัฒนาความเก่งของตนเองให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ? ซึ่งท่านผู้อำนวยการก็ให้คำตอบมาว่า "พยายามสอนให้เด็กมีสติ รู้อยู่กับปัจจุบัน" อะไรทำนองนั้น กระผม/อาตมภาพจึงแนะนำไปว่า ถ้าหากว่าจะให้เด็กมีสติ ก่อนที่จะเรียนวิชาแรกทุกวัน อย่างน้อยก็ให้นั่งภาวนา ๑๐ นาทีถึง ๑๕ นาที เมื่อใจสงบ รัก โลภ โกรธ หลง โดนกดลงชั่วคราว ก็จะไม่ไปกระทบกระทั่งกับคนอื่น และจิตใจที่สงบ ก็จะทำให้เหมือนกับน้ำนิ่ง เมื่อน้ำนิ่ง สามารถที่จะสะท้อนเงาทุกอย่างลงไปเหมือนอย่างกับของจริง สภาพจิตที่นิ่งก็ทำให้สามารถจดจำบทเรียนได้ง่าย หลังจากนั้นแล้ว นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ก็นำหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนกระทั่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปฏิญาณตน โดยให้คณะพระเถรานุเถระเป็นพยานว่าจังหวัดเพชรบุรีนั้น จะนำเอาศีล ๕ เป็นเครื่องดำเนินชีวิต และเป็นเครื่องคุ้มครองในขณะปฏิบัติหน้าที่ราชการ แล้วพวกเราก็ลงไปถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน จากนั้นจึงเดินไปชมนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งหลายอย่างก็น่าสนใจมาก อย่างเช่นผลิตภัณฑ์จากป่านศรนารายณ์ ซึ่งหุบกระพงนี้ ได้รับพระเมตตาจากในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตั้งเป็นโครงการพระราชดำริขึ้นมา แล้วสมเด็จพระพันปีหลวงก็ได้ทำโครงการศิลปาชีพ ซึ่งให้สร้างผลิตภัณฑ์จากป่านศรนารายณ์เป็นการเสริมอาชีพ ต้องบอกว่าหุบกระพงนี้ได้รับพระเมตตามาครบถ้วนในทุกด้าน แต่ว่าเริ่มมีปัญหาตรงที่ว่า บรรดาปุ๋ยต่าง ๆ ราคาแพง ทำให้ชาวบ้านมีรายได้ลดลง แล้วขณะเดียวกันบางปีก็ฝนฟ้าน้อยไปหน่อย แต่ว่าทางผู้ดูแลก็บอกว่า ประสานกับทางชลประทานไปแล้ว ว่าให้หาโครงการนำเอาน้ำเข้ามาในบริเวณหมู่บ้านนี้ หลังจากนั้นพวกเราก็ถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน แล้วคณะกรรมการส่วนหนึ่งก็เดินทางไปเพื่อชมนิทรรศการในพื้นที่จริง แต่กระผม/อาตมภาพขออนุญาตเดินทางไปยังที่พักคืนนี้ ก็คือวัดหนองโพ ของพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ ป.ธ. ๗ เจ้าอาวาสวัดหนองโพ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม ซึ่งท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ เนื่องจากว่าพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพจะต้องตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต้นแบบที่บ้านหนองขาม จังหวัดราชบุรีนี้เอง สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้ พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2023 เมื่อ 01:21 |
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
คำสั่งเพิ่มเติม | |
|
|